วันหนึ่ง Hybrid จะมีโอกาสเป็นมาตรฐานของรถยนต์ทั่วไปไหมอ่ะครับ

Abzolute

เช่น VSC TRC ปัจจุบันเริ่มใส่มาทุกรุ่นย่อยแล้ว

คิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสที่ระบบ hybrid จะเป็นมาตรฐานของรถยนต์ไหมอ่ะครับ



ไทบ้าน

หมอหยองขอฟันธงว่า "ไม่" แน่นอน



Nonlamer

คหสต ไม่ครับ รถไฟฟ้าน่าจะมีโอกาสมากกว่า แต่คงเป็นอนาคตอันไกลมากๆ ถ้าเป็น plug-in ชาร์จไฟบ้านและมีสถานีชาร์จจะแจ่มมาก ไม่ปล่อยมลพิษ เสียงเงียบ ลดทั้งมลพิษทางอากาศและมลพิษทางเสียง



akewizard

อาจจะกลายเป็นรถไฟฟ้า  ที่มีเครื่องน้ำมันไว้ปั่นไฟสำรองเฉยๆแทนครับ
คุ้นๆเหมือนจะมีค่ายไหนทำแล้วนะ



e:smart Hybrid

อาจจะกลายเป็นรถไฟฟ้า  ที่มีเครื่องน้ำมันไว้ปั่นไฟสำรองเฉยๆแทนครับ
คุ้นๆเหมือนจะมีค่ายไหนทำแล้วนะ

BMW I3 ครับ

โดยส่วนตัวผมว่าไปเป็นรถไฟฟ้าไปเลยดีกว่า

แล้วมีเครื่องเล็กๆ ไว้ปั่นไฟ พอครับ ;D



CATM96

อาจจะกลายเป็นรถไฟฟ้า  ที่มีเครื่องน้ำมันไว้ปั่นไฟสำรองเฉยๆแทนครับ
คุ้นๆเหมือนจะมีค่ายไหนทำแล้วนะ

BMW I3 ครับ

โดยส่วนตัวผมว่าไปเป็นรถไฟฟ้าไปเลยดีกว่า

แล้วมีเครื่องเล็กๆ ไว้ปั่นไฟ พอครับ ;D

ยังมีอีกค่ายครับ เป็นค่ายรถที่คนรู้จักดีกับชื่อเสีย...chevrolet volt รถที่ดีที่ทำให้คนใช้จะจำไปตลอดการ...



Napat14

ในต่างประเทศค้ามรถใช้พลังงานน้ำมัน ไปเป็นรถไฮรบริดแล้วครับและ กำลังจะ ก้าวผ่านแล้วครับ จะเป็นรถไฟฟ้ากับรถ fullcell ในอนาคต น่าจะหลังปี 2020

ในต่างประเทศ ใช้รถไฮรบริดเป็นตัวเลือกหลักไปแล้วครับ เพราะ ภาษีค่าไอเสีย ต่ำกว่า รถใช้น้ำมัน แต่ว่า บริษัทรถไม่ยอมแพ้ หาทางพยายาม จะทำไปด้วยกัน แต่ ว่า ก็ไม่สู้ไฮรบริดนะครับ

ในบ้านเรา ท่าทางจะยาก ขนาด toyota pruis ยังไม่ได้ไปต่อเลย ครับ แล้วใครจะกล้ามา เห้น ว่าปีหน้า honda จะมี ไฮรบริดมาทุกรู้นเลย เป็นตัวเลือก แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาแน่หรือเปล่า นิกสัน เอ็กเทลก็มาไฮรบริดแล้วนะครับ

