ก่อนหน้าย้อนไปประมาณ 9 เดือนที่แล้ว
ผมได้รีวีวรถ Ford Focus 2.0 GDi Soprt+ ไป ตามลิงค์นี้ครับ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44917.0วันนี้ผมจะมารีวิวประสบการณ์ครั้งแรก กับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน (Ford Roadside Assistance) ที่ชาวฟอร์ดเรียกกันติดปากว่า "ยานแม่" เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ติดตามได้เลยครับ
เริ่มด้วย รถใช้มาเกือบปี วิ่งได้ หนึ่งหมื่นกิโลเมตรนิดๆ เพื่อนผม เจ้าของรถคันนี้ ได้นำเข้าไปเช็คระยะที่ศูนย์บริการ ฟอร์ด หาดใหญ่ ตามปกติครับ ได้รับบริการที่ดีครับ จากนั้นหนึ่งอาทิตย์ถัดมา เราก็มีแผนที่จะเดินทางไกลกัน จากหาดใหญ่ ไปกรุงเทพ เราตกลงกันว่าจะเอาเจ้า Focus คันนี้ไป เนื่องจากเป็นรถที่ดีที่สุดจากที่มีอยู่ทั้งหมดครับ
การเดินทางจึงเริ่มขึ้น
อัพเดทล่าสุด 2 กุมภาพันธ์ 2559 ถนนสายใต้ ขาขึ้น ย่ำแย่มากครับ
ทำถนนตั้งแต่ช่วง ทุ่งสง เวียงสระ สุราษฎร์ฯ และช่วง ชุมพร ลากยาวไปถึงค่ายธนรัชต์ (ปราณบุรีฯ) กันเลยทีเดียวครับ
เป็นช่วงที่ไม่สามารถทำเวลาได้เลย
แต่เราก็ได้ไปถึงจุดหมายอย่างสบายๆครับ
เราได้ไปปฏิบัติภาระกิจกันแถวๆรังสิต เมื่อเสร็จภาระกิจ เวลาประมาณ 20.30 น. คืนวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2559
ผมคือมือแรกที่ได้รับหน้าที่ควบคุมยานกลับฐานที่หาดใหญ่
สตาร์ทรถปุ๊บ งานงอกครับ ไฟเตือน ABS กับ กันลื่นไถล โชว์
ด้วยความที่พวกเราซ่อมรถเก่าๆกันมาเยอะ ก็เดาว่า เซ็นเซอร์ ABS เสีย
ถ้า ABS เสีย ก็วิ่งได้ตามปกติครับ แต่ ABS จะไม่ทำงานเวลาเบรกกระทันหัน ส่วนระบบกันลื่นไถล ก็คงอิงสัญญาณจาก ABS เช่นกัน
ด้วยความที่บางส่วนเป็นเทคโนโลยีเยอรมัน อะไรนิดๆหน่อยๆก็ไม่ให้วิ่งแล้ว พอเข้าเกียร์ถอยปุ๊บ เด้งมาเลย พร้อมเสียงร้องเตือน ตามภาพครับ
พาลไปถึงทุกระบบที่ต้องอ้างอิงสัญญาณจากเซ็นเซอร์ ABS กันเลยครับ
เอาล่ะ มาถึงจุดนี้แล้วก็โทรหาสายด่วนฉุกเฉินเลยแล้วกัน
พนักงานรับสายเร็ว และโอนสายไปยังช่างอย่างรวดเร็ว
ผม : สวัสดีครับ รถมีอาการดังนี้ครับ .....
