เอาตัว 2.5 มา..
จากนั้น ตัดหลังคากระจกออก เอาล้อ 18นิ้วออก เอาถุงลมด้านข้างออก เอาเครื่อง 2.0ลิตร 144แรงม้าใส่
อัตราเร่ง 0-100 ช้าลงวินึง 80-120 ช้าลง 0.7-0.8 วินาที 0-1,500เมตรเดิมวิ่งได้ 184 ลดลงมาเหลือ 176
ราคาลดลงประมาณ 200,000 บาท ประหยัดน้ำมันเพิ่มดีกว่าเดิม 1.4 กม./ลิตร
อัตราเร่งดูช้ามั้ย..ช้าไม่ช้า แล้วแต่คนคิด แต่เมื่อคืนผมเพิ่งเอา Pajero Sport 2.4GLS LTD ไปหวด 1,500 เมตรมา..
ได้ความเร็วเท่ากันกับ X-Trail คันนี้แหละ โอเคไม่โอเคแล้วแต่คุณ แต่สำหรับคนใช้งานรถปกติ ผมว่าพอ
ผมอยากจะบอกว่า X-Trail 2.0 นั้นมีความคุ้มค่าเมื่อมองถึงการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่มาติดตรง
ที่ปัญหาเดียวคือรถราคาล้านกว่ายังให้ถุงลมมาแค่คู่หน้าอยู่เลย เขาเอาต้นทุนค่าถุงลมไปใส่อุปกรณ์อื่นๆ
ที่มันทำให้ลูกค้าได้ลองเห็นลองใช้แล้วรู้สึกว้าว คงมีผมกับพวกเราไม่กี่คนหรอกมานั่งใส่ใจเรื่องถุงลมกี่ใบ?
การเก็บเสียงยังดังจากท้ายรถมากอยู่แต่ด้านหน้าเงียบกว่าคู่แข่ง วัสดุภายในไม่ได้มีระดับกว่า CRV หรือ
CX5 เท่าไหร่นัก แต่ถ้าต้องการเอาทั้งนั่งสบาย เบาะหลังเอนได้ แล้วช่วงล่างมั่นๆวิ่งเร็วๆไม่เสียว..ต้อง X Trail นี่ล่ะ
เพราะ CX5 นั้นมันส์ สะใจ ขับสนุก อุปกรณ์ความปลอดภัยครบ แต่เสียงลมเข้าเยอะไปและเบาะหลังตั้งชันนั่งไม่สบาย
ส่วน CR-V อุปกรณ์ความปลอดภัยครบ แต่อัตราเร่งไม่เด่น ความประหยัดธรรมดา ช่วงล่างนี่เอาไว้ให้ขับแบบธรรมดาๆเถอะ
ปีหน้าถ้าเจอสรรพสามิตเรตใหม่ ไหนๆก็ช่วยทำให้รถมันเติม E85 ได้แล้วกันครับภาษีสรรพสามิตของ X-Trail
จะได้ลดลงอีก 5% แล้วก็เพิ่มถุงลมข้างแบบ 2.5 มาให้ที ถ้าทำแบบนี้ได้ ต่อให้รถแพงขึ้นถ้าไม่เยอะ
ผมว่าก็คุ้มกับความปลอดภัยที่ได้ทัดเทียมคู่แข่งมากขึ้น และจะชูความเด่นในการเป็นรถ SUV ที่เหมาะสำหรับ
ครอบครัวนักเดินทางไกลมากกว่าเดิม
Extra Clip