ผู้เขียน หัวข้อ: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล  (อ่าน 12547 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tee+...Lek

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 238
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: มกราคม 08, 2016, 19:54:36 »
ผมเองใช้ HV มาสองคันแล้ว คันแรกคือ Prius II ตอนอยู่ที่เมกา และปัจจุปัน Camry HV 2015

ผมเห็นด้วยกับคุณแพนที่ว่า คุณต้องมองว่ามัน "เหมาะ" กับคุณไหม

เพราะ HV จะประหยัดที่สุดคือตอนมันใช้ความเร็ว 90-100 นะครับ ถ้าคุณเป็นคนชอบขับรถเร็ว คุณจะพบว่า HV มีข้อจำกัดหลายอย่างมาก ทั้งเรื่องความเร็วสูงสุด และอัตราการสิ้นเปลืองที่ไม่ได้ "ประหยัด" ถ้าคุณ "เหยียบ" เพราะคุณขับแบบใช้อัตราเร่งตลอด ก็เหมือนกับคุณขับรถใช้น้ำมันปรกติ แต่คุณแบกน้ำหนักที่เพิ่มจากระบบ HV ซึ่งก็ไม่ใช่น้อยๆ เลย

ผมเองตอนขับ Prius II 2011 ประหยัดที่สุดที่เคยขับได้ประมาณ 48 mpg เลยครับ สำหรับ Camry HV 2015 ประหยัดสุดคือวิ่งช่วงทางราบได้ประมาณ 18 km/l โดยทั้งนี้ทั้งนั้นผมขับไม่เกิน 110 km/h นะครับ ถ้าขับเกินกว่านั้นอัตราการสิ้นเปลืองจะลดลง

แล้วทำไมถึงซื้อ Camry HV ละ ผมตอบได้ทันทีเลยว่า ผมซื้อเพราะ "คนนั่งข้างหลัง" ครับ เพราะอุปกรณ์คนนั่งหลังของ Camry HV Premier นี่มันดีกว่ารุ่นธรรมดา ก็เท่านั้นเอง

เห็นพูดเรื่อง HV กับรถไฟฟ้าแล้ว ก็คุยเรื่องปัญหาของรถไฟฟ้าในบ้านเรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยีอย่างเดียวครับ

หลักๆ คือความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ผลิตได้ "ในประเทศ" และระบบ "สายส่ง" พลังงาน ครับ อันนี้เป็นปัญหาที่แก้แทบจะไม่หาย และเป็นตัวถ่วงเรื่องรถไฟฟ้าอยู่ขณะนี้

เรื่องแรกคือ ปัจจุปันกำลังการผลิตในประเทศเต็มที่สุดก็ได้แค่ประมาณ 60% ของความต้องการใช้พลังงานสูงสุดของทั้งประเทศเองครับ ส่วนที่เกินอยู่มาจากโรงผลิตไฟฟ้าที่มาจากเพื่อนบ้านอย่างพม่า และลาวครับ

ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยนี่ เราก็ยังใช้ไฟฟ้ากันได้อยู่ปรกติ ใช่ครับ แต่ถ้าย้อนไปเมื่อหลายปีที่แล้วที่เกินเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทางภาคใต้ ยังจำกันได้ใช่ไหมครับ ภาคใต้เป็นภาคที่แทบจะไม่มีโรงไฟฟ้าอยู่ในภูมิภาคเลย แต่มีการปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ผลิตได้มาก สายส่งของการไฟฟ้ามีสองเส้น เส้นนึงอยู่ในระหว่างซ่อมบำรุง อีกเส้นนึงดันมีปัญหาพอดี เล่นเอา Black out กันทั้งภาค

ก็จะมีคนบอกว่าก็ใช้สายส่งอีกเส้นไง ระบบสายส่งไฟฟ้ามูลค่าการลงทุนสูงกว่า การลงทุนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กหลายๆ โรงอีกครับ แต่ในปัจจุปันการตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้า (แม้ว่าจะเป็นไฟฟ้าแบบโซล่าร์ เซลล์) จำเป็นต้องการทำเรื่อง EPA และโรงงานส่วนใหญ่ก็จะตายเรื่องนี้แหละครับ

ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าให้เราใช้นะครับ แต่ปัญหาเรื่องพลังงานเป็นปัญหาที่หมกเม็ดกันมานาน ขนาดคนในองค์กรไฟฟ้าฝ่ายผลิตบางคน ยังมีความคิดเรื่องพลังงานทางเลือกว่า "ให้โตมากไม่ได้ เดี๋ยวไม่มีใครซื้อไฟจากเรา" เอ้า!

ประเด็นที่สอง เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องจากประเด็นแรก แต่ปัญหานี้ คนที่อยู่ใกล้ๆ สถานที่ก่อสร้างต่างๆ น่าจะเข้าใจ ปัญหาเรื่องไฟตก ไฟกระชาก ไฟดับ จะมีบ่อยมากในช่วงที่มีก่อสร้างตึก หรืออาคารขนาดใหญ่ขึ้นในพื้นที่ เพราะอะไรนะหรือครับ

ประการแรก การก่อสร้างตึก จำเป็นต้องมีการขอไฟฟ้าเพื่อใช้ในการก่อสร้าง ทีนี้ถ้าจะขอให้เกินมากๆ ค่าหม้อแปลงไฟฟ้าที่ใช้มันจะแพงขึ้น แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่เครื่องไม้เครื่องมือในการก่อสร้างนั้น นอกจากดึงกระแสไฟสูง ทำให้หม้อแปลงจ่ายไฟไม่พอแล้ว มันจะสร้างสิ่งที่เรียกว่า Surge ซึ่งถ้าเข้ามาในระบบ

อ้าว มันก็ไม่น่าถึงบ้านเรานี่ ปัญหาต่อมาคือ ระบบป้องกันที่วิศวกรไฟฟ้าออกแบบมา พอถึงการซ่อมบำรุง คนซ่อมไม่ใช่วิศวกรนี่ครับ อีกทั้งการวางระบบไฟฟ้าในอาคารรุ่นเก่าๆ สายดินไม่ต้องสืบครับ ไม่มีแน่นอน ไอ้ Surge ที่เข้ามานี่แหละครับ มันจึงไม่ลงสายดิน เข้ามาถึงไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านเรา ทำให้เกิดอาการไฟกระชาก ไฟตก ไฟกระตุกต่างๆ นานา

บ้านผมเองอยู่กลางเมืองแถวอนุสาวรีย์ ปัจจุปันทั้ง Center One ทั้ง Rhythm อยู่รอบบ้าน มีอยู่ช่วงนึงไฟตก หม้อแปลงระเบิดบ่อยมาก จนกระทั่งการไฟฟ้าเข้ามาแก้ไข ดับไฟอยู่เกือบครึ่งวัน ปัญหาจึงได้เบาบางลง ขนาดผมอยู่กลางเมืองยังขนาดนี้ แล้วแถวชานเมืองไม่ต้องสืบ

อ้าวแล้วมันเกี่ยวกับรถไฟฟ้ายังไง

แน่นอนว่าการชาร์จไฟฟ้ามันใช้การเสียบไฟฟ้าจากบ้าน แต่ระบบชาร์จไฟจริงๆ ส่วนใหญ่ใช้การแปลงไฟฟ้าจาก AC เป็น DC ในการชาร์จ ด้วยกระแสที่สูงระดับนึง ถ้าหลายๆ บ้านดึงกระแสมากๆ ณ เวลาเดียวกัน กับที่ระบบสายส่งมีปัญหาพอดี ปริมาณการใช้ไฟสูงสุดสูงเกินกว่ากำลังการผลิต ท่านคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นครับ

แล้วจะระบบพวกนี้เจอ Surge บ่อยๆ ส่วนที่เป็นอิเลคโทรนิคไม่นานเกินรอกลับบ้านเก่าครับ ไม่ว่าจะใส่ระบบป้องกันได้แค่ไหน คิดง่ายๆ ครับ iPhone แค่ไฟ 5 V เจอบ่อยๆ ปลั๊ก USB ยังมีเรื่องระเบิด แล้วถ้าเป็นรถไฟฟ้าที่มีการดึงกระแสมากกว่านั้นละ...

ไม่ใช่ว่าผมไม่คาดหวังถึงการมาของรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบนะครับ อนาคตนะ แน่นอน เพราะเครื่องสันดาปสุดท้ายปัญหาหลักคือเรื่องปริมาณเชื้อเพลิง และมลพิษ แต่ปัญหาที่ทำให้รถไฟฟ้ายังดูห่างไกลคือเรื่องแบตเตอรี่ครับ เพราะปัจจุปันทั้งระบบไฟฟ้า มอเตอร์ รวมถึงการออกแบบสามารถทำได้แล้ว แต่ติดปัญหาเดียวที่ "แหล่งพลังงาน" ที่ยังมีน้ำหนักมาก และการเสื่อมสภาพ รวมถึงขยะมลพิษที่ยังเป็นปัญหาใหญ่อยู่

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,010
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: มกราคม 08, 2016, 21:57:33 »
ผมอยากให้มีรถมอเตอร์ไฟฟ้า 100% เช่นกันครับ

กลางคืนชาร์ตไฟที่บ้าน และ Battery มีขนาดเพียงพอต่อการเดินทางประจำวัน (อาจจะประมาณ 150-200กม.) ชาร์ตไฟ 1 คืนเต็ม (6-8 ชม.)

