ผู้เขียน หัวข้อ: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที  (อ่าน 11592 ครั้ง)

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
รถยุโรป อเมกัน ญี่ปุ่น เป็นเหมือนกันหมด

บางคันสภาพดีทุกอย่าง พอเจอไฟหน้าเหลืองปุ๊บ กลายเป็นรถดูเก่าไปเลย

เทคโนโลยีพัฒนาไปมาก ทั้ง Bi Xenon , LED , Laser headlight แต่ทำไมเลนส์พลาสติกไม่พัฒนาตาม

หรือถ้ามันพัฒนาไม่ได้ ก็น่าจะขายอะไหล่แค่ตัวเลนส์บ้างนะ จะได้ไม่ต้องเบิกทั้งโคม เปลืองเงิน

พี่ ๆ ดูแลโคมไฟหน้ากันยังไงหรอครับ

ปล. ผมเคยไปขัดมา ใสอยู่ไม่กี่เดือน ตอนนี้เหลืองกว่าเดิมอีก

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 12:55:30 »
เปลี่ยนโคมใหม่ครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 12:58:35 »
อย่าตากแดด อย่าให้ถูกน้ำยาเคลือบเงา
รถผมไม่เคยเหลืองนะ

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:08:37 »
เมื่อก่อนมันก็ไม่เหลืองนะครับ เพราะมันเป็นกระจก อิอิ
เดี๋ยวนี้มันเป็นพลาสติกซึ่งมันก็มีอายุการใช้งานของมันครับ ถ้าตากแดด โดนน้ำยา  Hardcoat มันก็จะหมดอายุแล้วเหลืองสิครับ

ถ้ารถเก่าแล้ว พอเหลืองก็ไปขัด แล้ว wrap พลาสติคใส่เคลือบสิครับ น่าจะอยู่ได้ 2-3 ปี ค่อยลอกแล้ว wrap ใหม่ครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:13:54 »
เหลืองแล้วรถดูเก๊าเก่า

รถบางคันเก๊าเก่า แต่โคมใหม่ ไฉไลมากๆ

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:29:20 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:33:36 »
เมื่อก่อนมันก็ไม่เหลืองนะครับ เพราะมันเป็นกระจก อิอิ
เดี๋ยวนี้มันเป็นพลาสติกซึ่งมันก็มีอายุการใช้งานของมันครับ ถ้าตากแดด โดนน้ำยา  Hardcoat มันก็จะหมดอายุแล้วเหลืองสิครับ

ถ้ารถเก่าแล้ว พอเหลืองก็ไปขัด แล้ว wrap พลาสติคใส่เคลือบสิครับ น่าจะอยู่ได้ 2-3 ปี ค่อยลอกแล้ว wrap ใหม่ครับ

wrap ใส ช่วยได้จริงหรอครับ

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:45:39 »
นี่ล่าสุดแคมรี่เริ่มเหลืองข้าง R ละ เหลืองด้านบน ๆ น่าจะเพราะโดนแดด

ขนาดรถจอดในร่มตลอด จะตากแดดก็แค่ตอนขับกลางวัน กลางคืนก็ไม่ค่อยได้ใช้ น้ำยาก็ไม่ได้ใช้

เซ็งเลยครับ




ออฟไลน์ crucifixzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 960
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 13:53:32 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 14:36:53 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ถ้าเป็น LED Headlight PHILIPS USA ความสว่าง 4,500 ลูมีน (เห็นในเน็ต)

ตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเทียบกับ HID Retrofit

เพราะถ้าเทียบกัน LED น่าจะถนอมเลนส์ได้มากกว่า Xenon (รึเปล่า) เพราะมีพัดลมระบายความร้อนที่ขั้วหลอด

ถามเป็นความรู้ครับ

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 14:52:17 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ขออภัยที่ตอบไม่หมด

ใช่ครับ ถ้าดูเฉพาะสีของแสง LED ที่มีแสงสีอมฟ้า ความยาวคลื่น (460 nm) จะสั้นกว่าแสงออกเหลืองของหลอดไส้ (580 nm)

ถ้าดูความยาวคลื่นแล้วจะพบว่า LED ส่วนใหญ่ให้แสงที่ความยาวคลื่น 400-700 nm ซึ่งจะไม่มีการปล่อย UV ออกมาเลย
หากใช้ LED แสงสีขาวอมฟ้าจะให้ความยาวคลื่น 460 nm ตามที่กล่าวไปแล้ว

