ผู้เขียน หัวข้อ: Fortuner 2.7V 4x2 AT  (อ่าน 3979 ครั้ง)

ออฟไลน์ H3T

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,721
    • อีเมล์
Fortuner 2.7V 4x2 AT
« เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 16:16:20 »
 ไม่รู้ว่าจะมีใครตั้งข้อสังเกตุเรื่องราคาของ Fortuner 2.7V ที่ 1.449 ล. ซึ่งแพงกว่ารุ่น 2.4V ที่ 1.369 ล. อยู่ถึง 8 หมื่นบาท ทั้งๆที่สเปคออปชั่นเหมือนกันหมด ต่างแค่เครื่องยนต์เท่านั้น

  ตามปกติ ต้นทุนเครื่องยนต์ดีเซลจะสูงกว่าเบนซินเสมอ ถ้ามองมุมของจำนวนเครื่องยนต์ที่ผลิต ดีเซลน่าจะมีปริมาณมากกว่า ส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยต่ำลง แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าเบนซินไปได้
  หรือหากมองในแง่การจัดอัตราส่วนกำไรแต่ละรุ่นให้ไม่เท่ากัน กรณีนี้ อาจจะเอากำไร 2.7V มากหน่อยได้ เพราะไม่มีคู่แข่ง PPV เบนซิน แทบจะผูกขาดอยู่รุ่นเดียว

  ซึ่งมองเอาปัจจัยข้างบนมาพิจารณาดู ยังไงก็ไม่น่าจะทำให้ส่วนต่างของราคามากถึงขนาด 8 หมื่นบาทได้

  ผมจึงเริ่มคิดถึงเรื่องปัจจัยด้านภาษีสรรพสามิตขึ้นมาทันที
  ตอนนี้ PPV ต่ำกว่า 3250 ซีซี เสียเรทเดียวกันทั้งหมด ( ทั้ง 2.4 และ 2.7 ) ที่ 20%
 
  แต่ปัจจัยการคิดภาษีสรรพสามิตใหม่ 1 ม.ค. เป็นแบบดูอัตราการปล่อย Co2
  รุ่น 2.4V เปิดสติ๊กเกอร์ออกมาแล้วที่ 199 g/km เท่ากับจะอยู่พิกัด 25% ( ขึ้น +5% )
  รุ่น 2.7V ผมยังไม่เห็นสติ๊กเกอร์นะ ( ท่านใดมีช่วยรบกวนแจ้งได้เลยครับ ) แต่เดาได้เลยว่า เกิน 200 g/km แน่ๆ เท่ากับจะอยู่พิกัด 30% ( ขึ้น 10% )

  ถ้าราคา 2.7 ต้องกระโดดขึ้นไปในอัตราส่วนที่สูงกว่ารุ่นย่อยอื่นๆที่เป็นดีเซล จะดูแพงขึ้นเกินไปในสายตาคนที่สนใจแน่นอน
  ทางเลือกจะทำอย่างไรดี

 1. ลด Co2 ให้ต่ำลงกว่า 200 g/km โดยการใส่ระบบ start - stop แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะทำให้ต่ำกว่า 200 g/km ได้หรือเปล่า
 2. ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น ภาษีขึ้น 10% ก็ขึ้นไป ไม่ได้ให้ความสำคัญกับรุ่นนี้อยู่แล้ว
 3. ถ้าขึ้น 10% แบบข้อ 2 จะหาทางทำอย่างไรให้ความรู้สึกของลูกค้ามองว่าไม่รู้สึกว่าแพงมากเกินไป
    ถ้าหากจะมองว่า เลือกเปิดราคารุ่น 2.7V ที่ค่อนข้างแพงในความรู้สึกลูกค้าส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับรุ่น 2.4V ถึง 8 หมื่นบาท เป็นการบวกราคาส่วนของภาษีไปก่อนแล้วส่วนนึงหล่ะ เพื่อพอเริ่มภาษีใหม่ ก็บวกราคาเพิ่มในอัตราส่วนที่เท่าๆกับรุ่นอื่นๆ ได้เลย ทำให้ส่วนต่างราคาเท่าเดิมกับรุ่นอื่นเหมือนเดิม

 ยกตัวอย่าง ปรับขึ้นจากภาษีใหม่ตีซัก 5 หมื่น
 2.4V 1.369 เป็น 1.419 สรรพสามิต 25%
 2.7V 1.449 เป็น 1.499 สรรพสามิต 30%
  ถ้าคิดว่าราคาเดิมเปิดเท่ากับ 2.4V 1.369 เป็น 1.499
 ก็จะเท่ากับภาษีสรรพสามิตขึ้น 10% ตีเป็นตัวเงิน 130,000 บาท ก็น่าจะสมเหตุสมผลมากขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 16:26:34 »
มารอด้วยคนครับสงสัยมานานเหมือนกัน