ซึ่งในเบื้องต้นจะไม่ต้องมีสถานีเติมไฟก็ได้จริงไหมครับ แค่ต้องมีวินัยในการชาร์ตไฟ หรือทำเป็นแบบ Wireless Charging ก็น่าจะเป็นไปได้แล้วนะครับ
ทันทีที่เข้าโรงจอดในบ้านก็ชาร์ตเลย ไม่ต้องมาเสียบปลั๊ก

หากรถแบบนี้เหมาะกับวิถีชีวิตของใคร ก็ซื้อหามาใช้ ยิ่งภาครัฐสนับสนุนก็ยิ่งดีครับ เพราะไม่ก่อมลพิษ (เหมาะเข้าผับที่ไม่มีการสูบบุหรี่อะครับ สดชื่นมาก)
วิถีชีวิตใครไม่เหมาะ ก็ใช้รถเครื่องยนต์สันดาปปกติไปครับ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ นครอัญมณี

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,181
    • นครอัญมณี
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: มกราคม 08, 2016, 23:46:04 »
เหอๆ ที่โรงงานผมขายไปคันหนึ่งเป็นแคมรี่ไฮบริคตัวแรก ก่อนขาย 2-3 เดือนเปลี่ยนแบทไปแสนหนึ่ง
เต้นมาซื้อไป 4 แสนต้นๆเอง ตั้งแต่นั้นที่ โรงงานไม่ซื็อรถไฮบริทมาใช้อีกเลย


นึกว่า Camry Hybrid เขารับประกันแบต 10 ปีซะอีกนะครับ
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: มกราคม 08, 2016, 23:55:45 »
อ้างถึง
แต่มันเป็นรถที่จะมีต่อไปในอนาคตอย่างหลีกหนีไม่ได้ จริงไหม
ส่วนตัวไม่เห็นด้วยครับ ผมยังค่อนข้างเห้นภาพ EV มาเสียบแทนชัดเจนกว่าวันที่ HV จะแทนที่รถน้ำมัน

ออฟไลน์ panda007

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 02:37:49 »
น่าสังเกตนะครับ คนบ่นเยอะมากว่า hybrid บำรุงรักษาแพง แต่มีซักกี่คนที่เคยใช้รถ hybrid หรือมีคนใกล้ตัวที่ใช้และเจอปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ฟังเค้าเล่ามาหรืออ่านเจอบน internet  ยิ่งเทียบกับจำนวนรถ hybrid ที่ขายออกไปได้เป็นร้อย ๆ พัน ๆ คัน ถ้ามันพังง่าย ซ่อมแพงจริง เราน่าจะได้รับรู้อย่างใกล้ชิดกว่านี้รึเปล่าครับ

ราคาขายต่อตก อันนี้ไม่เถียง แต่ขึ้นชื่อว่าขายต่อ คนซื้อต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการจ่ายเยอะอยู่แล้ว อยากได้รถพอขับได้ เก่าได้ แต่ต้องพังยาก ซ่อมถูก อะไรไม่คุ้นเคยก็ไม่เอา ตลาดต้องการน้อย ราคาก็ตก  ถึงเป็นรถไม่ hybrid แต่ถ้าไม่ตลาดก็น่าจะเจ็บไม่แพ้กันนะครับ ถ้ากลัวราคาตกก็คงต้องเกาะรถตลาดที่ใช้เทคโนโลยีเก่า ๆ ชิ้นส่วนน้อย ๆ ทน ๆ ซ่อมง่าย ๆ มั้งครับ ปลอดภัยแน่นอน

การมาของรถไฟฟ้า ขนาดประเทศพัฒนาแล้วหลาย ๆ ที่ ยังมีแค่บางเมืองที่รองรับรถไฟฟ้า แต่สำหรับโครงสร้างประเทศเรา พื้นที่อย่างเรา โครงสร้างภาษีแบบเรา จะรอให้รถไฟฟ้าเป็นรถมาตรฐานเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน อย่างที่หลายคนมโนว่าจะมาเร็ว ๆ นี้ ด้วยราคาสมเหตุสมผล ผมว่ารอไปอีก 10 ปีได้เลยครับ และถ้าวันนั้นมาถึงจริง รถธรรมดาที่เราคิดว่าราคาขายต่อดีนักดีหนาจะเหลือเท่าไหร่ ?

ผมว่ารถ hybrid ยังไม่หายไปไหนหรอกครับ ค่ายรถก็อาจจะมัดมือชก ขายกันเป็นตัว top ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคนจะซื้อจริงถึงบ่นเค้าก็ซื้อ ดูอย่าง C300 และ E300 ออกมาวิ่งกันซะเกลื่อน หาได้พอ ๆ หรือมากกว่ารถเครื่องธรรมดาด้วยซ้ำ  ยิ่งถ้าค่ายรถทำออกมาในราคาถูกอย่าง x-trail hybrid คนในเน็ตก็กลัว hybrid ต่อไป คนข้างนอกสนมั้ยครับ ? เห็นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

วันนี้เราเห็นข้อเสียของรถ hybrid มากมาย แต่ต่อให้พรุ่งนี้มีรถไฟฟ้าเข้ามาขายในไทย ก็ต้องมีคนบ่นว่าราคาแพง เทคโนโลยียังไม่สุด ไม่มีที่ชาร์จจะทำยังไง หมดประกันซ่อมแพง ซ่อมอู่นอกไม่ได้ แบตแพง ลุยน้ำไม่ได้ ชนหนักแบตระเบิด ขายต่อราคาตก ฯลฯ ตราบใดที่ผู้ผลิตรถไม่ยัดเยียดให้ทุกรุ่นเป็นแบบนั้นด้วยราคาที่ถูกพอ และตราบใดที่ของใหม่เป็นเพียงส่วนน้อยของตลาดรวม เราก็คงจะมีเรื่องให้ต่อต้านได้เรื่อย ๆ ตามสไตล์แหละครับ

ปล: คิด ๆ แล้ว ผมว่าบางทีวิธีคิดของเซียนรถบนเน็ตบางท่านก็แปลกนะ เรายอมจ่ายเงินมากมายซื้อรถมาใช้ตั้งหลายปี กลับกลัว hybrid ซ่อมแพง กลัวรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ ไม่ทนเพราะระบบไฟฟ้าอัตโนมัติเยอะ และดิ้นรนอยากใช้ระบบแบบเดิม ๆ เครื่องเดิม ๆ  นี่เราอยากจ่ายเงินตอนนี้ แต่ได้รถจากยุคก่อนหรือถูกพัฒนาขึ้นมาเพียงเล็กน้อยจริงหรือครับ ?

ออฟไลน์ Anvers30

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,372
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 03:09:42 »
น่าสังเกตนะครับ คนบ่นเยอะมากว่า hybrid บำรุงรักษาแพง แต่มีซักกี่คนที่เคยใช้รถ hybrid หรือมีคนใกล้ตัวที่ใช้และเจอปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ฟังเค้าเล่ามาหรืออ่านเจอบน internet  ยิ่งเทียบกับจำนวนรถ hybrid ที่ขายออกไปได้เป็นร้อย ๆ พัน ๆ คัน ถ้ามันพังง่าย ซ่อมแพงจริง เราน่าจะได้รับรู้อย่างใกล้ชิดกว่านี้รึเปล่าครับ

ราคาขายต่อตก อันนี้ไม่เถียง แต่ขึ้นชื่อว่าขายต่อ คนซื้อต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการจ่ายเยอะอยู่แล้ว อยากได้รถพอขับได้ เก่าได้ แต่ต้องพังยาก ซ่อมถูก อะไรไม่คุ้นเคยก็ไม่เอา ตลาดต้องการน้อย ราคาก็ตก  ถึงเป็นรถไม่ hybrid แต่ถ้าไม่ตลาดก็น่าจะเจ็บไม่แพ้กันนะครับ ถ้ากลัวราคาตกก็คงต้องเกาะรถตลาดที่ใช้เทคโนโลยีเก่า ๆ ชิ้นส่วนน้อย ๆ ทน ๆ ซ่อมง่าย ๆ มั้งครับ ปลอดภัยแน่นอน

การมาของรถไฟฟ้า ขนาดประเทศพัฒนาแล้วหลาย ๆ ที่ ยังมีแค่บางเมืองที่รองรับรถไฟฟ้า แต่สำหรับโครงสร้างประเทศเรา พื้นที่อย่างเรา โครงสร้างภาษีแบบเรา จะรอให้รถไฟฟ้าเป็นรถมาตรฐานเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน อย่างที่หลายคนมโนว่าจะมาเร็ว ๆ นี้ ด้วยราคาสมเหตุสมผล ผมว่ารอไปอีก 10 ปีได้เลยครับ และถ้าวันนั้นมาถึงจริง รถธรรมดาที่เราคิดว่าราคาขายต่อดีนักดีหนาจะเหลือเท่าไหร่ ?

