ผู้เขียน หัวข้อ: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ  (อ่าน 7073 ครั้ง)

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
จริงๆผมชอบรถยูโรปนะครับ แต่ผมตัั้งงบไว้ทีไม่เกิน2แสนบาท เลยตัดสินใจไปดู มีอยู่3รุ่น ทีเปนรถยูโรปทั้งหมดครับ 1คันจากเมีองไส้กรอก อีก2คัน จากเมีองน้ำหอม  นันคีอ ซีตรอง ซองเทียร์ กับXMครับ อีกคัน volkswagen passat  1.8  รถ3คันนี้ราคาไม่เกิน2แสนบาทครับ  ผมเองดูมาหมดแล้วครับ แต่ว่าตัวไหนokกว่ากันครับทั้ง อะไหล่ และอู่ครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 21:48:02 »
VW Passat 1.8 ตัวถัง B5 ก็น่าเล่นกว่า ครับ อะไหล่เครื่องกับช่วงล่างนี่ไม่แพงเลย และหาง่ายด้วย อู่ก็มีหลายอู่

ที่จะลำบากนิดหน่อย แพงอยู่บ้างก็พวกกล่องคุมABS รุ่นนี้มันจะเสียที่่ขาทองคำตรงที่มาต่อกับpin จาก IC มาก Connector ครับ ต้องละลาย Silicone แล้วย้ำด้วยเครื่องเชื่อมขนาดเล็กที่ใช้แรงสั่นสะเทือน หาช่างซ่อมแบบนี้ยาก ส่วนใหญ่เอาหัวแร้งบัดกรีละลายซิลิโคนกันดื้อ ๆ ผมเองก็จนปัญญเรื่องช่างซ่อมกล่องรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน หาดี ๆ ยากครับ

อะไหล่ตัวถัง เซียงกงมีเยอะมากครับ สบาย ๆ

ถ้าเป็นซีตรองก็ เหนื่อยตอนซ่อมระบบไฮดรอลิกนี่ล่ะครับ คือมันทำทุกอย่างที่เป็นระบบไฮดรอลิกในรถ เบรค โช๊ค หาอะไหล่ถูกๆ ไม่ได้ เซียงกงก็ไม่เห็นแล้วนะ ถ้าใครยังเห็นก็รบกวนกระซิบหน่อยครับ ญาติผู้ใหญ่ท่านนึงกำลังหาอะไหล่มาซ่อมอยู่ ตอนนี้ใช้ Epoxy แปะไอ้กระปุกนั่นไว้ รอมันพังจริง ๆอาจจะต้องทิ้งรถ

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,718
  • การเดินทางครั้งใหม่
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 22:04:34 »
เท่าที่เคยดูๆมา VW ได้เปรียบในหลายๆเรื่อง ทั้งอะไหล่และอู่หาง่ายกว่า แต่ถ้าระบุรุ่นชัดๆไม่ทราบเลยครับ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ ks75

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 66
    • อีเมล์
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 22:06:57 »
VW น่าจะหาอะไหล่ง่ายกว่ามั้งครับ
แต่ผมเชียร์Xantiaนะครับ อะไหล่น่าจะยังพอหาได้ไม่ลำบากนัก clubซีตรองก็ยังพอพึ่งพาได้
แถวๆถ.นครอินทร์มีโกดังเซียงกงยุโรปอยู่ ลองเข้าไปดูนะครับ

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 22:14:45 »
VW น่าจะหาอะไหล่ง่ายกว่ามั้งครับ
แต่ผมเชียร์Xantiaนะครับ อะไหล่น่าจะยังพอหาได้ไม่ลำบากนัก clubซีตรองก็ยังพอพึ่งพาได้
แถวๆถ.นครอินทร์มีโกดังเซียงกงยุโรปอยู่ ลองเข้าไปดูนะครับ
ครับพอดีผมอยู่ในคลับซีตรองอยู่ครับXantiaมีอยู่1คันครับไปดูมาแล้วครับแต่กำลังตัดสินใจครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 22:59:04 »
ได้โจทย์จากพี่ นี้ สุดยอดเลย จะเล่น ซีตรองด้วย

เท่าที่ดูในตลาด และจากตัวเลือก vw น่าจะได้เปรียบสุดหลายๆเรื่อง แต่ว่าถ้าคนคิดจะเล่นซีตรองแล้วนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน
เพราะว่า ผมก็เคย จะได้ซีตรองมาใช้เหมือนกัน แต่ วาสนาไม่ตรงกันเลยไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของ ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะเนี้ย

ระหว่าง ซองเทีย กะ XM ผมไป XM ดีกว่าเพราะรถใหญ่กว่า นิ้มกว่า แต่ซองเทียใหม่กว่าแต่ไม่นิ้มเท่าXM เคยไปลองมาแล้ว
เคยศึกษาซีตรองมา พักหนึ่ง เคยเห็นคนวางเครื่องในซีตรองด้วย แต่ระบบไฮรโรลิดก็ยังใช้ได้ปกติ แต่เครื่องพี่ต้า งงเลยที่นี้
เท่าที่ดูมา ระบบไฮรโรลิด ซีตรอง ตัวปั้มไฮโดลิค น่าจะมีปัญหาง่ายสุด เพราะกินแรง พวกตัวลูกตุ้มในรถ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เครื่องใช้กะโปรโยได้ เครื่องเหมือนกัน  ว่าแต่ อะไหล่จะเฉพราะกลุ้มเหมือนพวก อันพาโรมีโอ นะสิครับ

