ก้มลงไปดูโช๊คเลยครับถ้ามีคราบเปียกเกิดขึ้นนั่นแหละแสดงว่าโช๊ครั่วแล้ว แต่ถ้าไม่เข้าศุนย์เข้าอู่ช่วงล่างให้เค้าตรวจสอบลูกหมากและบู๊ชตามจุดต่างๆดูว่าตรงไหนที่มันสึกเสื่อมสภาพต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว
โช๊คที่ติดรถมาเป็นระบบปิดไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ซ่อมได้ กระบอกโช๊คจะปิดตายไปเลย แม้ว่าร้านข้างนอกจะผ่าเปิดออกมาเพื่อทำการซ่อมก็จะมีปัญหาที่ว่าจะเอาอะไหล่จากไหนมาใช้? ก็มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ซ่อมได้นี่ ดังนั้นร้านรับซ่อมต่างๆจะเอาชิ้นส่วนจากรถเก่าคันอื่นๆมาใส่ซ่อมให้คุณ ขึ้นชื่อว่าของเก่าก็แล้วแต่ดวงว่าของใช้แล้วที่ได้มามันจะใช้ได้อีกนานเท่าไหร่ก่อนที่จะพังอีก แม้ว่าจะโชคดีจริงๆได้อะไหล่ใหม่ๆมาเลยการซ่อมบำรุงก็มีปัญหาอีกเพราะช่างส่วนมากตวงวัดปริมาณน้ำมันในกระบอกโช็คไม่เท่ากันเลย มีเยอะเลยนะที่เอาไปซ่อมอัดน้ำมันมาใหม่แล้วโช็คสี่ต้นหนืดไม่ได้เท่ากันเลย อีกอย่างชิ้ส่วนภายในกระบอกโช๊คต้องระมัดระวังเป็นอย่างดี ถ้าจับๆโยนๆแกนเป็นรอยนิดเดียวเวลาใช้งานมันก็จะเสียดสีจนโช๊ครั่วอีกอยู่ดี สรุปแล้วเปลี่ยนใหม่ดีกว่าและต้องเปลี่ยนเป็นคู่เพื่อให้ทั้งสองข้างมีความหนืดเท่ากันด้วยนะ
รถอายุสิบปีหรือมีระยะการใช้งาน70000-แสนกิโลแม้ว่าจะยังไม่มีเสียงกุกกักหรือยังไม่มีน้ำมันรั่วก็ควรจะเปลี่ยนใหม่ได้แล้ว เพราะอายุการใช้งานมีจำกัด น้ำมันภายในกระบอกที่เสียดสีและเสื่อมสภาพจากความร้อนในการใช้งานจะลดทอนประสิทธิภาพการทำงานไปเรื่อยๆ ลงทุนเปลี่ยนใหม่4ต้นไปเลยจะปลอดภัยกับชีวิตตัวเองกว่ามาก