ผมว่ารถ hybrid ยังไม่หายไปไหนหรอกครับ ค่ายรถก็อาจจะมัดมือชก ขายกันเป็นตัว top ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคนจะซื้อจริงถึงบ่นเค้าก็ซื้อ ดูอย่าง C300 และ E300 ออกมาวิ่งกันซะเกลื่อน หาได้พอ ๆ หรือมากกว่ารถเครื่องธรรมดาด้วยซ้ำ  ยิ่งถ้าค่ายรถทำออกมาในราคาถูกอย่าง x-trail hybrid คนในเน็ตก็กลัว hybrid ต่อไป คนข้างนอกสนมั้ยครับ ? เห็นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

วันนี้เราเห็นข้อเสียของรถ hybrid มากมาย แต่ต่อให้พรุ่งนี้มีรถไฟฟ้าเข้ามาขายในไทย ก็ต้องมีคนบ่นว่าราคาแพง เทคโนโลยียังไม่สุด ไม่มีที่ชาร์จจะทำยังไง หมดประกันซ่อมแพง ซ่อมอู่นอกไม่ได้ แบตแพง ลุยน้ำไม่ได้ ชนหนักแบตระเบิด ขายต่อราคาตก ฯลฯ ตราบใดที่ผู้ผลิตรถไม่ยัดเยียดให้ทุกรุ่นเป็นแบบนั้นด้วยราคาที่ถูกพอ และตราบใดที่ของใหม่เป็นเพียงส่วนน้อยของตลาดรวม เราก็คงจะมีเรื่องให้ต่อต้านได้เรื่อย ๆ ตามสไตล์แหละครับ

ปล: คิด ๆ แล้ว ผมว่าบางทีวิธีคิดของเซียนรถบนเน็ตบางท่านก็แปลกนะ เรายอมจ่ายเงินมากมายซื้อรถมาใช้ตั้งหลายปี กลับกลัว hybrid ซ่อมแพง กลัวรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ ไม่ทนเพราะระบบไฟฟ้าอัตโนมัติเยอะ และดิ้นรนอยากใช้ระบบแบบเดิม ๆ เครื่องเดิม ๆ  นี่เราอยากจ่ายเงินตอนนี้ แต่ได้รถจากยุคก่อนหรือถูกพัฒนาขึ้นมาเพียงเล็กน้อยจริงหรือครับ ?

+1 ครับ ตอบครบทุกประเด็นที่ผมอยากจะพูดจริงๆ


ออฟไลน์ Koong

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 993
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 04:06:50 »
ในรถ HV คันเดียวกัน
ตอนน้ำมันราคาถูก อะไรๆ มันก็ไม่ดีไม่คุ้ม 
แต่ถ้าน้ำมันแพงมากๆ มันจะดูคุ้มค่าขึ้นมาทันที

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 04:14:55 »
น่าสังเกตนะครับ คนบ่นเยอะมากว่า hybrid บำรุงรักษาแพง แต่มีซักกี่คนที่เคยใช้รถ hybrid หรือมีคนใกล้ตัวที่ใช้และเจอปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่แค่ฟังเค้าเล่ามาหรืออ่านเจอบน internet  ยิ่งเทียบกับจำนวนรถ hybrid ที่ขายออกไปได้เป็นร้อย ๆ พัน ๆ คัน ถ้ามันพังง่าย ซ่อมแพงจริง เราน่าจะได้รับรู้อย่างใกล้ชิดกว่านี้รึเปล่าครับ

ราคาขายต่อตก อันนี้ไม่เถียง แต่ขึ้นชื่อว่าขายต่อ คนซื้อต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการจ่ายเยอะอยู่แล้ว อยากได้รถพอขับได้ เก่าได้ แต่ต้องพังยาก ซ่อมถูก อะไรไม่คุ้นเคยก็ไม่เอา ตลาดต้องการน้อย ราคาก็ตก  ถึงเป็นรถไม่ hybrid แต่ถ้าไม่ตลาดก็น่าจะเจ็บไม่แพ้กันนะครับ ถ้ากลัวราคาตกก็คงต้องเกาะรถตลาดที่ใช้เทคโนโลยีเก่า ๆ ชิ้นส่วนน้อย ๆ ทน ๆ ซ่อมง่าย ๆ มั้งครับ ปลอดภัยแน่นอน

การมาของรถไฟฟ้า ขนาดประเทศพัฒนาแล้วหลาย ๆ ที่ ยังมีแค่บางเมืองที่รองรับรถไฟฟ้า แต่สำหรับโครงสร้างประเทศเรา พื้นที่อย่างเรา โครงสร้างภาษีแบบเรา จะรอให้รถไฟฟ้าเป็นรถมาตรฐานเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน อย่างที่หลายคนมโนว่าจะมาเร็ว ๆ นี้ ด้วยราคาสมเหตุสมผล ผมว่ารอไปอีก 10 ปีได้เลยครับ และถ้าวันนั้นมาถึงจริง รถธรรมดาที่เราคิดว่าราคาขายต่อดีนักดีหนาจะเหลือเท่าไหร่ ?

ผมว่ารถ hybrid ยังไม่หายไปไหนหรอกครับ ค่ายรถก็อาจจะมัดมือชก ขายกันเป็นตัว top ต่อไปเรื่อย ๆ เพราะคนจะซื้อจริงถึงบ่นเค้าก็ซื้อ ดูอย่าง C300 และ E300 ออกมาวิ่งกันซะเกลื่อน หาได้พอ ๆ หรือมากกว่ารถเครื่องธรรมดาด้วยซ้ำ  ยิ่งถ้าค่ายรถทำออกมาในราคาถูกอย่าง x-trail hybrid คนในเน็ตก็กลัว hybrid ต่อไป คนข้างนอกสนมั้ยครับ ? เห็นขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

วันนี้เราเห็นข้อเสียของรถ hybrid มากมาย แต่ต่อให้พรุ่งนี้มีรถไฟฟ้าเข้ามาขายในไทย ก็ต้องมีคนบ่นว่าราคาแพง เทคโนโลยียังไม่สุด ไม่มีที่ชาร์จจะทำยังไง หมดประกันซ่อมแพง ซ่อมอู่นอกไม่ได้ แบตแพง ลุยน้ำไม่ได้ ชนหนักแบตระเบิด ขายต่อราคาตก ฯลฯ ตราบใดที่ผู้ผลิตรถไม่ยัดเยียดให้ทุกรุ่นเป็นแบบนั้นด้วยราคาที่ถูกพอ และตราบใดที่ของใหม่เป็นเพียงส่วนน้อยของตลาดรวม เราก็คงจะมีเรื่องให้ต่อต้านได้เรื่อย ๆ ตามสไตล์แหละครับ

ปล: คิด ๆ แล้ว ผมว่าบางทีวิธีคิดของเซียนรถบนเน็ตบางท่านก็แปลกนะ เรายอมจ่ายเงินมากมายซื้อรถมาใช้ตั้งหลายปี กลับกลัว hybrid ซ่อมแพง กลัวรถยุโรปรุ่นใหม่ ๆ ไม่ทนเพราะระบบไฟฟ้าอัตโนมัติเยอะ และดิ้นรนอยากใช้ระบบแบบเดิม ๆ เครื่องเดิม ๆ  นี่เราอยากจ่ายเงินตอนนี้ แต่ได้รถจากยุคก่อนหรือถูกพัฒนาขึ้นมาเพียงเล็กน้อยจริงหรือครับ ?