แต่ถ้าเป็นหลอดไส้ แสงจะออกขาวอมเหลือง ควรมีความยาวคลื่น ที่ 580 nm ตามทฤษฏี
แต่หลอดไส้ มีการปล่อยแสงช่วง UV (ความยาวคลื่นน้อยกว่า 400 nm) ออกมาด้วย
การใช้หลอดไส้ เลนส์พลาสติกจึงหมองเร็วกว่าการใช้หลอด LED

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,369
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 14:53:49 »
เห็นใช้ยาสีฟัน ขัดนะครับ ช่วยได้ระดับหนึ่งเลย  ;D ;D ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 09, 2015, 14:59:58 โดย O_o" »

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 14:58:42 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ถ้าเป็น LED Headlight PHILIPS USA ความสว่าง 4,500 ลูมีน (เห็นในเน็ต)

ตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเทียบกับ HID Retrofit

เพราะถ้าเทียบกัน LED น่าจะถนอมเลนส์ได้มากกว่า Xenon (รึเปล่า) เพราะมีพัดลมระบายความร้อนที่ขั้วหลอด

ถามเป็นความรู้ครับ

ตามทฤษฎี
ใช่ครับ LED จะถนอมโคมกว่า Xenon

แต่จะมีปัญหาใหม่ตามมาคือ มอเตอร์พัดลมระบายความร้อนของหลอด LED จะพังก่อนโคมจะหมอง

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 15:28:55 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ถ้าเป็น LED Headlight PHILIPS USA ความสว่าง 4,500 ลูมีน (เห็นในเน็ต)

ตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ ถ้าเทียบกับ HID Retrofit

เพราะถ้าเทียบกัน LED น่าจะถนอมเลนส์ได้มากกว่า Xenon (รึเปล่า) เพราะมีพัดลมระบายความร้อนที่ขั้วหลอด

ถามเป็นความรู้ครับ

ตามทฤษฎี
ใช่ครับ LED จะถนอมโคมกว่า Xenon

แต่จะมีปัญหาใหม่ตามมาคือ มอเตอร์พัดลมระบายความร้อนของหลอด LED จะพังก่อนโคมจะหมอง

 ;D ;D ;D

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 15:59:55 »
เรื่องหลอดก็เรื่องนึงครับ

แต่ที่ทำให้เหลืองจริงๆคือ แสงแดด ต่างหากครับ ก็คงจะต้องพัฒนาพลาสติกให้ทนต่อ UV และ IR ครับ

ส่วนยาสีฟันได้แค่ไม่กี่วัน ไม่คุ้มเหนื่อยครับ

ออฟไลน์ madboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,354
    • อีเมล์
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 16:08:30 »
ขัดแล้วเค้าเคลือบน้ำยาด้วยไหมครับ  :D

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 16:21:06 »
มีใครเคยเอาครีมกันแดดมาเช็ดโคมบ้างมั้ยครับ กัน UV แน่นอน 555

สงสารรถมาก ช่วงนี้รู้สึกแดดแรงกว่าเมื่อก่อน

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,630
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 16:59:52 »
โคมไฟซีนอนข้างนึงเป็นหมื่น  อย่างคัมรี่ข้างล่ะ 25000 บาท   ถ้ามันเหลืองก็ไม่กล้าเปลี่ยนละครับ  แพงมาก
ผมใช้ฟอร์ตัวเก่า ก่อนเป็นโปรเจกเตอร์  โคมไฟข้างล่ะ  2200 บาท ถูกมากยังไม่กล้าเปลี่ยนเลย   ใช้น้ำยามาขัดเองไม่กี่เดือนก็เหลืองล่ะ   ขนาดจอดในร่มน่ะ   

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 17:13:32 »
เมื่อก่อนมันก็ไม่เหลืองนะครับ เพราะมันเป็นกระจก อิอิ
เดี๋ยวนี้มันเป็นพลาสติกซึ่งมันก็มีอายุการใช้งานของมันครับ ถ้าตากแดด โดนน้ำยา  Hardcoat มันก็จะหมดอายุแล้วเหลืองสิครับ