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,803
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 16:58:48 »
เครื่องดีเซลคือเครื่องธรรมดาแบบในกระบะ ไม่ใช่ดีเซลพํฒนาใหม่ให้เงียบแบบพวก BMW หรือ Benz ที่จะราคาแพง

เครื่องเบนซินใหญ่ๆก็ราคาสูงอยู่แล้ว ดูจากพวก CRV x-trail ก็ได้ นี่ 2.7 ด้วย ไม่ใช่แค่ 2.5 (เติม e85 ได้ภาษีถูกลงแต่ก็ยังแพงอยู่ดี แสดงว่าเป็นที่ต้นทุน)

ถ้าชอบขับเร็ว แรงดีปลายไม่ตก เครื่องเงียบ ก็ไปเบนซิน ถ้าเน้นประหยัดก็ไปดีเซล ผมว่าพวกขับฟอร์จูนที่ชอบขับเร็วๆก็มีอยู่ เค้าคงยินดีจ่ายเพิ่ม

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 17:14:53 »
ถ้าถามว่าโตโยต้าทำไมถึงตั้งราคาขายแบบนี้คงตอบยากครับ
แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงยังมีคนซื้อ อันนี้พอจะตอบได้

คนใช้รถวิ่งแก๊ส รุ่นเดิมเครื่องเบนซิน หลายๆคนวิ่งทะลุ 4 แสนกิโล
ส่วนต่างของราคาค่าตัวรถ+ค่าติดตั้งแก๊ส ถ้าใช้รถระดับเกิน 4 แสนกิโล ยังไงๆก็คุ้มค่า
ญาติผมซื้อรุ่นปี 08 ทุกวันนี้ 3 แสนกว่าโลแล้ว

แต่ถ้าเป็นประเด็นด้านความแรง
เบนซินหายใจธรรมดาในฟอร์จูนเนอร์ ผมเอาดีเซลดีกว่าครับ
ผมถอยรุ่น 2.4 มา เพิ่ง 500 โล แรงแบบพอเพียง+ประหยัด
(ถ้าไม่พอค่อยดันราง+ยกหัวฉีด  8))

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 17:55:05 »
Auto start stop มีอยู่แล้วไม่ใช่หรอครับ หรือมีแค่ 2.8 4WD
จริงๆไม่อยากให้ปล่อยเลยตามเลย เพราะโฉมที่แล้วตัวเบนซินก็ขายได้อยู่น่ะ ติดแก๊สใช้กันยาวๆเลย

ออฟไลน์ tsubasa

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,322
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 18:19:59 »
รุ่นนี้ เป็นหนึ่งในรุ่นที่ผมรู้สึกว่า toyota thailand เอาเปรียบมากๆ
ขึ้นราคามากจากรุ่นเดิมก็โคตรมาก ยังมาขายโคตรแพงกว่า 2.4 v อีก
คงเพราะไม่มีคู่แข่งเบนซินในกลุ่ม ppv เลยตั้งราคาเอาเปรียบพี่น้องชาวไทยได้

เหมือนๆกับ camry 2.0G ถ้าต้องการสีขาว ก็บังคับให้ซื้อ 2.0estimo เท่านั้น

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,010
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2015, 21:08:52 »
เรื่องนี้อาจจะติดมาจากโฉมที่แล้วครับ เพราะเขาวาง 2.7V ให้ถูกกว่า 3.0V ใน Option ที่ใกล้เคียงกัน (แต่ไม่มี Cruise Control และ VSC)

แต่ต่อมาก็ทำ 2.5G M/T ให้เป็นรุ่นถูกเพื่อสู้กับ Pajero Sport 2.5GLS

และก็มี 2.5G A/T ออกมาอีก (ซึ่งก็ยังราคาถูกกว่า 2.7V)

และก็มี 2.5V A/T ออกมาต่ออีก (option เหมือน 2.7V ในราคาที่ถูกกว่า แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่มีเมื่อเทียบกับ 3.0V)
จำได้ว่าตอนนั้น 2.5G M/T ก็ได้ราวหลังคาแล้ว

ผมเลยมองว่าทาง TMT ก็ยังใช้หลักคิดเดิมคือ 2.7V (เบนซิน) ต้องแพงกว่า 2.4V (ดีเซล) ไปโดยปริยาย
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ rojsak2021

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,196
    • อีเมล์
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2015, 08:51:15 »
ว่าแต่นี่จะปี 59 แล้ว พี่โตกับพี่มิตซูนี่ยังไม่บอกราคา ppv ที่จะปรับขึ้นเลย, พี่ฟอร์ดเขาก็บอกแล้ว สงสัยเล่นสงครามเย็นเรื่องราคากันอยู่ 5555

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: Fortuner 2.7V 4x2 AT
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 29, 2015, 08:53:12 »
นั่นสิครับ ทำไม มารอฟังด้วยคน