ผู้เขียน หัวข้อ: มาดูวีดีโออธิบายการวัดอัตรากินน้ำมันมาตรฐาน UN R101 ที่ใช้ใน Eco sticker กันครับ  (อ่าน 4795 ครั้ง)

ออฟไลน์ masuoka

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,156
เขาทำในห้องแล็ปนะครับ...
http://www.car.go.th/home/PollutionSTD
การทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรกจะเป็นการจำลองการขับรถยนต์ตามสภาวะในเมือง (Urban Condition) จำนวน 4 วัฎจักร รวมระยะเวลา 780 วินาที ส่วนช่วงที่สอง เป็นการจำลองการขับรถยนต์ตามสภาวะนอกเมือง (Extra-Urban Condition) จำนวน 1 วัฎจักร รวมระยะเวลา 400 วินาที รวมเวลาที่ใช้ทั้งสิ้นเป็น 1,180 วินาที โดยความเร็วจริงของการขับเคลื่อนสามารถจะคลาดเคลื่อนจากความเร็วที่กำหนดไม่เกิน ±2 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระหว่างการขับเคลื่อนรถยนต์ทดสอบ จะมีการเก็บตัวอย่างการปล่อยไอเสียจากรถยนต์ทดสอบซึ่งประกอบด้วย ไฮโดรคาร์บอน (HC), ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) เพื่อนาปริมาณการปล่อยไอเสียจากรถยนต์ และความหนาแน่นของเชื้อเพลิงทดสอบ (Reference Fuel) มาใช้ คานวณหาอัตราการใช้เชื้อเพลิงในแต่ละสภาวะต่อไป
       เมื่อคำนวณหาอัตราใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของสภาวะในเมืองและนอกเมืองได้แล้ว ก็จะนำ ค่าอัตราการใช้เชื้อเพลิงทั้งสองสภาวะ พร้อมกับระยะทางเทียบเท่าของแต่ละสภาวะ ไปคำนวณอัตราใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหรือปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวม (Combined Condition) ต่อไป


อัตราการใช้น้ำมันอ้างอิงวัดอย่างไร และให้ผู้บริโภคใช้ประโยชน์อย่างไร
       อัตราการใช้น้ำมันอ้างอิงเป็นค่าที่ได้จากการทดสอบอัตราการใช้น้ำมันตามมาตรฐาน UN R101 ซึ่งมีลักษณะสำคัญคือ
       1) เป็นการทดสอบตามข้อกำหนด UN R101 โดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมาตรฐานในการทดสอบ (Reference Fuel)
       2) เป็นการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 17025
       3) มีวิศวกรของ สมอ. และ/หรือ หน่วยงานความคุมทางเทคนิค (Technical Service) ที่ได้รับการรับรองจากประเทศสมาชิก UN WP29 กากับดูแลตลอดการทดสอบ
       4) ได้รับการตรวจรับรองผลการทดสอบจาก สมอ. และ/หรือ ประเทศสมาชิก UN และมี E mark รับรองผล

...หุหุ ในข้อ 3 , 4 ชวนนึกถึงกรณีอื้อฉาวของ VW เลยนะครับ :-X

และนี่คือ Eco sticker ของ All new pajero sport ครับ น่าจะเป็น PPV เจ้าแรกที่ติด Eco sticker เลยนะผมว่า..
– อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) : 199g./km.
– อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสภาวะในเมือง 9.2L/100km. : 10.86 km/l
– อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสภาวะนอกเมือง 6.6L/100km. : 15.15 km/l
– อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบทั้งในเมืองและนอกเมือง 7.5L/100km. : 13.3 km/l
ภาพจาก allnewpajeroclub

"ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้ารถยนต์  เริ่มติด Eco Sticker บน รถยนต์ใหม่ทุกคันตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไปเพื่อให้ผู้บริโภคและประชาชนทั่วไปได้รับข้อมูลสมรรถนะรถยนต์ที่เที่ยงตรง โปร่งใสและเป็นมาตรฐานเดียวกัน"
http://www.car.go.th/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 10, 2015, 09:40:05 โดย masuoka »