ถ้ารถเก่าแล้ว พอเหลืองก็ไปขัด แล้ว wrap พลาสติคใส่เคลือบสิครับ น่าจะอยู่ได้ 2-3 ปี ค่อยลอกแล้ว wrap ใหม่ครับ

wrap ใส ช่วยได้จริงหรอครับ
จริงแล้ว เลนส์มันเหลืองเพราะ Hardcoat ที่เคลือบมันเสื่อมสภาพทำให้แสงแดด สัมผัสเลนส์โดยตรงครับ
ผมมองว่า wrap มันกันให้ Hardcoat ลอกหรือเสื่อมสภาพเร็วเกินไปนะครับ
เวลาไฟเหลือง แล้วเราขัดไฟ คือการขัดคราบที่เกาะที่ผิวโคมไฟนะครับ พอขัดออกไฟมันก็จะใส แต่สักพักมันก็ไปเกาะที่เลนส์อีกเพราะ
สารเคลือบไม่มีแล้ว เกาะที่ผิวเลนส์ง่ายขึ้นครับ

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 17:29:24 »
มีใครเคยเอาครีมกันแดดมาเช็ดโคมบ้างมั้ยครับ กัน UV แน่นอน 555

สงสารรถมาก ช่วงนี้รู้สึกแดดแรงกว่าเมื่อก่อน

ช่วงนี้เป็นปรากฎการณ์ El Nino ครับ ในหนังสือเขาบอกว่าอากาศที่ยุโรปจะอุ่นขึ้น .... แต่สำหรับบ้านเราร้อนนรกแตก .... ที่โรงงานผมแอร์เพิ่งบึ้มไปอีกตัว ไปซื้ออะไหล่แอร์จนผมสนิทกับแมวที่ร้านเขาเลี้ยงไว้แล้ว

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 18:09:36 »
ผมก็เคยคิดนะ อาจจะเพราะโดนน้ำยาอะไรก็เป็นไปได้
แต่บางคันมันก็ไม่เป็นนะ ผมก็แปลกใจ

ผมว่าถ้ามันแย่จริงๆคงต้องเปลี่ยนโคมเลยล่ะ

ออฟไลน์ tiger12r

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 744
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 18:28:52 »
ทุบให้แตกแล้วเคลมประกันสิครับรับลองใสปิ้งเงาวับๆๆๆ (ขำๆนะครับ)
Wave100s->VIGO PreCab->VigoChamp4x4->CivicFC & REVO ROCCO4x4

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,306
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 20:19:35 »
ด้วยวัสดุเป็นพลาสติก ผมว่าได้เท่านี้ กับสภาพอากาศบ้านเราถือว่าดีแล้วครับ

ขนาดที่ญี่ปุ่นเองยังเหลืองเลย

ออฟไลน์ legion

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 253
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 20:57:59 »
แคมรี่เปลี่ยนแต่เลนซ์พลาสติคด้านนอกได้ครับ ราคาถ้าจำไม่ผิด ข้างละเจ็ดพันบาท

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: มิถุนายน 09, 2015, 21:50:04 »
แคมรี่เปลี่ยนแต่เลนซ์พลาสติคด้านนอกได้ครับ ราคาถ้าจำไม่ผิด ข้างละเจ็ดพันบาท
โห้ เฉพาะเลนส์ข้างล่ะ 7 พัน ผมว่านี้มันราคาไฟทั้งโคมตอนที่โตโยซื้อมาประกอบรถเลยนะครับนั้น แบบ HID ด้วย

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,668
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 09:09:24 »
บางยี่ห้อนอกจากจะเหลืองแล้วยังเลี้ยงปลาได้อีกด้วย (น้ำเข้า)
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,630
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 10:07:51 »
รถแพงแพงคันเป็นล้านหรือหลายล้านโคมไฟเหลืองกันทั้งนั้นเลย  เสียราศรีหมด จะเปลี่ยนก็ไม่ไหวแพงจัด

ออฟไลน์ r0u0g0e0k

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 830
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 11:42:49 »
ไม่จำเป็นต้อง เปลี่ยนเเพงๆเลยครับ มันเหลืองที่ผิวนอกนำไปขัดก็หาย

เเต่ที่หลายท่านบ่นว่าขัดเเล้วเดี๊ยวก็เหลืองอีก เพราะ ผิวชั้นนอกที่เคลือบ สารกันuv เเละเคมี ต่างๆ มันหลุดออกไปหมดเเล้วตอนขัด ถ้าไม่เคลือบผิวใหม่ไม่เกินเดือนก็เหลืองเเล้วครับ

ดังนั้น ต้องเคลือบทับหลังจากขัดเเสร็จครับ  ถ้าร้านที่ดีพอเค้าจะมีน้ำยาเคลือบทับผิวไฟหน้าครับ ซึ่งรับประกัน 1ปีไม่มีกลับมาเหลืองเเน่นอน   