แต่พี่ใจรัก ก็สุยเลย ครับ เพราะว่า ระบบไฮโดลิด ของ ซีตรอง จะไม่มีการผลิตขึ่นมาอีกแล้วตัวสุดท้ายที่อยู่ใน ซีตรองน่าจะเป็นc6 เพราะไม่คุ้มทุน ระบบนี้ เห็นว่า จะไปอยู่ กะ โรสลอย กะเบนซ์เล่ แทน เสียดายที่ไม่มีค่ายรถไหนกล้าทำ ขึ่นมาอีกทั้งๆที่ระบบดีมากๆ ขับสามล้อยังได้ แถมไม่ต้องมีแม่แรงอีกตั้งหาก
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 13, 2015, 23:26:48 »
ถ้าจะเล่นรถคลาสแค่นี้ ผมว่าภาพลักษณ์มันไม่ดีเกินรถญีปุ่นรุ่นปีคราวเดียวกันเลย ผมขอผ่านครับ

ออฟไลน์ yod artstu

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,158
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2015, 00:33:19 »
xantai ช่วงล่างดีมากครับ
ยางแตกไป 1 ล้อขับเรื่อยๆยังไม่รู้สึกเลยครับเพียงแต่ว่า....
อยากให้ดู EURO N CAP ทดสอบการชนในปี 97 ครับ
ตัวถังซับแรงปะทะไม่ดีเลยครับ (ในปีเดียวกันนั้นรถหลายๆรุ่นก็ยังไม่โอเค)



ยกเว้นว่าชอบตัวรถและขับแบบ Sunday Driving อันนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ครับ
ช่วงล่างต้องซ่อมถึงนะครับถึงจบ
ใจเย็นๆครับรถปีเก่าขนาดนั้น ซ่อมยังไงก็ต้องมาเก็บงานเรื่อยๆครับ มีเรื่องให้เสียนี่นู่นนั่นเรื่อยๆ
ค่อยๆดูครับ :)
: )

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2015, 00:39:04 »

Volk passat ครับ แต่งบ2แสนนี่เหลือบานเลย ถ้างบเหลือขนาดนี้ลองหาหัวตัด1.8 turbo มาวาง แรงเหลือๆแถมขับสนุกด้วย
อู่ซ่อมVWเยอะมากครับ แต่ระวังอู่ไว้ด้วยก็ดี อู่VW นี่เหมือนวัดดวงเจออู่ไม่ดีค่าซ่อมค่าอะไหล่แพงกว่าเบนซ์ บีเอ็มอีก
อะไหล่หัวตัดมาก็เยอะ อะไหล่เทียบก็มีราคาพอรับได้ เล่นได้เลยอนาคตอีก5-10ปี อะไหล่ก็ยังมีเรื่อยๆ

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,570
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2015, 01:07:40 »
ถ้ามีตัวเลือกเท่านี้ผมชอบxmมากสุดครับแต่ถ้าให้เลือกก็คงต้องขอคิดหนักๆเลยเพราะตอนนี้ถ้าซื้อไว้มันมีโอกาสจะได้อยู่ติดมือกันไปอีกนานเลยครับ คือขายออกยากมาก ถามว่าคนอยากได้มีไหม? มีครับแต่ก็จะมาคิดหนักจนท้อและตัดใจกันไปในที่สุดก็ตรงเรื่องอะไหล่บางส่วนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมันที่ต้องแทบพลิกแผ่นดินหากัน อย่าหวังว่าจะมีเซียงกงหรือหัวตัดมาเรื่อยๆแบบbmwหรือbenzน่ะครับ แต่ถ้าใจรักจริงก็ต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย xm เป็นรถที่เหมาะจะเก็บรักษาให้คงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด(คือไม่ดัดแปลงต่อเติมอะไรที่ไม่ใช่ของมัน) เป็นรถสะสมไว้ไม่เสียหลาย แต่ไม่เหมาะที่จะเอามาใช้เป็นรถคันหลักที่ใช้เป็นประจำเลยจริงๆครับ

ออฟไลน์ UK16

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 74
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2015, 17:00:12 »
ผมว่าวันนี้เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่....คนมันรักอ่ะนะ  ใครก็ตามที่คิดจะเล่นรถประเภทนี้ ผมว่าน่าจะศึกษามาพอสมควร เดี๋ยวนี้ยิ่งดีมีคลับมีเวปมีอากู๋ให้เข้าไปศึกษา ดูจากราคาที่ตั้งน่าจะเข้าใจถึงสภาพที่จะได้ และ ผมเชื่อว่าต้องมีงบบูรณะ แค่มาซาวเสียงชาวเวปHLMอีกนิด....สุดท้ายขอให้ได้รถที่รัก และ ขับให้สนุกครับ...(ลืมตอบกระทู้  ผมเลือกซีตรองครับ)

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 03:40:56 »
ความรู้ไม่ค่อยมีนะครับแต่ชอบ Passat ดูไม่เก่าเท่าไหร่เลย

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,152
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 12:21:09 »
VW Passat 1.8 ตัวถัง B5 ก็น่าเล่นกว่า ครับ อะไหล่เครื่องกับช่วงล่างนี่ไม่แพงเลย และหาง่ายด้วย อู่ก็มีหลายอู่

ที่จะลำบากนิดหน่อย แพงอยู่บ้างก็พวกกล่องคุมABS รุ่นนี้มันจะเสียที่่ขาทองคำตรงที่มาต่อกับpin จาก IC มาก Connector ครับ ต้องละลาย Silicone แล้วย้ำด้วยเครื่องเชื่อมขนาดเล็กที่ใช้แรงสั่นสะเทือน หาช่างซ่อมแบบนี้ยาก ส่วนใหญ่เอาหัวแร้งบัดกรีละลายซิลิโคนกันดื้อ ๆ ผมเองก็จนปัญญเรื่องช่างซ่อมกล่องรุ่นนี้อยู่เหมือนกัน หาดี ๆ ยากครับ