จริงแล้ว รถไฮรบริดเป็นมาตราฐานใหม่สำหรับประเทศเจริญแล้ว แต่ บ้านเราน่าจะยัง และก็คงอีกนาน
ผมใช้ pruis อยู่ ที่เลือก เพราะ อยากรักษาสิ่งแวดล้อม อยากเป็นคนไทยที่รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ปล่อย คาร์บอน ทำลายโลก ใบนี้ อยากมีส่วนร่วมในการรักษาโลก แต่กับดูเหมือนว่าเจตนาผมจะผิด กลายเป็นคนโง่ ในสายตาคนใช้รถด้วยกัน ว่า ซื้อ pruis ทำไม ราคาสามารถซื้อ camry ได้เลยออกcamry 2.0 ดีกว่าหรูกว่ารถก็ใหญ่กว่า แล้วสิ่งแวดล้อมละ ชั้งมันเทอะครับ จะสนใจทำไม
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018



promt

ไม่

Hybrid มันพันธุ์ทาง แค่ตัวปลอมคั่นเวลา



Buffy

อีก 20 ปี  สำหรับเมืองไทย ผมยังคิดว่าใช่ครับ ที่รถส่วนใหญ่ จะเป็น Hybrid

Hybrid คันแรกมาเมืองไทย เมื่อไร ไม่แน่ใจ น่าจะเป็น prius เมื่อ 5-7 ปีที่แล้ว

ดูตอนนี้  Hybrid เต็มไปหมด toyota Honda Benz Porches....... nissan ในอันใกล้

อีก 20 ปี ผมเชื่อว่า รถ 70% บนถนนในเมืองไทย hybrid หมดแน่ อีก 5% เป็นไฟฟ้า  ที่เหลือ ดีเซล



musicman1892

HYBRID เป็นระบบที่ดีระบบหนึ่งเลยอีกไม่นานคงจะมีอะไรที่พัฒนาไปมากกว่านี้
แต่ ในเมืองไทยคนไทยยังมองข้ามระบบนี้ไปอยู่



Tedjung84

หนีไม่พ้นหรอกครับ   
มีทุกค่ายแน่ๆและต่อไปก็แทบทุกรุ่น



axister

ในต่างประเทศค้ามรถใช้พลังงานน้ำมัน ไปเป็นรถไฮรบริดแล้วครับและ กำลังจะ ก้าวผ่านแล้วครับ จะเป็นรถไฟฟ้ากับรถ fullcell ในอนาคต น่าจะหลังปี 2020

ในต่างประเทศ ใช้รถไฮรบริดเป็นตัวเลือกหลักไปแล้วครับ เพราะ ภาษีค่าไอเสีย ต่ำกว่า รถใช้น้ำมัน แต่ว่า บริษัทรถไม่ยอมแพ้ หาทางพยายาม จะทำไปด้วยกัน แต่ ว่า ก็ไม่สู้ไฮรบริดนะครับ

ในบ้านเรา ท่าทางจะยาก ขนาด toyota pruis ยังไม่ได้ไปต่อเลย ครับ แล้วใครจะกล้ามา เห้น ว่าปีหน้า honda จะมี ไฮรบริดมาทุกรู้นเลย เป็นตัวเลือก แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาแน่หรือเปล่า นิกสัน เอ็กเทลก็มาไฮรบริดแล้วนะครับ

จริงแล้ว รถไฮรบริดเป็นมาตราฐานใหม่สำหรับประเทศเจริญแล้ว แต่ บ้านเราน่าจะยัง และก็คงอีกนาน
ผมใช้ pruis อยู่ ที่เลือก เพราะ อยากรักษาสิ่งแวดล้อม อยากเป็นคนไทยที่รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ปล่อย คาร์บอน ทำลายโลก ใบนี้ อยากมีส่วนร่วมในการรักษาโลก แต่กับดูเหมือนว่าเจตนาผมจะผิด กลายเป็นคนโง่ ในสายตาคนใช้รถด้วยกัน ว่า ซื้อ pruis ทำไม ราคาสามารถซื้อ camry ได้เลยออกcamry 2.0 ดีกว่าหรูกว่ารถก็ใหญ่กว่า แล้วสิ่งแวดล้อมละ ชั้งมันเทอะครับ จะสนใจทำไม

อังกฤษก็เจริญนะผมว่า แต่ทฤษฏีนี้ใช้ไม่ได้ครับ ที่นี่นิยมดีเซล ไฮบริดไม่ค่อยครับ

ราคาก็ไม่ถูกครับ แต่ไม่แพงแบบที่ไทย rav4 diesel กับ prius ราคาต่างกันพันปอน prius ถูกกว่าแต่ความอเนกประสงค์น้อยกว่าเช่นกันครับ