ออฟไลน์ หมับเข้าให้

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 428
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 12:36:36 »
ไม่จำเป็นต้อง เปลี่ยนเเพงๆเลยครับ มันเหลืองที่ผิวนอกนำไปขัดก็หาย

เเต่ที่หลายท่านบ่นว่าขัดเเล้วเดี๊ยวก็เหลืองอีก เพราะ ผิวชั้นนอกที่เคลือบ สารกันuv เเละเคมี ต่างๆ มันหลุดออกไปหมดเเล้วตอนขัด ถ้าไม่เคลือบผิวใหม่ไม่เกินเดือนก็เหลืองเเล้วครับ

ดังนั้น ต้องเคลือบทับหลังจากขัดเเสร็จครับ  ถ้าร้านที่ดีพอเค้าจะมีน้ำยาเคลือบทับผิวไฟหน้าครับ ซึ่งรับประกัน 1ปีไม่มีกลับมาเหลืองเเน่นอน

เคยเจอร้านนึงใช้คำว่าขัดเคลือบเต็มระบบ คู่ละ 4,000 ++ รับทำเฉพาะรถที่หาไฟหน้าใหม่ยาก หรือแพงมากเท่านั้น พวก Benz Lexus

ถ้าไฟหน้ารุ่นเก่า ๆ ธรรมดาเค้าไม่แนะนำให้ทำเพราะหามือสองญี่ปุ่นง่ายกว่า

ตอนแรกก็สงสัยว่ามันแพงอะไร สงสัยคงแพงเพราะน้ำยาขัดและเคลือบนี่เอง

ออฟไลน์ crucifixzz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 960
Re: ไฟหน้ารถ เมื่อไหร่จะพัฒนาไม่ให้มันเหลืองซักที
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: มิถุนายน 10, 2015, 12:37:39 »
เปลี่ยนเป็นโคมกระจกรุ่นโบราณเลยครับ ไม่เหลืองหมอง

แต่กระจกมันขึ้นรูปให้สวยงามไม่ได้

คงจะใช้เวลานานครับกว่าจะพัฒนาให้พลาสติกที่ใช้ทำเลนส์ไม่เสื่อมเร็ว

ตัวเร่งปฏิกิริยาทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วขึ้น มี
1. แสง โดยเฉพาะแสงยูวี
2. ความชื้น
3. ออกซิเจน
4. อุณหภูมิ

ตอนนี้ก็ลดการเสื่อมโดยเปลี่ยนมาใช้หลอด LED ครับ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ และแสงมีความยาวคลื่น (wavelength) ยาว
พลาสติกจะได้หมองช้าลง แต่ยังไงใช้ไปนานๆ ก็หมองอยู่ดี
LED แสงเหลืองน้อยลง อมฟ้ามากขึ้น ความยาวคลื่นต้องสั้นลงรึเปล่าครับ  โคมบางทีก็มีอาการขึ้นเหมือนของ จขกท  ซึ่งอาการนี้น่าจะเกิดจากความร้อนของตัวโคมนะครับ

ขออภัยที่ตอบไม่หมด

ใช่ครับ ถ้าดูเฉพาะสีของแสง LED ที่มีแสงสีอมฟ้า ความยาวคลื่น (460 nm) จะสั้นกว่าแสงออกเหลืองของหลอดไส้ (580 nm)

ถ้าดูความยาวคลื่นแล้วจะพบว่า LED ส่วนใหญ่ให้แสงที่ความยาวคลื่น 400-700 nm ซึ่งจะไม่มีการปล่อย UV ออกมาเลย
หากใช้ LED แสงสีขาวอมฟ้าจะให้ความยาวคลื่น 460 nm ตามที่กล่าวไปแล้ว

แต่ถ้าเป็นหลอดไส้ แสงจะออกขาวอมเหลือง ควรมีความยาวคลื่น ที่ 580 nm ตามทฤษฏี
แต่หลอดไส้ มีการปล่อยแสงช่วง UV (ความยาวคลื่นน้อยกว่า 400 nm) ออกมาด้วย
การใช้หลอดไส้ เลนส์พลาสติกจึงหมองเร็วกว่าการใช้หลอด LED
หลอด ยกตัวอย่าง philips นั้นทำมาจาก quartz  แสดงว่าการเสื่อมสภาพของโคมที่ใช้ led กับ หลอด philips จะเสื่อมสภาพด้วยอัตราที่เท่ากัน ถูกมั้ยครับ