อะไหล่ตัวถัง เซียงกงมีเยอะมากครับ สบาย ๆ

ถ้าเป็นซีตรองก็ เหนื่อยตอนซ่อมระบบไฮดรอลิกนี่ล่ะครับ คือมันทำทุกอย่างที่เป็นระบบไฮดรอลิกในรถ เบรค โช๊ค หาอะไหล่ถูกๆ ไม่ได้ เซียงกงก็ไม่เห็นแล้วนะ ถ้าใครยังเห็นก็รบกวนกระซิบหน่อยครับ ญาติผู้ใหญ่ท่านนึงกำลังหาอะไหล่มาซ่อมอยู่ ตอนนี้ใช้ Epoxy แปะไอ้กระปุกนั่นไว้ รอมันพังจริง ๆอาจจะต้องทิ้งรถ

รถรุ่นอะไรครับ...อะไหล่ตัวไหนครับ ถ้าเป็น CX ล่ะก็ อะไหล่มี Reproduction เกือบทุกชิ้นนะครับ รบกวน PM มาได้ครับ ยินดีบอกแหล่งหาอะไหล่ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศให้ครับ อะไหล่ หาไม่ยากครับ อยู่ที่เรารู้ว่ามันอยู่ตรงไหนหรือเปล่า ก็เท่านั้นเองครับผม
เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 12:28:33 »
ถ้าจะเล่นรถคลาสแค่นี้ ผมว่าภาพลักษณ์มันไม่ดีเกินรถญีปุ่นรุ่นปีคราวเดียวกันเลย ผมขอผ่านครับ

+1 ครับ :)


ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,152
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 12:42:04 »
ได้โจทย์จากพี่ นี้ สุดยอดเลย จะเล่น ซีตรองด้วย

เท่าที่ดูในตลาด และจากตัวเลือก vw น่าจะได้เปรียบสุดหลายๆเรื่อง แต่ว่าถ้าคนคิดจะเล่นซีตรองแล้วนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน
เพราะว่า ผมก็เคย จะได้ซีตรองมาใช้เหมือนกัน แต่ วาสนาไม่ตรงกันเลยไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของ ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะเนี้ย

ระหว่าง ซองเทีย กะ XM ผมไป XM ดีกว่าเพราะรถใหญ่กว่า นิ้มกว่า แต่ซองเทียใหม่กว่าแต่ไม่นิ้มเท่าXM เคยไปลองมาแล้ว
เคยศึกษาซีตรองมา พักหนึ่ง เคยเห็นคนวางเครื่องในซีตรองด้วย แต่ระบบไฮรโรลิดก็ยังใช้ได้ปกติ แต่เครื่องพี่ต้า งงเลยที่นี้
เท่าที่ดูมา ระบบไฮรโรลิด ซีตรอง ตัวปั้มไฮโดลิค น่าจะมีปัญหาง่ายสุด เพราะกินแรง พวกตัวลูกตุ้มในรถ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เครื่องใช้กะโปรโยได้ เครื่องเหมือนกัน  ว่าแต่ อะไหล่จะเฉพราะกลุ้มเหมือนพวก อันพาโรมีโอ นะสิครับ

แต่พี่ใจรัก ก็สุยเลย ครับ เพราะว่า ระบบไฮโดลิด ของ ซีตรอง จะไม่มีการผลิตขึ่นมาอีกแล้วตัวสุดท้ายที่อยู่ใน ซีตรองน่าจะเป็นc6 เพราะไม่คุ้มทุน ระบบนี้ เห็นว่า จะไปอยู่ กะ โรสลอย กะเบนซ์เล่ แทน เสียดายที่ไม่มีค่ายรถไหนกล้าทำ ขึ่นมาอีกทั้งๆที่ระบบดีมากๆ ขับสามล้อยังได้ แถมไม่ต้องมีแม่แรงอีกตั้งหาก

ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนนะครับ Citroen ที่เป็นระบบ Hydractive นั้น รุ่นสุดท้าย ไม่ใช่ C6 แต่เป็น C5 Final Edition ครับ........ซึ้ง.....ยังสามารถหาซื้อได้ในเวลานี้ครับผม ราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆ ครับ มีทั้งเครื่อง 1.6 Turbo หรือ 2.0 HDi ครับ C6 เป็นรถที่เลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2012 แล้วครับ :)

Xantia กับ XM มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วครับ เพราะว่า Xantia ในสมัยนั้น มันเป็นแค่รถธรรมดาๆ เท่านั้นครับ...แต่ XM เป็น Flagship ของ Citroen เลยก็ว่าได้ (Flagship ของ Citroen เริ่มตั้งแต่เริ่มมี Citroen ก็จะเป็น Traction Avant ตามด้วย DS ต่อด้วย CX ต่อมาอีกที่ XM และสุดท้ายคือ C6 ครับ) วางเครื่องข้ามสายพันธ์ เช่นวาง 3S ลงไปใน CX มีคนเคยทำแล้วครับ...แต่มันต้องเว้าคาดหน้ารถมากพอสมควร.....Citroen เป็นรถที่วางเครื่องไม่ตรงเหมือนรถญี่ปุ่นที่เราเห็นๆ กันครับ...กล่าวคือ ถ้าเป็น DS เครื่องจะวางแนวตามยาวรถ เอียงเครื่องเข้าหาผู้โดยสาย หน้าเครื่องหันหน้าเข้าห้องผู้โดยสาย ท้ายเครื่องกลับด้านกันออกมาหน้ารถ ต่อลงเกียร์ และไปขับเคคลื่อนล้อหน้าครับ มันจึงเป็นรถที่ วางยาว ขับหน้า ครับ ส่วน CX นั้น เป็นรถที่เครื่องวางโย้หน้าครับ กล่าวคือ เครื่องส่วนใหญ่ จะวางโย้มาที่หน้ารถ........และเหลือพื้นที่บริเวณใกล้กับห้องผู้โดยสารไว้วางยางอะไหล่ครับ....นั้น ยางอะไหล่ CX อยู่ในห้องเครื่องทำให้ ยางมันอาจจะพังเร็วกกว่ารถอื่นๆ แต่ทางกลับกัน ท้ายรถก็มีที่เก็บของเพิ่มขึ้นเยอะมากเหมือนกันครับ ส่วนXM เป็นรถที่มีตัวเลือกของเครื่องที่หลากหลายครับ
2.0 ลิตร Turbo แรงที่สุด บำรุงรักษาเครื่องยากที่สุด
2.0L 8V เก่าที่สุด อืดที่สุด ทน
2.0L 16V เหมาะกับบ้านเราที่สุด อะไหล่เยอะสุด เพื่อนเยอะสุด
V6 12V หนัก และอืด มากครับ...ไม่แรงสมตัวด้วย
V6 24 V ทำมุม V 60 องศา
V6 24 V ทำมุม V 90 องศา