หรือถ้าเทียบในรุ่นเดียวกันอย่าง auris ตัวทอปสุด กับ ไฮบริดทอป ไฮบริดแพงกว่าพันปอนเช่นกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2015, 09:20:33 โดย axister »



Napat14

ในต่างประเทศค้ามรถใช้พลังงานน้ำมัน ไปเป็นรถไฮรบริดแล้วครับและ กำลังจะ ก้าวผ่านแล้วครับ จะเป็นรถไฟฟ้ากับรถ fullcell ในอนาคต น่าจะหลังปี 2020

ในต่างประเทศ ใช้รถไฮรบริดเป็นตัวเลือกหลักไปแล้วครับ เพราะ ภาษีค่าไอเสีย ต่ำกว่า รถใช้น้ำมัน แต่ว่า บริษัทรถไม่ยอมแพ้ หาทางพยายาม จะทำไปด้วยกัน แต่ ว่า ก็ไม่สู้ไฮรบริดนะครับ

ในบ้านเรา ท่าทางจะยาก ขนาด toyota pruis ยังไม่ได้ไปต่อเลย ครับ แล้วใครจะกล้ามา เห้น ว่าปีหน้า honda จะมี ไฮรบริดมาทุกรู้นเลย เป็นตัวเลือก แต่ไม่แน่ใจว่าจะมาแน่หรือเปล่า นิกสัน เอ็กเทลก็มาไฮรบริดแล้วนะครับ

จริงแล้ว รถไฮรบริดเป็นมาตราฐานใหม่สำหรับประเทศเจริญแล้ว แต่ บ้านเราน่าจะยัง และก็คงอีกนาน
ผมใช้ pruis อยู่ ที่เลือก เพราะ อยากรักษาสิ่งแวดล้อม อยากเป็นคนไทยที่รักษาสิ่งแวดล้อมไม่ปล่อย คาร์บอน ทำลายโลก ใบนี้ อยากมีส่วนร่วมในการรักษาโลก แต่กับดูเหมือนว่าเจตนาผมจะผิด กลายเป็นคนโง่ ในสายตาคนใช้รถด้วยกัน ว่า ซื้อ pruis ทำไม ราคาสามารถซื้อ camry ได้เลยออกcamry 2.0 ดีกว่าหรูกว่ารถก็ใหญ่กว่า แล้วสิ่งแวดล้อมละ ชั้งมันเทอะครับ จะสนใจทำไม

อังกฤษก็เจริญนะผมว่า แต่ทฤษฏีนี้ใช้ไม่ได้ครับ ที่นี่นิยมดีเซล ไฮบริดไม่ค่อยครับ

ราคาก็ไม่ถูกครับ แต่ไม่แพงแบบที่ไทย rav4 diesel กับ prius ราคาต่างกันพันปอน prius ถูกกว่าแต่ความอเนกประสงค์น้อยกว่าเช่นกันครับ

หรือถ้าเทียบในรุ่นเดียวกันอย่าง auris ตัวทอปสุด กับ ไฮบริดทอป ไฮบริดแพงกว่าพันปอนเช่นกันครับ

ขอบคุณสำหรับขอมูลนะครับ
ผมใช้กับประเทศ อเมริกา ที่ เขารักสิ่งแวดล้อม ช่วง ภาวะโลกร้อน ปี 2008
แต่ยุโรป หลัง เล่น ดีเซลเป็นหลักอยู่แล้วนะครับ แต่ยังไงก็ต้องเติมน้ำมัน adblue เพื่อลดมลพิษ
ส่วนเรื่องราคา ไม่ถูกอ่ะถูกต้องครับ แต่ ผมหมายถึงภาษี ที่ รถน้ำมันธรรมดา จะทำให้แพงขึ่น แต่ไฮรบริดจะแพงกว่านี้มากถ้าไม่มีการลดภาษีมาช่วย
คุณคิดว่า รถไฮรบริด กับไม่ ไฮรบริด ราคา จะต่างแค่ 1000 ปอน ได้หรือครับ น่าจะมากกว่านี้ นะ
( ไม่มีเจตานาว่าใครนะครับ ลอง พิจราณาดูว่า สมเหตุผลไหม) 
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018