ผมไม่ใช่เซียนรถนะ เอาล่ะมาดูกันว่าใครบ้างที่ไม่อยากได้ไฮบริด อาจตกหล่นและผิดไปบ้างขออภัยล่วงหน้าครับ
1. คนใช้รถนานๆที่ต้องการการบำรุงรักษาที่ง่ายและราคาไม่โหดร้าย
2. คนที่ใช้รถไม่นานเท่าไร และต้องการขายต่อเพื่อไปออกคันใหม่เรื่อยๆ
3. คนที่เกลียดเสียงติ๊กๆเวลาเบรคแบบทนไม่ได้(มีจริงๆนะ ไม่แน่ใจว่า H กับ N เป็นหรือเปล่า)
4. คนที่ขับรถระยะทางไม่ไกล แต่ใช้ทุกวัน วันละไม่เกิน 20 โลในเมือง รถค่อนข้างติด และไม่แคร์ว่าจะได้ 8โลลิตรหรือ 12โลลิตร

ผมจัดอยู่ในข้อ 1 และ 4 ดังนั้นดูจากเหตุผลการใช้งานผมขอเป็นคนนึงที่เลือกที่จะรอให้อะไรๆมันเข้าที่เข้าทางก่อนแล้วค่อยไปใช้ครับ ถ้าให้บอกตรงๆก็คือไฮบริดตอนนี้เป็นอะไรที่ขัดกับความต้องการอย่างสุดขั้วนั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงเข้าใจว่ามันต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป เทคโนโลยีใหม่ยังไงมันก็แพง แต่นานๆเข้ามันก็จะแพร่หลายและราคาถูกลง คนที่ชอบไฮบริดและตรงความต้องการก็ซื้อไป คนที่เห็นว่ามันยังไม่ใช่และยังมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่าสำหรับเขาก็ไม่ซื้อ แค่นั้นเองครับ

สุดท้ายที่อยากจะบอกมากที่สุดคือ กลไกความต้องการของคนมันจะค่อยๆกำหนดทิศทางไปอย่างที่เคยเป็นมาตลอด และจะลงเอยที่เทคโนโลยีไหนและเมื่อไรนั้นสำคัญน้อยกว่า ณ ตอนนี้เครื่องยนต์แบบไหนกันแน่ที่คุณต้องการจริงๆ คุณซื้อไฮบริดเพราะคุณอยากได้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือเปล่า

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 09:33:21 »
ถูกใจคำนี้มากๆครับ

ณ ตอนนี้เครื่องยนต์แบบไหนกันแน่ที่คุณต้องการจริงๆ คุณซื้อไฮบริดเพราะคุณอยากได้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือเปล่า

จริงๆคนที่จำใจซื้อเพราะมันถูกวางในตำแหน่งตัว Top ที่มากับ Option ต่างๆที่ต้องการ
ที่มันไม่มีในตัวเครื่องยนต์ธรรมดา ทำให้คนต้องจำใจซื้อ HV กันเยอะนะครับ ที่เห็น HV ขายได้เยอะ
ที่เห็น HV วิ่งกันเยอะ เหตุผลของ Option และคำว่าตัว Top เป็นอีกเหตุผลนึงเลยครับ

หากทางบริษัทรถยนต์ ทำ รุ่นรถยนต์ออกมา 2 รุ่น วางเครื่องยนต์ธรรมดา กับ HV
แต่รายละเอียด Option ต่างๆเหมือนกันหมดทุกอย่าง ผมเชื่อได้เลย ยอด HV จะไมีมี
ตัวเลขอย่างที่เห็นกันหรอกครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ TRcdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 10:25:43 »
กระทู้นี้อ่านแล้ว กลายเป็นคนหลายใจ
เหตุผลแต่ละท่าน ล้วนน่าสนใจ

แต่สำหรับผม  คิดว่า  เมื่อไหร่ก็ตาม
ที่กระบะดีเซลทุกยี่ห้อ (ขวัญใจมหาชน)
จับ hybrid ยัดมาให้ตั้งแต่รุ่นล่างๆ
ตอนนั้นค่อยรู้สึกสนใจ hybrid ละกัน  ฮ่าๆ
.....

ส่วนรถไฟฟ้า  ...ถ้า Tesla  ทำตลาดในไทย
รุ่นเล็กราคาเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้าน
ผมซื้อนะ..   อยากลองใช้มากกว่า HV มากๆ

แต่ต้องไม่ใช่รถคันเดียวในบ้านนะ
เพราะผมว่ามันก็คง ซ่อมยาก ซ่อมแพง
ขายต่อราคาตก  บลาๆ  ไม่ต่างจาก HV

ออฟไลน์ Sleepy Boy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,419
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 10:49:50 »
ถ้าผู้ผลิตสามารถกดราคาอะไหล่ไฮบริดลงมาเหมือนอะไหล่ทั่วไป ปัญหาคนรีบขายทิ้งก็น้อยลง คนซื้อมือสองก็กล้าหาซื้อมาใช้มากขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ KOOK

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 16
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 21:54:25 »
ก็คนที่ขยาดคือคนที่ซื้อมาใช้แล้วไงคับ สำหรับผมไม่ได้ขยาดนะ แต่ถ้ามีโอกาสเลือกคงไม่เลือกhyd แต่ขอเป็นดีเซลดีกว่า เพราะคิดว่าระบบเดียวค่าดูแลรักษาก็แค่ระบบเดียว

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 22:29:17 »
1. แบตเตอรี่รับประกัน 10 ปี หลัง 10 ปีทำอย่างไรต่อ แบตลูกละเท่าไหร่
ประมาณ 100,000 บาทครับ ถามเมื่อปี 2010 toyota บอกว่า จะมีแนวโน้มถูกลงแต่ราคานะวันนี้ก็ยัง 100,000 บาทอยู่ดี

2. Inverter รับประกัน 15 ปี หลัง 15 ปีทำอย่างไรต่อ ลูกละเท่าไหร่
ก็ราคาประมาณ 100,000 บาทครับ ราคาพอๆกับ แบตเลย เห็นมีคนเคยเสียเพราะไปติดอุปกรณ์วิทยุมากเกินกินไฟมากไปทำให้ตัวแปลงไฟเจ๋งเลยแต่ถ้าว่าเดิม น่าจะอยู่ได้น่ามากหรือแทบมากกว่า15ปี


3. ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อนรับประกันกี่ปี
มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นแบบแม่เหล็กถาวรครับ ไม่มีการเสีย ไม่ต้องมาพันมอเตอร์ใหม่เหมือนพัดลม

4.อย่าลืมองค์ประกอบอื่นๆที่รถไฮบริดมีไม่เหมือนกับรถเบนซิน แบตหมดจัมพ์ได้มั้ย?
  ถ้า แบตตัวเล็กหมดจ๊มพ์ได้ครับ แต่ว่าถ้าแบตไฮรบริบหมดโดยระบบจะไม่ให้หมดนะครับแต่ว่าเคยมีคนสามรถทำจนหมดอันนั้นก็ไปชาตร์ที่ศูนย์ได้ แต่ค่าใช้จ่าไม่แพงไม่ 
    Regenerative Braking รับประกันด้วยมั้ย?
มันก็คือตัวมอเตอร์ตัวเดี่ยวกันกับตัวขับไปข้างหน้าละครับไม่มีเสีย

บางท่าน อาจจะลืมบางอย่างไปนะครับ ว่า รถ HV อย่าง pruis ไม่มี สายพานหน้าเครื่อง ไม่มีไดชาตร์ ไม่มีมอเตอร์สตาร์
ระบบการทำงานของเกี่ยร์ของ hv pruis เป็นเหมือนระบบเกี่ยร์ธรรมดา ใช้คลัช แห้งนะครับ ใช้มอเตอร์เป็นตัวส่งแรงประกอบ ตอนที่ pruis
มาใหม่ๆ เขาผ่าครึ่งคันให้ ดีเป็นโอกาศที่ดีที่จะศึกษาระบบกลไล แต่ว่าคนใช้บ้านเราไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่
ส่วนตัว มี pruis ซื้อมา 1.3 ล้าน ณตอนนี้ น่าจะอยู่ไม่เกิน 3 แสน ผมเลยคิดว่าจะใช้ จนมันพุล้อลุดกันเลยทีเดี่ยว ดูสิว่า จะซ่อมอะไรระบบไฮรบริดบ้างให้มันรู้ไป ว่า มีเงินซื้อได้ 1.3 ล้าน เวลามันเสีย จะซ่อมถึง 3 แสนไหม ถ้าถึงคงขับไปทิ่งทีทะเล ซ่อมไม่คุ้ม เก็บไว้ก็เกะกะบ้านอีก
ตอนนี้น้ำมันยิ่งถูก ค่าใช้จ่ายต่อกิโลยิ่งถูกลงไปอีกนะครับ ตอนนี้ตก กิโลละไม่เกิน1.5บาทต่อกิโล


สรุป คนที่ขยาดเพราะกลัว ซ่อมแพง บ้านเราเป็นอะไรไม่รู้ว่า ซื้อรถมาแล้วไม่มีการซ่อมเลยจะเป็นรถที่สุดยอด แต่มันมีไหมละครับ
      รถbenzคันละ 4.2ล้านคิดว่าประตูรถจะอันละเท่าไหร่ดีครับ กับtoyotaคันละ6แสนประตูอันละเท่าไหร่ดีครับ
      รถใช้ไปซ่อมไปเป็นเรื่องธรรมดา (ความเห็นกะผมนะครับถ้าไม่ถูกใช้ใครก็ขออภัย)
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ toonze