ช่าง : ผมไม่แนะนำให้วิ่งไกล เดี๋ยวจะส่งรถสไลด์ออนมารับไปศูนย์บริการที่ใกล้ที่สุดครับ
ผม : เดี๋ยวก่อนนะครับ ขอลองดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ดูอีกครั้งนะครับ เผื่อหาย และปรากฏว่า สัญญาณเตือนทั้งหมด มันหายไปแล้ว
ช่าง : งั้นพี่ลองเอารถไปวิ่งดูรอบๆครับ ถ้าสักครึ่ง ชม. มันไม่ขึ้นมาแล้ว ก็น่าจะโอเคครับ
จบการสนทนา
ผมก็เลยขับออกไปสักระยะ ประมาณ 300 เมตร เห้ย มันมาอีกแล้ว....เสียงร้องเตือนดังมาก กดออกไปแล้ว ก็ยังกลับมาร้องอีก ร้องอยู่นั่นแหละ ทั้งๆรถก็วิ่งปกติดี
ผมจึงโทรหาสายด่วนฉุกเฉินอีกครั้ง ทีมงานเพื่อนๆผมที่อยู่กรุงเทพ จึงมารอเป็นเพื่อนครับ
MK2 2.0 LPG และ 2.0 TDCi เข้ามาให้กำลังใจกันอย่างดีเลยทีเดียว พร้อมแซวเหน็บกันอย่างสนุกสนานครับ
จากนั้น 20 นาที ทีมงานตัดมาภาพนี้ครับ
โดยรถสไลด์ออน จะนำรถไปส่งที่ศูนย์ใกล้ที่สุด นั่นคือ ศูนย์บริการ นารา รังสิต ครับ
สรุปความพึงพอใจในบริการช่วยเหลือฉุกเฉินและยานแม่ เอาไปเลย เต็ม 10 คะแนนครับเพราะ รับสายรวดเร็ว ให้คำปรึกษาได้ตรงจุด รถสไลด์ออนมารับเร็วมาก การพูดจาของพนักงานทั้งหมด และพนักงานขับรถดีมากครับ แม้เป็นเวลากลางคืนแล้วก็ตาม
ผมลองถามพนักงานขับรถเล่นๆว่า พี่ครับ รถยี่ห้อไหนถูกยกมากที่สุดครับ
เขาก็ยิ้ม แล้วตอบผมมาว่า บริษัทให้เก็บเป็นความลับ พวกผมถึงกับฮาแตกกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็หมดหน้าที่ของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินแล้วครับ เป็นหน้าที่ของผมเอง ที่จะต้องติดต่อไปยังศูนย์นารา ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น
ทางศูนย์บริการได้แจ้งมาว่า ไม่ทราบว่าจะได้ทำช่วงไหน เพราะรถต้องซ่อมตามคิว อันที่จริง เจ้าของรถไม่ค่อยพอใจในการให้บริการการจัดคิวของศูนย์นี้สักเท่าไหร่ ที่จะต้องรอแบบไร้คำตอบว่าจะเช็คให้ตอนไหน ??
ลองโทรถามศูนย์หาดใหญ่ เขาก็แจ้งว่า ตามปกติเวลามีเคสฉุกเฉินแบบนี้ เขาจะต้องมาดูให้เบื้องต้นก่อน ที่เหลือก็เป็นการบริหารจัดการไปตามปกติ
กลับมาที่ช่วงบ่ายครับ รถขึ้นซ่อม และเป็นไปตามคาดคือ ABS เซ็นเซอร์ ล้อหลังขวาเสียครับ ใช้เวลาเคลม ไม่ถึงครึ่ง ชม.
ทางผมก็ได้ไปคุยกับช่างที่ซ่อมรถคันนี้ ปรากฏว่า ได้รับการบริการของช่างได้ดีมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการพูดจา คำแนะนำ การช่วยเหลือต่างๆ
จนทำให้ผมลืมความไม่พอใจในการจัดคิวของศูนย์บริการไปชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากผมรับรถ ก็มีพนักงานฝ่ายบริการเดินเข้ามา พูดจาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยสบายใจนัก มาขอโทษเพื่อนผมเรื่องการบริหารจัดการคิว พร้อมเหตุผลต่างๆนาๆ
สรุปความพึงพอใจในศูนย์บริการ เอาไป 7 เต็ม 10 คะแนนครับคะแนนได้มาเพราะช่าง และพนักงานสาวคนนี้แท้ๆครับ
สรุปการบริการ เท่าที่จับความได้ ในมุมมองผมเป็นดังนี้ครับบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เป็นเพียงแค่การช่วยนำรถไปเข้าศูนย์ให้ จากนั้นเราก็จะต้องติดต่อกับศูนย์เอง
จริงอยู่ครับ ว่ารถ ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต จึงอาจจะไม่จำเป็นต้องมีทางด่วน หรือห้องฉุกเฉินเหมือนกับโรงพยาบาล
แต่ในความคิดของผมก็คือ ถ้าเป็นไปได้ หลังจากศูนย์บริการรับรถไปแล้ว ควรจะมีช่างเอาอะไรมาเสียบๆ แล้วแจ้งลูกค้าสักนิด ว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จัดคิวให้ได้ตอนไหน ซ่อมอะไร ซ่อมยังไง ก็ค่อยว่ากันครับ ดีกว่าให้ลูกค้ารอเก้ออย่างไร้จุดหมาย
เราต้องการแค่นี้จริงๆครับ ที่เหลือ ก็ไม่มีอะไรในแง่ลบเลย และก็หวังว่าจะเป็นไปในทางบวกเรื่อยๆนะครับ ฟอร์ด ประเทศไทย
เพิ่มเติม ทริปนี้ เราเดินทางกัน 3 คน ไม่ได้จับอัตราสิ้นเปลือง แต่เติม E20 วิ่งเฉลี่ยขาไป 60-120 กม/ชม ขากลับ 110-180 กม/ชม
หารกันแล้ว กำเงินคนละ 1500 บาท รวมกินข้าวแกงและแม็คโดนนัล (แต่ได้ที่พักฟรี 3 วัน 2 คืน) รวม 4500 บาท ยังมีเงินทอนติดมือกลับหาดใหญ่ครับ
ประหยัดใช้ได้เลย
1.5 Turbo คงตัวเลขสวยกว่านี้