Tee+...Lek

โดยส่วนตัวแล้ว ทุกอย่างคงไปจบที่รถไฟฟ้าครับ

แต่ปัจจุปัน เนื่องจากเทคโนโลยีเรื่องแบตเตอรี่ยังไม่ถึงจุดนั้น Hybrid จึงเหมือน "สะพาน" เชื่อมระหว่างยุคเครื่องสันดาป กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน

ฝั่ง US นี่ช่วง 3-4 ปีที่แล้ว Prius ต้องจองกัน 3-4 เดือนกว่าจะได้รถ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับตลาดรถในอเมริกา แต่พอไปฟังคนซื้อแล้ว เค้ามีความเห็นที่น่าฟังมาก เค้าบอกว่า Prius มีระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อมพอๆ กับรถยุโรปรุ่นท๊อป แต่ราคาที่เอื้อมถึง ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันถือว่าเป็นของแถม ก็ว่ากันไป

ผมเองตอนไปเรียนต่อก็เลือก Prius ไม่ใช่ว่าจะรักษ์โลกหรืออะไรหรอก แต่เพราะตอนนั้นราคาน้ำมันโหดมากแตะเกือบ 4 เหรียญ เทียบกับปัจจุปันอยู่ที่ 2 เหรียญต้นๆ ถึงกับมีบทความบอกว่า ส่วนต่างระหว่าง Prius กับ Corolla ถ้าราคาน้ำมันสูงอย่างนั้น จะคืนทุนในเวลาแค่ 3 ปี!! แต่ตอนนี้คงไม่เร็วถึงขนาดนั้นแล้ว เพราะค่าน้ำมันที่ลดลง เทียบให้เห็นชัดอีกอย่างคือปีที่แล้วผมไปเที่ยว US ขับรถเที่ยวประมาณ 4xxx-5xxx ไมล์ ด้วยรถ Acadia (ซึ่งเครื่องเล็กกว่า) ค่าน้ำมันเกือบ 5xx เหรียญ ในขณะที่ปีนี้ขับรถด้วยระยะทางพอๆ กัน (แต่ต่างเส้นทางกัน) ใช้ Suburban (ซึ่งเครื่องใหญ่กว่า) ค่าน้ำมันไม่ถึง 3xx เหรียญเอง

สำหรับเรื่องเครื่องดีเซลนั้น ในอเมริกาที่ไม่ค่อยนิยมกัน เนื่องจากราคาค่าน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าเบนซินมาก ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาจึงไม่ค่อยใส่ใจเรื่องดีเซลเท่าไหร่นัก ขนาดรถกระบะ F150 ยังใช้เครื่องเบนซินเลยครับ (แต่ก็ซดเอาเรื่องอยู่)

ส่วนเรื่องภาษีรถยนต์ ผมว่าเถียงกันลำบากครับ เพราะวัตถุประสงค์เรื่องภาษีของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เช่นในญี่ปุ่น เคยได้ยินว่าภาษีรถเก่าจะแพงกว่าภาษีรถใหม่ เนื่องจากทางการเค้าสนับสนุนให้พลเมืองใช้เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าเป็น Hybrid เค้าจะลดภาษีประจำปีลงให้อีก อันนี้ก็พูดกันลำบากครับ



Impulse

ส่วนตัวคิดว่าก่อนเวลานั้นจะมาถึงรถไฟฟ้าคงได้รับความนิยมไปแล้ว



SM.

คงเป็นรถไฟฟ้า แต่อาจจะไม่ใช่ fully electric น่าจะมีให้ น้ำมัน ใส่ generator จ่ายไฟ ด้วย

แต่หลังจากนั้นไปอีก ไม่แน่ครับ อาจจะเป็น plug-in



Poppuri

สำหรับผมผมคิดว่าไม่น่าจะมาสายผสมนะ อาจจะเป็นรถไฟฟ้าล้วนมากกว่า หรือไม่ก็ Fuel Cell



bookish1

เครื่องยนต์ของ altis ในตำนานจะอยู่กับเราตลอดไปครับ  :-X



Napat14

โดยส่วนตัวแล้ว ทุกอย่างคงไปจบที่รถไฟฟ้าครับ

แต่ปัจจุปัน เนื่องจากเทคโนโลยีเรื่องแบตเตอรี่ยังไม่ถึงจุดนั้น Hybrid จึงเหมือน "สะพาน" เชื่อมระหว่างยุคเครื่องสันดาป กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกัน

ฝั่ง US นี่ช่วง 3-4 ปีที่แล้ว Prius ต้องจองกัน 3-4 เดือนกว่าจะได้รถ ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับตลาดรถในอเมริกา แต่พอไปฟังคนซื้อแล้ว เค้ามีความเห็นที่น่าฟังมาก เค้าบอกว่า Prius มีระบบความปลอดภัยที่เพียบพร้อมพอๆ กับรถยุโรปรุ่นท๊อป แต่ราคาที่เอื้อมถึง ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันถือว่าเป็นของแถม ก็ว่ากันไป

ผมเองตอนไปเรียนต่อก็เลือก Prius ไม่ใช่ว่าจะรักษ์โลกหรืออะไรหรอก แต่เพราะตอนนั้นราคาน้ำมันโหดมากแตะเกือบ 4 เหรียญ เทียบกับปัจจุปันอยู่ที่ 2 เหรียญต้นๆ ถึงกับมีบทความบอกว่า ส่วนต่างระหว่าง Prius กับ Corolla ถ้าราคาน้ำมันสูงอย่างนั้น จะคืนทุนในเวลาแค่ 3 ปี!! แต่ตอนนี้คงไม่เร็วถึงขนาดนั้นแล้ว เพราะค่าน้ำมันที่ลดลง เทียบให้เห็นชัดอีกอย่างคือปีที่แล้วผมไปเที่ยว US ขับรถเที่ยวประมาณ 4xxx-5xxx ไมล์ ด้วยรถ Acadia (ซึ่งเครื่องเล็กกว่า) ค่าน้ำมันเกือบ 5xx เหรียญ ในขณะที่ปีนี้ขับรถด้วยระยะทางพอๆ กัน (แต่ต่างเส้นทางกัน) ใช้ Suburban (ซึ่งเครื่องใหญ่กว่า) ค่าน้ำมันไม่ถึง 3xx เหรียญเอง

สำหรับเรื่องเครื่องดีเซลนั้น ในอเมริกาที่ไม่ค่อยนิยมกัน เนื่องจากราคาค่าน้ำมันดีเซลที่สูงกว่าเบนซินมาก ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาจึงไม่ค่อยใส่ใจเรื่องดีเซลเท่าไหร่นัก ขนาดรถกระบะ F150 ยังใช้เครื่องเบนซินเลยครับ (แต่ก็ซดเอาเรื่องอยู่)

ส่วนเรื่องภาษีรถยนต์ ผมว่าเถียงกันลำบากครับ เพราะวัตถุประสงค์เรื่องภาษีของแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เช่นในญี่ปุ่น เคยได้ยินว่าภาษีรถเก่าจะแพงกว่าภาษีรถใหม่ เนื่องจากทางการเค้าสนับสนุนให้พลเมืองใช้เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่ๆ ยิ่งถ้าเป็น Hybrid เค้าจะลดภาษีประจำปีลงให้อีก อันนี้ก็พูดกันลำบากครับ

ผมเห็นด้วยนะครับ แต่ว่า pruis ที่ การตลาดใน us นั้น ก็ช่วยลดโลกร้อย จาก รองประธานาธิบดี อังกอ แต่ว่าที่ผมไปอยู่ส่งสัยเป็น ฟรั้งคนละกลุ่มที่ไปเจอกับคุณมั่ง เขาใช้เพราะอยากช่วยโลกสงสัยจะไม่จริง แต่ว่าละครับ ที่ผมไปอยู่ ฟรั้งโครตรวยอ่ะ อยู่ mansion มีรถถเป็นสิบ ยังงงอยู่เลยว่าทำไม ซื้อ pruis จอดหน้าบ้านโรงรถมันก็มี  ในโรงรถ จอด mustang ปี 64  carmelo รถเทพๆทั้งนั้น
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018



Slipknot`

เราจะได้อยู่เห็นรึเปล่าครับ
 :P :P :P