สองตัวสุดท้ายผมยังไม่เคยลอง เลยไม่สามารถบอกได้ครับ......

มาว่ากันต่อที่ระบบไฮดรอลิค.......ปั๊มที่บอกว่าพังง่าย? คิดว่าไม่จริงนะครับ...ปั๊มนี่อย่างทนเลย.........โอกาศที่ปั๊มจะเสีย มันจะต้องมีอะไรบอกมาก่อนแน่นอนครับ...ปั๊มมีทั้งปั๊มเก่ามือ 2.....ราคาถูกมาก ตัวล่ะ 2 พันกว่าบาท ใช้งานได้ดี ไปถึงปั๊มใหม่ก็มีให้เลือกใช้ครับ อะไหล่เยอะมาก.....ท่อไฮดรอลิค....ถ้าเป็นแป๊ปที่เป็นเหล็ก ไม่มีวันรั่วครับ....มันมีอายุการใช้งานเท่ากับรถนั่นล่ะครับ...ท่อที่จะรั่ว ก็จะมีแต่ท่อไหลกลับน้ำมันไฮดรอลิคจากส่วนต่างๆ ครับ.....ซึ่งท่อไหลกลับ ไล่เปลี่ยนหมดทั้งคัน ไม่เกิน 7000 บาท แน่นอนครับ เปลี่ยนแล้วจบ ใช้ยาวครับ...ที่กลัวๆ กัน ก็กลัวกันตรงนี้ล่ะ.....ฮ๋าๆๆๆ

เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 21:34:13 »
สรูปนะครับผมเอาชีตรองครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2015, 22:19:50 »
ได้โจทย์จากพี่ นี้ สุดยอดเลย จะเล่น ซีตรองด้วย

เท่าที่ดูในตลาด และจากตัวเลือก vw น่าจะได้เปรียบสุดหลายๆเรื่อง แต่ว่าถ้าคนคิดจะเล่นซีตรองแล้วนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน
เพราะว่า ผมก็เคย จะได้ซีตรองมาใช้เหมือนกัน แต่ วาสนาไม่ตรงกันเลยไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของ ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะเนี้ย

ระหว่าง ซองเทีย กะ XM ผมไป XM ดีกว่าเพราะรถใหญ่กว่า นิ้มกว่า แต่ซองเทียใหม่กว่าแต่ไม่นิ้มเท่าXM เคยไปลองมาแล้ว
เคยศึกษาซีตรองมา พักหนึ่ง เคยเห็นคนวางเครื่องในซีตรองด้วย แต่ระบบไฮรโรลิดก็ยังใช้ได้ปกติ แต่เครื่องพี่ต้า งงเลยที่นี้
เท่าที่ดูมา ระบบไฮรโรลิด ซีตรอง ตัวปั้มไฮโดลิค น่าจะมีปัญหาง่ายสุด เพราะกินแรง พวกตัวลูกตุ้มในรถ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เครื่องใช้กะโปรโยได้ เครื่องเหมือนกัน  ว่าแต่ อะไหล่จะเฉพราะกลุ้มเหมือนพวก อันพาโรมีโอ นะสิครับ

แต่พี่ใจรัก ก็สุยเลย ครับ เพราะว่า ระบบไฮโดลิด ของ ซีตรอง จะไม่มีการผลิตขึ่นมาอีกแล้วตัวสุดท้ายที่อยู่ใน ซีตรองน่าจะเป็นc6 เพราะไม่คุ้มทุน ระบบนี้ เห็นว่า จะไปอยู่ กะ โรสลอย กะเบนซ์เล่ แทน เสียดายที่ไม่มีค่ายรถไหนกล้าทำ ขึ่นมาอีกทั้งๆที่ระบบดีมากๆ ขับสามล้อยังได้ แถมไม่ต้องมีแม่แรงอีกตั้งหาก

ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนนะครับ Citroen ที่เป็นระบบ Hydractive นั้น รุ่นสุดท้าย ไม่ใช่ C6 แต่เป็น C5 Final Edition ครับ........ซึ้ง.....ยังสามารถหาซื้อได้ในเวลานี้ครับผม ราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆ ครับ มีทั้งเครื่อง 1.6 Turbo หรือ 2.0 HDi ครับ C6 เป็นรถที่เลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2012 แล้วครับ :)