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,967
    • อีเมล์
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 22:35:58 »
ผมว่ามันหมดยุคของรถไฮบริดแล้วหล่ะครับ
ตอนนี้จีนผลิตรถBYDที่เป็นมอเตอไฟฟ้า100%ไม่มีระบบสันดานขายแล้ว ในราคาเริ่มต้นเกือบแปดแสนบาท
และมันก็เป็นรถที่ไม่เลว อะไรก็ตามที่จีนเริ่มทำได้ ในอนาคตมันจะเริ่มถูกลงเรื่อยๆ
ในกรณีนี้ ผมว่าอีกไม่เกินห้าปี จีนคงนิยมใช้รถมอเต่อไฟฟ้าพอสมควรเพราะราคาไม่แพงประหยัดพลังงาน
ดีต่อสิ่งแวดล้อมและที่สำคัญที่สุดคือรัฐบาลจีนเขาสนับสนุนเต็มที่กระทั้งชดเฉยเงินให้ทุกคัที่ขายได้และงดเก็บภาษี

วันนี้คุณดูไทยสิครับ รถเมล์ใหม่ๆบ้านเราเป็นรถจากที่ใหน อะไรก็ตามที่จีนทำได้แล้ว อีกไม่นานมันจะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปสามารถซื้อหามาใช้ได้ หมดอาคตของรถไฮบริดที่ซับซ้อนจุกจิกซ่อมราคาแพงในไม่เกินห้าปีข้างหน้าแน่นอน

แต่ก็ต้องหาพลังสะอาดมาผลิตไฟฟ้าด้วยนะ 555

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,874
  • เส้นขอบฟ้า
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 22:43:11 »
1. แบตเตอรี่รับประกัน 10 ปี หลัง 10 ปีทำอย่างไรต่อ แบตลูกละเท่าไหร่
2. Inverter รับประกัน 15 ปี หลัง 15 ปีทำอย่างไรต่อ ลูกละเท่าไหร่
3. ตัวมอเตอร์ขับเคลื่อนรับประกันกี่ปี
4. อย่าลืมองค์ประกอบอื่นๆที่รถไฮบริดมีไม่เหมือนกับรถเบนซิน แบตหมดจัมพ์ได้มั้ย? Regenerative Braking รับประกันด้วยมั้ย?

ดังนั้นเวลาคนถามผมเรื่องรถไฮบริด ผมจะถามก่อนเลยว่าใช้ 5 ปีขายหรือเปล่า ถ้าใช่ ทำใจได้มั้ยกับราคาขายต่อตก
และมันจะตกอยู่อย่างนั้นเพราะคนไทยส่วนมากที่ไม่ได้เล่นรถกลัวไฮบริด ราคาก็ร่วงเป็นธรรมดา ถ้าทำใจได้
ให้คิดซะว่าซื้อไฮบริดเพื่อได้พิสัยการวิ่งที่ไกล ซื้อไฮบริดเพื่อขับเข้าบ้านกลางคืนเงียบๆได้ ซื้อไฮบริดเพื่อแรงบิดที่ดี
สวนทางกับความประหยัด

แต่ถ้าใครใช้รถระดับ 10 ปีขึ้นไป ผมมักจะไม่แนะให้เล่นไฮบริด ทำไม? Toyota ที่ว่าสร้างระบบไฮบริดได้ทนทานสุด
ก็ยังมีปัญหาเป็นระยะ Camry Hybrid ของตาเอก Backseat Driver แบตเตอรี่ชาร์จช้าและหมดเร็วพอผ่าน 5 ปี
แบตเตอรี่ Prius ของคุณกี้คนอ่านเว็บเราจิมมี่ประสานงานทำเรื่องเคลมไป ปั๊ม ABS ของ Camry Hybrid
คุณรู้ไหมว่าลูกละเท่าไหร่? คำถามพวกนี้คุณบอกได้ว่าก็มีประกันก็เคลมไปสิ..คำถามคือสำหรับคนที่ใช้รถเกิน 10 ปี
ชีวิตตอนนั้นคงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขายต่อมือสองคนก็ไม่อยากใช้

ส่วนตัวผมมองว่าไฮบริดไม่ใช่สิ่งที่แย่ แต่ต้องเลือกว่ามันเหมาะกับเราหรือไม่ เหมือนเราปวดหัวเรากินไทลินอลได้
แต่ถ้าแมวปวดหัว คุณให้มันกินไทลินอลมันก็ตายห่า เราต้องเลือกใช้ในสิ่งที่มันไม่ฆ่าเราในอนาคต และรูปแบบชีวิต
ของเรามันก็ไม่เหมือนกับคนอื่นๆทุกคนเสมอไป ผมชอบรถไฮบริดหลายรุ่น แต่ถ้าให้ซื้อใช้ผมขอบาย เพราะรถแต่ละคัน
ผมซื้อมาใช้ 10 ปีขึ้นไป บางคันในบ้าน 23 ปีแล้ว

+1 ตามนี้เลย ที่บ้านใช้รถเกิน 10 ปีและไม่ชอบ HV ถ้าเทคโนโลยีอนาคตผมเชียร์ไฮโดจเจนมากกว่านะ

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,488
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #45 เมื่อ: มกราคม 09, 2016, 23:11:43 »
อะไรที่เป็นของจีน ไม่ใช่แค่ผลิตที่จีน ผมยังหวั่นๆ ไม่ว่าจะอุปกรณ์ไฟฟ้า อาหาร รถยนต์ รถไฟ ฯลฯ ยังไม่มั่นใจจรรยาบรรณของปรเทศนี้สักทีครับ

ออฟไลน์ panda007

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #46 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 01:39:57 »
ถูกใจคำนี้มากๆครับ

ณ ตอนนี้เครื่องยนต์แบบไหนกันแน่ที่คุณต้องการจริงๆ คุณซื้อไฮบริดเพราะคุณอยากได้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือเปล่า

จริงๆคนที่จำใจซื้อเพราะมันถูกวางในตำแหน่งตัว Top ที่มากับ Option ต่างๆที่ต้องการ
ที่มันไม่มีในตัวเครื่องยนต์ธรรมดา ทำให้คนต้องจำใจซื้อ HV กันเยอะนะครับ ที่เห็น HV ขายได้เยอะ
ที่เห็น HV วิ่งกันเยอะ เหตุผลของ Option และคำว่าตัว Top เป็นอีกเหตุผลนึงเลยครับ

หากทางบริษัทรถยนต์ ทำ รุ่นรถยนต์ออกมา 2 รุ่น วางเครื่องยนต์ธรรมดา กับ HV
แต่รายละเอียด Option ต่างๆเหมือนกันหมดทุกอย่าง ผมเชื่อได้เลย ยอด HV จะไมีมี
ตัวเลขอย่างที่เห็นกันหรอกครับ

บางทีก็ฟันธงยากว่าคนซื้อจำใจซื้อรึเปล่านะครับ เพราะคนในเน็ตกับคนซื้อจริงมันคนละเรื่องกัน ถ้าเป็น benz นี่อาจจะดูว่ามัดมือชก แต่ camry กับ accord ผมเห็นตัว top hybrid บ่อยกว่า top non-hybrid นะครับ ทั้ง ๆ ที่ option โดยเฉพาะความปลอดภัยของ camry ทั้งสองแบบแตกต่างกันน้อยมาก และเหมือนกันทุกอย่างใน accord

ต้องเข้าใจก่อนว่า hybrid มันไม่ใช่การประหยัดครับ ถ้าคิดเฉพาะเรื่องเงินยังไงก็ไม่คุ้ม ยิ่งน้ำมันถูกแบบนี้ยิ่งไม่คุ้ม แต่ก่อนจะถามตัวเองว่าเราต้องการ hybrid มั้ย เราน่าจะถามตัวเองด้วยว่าเราได้ลองขับรถ hybrid และรู้จักมันจริง ๆ แล้วรึยัง มันมีความเฉพาะตัวของมันที่หลายคนน่าจะชอบนะครับ อย่าลืมว่าคนในเน็ตที่ต่อต้าน hybrid นี่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ลอง และมีคนอีกกลุ่มที่ใช้จริงแล้วมีความสุขแต่ไม่ได้บอกใคร

wildstocks

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #47 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 05:15:08 »
Hybrid มันแค่ Welcome drink เวลาไปโรงแรม มื้อหลักไม่เริ่มด้วยซ้ำ

promt

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #48 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 08:02:38 »


หลักๆ คือความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ผลิตได้ "ในประเทศ" และระบบ "สายส่ง" พลังงาน ครับ อันนี้เป็นปัญหาที่แก้แทบจะไม่หาย และเป็นตัวถ่วงเรื่องรถไฟฟ้าอยู่ขณะนี้

เรื่องแรกคือ ปัจจุปันกำลังการผลิตในประเทศเต็มที่สุดก็ได้แค่ประมาณ 60% ของความต้องการใช้พลังงานสูงสุดของทั้งประเทศเองครับ ส่วนที่เกินอยู่มาจากโรงผลิตไฟฟ้าที่มาจากเพื่อนบ้านอย่างพม่า และลาวครับ

ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรเลยนี่ เราก็ยังใช้ไฟฟ้ากันได้อยู่ปรกติ ใช่ครับ แต่ถ้าย้อนไปเมื่อหลายปีที่แล้วที่เกินเหตุการณ์ไฟฟ้าดับทางภาคใต้ ยังจำกันได้ใช่ไหมครับ ภาคใต้เป็นภาคที่แทบจะไม่มีโรงไฟฟ้าอยู่ในภูมิภาคเลย แต่มีการปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่สูงกว่าที่ผลิตได้มาก สายส่งของการไฟฟ้ามีสองเส้น เส้นนึงอยู่ในระหว่างซ่อมบำรุง อีกเส้นนึงดันมีปัญหาพอดี เล่นเอา Black out กันทั้งภาค


ภาคใต้มีไฟฟ้าไม่พอต่อความต้องการเยอะมาก แต่ไม่ยอมให้สร้างเพิ่มในจังหวัดของตน
ในอนาคต จะเอาพลังงานไฟฟ้ามาจากไหนให้เพียงพอ หากไม่สร้างในภาคใต้เอง

ออฟไลน์ Nikle_pk

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,678
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 13:44:25 »
ถูกใจคำนี้มากๆครับ

ณ ตอนนี้เครื่องยนต์แบบไหนกันแน่ที่คุณต้องการจริงๆ คุณซื้อไฮบริดเพราะคุณอยากได้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือเปล่า

จริงๆคนที่จำใจซื้อเพราะมันถูกวางในตำแหน่งตัว Top ที่มากับ Option ต่างๆที่ต้องการ
ที่มันไม่มีในตัวเครื่องยนต์ธรรมดา ทำให้คนต้องจำใจซื้อ HV กันเยอะนะครับ ที่เห็น HV ขายได้เยอะ
ที่เห็น HV วิ่งกันเยอะ เหตุผลของ Option และคำว่าตัว Top เป็นอีกเหตุผลนึงเลยครับ

หากทางบริษัทรถยนต์ ทำ รุ่นรถยนต์ออกมา 2 รุ่น วางเครื่องยนต์ธรรมดา กับ HV
แต่รายละเอียด Option ต่างๆเหมือนกันหมดทุกอย่าง ผมเชื่อได้เลย ยอด HV จะไมีมี
ตัวเลขอย่างที่เห็นกันหรอกครับ

บางทีก็ฟันธงยากว่าคนซื้อจำใจซื้อรึเปล่านะครับ เพราะคนในเน็ตกับคนซื้อจริงมันคนละเรื่องกัน ถ้าเป็น benz นี่อาจจะดูว่ามัดมือชก แต่ camry กับ accord ผมเห็นตัว top hybrid บ่อยกว่า top non-hybrid นะครับ ทั้ง ๆ ที่ option โดยเฉพาะความปลอดภัยของ camry ทั้งสองแบบแตกต่างกันน้อยมาก และเหมือนกันทุกอย่างใน accord

ต้องเข้าใจก่อนว่า hybrid มันไม่ใช่การประหยัดครับ ถ้าคิดเฉพาะเรื่องเงินยังไงก็ไม่คุ้ม ยิ่งน้ำมันถูกแบบนี้ยิ่งไม่คุ้ม แต่ก่อนจะถามตัวเองว่าเราต้องการ hybrid มั้ย เราน่าจะถามตัวเองด้วยว่าเราได้ลองขับรถ hybrid และรู้จักมันจริง ๆ แล้วรึยัง มันมีความเฉพาะตัวของมันที่หลายคนน่าจะชอบนะครับ อย่าลืมว่าคนในเน็ตที่ต่อต้าน hybrid นี่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ลอง และมีคนอีกกลุ่มที่ใช้จริงแล้วมีความสุขแต่ไม่ได้บอกใคร

คุณ Panda007 ลองซื้อมาใช้งานแล้วหรือยังครับ
บอกเล่าความประทับใจได้นะครับหากซื้อมาใช้แล้วน่ะครับ
เพื่อที่ว่าเพื่อนๆสมาชิกอาจจะมีทัศนคติในอีกมุมมองครับ
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #50 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 15:12:48 »
ผมว่ามันไปได้ยากกับบ้านเรา เพราะหลายๆเรื่องครับ เช่น ราคาตั้ง ราคามือสอง การดูแล คนไทย พอรถหมดวารันตี ก็หาอู่กันแล้ว แต่ hybrid ทำไม่ได้

เรื่อง technology ผมว่ามันดีนะ น่าใช้ แต่พอมาเจอเรื่องข้างบน มันเลยไปต่อยากมากๆ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #51 เมื่อ: มกราคม 10, 2016, 16:00:19 »
บางทีก็ฟันธงยากว่าคนซื้อจำใจซื้อรึเปล่านะครับ เพราะคนในเน็ตกับคนซื้อจริงมันคนละเรื่องกัน ถ้าเป็น benz นี่อาจจะดูว่ามัดมือชก แต่ camry กับ accord ผมเห็นตัว top hybrid บ่อยกว่า top non-hybrid นะครับ ทั้ง ๆ ที่ option โดยเฉพาะความปลอดภัยของ camry ทั้งสองแบบแตกต่างกันน้อยมาก และเหมือนกันทุกอย่างใน accord

ต้องเข้าใจก่อนว่า hybrid มันไม่ใช่การประหยัดครับ ถ้าคิดเฉพาะเรื่องเงินยังไงก็ไม่คุ้ม ยิ่งน้ำมันถูกแบบนี้ยิ่งไม่คุ้ม แต่ก่อนจะถามตัวเองว่าเราต้องการ hybrid มั้ย เราน่าจะถามตัวเองด้วยว่าเราได้ลองขับรถ hybrid และรู้จักมันจริง ๆ แล้วรึยัง มันมีความเฉพาะตัวของมันที่หลายคนน่าจะชอบนะครับ อย่าลืมว่าคนในเน็ตที่ต่อต้าน hybrid นี่มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ลอง และมีคนอีกกลุ่มที่ใช้จริงแล้วมีความสุขแต่ไม่ได้บอกใคร
คนที่หลงไปซื้อไฮบริดเพราะออฟชั่นก็มีครับ และคนที่ไม่หลงไปก็มีครับ และถ้าดูจากตัวเลขยอดขายจะบอกไม่ได้ว่าคนที่ต้องการเครื่องยนต์ไฮบริดจริงๆนั้นมีเท่าไรต่อจำนวนคนที่ไม่ต้องการ

เปรียบเทียบสเปคของ camry หรือยังครับ ผมเรียกว่ามัดมือชกแล้วครับ กลับไปเชคออฟชั่นใหม่นะครับ อย่าลืมเชคของตัวก่อน MC ด้วยนะครับจะยิ่งชัด และอย่าดูแค่ออฟชั่นความปลอดภัย ดูให้หมดครับ ...... เอาง่ายๆถ้าคิดฐานภาษีเท่ากัน อะไรจะเกิดขึ้น แค่นี้ก็ตอบในตัวแล้วว่ามันมีผลมั้ย

และยอดขายตัวไฮบริดน้อยกว่ายอดขายเครื่องยนต์ปกตินะครับทั้ง T และ H โดยเฉพาะ H นี่ตัวไฮบริดยอดขายแย่จนถึงขั้นถอนทัพไฮบริดรุ่นอื่นเลยทีเดียว ถ้าคนส่วนใหญ่ต้องการเครื่องไฮบริดจริงจะถอยทำไมครับ

จากรายงานยอดขาย คุณไม่สามารถตัด 2.0 ออกได้หรอกนะ ถ้าจะตัดออกแปลว่ารุ่น 2.0 ต้องไม่ขายครับ คิดเอาเองฐานภาษีเท่ากัน ออฟชั่นเท่ากัน ราคาทำกันตามต้นทุนจริง ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อได้ระบบไฮบริดมั้ยโดยที่ค่าซ่อมบำรุงยังเป็นแบบนี้ และได้ออฟชั่นเหมือนกันเป๊ะ

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=46110.0

ออฟไลน์ paainn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #52 เมื่อ: มกราคม 11, 2016, 14:29:38 »
ขอตอบในอีกมุมมองที่ยังไม่มีใครพูดถึงนะครับ

ความรู้สึกที่ต้องการเลือกใช้รถ Hybrid ในมุมมองของผมคือ "เราจะใช้พลังงานให้คุ้มค่าที่สุดยังไง"
- ประสิทธิภาพเครื่องยนต์สูงสุด -> Atkinson Cycle
- เก็บพลังงานส่วนเกินกลับมาใช้ -> Regenerative Break
- ไม่เผาพลังงานทิ้งเมื่อไม้จำเป็น -> Idle Stop (แต่เครื่องปรับอากาศต้องทำงานต่อได้)
จากทั้งหมด คำตอบเหลือ 2 ตัวคือรถไฟฟ้าล้วน กับ Hybrid ซึ่งพอเติมโจทย์เข้าไปอีกข้อว่า "พาผมไปไหนต่อไหนก็ได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะทาง" ก็จะเหลือเพียงคำตอบเดียวคือ Hybrid

