ในต่างประเทศค้ามรถใช้พลังงานน้ำมัน ไปเป็นรถไฮรบริดแล้วครับและ กำลังจะ ก้าวผ่านแล้วครับ จะเป็นรถไฟฟ้ากับรถ fullcell ในอนาคต น่าจะหลังปี 2020
ในต่างประเทศ ใช้รถไฮรบริดเป็นตัวเลือกหลักไปแล้วครับ เพราะ ภาษีค่าไอเสีย ต่ำกว่า รถใช้น้ำมัน แต่ว่า บริษัทรถไม่ยอมแพ้ หาทางพยายาม จะทำไปด้วยกัน แต่ ว่า ก็ไม่สู้ไฮรบริดนะครับ
ในบ้านเรา ท่าทางจะยาก ขนาด toyota pruis ยังไม่ได้ไปต่อเลย ครับ แล้วใครจะกล้ามา เห้น ว่าปีหน้า honda จะมี ไฮรบริดมาทุกรู้นเลย เป็นตัวเลือก แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาแน่หรือเปล่า นิกสัน เอ็กเทลก็มาไฮรบริดแล้วนะครับ
จริงแล้ว รถไฮรบริดเป็นมาตราฐานใหม่สำหรับประเทศเจริญแล้ว แต่ บ้านเราน่าจะยัง และก็คงอีกนาน
ผมใช้ pruis อยู่ ที่เลือก เพราะ อยากรักษาสิ่งแวดล้อม อยากเป็นคนไทยที่รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ปล่อย คาร์บอน ทำลายโลก ใบนี้ อยากมีส่วนร่วมในการรักษาโลก แต่กับดูเหมือนว่าเจตนาผมจะผิด กลายเป็นคนโง่ ในสายตาคนใช้รถด้วยกัน ว่า ซื้อ pruis ทำไม ราคาสามารถซื้อ camry ได้เลยออกcamry 2.0 ดีกว่าหรูกว่ารถก็ใหญ่กว่า แล้วสิ่งแวดล้อมละ ชั้งมันเทอะครับ จะสนใจทำไม
อังกฤษก็เจริญนะผมว่า แต่ทฤษฏีนี้ใช้ไม่ได้ครับ ที่นี่นิยมดีเซล ไฮบริดไม่ค่อยครับ
ราคาก็ไม่ถูกครับ แต่ไม่แพงแบบที่ไทย rav4 diesel กับ prius ราคาต่างกันพันปอน prius ถูกกว่าแต่ความอเนกประสงค์น้อยกว่าเช่นกันครับ
หรือถ้าเทียบในรุ่นเดียวกันอย่าง auris ตัวทอปสุด กับ ไฮบริดทอป ไฮบริดแพงกว่าพันปอนเช่นกันครับ
ขอบคุณสำหรับขอมูลนะครับ
ผมใช้กับประเทศ อเมริกา ที่ เขารักสิ่งแวดล้อม ช่วง ภาวะโลกร้อน ปี 2008
แต่ยุโรป หลัง เล่น ดีเซลเป็นหลักอยู่แล้วนะครับ แต่ยังไงก็ต้องเติมน้ำมัน adblue เพื่อลดมลพิษ
ส่วนเรื่องราคา ไม่ถูกอ่ะถูกต้องครับ แต่ ผมหมายถึงภาษี ที่ รถน้ำมันธรรมดา จะทำให้แพงขึ่น แต่ไฮรบริดจะแพงกว่านี้มากถ้าไม่มีการลดภาษีมาช่วย
คุณคิดว่า รถไฮรบริด กับไม่ ไฮรบริด ราคา จะต่างแค่ 1000 ปอน ได้หรือครับ น่าจะมากกว่านี้ นะ
( ไม่มีเจตานาว่าใครนะครับ ลอง พิจราณาดูว่า สมเหตุผลไหม)