Xantia กับ XM มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วครับ เพราะว่า Xantia ในสมัยนั้น มันเป็นแค่รถธรรมดาๆ เท่านั้นครับ...แต่ XM เป็น Flagship ของ Citroen เลยก็ว่าได้ (Flagship ของ Citroen เริ่มตั้งแต่เริ่มมี Citroen ก็จะเป็น Traction Avant ตามด้วย DS ต่อด้วย CX ต่อมาอีกที่ XM และสุดท้ายคือ C6 ครับ) วางเครื่องข้ามสายพันธ์ เช่นวาง 3S ลงไปใน CX มีคนเคยทำแล้วครับ...แต่มันต้องเว้าคาดหน้ารถมากพอสมควร.....Citroen เป็นรถที่วางเครื่องไม่ตรงเหมือนรถญี่ปุ่นที่เราเห็นๆ กันครับ...กล่าวคือ ถ้าเป็น DS เครื่องจะวางแนวตามยาวรถ เอียงเครื่องเข้าหาผู้โดยสาย หน้าเครื่องหันหน้าเข้าห้องผู้โดยสาย ท้ายเครื่องกลับด้านกันออกมาหน้ารถ ต่อลงเกียร์ และไปขับเคคลื่อนล้อหน้าครับ มันจึงเป็นรถที่ วางยาว ขับหน้า ครับ ส่วน CX นั้น เป็นรถที่เครื่องวางโย้หน้าครับ กล่าวคือ เครื่องส่วนใหญ่ จะวางโย้มาที่หน้ารถ........และเหลือพื้นที่บริเวณใกล้กับห้องผู้โดยสารไว้วางยางอะไหล่ครับ....นั้น ยางอะไหล่ CX อยู่ในห้องเครื่องทำให้ ยางมันอาจจะพังเร็วกกว่ารถอื่นๆ แต่ทางกลับกัน ท้ายรถก็มีที่เก็บของเพิ่มขึ้นเยอะมากเหมือนกันครับ ส่วนXM เป็นรถที่มีตัวเลือกของเครื่องที่หลากหลายครับ
2.0 ลิตร Turbo แรงที่สุด บำรุงรักษาเครื่องยากที่สุด
2.0L 8V เก่าที่สุด อืดที่สุด ทน
2.0L 16V เหมาะกับบ้านเราที่สุด อะไหล่เยอะสุด เพื่อนเยอะสุด
V6 12V หนัก และอืด มากครับ...ไม่แรงสมตัวด้วย
V6 24 V ทำมุม V 60 องศา
V6 24 V ทำมุม V 90 องศา

สองตัวสุดท้ายผมยังไม่เคยลอง เลยไม่สามารถบอกได้ครับ......

มาว่ากันต่อที่ระบบไฮดรอลิค.......ปั๊มที่บอกว่าพังง่าย? คิดว่าไม่จริงนะครับ...ปั๊มนี่อย่างทนเลย.........โอกาศที่ปั๊มจะเสีย มันจะต้องมีอะไรบอกมาก่อนแน่นอนครับ...ปั๊มมีทั้งปั๊มเก่ามือ 2.....ราคาถูกมาก ตัวล่ะ 2 พันกว่าบาท ใช้งานได้ดี ไปถึงปั๊มใหม่ก็มีให้เลือกใช้ครับ อะไหล่เยอะมาก.....ท่อไฮดรอลิค....ถ้าเป็นแป๊ปที่เป็นเหล็ก ไม่มีวันรั่วครับ....มันมีอายุการใช้งานเท่ากับรถนั่นล่ะครับ...ท่อที่จะรั่ว ก็จะมีแต่ท่อไหลกลับน้ำมันไฮดรอลิคจากส่วนต่างๆ ครับ.....ซึ่งท่อไหลกลับ ไล่เปลี่ยนหมดทั้งคัน ไม่เกิน 7000 บาท แน่นอนครับ เปลี่ยนแล้วจบ ใช้ยาวครับ...ที่กลัวๆ กัน ก็กลัวกันตรงนี้ล่ะ.....ฮ๋าๆๆๆ

ก่อนอื่นขอบคุณสำหรับข้อมูล ครับ แต่ว่า ระหว่างระบบไฮรโดริคของ c5 กับ c6 มันเทียบกันได้ไหมครับ เห็นว่า c6 มีลูกตุ้มเยอะตัวกว่า ถ้าพูดถึงLine การผลิต C5 เป็นตัวสุดท้ายที่จะผลิต แต่ก็อย่างว่าละครับ อะไรก็ไม่แน่นอน เหมือน ลูกสูบโรตารี่ ข่าวเมื่อปีก่อนบอกว่าไม่เอาแล้ว แต่rx9กลับจะมาโรตารี่อีก ยังไงกัน 

ส่วนเรื่องวางเครื่อง รถยุโรป เช่น audi ชอบทำเครื่อง แบบขับหลังแต่เกี่ยร์ขับหน้า มันเลยมักจะใช้เครื่อง ญี่ปุ่นวางไม่ได้ แต่มีญี่ปุ่นอยู่ยี้ห้อหนึ่งครับ ที่ เคยเห็นมาวางแต่ ว่าวางทีเละหมดเลย คือ เอา ซูบารูมาวางใส ผมจำได้และว่าที่เคยเห็น ซีตรองวางเครื่องคือตัว CX นั้นเอง เอาพี่ต้ามาใส่

ลองไปอ่านดูดีนะครับผมไม่ได้บอกว่า พังง่าย แต่ผมบอกว่ามีปัญหาได้ง่าย  ปั้มทนจริงแต่ว่าแรงดันที่ปั้มแรงเท่าเดิมหรือเปล่า พอใช้ๆไป ชักล้า ปั้มไม่เร็วเหมื่อนตอนเปลี่ยนใหม่
 