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์


ขอบคุณครับ
อยากเห็นเจ้าตลาด ว่าจะผ่านไหมครับ 5555555

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
แบบนี้คุณจิมมี่ก็ไม่ต้องเหนื่อยมาเขย่ารถแล้วดิ  ;D

ปล. มีแค่จำลองน้ำหนักบรรทุก แต่ว่ารถแต่ละคันก็ต้านลมต่างกัน แบบนี้พวก SUV ก็จะกินน้อยลงกว่าความเป็นจริงสิ แล้วก็ยังใช้คนขับอยู่ จะสามารถคุมน้ำหนักเท้าให้ความเร็วไม่แตกต่างจากที่กำหนดเกิน 2 กม./ชม. ได้จริงเหรอ (มาตรวัดมันก็ไม่ได้ละเอียดขนาดนั้น) คนขับก็ไม่รู้คนเดียวกันมั้ย น้ำหนักการเหยียบเร่งอาจหนักเบาต่างกัน

รถพวกที่มี eco mode ล่ะ จะเอามาคิดด้วยมั้ย หรือทดสอบแค่ normal mode

แต่คิดว่ามีก็ดีนะ เอามาช่วยประกอบการตัดสินใจ เหมือนป้ายประหยัดไฟเบอร์ 5

ออฟไลน์ xman2029

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,350
    • อีเมล์
ขนาด ปายัง 199g/km เลยเหรอนี่ ev เกิน 200 ชัวๆแบบนี้ for 2.8เกินชัวแบบนี้ 2.4 ลุ้น

ออฟไลน์ iceice99

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 233
ต่อไปคงมีการ เอา ป้ายพวกนี้ ของแต่ละรุ่น มาเทียบกัน ในเว็ปง่ายดีในการเปรียบเทียบ แบบคร่าวๆ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
ต่อไปคงมีการ เอา ป้ายพวกนี้ ของแต่ละรุ่น มาเทียบกัน ในเว็ปง่ายดีในการเปรียบเทียบ แบบคร่าวๆ

ไม่ใช่ คร่าวๆ แล้วครับ ใช้นี้ละ เปรียบเทียบได้เลย
นี่ละตัวเลขมาตราฐาน จากห้องทดสอบ
หากมี สติกเกอร์นี้
ก็ยืนยันได้เลย ว่า รถทุกคัน ถูกทดสอบ ในสภาวะ และ การควบคุม ในมาตราฐานเดียวกัน สภาพแวดล้อมเดียวกัน

มัน คือ ใบ certificate เป็นทางการครับ
ในมาตราฐานเดียวกันเลย

เอา สติกเกอร์นี้มาเทียบกัน รุ่นต่อรุ่นได้เลยครับ
แต่ย้ำนะ ตามมาตราฐาน เดียวกัน ไม่ใช่ มาตราฐานของแต่ละคน หรือการใช้งานจริง

ถ้าจะมีอะไรคลาดเคลือน ก็เป็นกรณีเดียวกับ VW คือ รถที่ส่งทดสอบ กับรถขายจริง ไม่เหมือนกัร

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
เอาไว้ใช้ดูไว้เป็นแนวทางครับ สำหรับเกณฑ์มาตรฐานเดียวกัน
วิ่งจริงคงค่อนข้างต่างพอสมควร

ลองหาวิธีในการทดสอบดูครับ เท่าที่จำได้ วิ่งแค่ประมาณ 11 กิโลเมตร
บนไดโน่ในห้องทดลอง สลับไปมา ช้าเร็ว รวมเวลาในการทดสอบรู้สึกว่า
จะไม่ถึง 90 นาที ต่อคัน ไว้เดี๋ยวจะทำเป็นบทความออกมาครับ