หลายท่านอาจแย้งว่าเครื่องเล็กใส่เทอร์โบดีกว่า ประหยัดกว่า แน่นอนครับ ประหยัดกว่าเมื่อวิ่งไม่หยุด แต่ถ้าชีวิตจริงเราอยู่ในสังคมเมือง หยุดๆ วิ่งๆ ติดๆ ยังไง Hybrid ก็ประหยัดกว่ามากครับ

เมื่อก่อนผมก็เคยคิดครับว่ารถไฟฟ้าคือตอนจบ แต่พอเจอข้อจำกัดเรื่องการชาร์จไฟ ซึ่งถึงแม้ Tesla ที่พัฒนาเรื่องนี้มาไกลสุดแล้ว ยังใช้เวลาในการชาร์จถึง 40นาทีให้ได้ไฟ 80% ซึ่งพูดตรงๆ ครับ รอไม่ไหว  ไม่ต้องพูดถึงสถานีไฮโดรเจนสำหรับรถ Fuel Cell นะครับ บ้านเรารอไปอีกสามชาติครับ ผมเลยกลับมามองว่า เอ้ย จริงๆ แล้ว Hybrid หรือรถไฟฟ้าขยายระยะทางอย่าง Volt หรือ i3 (ซึ่งจริงๆ ก็คือ Hybrid แบบ Series) นี่แหละคือสิ่งที่จะตอบโจทย์ผมสำหรับบ้านเรา

โดยส่วนตัวผมไม่ได้คำนวณหรอกครับว่าซื้อรถ Hybrid ซึ่งแพงกว่ารถทั่วไปเท่านี้ จะประหยัดค่าน้ำมันได้เท่านี้ คุ้มหรือไม่คุ้ม แล้วพอขายต่อราคาตกไปขนาดนี้ เราใช้รถไปทั้งหมดกี่กิโล สรุปคุ้มหรือเปล่า
ผมอยากให้มองในมุมที่ว่า เงินที่เราจ่ายเพิ่มไป ทำให้เราเบียดบังโลกน้อยลง ปล่อย Co2 น้อยลง ใช้ทรัพยากรของโลกได้คุ้มค่าที่สุด

ส่วนตัวใช้ Prius อายุ 4 ปีครึ่ง วิ่งมา 130000 ยังไม่พบอะไรผิดปกติครับ ราคาขายที่ตกกระหน่ำทำให้รู้ว่า คันหน้าจะไม่ซื้อ Hybrid ป้ายแดง แต่จะรอซื้อมือสองราคาคุ้มๆ ครับ ^-^

ออฟไลน์ seamonkey

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 521
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #53 เมื่อ: มกราคม 11, 2016, 14:55:47 »
ผมมองปัญหาคือแบตครับ ขนาดแบตพวกโน๊ตบุ๊ค, มือถือ, PSP, ปืน airsoft ยังเสื่อมได้ แล้วทำไมคิดว่าแบตพวก HV จะทนกว่าครับ
ถึง CO2/km จะน้อยกว่ารถแบบอื่น แต่ carbon footprint ของ HV ก็ไม่ได้น้อยนะครับ

http://science.howstuffworks.com/science-vs-myth/everyday-myths/does-hybrid-car-production-waste-offset-hybrid-benefits.htm

ออฟไลน์ paainn

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #54 เมื่อ: มกราคม 12, 2016, 12:07:16 »
ผมมองปัญหาคือแบตครับ ขนาดแบตพวกโน๊ตบุ๊ค, มือถือ, PSP, ปืน airsoft ยังเสื่อมได้ แล้วทำไมคิดว่าแบตพวก HV จะทนกว่าครับ
ถึง CO2/km จะน้อยกว่ารถแบบอื่น แต่ carbon footprint ของ HV ก็ไม่ได้น้อยนะครับ

http://science.howstuffworks.com/science-vs-myth/everyday-myths/does-hybrid-car-production-waste-offset-hybrid-benefits.htm

ในมุมของ Carbon Footprint ถ้าคำนวณหมดแล้ว รถ Hybrid หรือ ไฟฟ้า ก็ยังปล่อย Co2 น้อยกว่าอยู่ดีครับ
http://www.greencarcongress.com/2011/06/lowcvp-20110608.html

ส่วนในเรื่องของความทนทานแบตเตอรี่ แน่นอนครับ นั่นคือจุดอ่อน แต่มันก็เหมือนเราซื้อรถที่มี Turbo แหละครับ เพราะมันคือชิ้นส่วนที่เพิ่มขึ้นมาและมีอายุการใช้งาน
และเมื่อมีการใช้งานเยอะขึ้นเหมือนเมืองนอก สำหรับตลาด After market ก็มี Battery Rebuild ขายอยู่ทั่วไปครับ เช็คตาม ebay ได้ หรือ Batt เทียบจากจีนก็เริ่มเห็นมากขึ้น (เปลี่ยนเป็นเซล ไม่ได้เปลี่ยนทั้งก้อนใหญ่) เหมือนกับที่เราเห็นแบตเทียบของมือถือ กล้องถ่ายรูป โน้ตบุ๊ค

ออฟไลน์ panda007

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #55 เมื่อ: มกราคม 12, 2016, 17:40:42 »
คุณ Nikle_pk

ใช้อยู่ครับ ลองแล้วลองอีก camry กับ accord ตัว top ทั้ง hybrid และ non-hybrid ก่อนซื้อ สุดท้ายก็เลือก hybrid สิ่งที่ชอบหลัก ๆ คืออัตราเร่ง ความคล่องตัว รองลงมาก็การประหยัดน้ำมัน ความเงียบ (EV) การปรับนิสัยการขับให้ประหยัด ผมว่ามันก็เหมือนเกียร์ cvt กับ auto หรือ ios กับ android ครับ บางคนลองแล้วชอบอันใดอันหนึ่งมาก ๆ  บางคนเฉย ๆ ก็เอาตัวถูกหรือไว้ใจได้มากกว่า  และบางคนก็ไม่เคยแม้แต่จะลองแต่กลับมั่นใจหรือเชื่อคนอื่นว่ามันไม่ดี

พอดีผมไม่เคยซ่อมอู่นอกตั้งแต่ขับคันก่อนที่ไม่ hybrid ซึ่งอะไหล่ศูนย์ของรถเก่า ๆ คันนึงก็หลายหมื่นอยู่แล้วเลยรับได้ และคันนี้คงไม่ขายต่อครับ ก็เลยเลือกได้ไม่ยาก  ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ราคาที่ว่าตกเยอะกันนี่ ผมลองดูราคาขาย D-segment ใน internet ราคา 3-4 ปี มันก็ตกแบบรถมือสองปกติ ไม่ได้ตกแรงอย่างที่เค้าว่ากันนะครับ ถ้าใช้นานอาจจะจริง แต่ถึงตอนนั้นจะ hybrid รึเปล่าก็คงเหลือไม่เท่าไหร่แล้วทั้งคู่  หรือคนที่ตกเยอะเค้าจะเอาไปขายเต๊นท์แล้วโดนกดราคา ผมก็ไม่ทราบครับ



คุณ Nonlamer

camry ก่อน mc นั่นมัดมือชก แต่หลัง mc นี่ผมว่าไม่มัดครับ อันนี้ คหสต เหมือนเดิม ผมลืมบอกว่าที่ผมเห็น camry hybrid วิ่งมากกว่า non-hybrid นั่นผมดูเฉพาะหลัง mc เท่านั้น ซึ่ง option หลัง mc ผมดูอย่างละเอียดก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ก่อนซื้อ จริงอยู่ที่แตกต่าง แต่ผมว่ามันไม่เยอะ ซึ่งถ้าคุณคิดว่ามันยังเยอะ อันนี้ก็นานาจิตตัง  ส่วน accord นั้น ไม่มีอะไรแตกต่างระหว่าง hybrid และ non-hybrid เลยนะครับ

เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย ลำพังเทียบตัว top แบบ hybrid กับ non-hybrid ก็แทบจะตีความไม่ได้แล้วครับ ผมเลยบอกว่ามันสรุปยาก เพราะถึงแม้ยอดขาย hybrid ทั้งคู่จะดีกว่า แต่ camry มันต่างกันที่ option ส่วน accord นั้น ต่างกันที่เวลาขาย (hybrid เปิดขายหลัง non-hybrid ปีกว่า) ทำให้ตัวแปรที่มีผลต่อยอดขายมีมากเกินไป ถ้าคุณเอา 2.0 มาวิเคราะห์รวมนี่ออกทะเลไปเลยครับ จะเทียบรถก็ต้องเทียบรถที่ประสิทธิภาพคล้ายกัน ราคาใกล้เคียงกัน กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน การเอารถ 2.0 ราคา 1.3 ล้าน มาเทียบกับ hybrid ราคา 1.8-1.9 ล้าน มันบอกแค่ว่าคนส่วนใหญ่นิยมยอมซื้อรถที่แรงน้อยกว่า option น้อยกว่า แต่ราคาถูก ไม่ได้สรุปว่าคนไม่ต้องการ hybrid เพราะ hybrid กับ 2.0 มันคนละตลาดกันตั้งแต่แรกแล้วครับ