สุดท้ายผม ขอบคุณคุณ Headman ที่เอาข้อมูลดีๆ มาบอกนะครับ ถ้าผมมีข้อมูลอะไรผิดไปผมขอโทษ
เห็นในเน็ต มี DSสีส้มทำใหม่หมด มาขาย ราคาเป็นล้าน จริงๆแล้วก็ซื้อมาเล่นได้อ่ะครับ บอกตรงๆใจไม่ถึง แต่ชอบมากตั้งแต่รู้นพ่อแล้ว แต่ไม่กล้า ชอบระบบมากกว่ารูปทรงเสียอีก
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2015, 10:08:37 »

ส่วนเรื่องวางเครื่อง รถยุโรป เช่น audi ชอบทำเครื่อง แบบขับหลังแต่เกี่ยร์ขับหน้า มันเลยมักจะใช้เครื่อง ญี่ปุ่นวางไม่ได้ แต่มีญี่ปุ่นอยู่ยี้ห้อหนึ่งครับ ที่ เคยเห็นมาวางแต่ ว่าวางทีเละหมดเลย คือ เอา ซูบารูมาวางใส ผมจำได้และว่าที่เคยเห็น ซีตรองวางเครื่องคือตัว CX นั้นเอง เอาพี่ต้ามาใส่


เครื่องซูบารุผมเคยเห็นวางใส่ในRenault ขับหน้านะ วิ่งได้แต่ไม่รู้ว่าจบหรือเปล่า แต่หลักๆเลยสำหรับเครื่องซูคือวางในVW รุ่นเก่าถ้าช่างเป็นหน่อยก็จบทุกคัน

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,152
Re: รถยูโรปราคาไม่เกิน2แสนบาทตัวไหนokกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2015, 00:20:55 »
ได้โจทย์จากพี่ นี้ สุดยอดเลย จะเล่น ซีตรองด้วย

เท่าที่ดูในตลาด และจากตัวเลือก vw น่าจะได้เปรียบสุดหลายๆเรื่อง แต่ว่าถ้าคนคิดจะเล่นซีตรองแล้วนั้นต้องมีอะไรไม่ธรรมดาแน่นอน
เพราะว่า ผมก็เคย จะได้ซีตรองมาใช้เหมือนกัน แต่ วาสนาไม่ตรงกันเลยไม่มีโอกาศได้เป็นเจ้าของ ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีนะเนี้ย

ระหว่าง ซองเทีย กะ XM ผมไป XM ดีกว่าเพราะรถใหญ่กว่า นิ้มกว่า แต่ซองเทียใหม่กว่าแต่ไม่นิ้มเท่าXM เคยไปลองมาแล้ว
เคยศึกษาซีตรองมา พักหนึ่ง เคยเห็นคนวางเครื่องในซีตรองด้วย แต่ระบบไฮรโรลิดก็ยังใช้ได้ปกติ แต่เครื่องพี่ต้า งงเลยที่นี้
เท่าที่ดูมา ระบบไฮรโรลิด ซีตรอง ตัวปั้มไฮโดลิค น่าจะมีปัญหาง่ายสุด เพราะกินแรง พวกตัวลูกตุ้มในรถ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
เครื่องใช้กะโปรโยได้ เครื่องเหมือนกัน  ว่าแต่ อะไหล่จะเฉพราะกลุ้มเหมือนพวก อันพาโรมีโอ นะสิครับ

แต่พี่ใจรัก ก็สุยเลย ครับ เพราะว่า ระบบไฮโดลิด ของ ซีตรอง จะไม่มีการผลิตขึ่นมาอีกแล้วตัวสุดท้ายที่อยู่ใน ซีตรองน่าจะเป็นc6 เพราะไม่คุ้มทุน ระบบนี้ เห็นว่า จะไปอยู่ กะ โรสลอย กะเบนซ์เล่ แทน เสียดายที่ไม่มีค่ายรถไหนกล้าทำ ขึ่นมาอีกทั้งๆที่ระบบดีมากๆ ขับสามล้อยังได้ แถมไม่ต้องมีแม่แรงอีกตั้งหาก

ก่อนอื่นขอชี้แจงก่อนนะครับ Citroen ที่เป็นระบบ Hydractive นั้น รุ่นสุดท้าย ไม่ใช่ C6 แต่เป็น C5 Final Edition ครับ........ซึ้ง.....ยังสามารถหาซื้อได้ในเวลานี้ครับผม ราคาประมาณ 2 ล้านต้นๆ ครับ มีทั้งเครื่อง 1.6 Turbo หรือ 2.0 HDi ครับ C6 เป็นรถที่เลิกผลิตไปตั้งแต่ปี 2012 แล้วครับ :)

Xantia กับ XM มันเทียบกันไม่ได้อยู่แล้วครับ เพราะว่า Xantia ในสมัยนั้น มันเป็นแค่รถธรรมดาๆ เท่านั้นครับ...แต่ XM เป็น Flagship ของ Citroen เลยก็ว่าได้ (Flagship ของ Citroen เริ่มตั้งแต่เริ่มมี Citroen ก็จะเป็น Traction Avant ตามด้วย DS ต่อด้วย CX ต่อมาอีกที่ XM และสุดท้ายคือ C6 ครับ) วางเครื่องข้ามสายพันธ์ เช่นวาง 3S ลงไปใน CX มีคนเคยทำแล้วครับ...แต่มันต้องเว้าคาดหน้ารถมากพอสมควร.....Citroen เป็นรถที่วางเครื่องไม่ตรงเหมือนรถญี่ปุ่นที่เราเห็นๆ กันครับ...กล่าวคือ ถ้าเป็น DS เครื่องจะวางแนวตามยาวรถ เอียงเครื่องเข้าหาผู้โดยสาย หน้าเครื่องหันหน้าเข้าห้องผู้โดยสาย ท้ายเครื่องกลับด้านกันออกมาหน้ารถ ต่อลงเกียร์ และไปขับเคคลื่อนล้อหน้าครับ มันจึงเป็นรถที่ วางยาว ขับหน้า ครับ ส่วน CX นั้น เป็นรถที่เครื่องวางโย้หน้าครับ กล่าวคือ เครื่องส่วนใหญ่ จะวางโย้มาที่หน้ารถ........และเหลือพื้นที่บริเวณใกล้กับห้องผู้โดยสารไว้วางยางอะไหล่ครับ....นั้น ยางอะไหล่ CX อยู่ในห้องเครื่องทำให้ ยางมันอาจจะพังเร็วกกว่ารถอื่นๆ แต่ทางกลับกัน ท้ายรถก็มีที่เก็บของเพิ่มขึ้นเยอะมากเหมือนกันครับ ส่วนXM เป็นรถที่มีตัวเลือกของเครื่องที่หลากหลายครับ
2.0 ลิตร Turbo แรงที่สุด บำรุงรักษาเครื่องยากที่สุด
2.0L 8V เก่าที่สุด อืดที่สุด ทน
2.0L 16V เหมาะกับบ้านเราที่สุด อะไหล่เยอะสุด เพื่อนเยอะสุด
V6 12V หนัก และอืด มากครับ...ไม่แรงสมตัวด้วย
V6 24 V ทำมุม V 60 องศา
V6 24 V ทำมุม V 90 องศา

สองตัวสุดท้ายผมยังไม่เคยลอง เลยไม่สามารถบอกได้ครับ......

มาว่ากันต่อที่ระบบไฮดรอลิค.......ปั๊มที่บอกว่าพังง่าย? คิดว่าไม่จริงนะครับ...ปั๊มนี่อย่างทนเลย.........โอกาศที่ปั๊มจะเสีย มันจะต้องมีอะไรบอกมาก่อนแน่นอนครับ...ปั๊มมีทั้งปั๊มเก่ามือ 2.....ราคาถูกมาก ตัวล่ะ 2 พันกว่าบาท ใช้งานได้ดี ไปถึงปั๊มใหม่ก็มีให้เลือกใช้ครับ อะไหล่เยอะมาก.....ท่อไฮดรอลิค....ถ้าเป็นแป๊ปที่เป็นเหล็ก ไม่มีวันรั่วครับ....มันมีอายุการใช้งานเท่ากับรถนั่นล่ะครับ...ท่อที่จะรั่ว ก็จะมีแต่ท่อไหลกลับน้ำมันไฮดรอลิคจากส่วนต่างๆ ครับ.....ซึ่งท่อไหลกลับ ไล่เปลี่ยนหมดทั้งคัน ไม่เกิน 7000 บาท แน่นอนครับ เปลี่ยนแล้วจบ ใช้ยาวครับ...ที่กลัวๆ กัน ก็กลัวกันตรงนี้ล่ะ.....ฮ๋าๆๆๆ

ก่อนอื่นขอบคุณสำหรับข้อมูล ครับ แต่ว่า ระหว่างระบบไฮรโดริคของ c5 กับ c6 มันเทียบกันได้ไหมครับ เห็นว่า c6 มีลูกตุ้มเยอะตัวกว่า ถ้าพูดถึงLine การผลิต C5 เป็นตัวสุดท้ายที่จะผลิต แต่ก็อย่างว่าละครับ อะไรก็ไม่แน่นอน เหมือน ลูกสูบโรตารี่ ข่าวเมื่อปีก่อนบอกว่าไม่เอาแล้ว แต่rx9กลับจะมาโรตารี่อีก ยังไงกัน 

ส่วนเรื่องวางเครื่อง รถยุโรป เช่น audi ชอบทำเครื่อง แบบขับหลังแต่เกี่ยร์ขับหน้า มันเลยมักจะใช้เครื่อง ญี่ปุ่นวางไม่ได้ แต่มีญี่ปุ่นอยู่ยี้ห้อหนึ่งครับ ที่ เคยเห็นมาวางแต่ ว่าวางทีเละหมดเลย คือ เอา ซูบารูมาวางใส ผมจำได้และว่าที่เคยเห็น ซีตรองวางเครื่องคือตัว CX นั้นเอง เอาพี่ต้ามาใส่

ลองไปอ่านดูดีนะครับผมไม่ได้บอกว่า พังง่าย แต่ผมบอกว่ามีปัญหาได้ง่าย  ปั้มทนจริงแต่ว่าแรงดันที่ปั้มแรงเท่าเดิมหรือเปล่า พอใช้ๆไป ชักล้า ปั้มไม่เร็วเหมื่อนตอนเปลี่ยนใหม่
 
สุดท้ายผม ขอบคุณคุณ Headman ที่เอาข้อมูลดีๆ มาบอกนะครับ ถ้าผมมีข้อมูลอะไรผิดไปผมขอโทษ
เห็นในเน็ต มี DSสีส้มทำใหม่หมด มาขาย ราคาเป็นล้าน จริงๆแล้วก็ซื้อมาเล่นได้อ่ะครับ บอกตรงๆใจไม่ถึง แต่ชอบมากตั้งแต่รู้นพ่อแล้ว แต่ไม่กล้า ชอบระบบมากกว่ารูปทรงเสียอีก

มาต่ออีกนิดๆ C5 กับ C6 ถามว่าเทียบกันได้ไหม.....ถ้าเป็น C6 มาเทียบ กับ C5 เฟส 3 ที่เป็น Final Edition ใช้พวงมาลัยแบบ Mounted Steering wheel อันนี้เทียบกันได้แน่นอนครับ เพราะว่า มันคือ อันเดียวกันเลยครับ....ถ้าสนใจ C6 แต่ ไม่มีโอกาส C5 เป็นอะไรที่.....น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งครับ...อีกอย่างที่ว่าคือ มันยังมีขายอยู่ครับ แต่ต้อง Pre order เท่านั้นเองครับผม.....แต่ถ้าเทียบ C5 Phase 1 หรือ Phase 2 กับ C6 เทียบไม่ได้ครับ....คนล่ะเรื่องเลย....และแน่นอนว่า ที่ว่ามาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น C5 c6 Xm Xantia Citroen ที่เป็นระบบไฮดรอลิค...ไม่สามารถเทียบ CX ได้แม้แต่คันเดียวครับ.....ทำไม?

เพราะ มันไม่ใช่ Citroen แท้ๆ แล้วครับ.......อาจจะงง แต่.....ผมขออธิบายแบบนี้ล่ะกัน...

ถ้าเป็น CX ระบบพวงมาลัยจะเป็นแบบผ่อนแรง และปรับความหนืดไปตามความเร็วรถ.....แถมพวงมาลัยยังจะคืนตรงทุกครั้งที่จอด...ฟังไม่ผิดครับ ถ้าเราหมุนพวงมาลัยไป แล้วปลอย มันจะคืนกลับมาทีเดิมเองครับ มันเรียนว่า Diravi Power steering ครับ ยังไม่หมดแค่นั้นครับ เบรถของ CX เป็นเบรค Citroen แท้ คนเคยขับเท่านั้น ถึงจะรู้ถึงความวิเศษของมัน...เบรคของ CX จะแข็งมาก....กดไม่ลงครับ...แต่ไม่ชื่อก็ต้องเชื่อ เพียงแค่เอาเท้า สัมผัสที่แป้นเบรคเบาๆ รถก็หยุดได้อย่างง่ายดายแล้วครับ........ซึ่ง ไอ้เจ้า 2 อย่างนี้นี่ล่ะ ที่ Xm Xantia C5 C6 หรือรุ่นอื่นๆ ไม่มีครับ.....
กรณี Xantia XM หรือ Citroen ที่เก่ากว่าปี 2000 ลงไป.....จะใช้ปั๊มไฮดรอลิคแบบเป็นกลไกครับ ระบบเบรค....ระบบพวงมาลัย ระบบช่วงล่าง ให้ไฮดรอลิค วนไปเลี้ยงทั้งหมดครับ...ต่างจาก C5 หรือ C6 ที่ใช้พวงมาลัยเพาเวอร์แบบธรรมดา เบรคก็มีหม้อลมเบรคแบบรถธรรมดาไปเสียแล้ว.....พวงนี้ เวลาขับ มันไม่ได้ความฟินในแบบ Citroen ครับ

ถ้าพูดถึงเรื่องความนิ่ม ความนั่งสบาย........XM จะเป็นรถที่นั่งเบาะหลังได้ สบายที่สุดครับ ถึงมันจะเอนเบาะไม่ได้ก็ตาม.....C6 ไม่เคยลองนั่งครับ.....จะบอกว่าเคยก็เคย แต่มันก็แปปเดียวจริงๆ จับอะไรไม่ได้เลย....C5 ไม่ไหวครับ ธรรมดา เหมือนรถทั่วๆ ไปครับ ไม่ได้พิเศษครับ ฮ๋าๆๆๆๆ ถ้าอยากรู้มากกว่านี้ PM มาครับ เล่าให้เป็นฉากๆ ยังได้เลย

ปลลอจุด เจ้าแรกที่ทำรถขับเคลื่อนล้อหน้า คือ Citroen Traction Avant นะครับ เช่นเดียวกันกับเครื่องยนต์แบบ Rotary ที่ Citroen GS เป็นรถคันแรกที่ติดตั้งและนำมาขายจริงครับ แต่ก็เลิกไป เพราะเทคโนโลยีวัสดุสมัยนั้นยังไม่พัฒนามากพอ Citroen GS เป็นทั้งความภูมิใยและหายนะของ Citroen เลยก็ว่าได้...เพราะ GS เป็น Bi-Roter เครื่องแรกของโลกที่ขายจริง.....แต่ในทางกลับกัน Citroen ก็ต้องเปลี่ยนเครื่องใ้กับ GS ทุกคัน ทุก 40000 โล ด้วยครับ ตรงนี้ล่ะ ที่เป้นสาเหตุให้ Citroen ถึงขาลงครั้งที่ 2 ครับ

กล้าไม่กล้า มันอยู่ที่ใจครับ....ผม ใช้ XM เป็นรถกึ่งประจวันครับ...จะเน้นพาไปออกงานสังคมครับ......ผมอายุ 20 ซื้อรถด้วยเงินตัวเอง...ผมไม่มีเงินซื้อรถใหม่ราคา 5-6 แสน....ผมกำตังค์ไป 160000 ได้ XM สภาพกลับบ้านได้มา 1 คัน ซ่อมเองบ้าง อู่บ้าง ผ่านไป 3 เดือน.......หมดไป 50000 นิดๆ รถกลับมาอยู่ในสภาพ พร้อมเดินทางทุกเมื่อครับ...ไม่มีรั่ว ไม่มีซึมให้เห็นครับ.....:)

สนใจจริงๆ PM มาคุยกันได้ครับ Citroen ในความเห็นส่วนตัว มันคือรถที่เหมาะกับการวิ่งบนถนนห่วยๆ ของบ้านเรามากที่สุดแล้วครับ ฮ๋าๆๆๆ
เรารักจ่าโท :))))