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #56 เมื่อ: มกราคม 14, 2016, 14:05:57 »
คุณ Nikle_pk

ใช้อยู่ครับ ลองแล้วลองอีก camry กับ accord ตัว top ทั้ง hybrid และ non-hybrid ก่อนซื้อ สุดท้ายก็เลือก hybrid สิ่งที่ชอบหลัก ๆ คืออัตราเร่ง ความคล่องตัว รองลงมาก็การประหยัดน้ำมัน ความเงียบ (EV) การปรับนิสัยการขับให้ประหยัด ผมว่ามันก็เหมือนเกียร์ cvt กับ auto หรือ ios กับ android ครับ บางคนลองแล้วชอบอันใดอันหนึ่งมาก ๆ  บางคนเฉย ๆ ก็เอาตัวถูกหรือไว้ใจได้มากกว่า  และบางคนก็ไม่เคยแม้แต่จะลองแต่กลับมั่นใจหรือเชื่อคนอื่นว่ามันไม่ดี

พอดีผมไม่เคยซ่อมอู่นอกตั้งแต่ขับคันก่อนที่ไม่ hybrid ซึ่งอะไหล่ศูนย์ของรถเก่า ๆ คันนึงก็หลายหมื่นอยู่แล้วเลยรับได้ และคันนี้คงไม่ขายต่อครับ ก็เลยเลือกได้ไม่ยาก  ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ราคาที่ว่าตกเยอะกันนี่ ผมลองดูราคาขาย D-segment ใน internet ราคา 3-4 ปี มันก็ตกแบบรถมือสองปกติ ไม่ได้ตกแรงอย่างที่เค้าว่ากันนะครับ ถ้าใช้นานอาจจะจริง แต่ถึงตอนนั้นจะ hybrid รึเปล่าก็คงเหลือไม่เท่าไหร่แล้วทั้งคู่  หรือคนที่ตกเยอะเค้าจะเอาไปขายเต๊นท์แล้วโดนกดราคา ผมก็ไม่ทราบครับ



คุณ Nonlamer

camry ก่อน mc นั่นมัดมือชก แต่หลัง mc นี่ผมว่าไม่มัดครับ อันนี้ คหสต เหมือนเดิม ผมลืมบอกว่าที่ผมเห็น camry hybrid วิ่งมากกว่า non-hybrid นั่นผมดูเฉพาะหลัง mc เท่านั้น ซึ่ง option หลัง mc ผมดูอย่างละเอียดก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ก่อนซื้อ จริงอยู่ที่แตกต่าง แต่ผมว่ามันไม่เยอะ ซึ่งถ้าคุณคิดว่ามันยังเยอะ อันนี้ก็นานาจิตตัง  ส่วน accord นั้น ไม่มีอะไรแตกต่างระหว่าง hybrid และ non-hybrid เลยนะครับ

เรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลยอดขาย ลำพังเทียบตัว top แบบ hybrid กับ non-hybrid ก็แทบจะตีความไม่ได้แล้วครับ ผมเลยบอกว่ามันสรุปยาก เพราะถึงแม้ยอดขาย hybrid ทั้งคู่จะดีกว่า แต่ camry มันต่างกันที่ option ส่วน accord นั้น ต่างกันที่เวลาขาย (hybrid เปิดขายหลัง non-hybrid ปีกว่า) ทำให้ตัวแปรที่มีผลต่อยอดขายมีมากเกินไป ถ้าคุณเอา 2.0 มาวิเคราะห์รวมนี่ออกทะเลไปเลยครับ จะเทียบรถก็ต้องเทียบรถที่ประสิทธิภาพคล้ายกัน ราคาใกล้เคียงกัน กลุ่มเป้าหมายเดียวกัน การเอารถ 2.0 ราคา 1.3 ล้าน มาเทียบกับ hybrid ราคา 1.8-1.9 ล้าน มันบอกแค่ว่าคนส่วนใหญ่นิยมยอมซื้อรถที่แรงน้อยกว่า option น้อยกว่า แต่ราคาถูก ไม่ได้สรุปว่าคนไม่ต้องการ hybrid เพราะ hybrid กับ 2.0 มันคนละตลาดกันตั้งแต่แรกแล้วครับ

ผมจะสื่อว่าที่ขายได้ไม่ได้ดูเครื่องยนต์เป็นหลักครับ คนซื้อจะดูที่ราคาและออฟชั่นเป็นหลักต่างหาก ดูตัว 2.5 เทียบกับ 2.0 ออฟชั่นที่ได้กับราคาที่เพิ่มมาคนส่วนใหญ่จะเลือกอะไร ตัวเลขยอดรวมมันสรุปอะไรไม่ได้แน่ชัดอยู่แล้วอย่างที่บอก แต่สรุปได้แน่ๆว่าออฟชั่นกับราคามีผลกับยอดขาย ถึงได้บอกว่าต้องตัดตัว 2.0 ออกแล้วทำออฟชั่นเท่ากับพร้อมราคาตามทุนจริงถึงจะพอจะวัดได้ต่างหากครับ

และจากที่ผมบอกด้านบน ถ้าไฮบริดดีจริงทำไมฮอนถึงถอยทัพรถไฮบริด ไม่ทำขายไปซะทุกรุ่นเลยล่ะ แล้วโตไม่ทำใส่วีออส ยาริส หรืออัลติสขายในไทยบ้างล่ะทั้งๆที่เป็นรถที่ยอดขายดีกว่าแคมรี่หลายเท่า ละแจ๊สไฮบริดที่เคยเข้ามาขายช่วงรถคันแรกยอดขายเป็นอย่างไรทำไมไม่ทำต่อ ถ้าคนไทยส่วนใหญ่คิดว่าเครื่องไฮบริดนั้นดีกว่าเครื่องยนต์ที่ใช้ในปัจจุบันจริงๆจนคุ้มค่าเงินมันต้องเห็นกันเกลื่อนจนเป็นเรื่องปกติแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 14, 2016, 14:21:38 โดย Nonlamer »

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #57 เมื่อ: มกราคม 14, 2016, 14:44:49 »
เรื่องราคาก็มีผลเยอะนะผมว่า ดูอย่า X-trail สิทำราคามาดีมากจนไม่รู้จะซื้อตัวธรรมดาไปทำไม แต่ของเจ้าอื่นสิราคาโดดไปเยอะ จะจ่ายเพิ่มก็ต้องคิดเยอะมากหน่อย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ panda007

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 10
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #58 เมื่อ: มกราคม 15, 2016, 19:59:56 »
ตอนแรกบริบทที่เราคุยกันคือ top hybrid vs top non-hybrid นะครับ เพราะคุณพูดถึงเรื่องมัดมือชกด้วย option ผมเลยยกเคส top ของ camry และ accord มาเทียบ เพราะ option ไม่ต่างกันมาก แต่พูดไปพูดมา ถ้าคุณจะเอา 2.0 vs 2.5 (และ vs hybrid) กลายเป็นเทียบกันด้วยราคาแทน แบบนั้นยังไง 2.0 ก็กินขาดแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมยังพูดอยู่ตั้งแต่แรก ๆ เลยว่าคนอาจจะไม่ได้กลัว hybrid เรื่องมันไม่ดี แต่อาจจะกลัวเรื่องราคามากกว่า เช่น x-trail hybrid

แล้วทำไมถึงไม่ทำขายทุกรุ่นหรือทำไมถึงยกเลิก กรุณาอย่าตอบด้วยคำถามครับ ถ้าคุณมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากเรื่องราคา ช่วยสรุปมาเลยดีกว่าว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร แต่ถ้าจะใช้ตรรกกะเดียวกัน การที่เราเห็น hybrid รุ่น top เกลื่อนเมืองแบบนี้ (vs top non-hybrid) แสดงว่าคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กลัว hybrid ใช่มั้ยครับ ?

ในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน จะเทียบอะไรต้องเทียบในบริบทเดียวกัน การทำงานและกำลังของเครื่อง hybrid แต่ละรุ่น (camry, civic, jazz, ฯลฯ) แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร ต้นทุนและกำไรของผู้ผลิตมีผลมากน้อยเท่าไหร่ ถ้าเราไม่รู้เรื่องพวกนี้ อย่าเอาการเปรียบเทียบอื่นเข้ามายุ่งเลยครับ ไม่มีทางหาข้อสรุปได้

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
Re: มีแต่คนบอกขยาดรถHV สาระพัดเหตุผล
« ตอบกลับ #59 เมื่อ: มกราคม 16, 2016, 22:19:01 »
ตอนแรกบริบทที่เราคุยกันคือ top hybrid vs top non-hybrid นะครับ เพราะคุณพูดถึงเรื่องมัดมือชกด้วย option ผมเลยยกเคส top ของ camry และ accord มาเทียบ เพราะ option ไม่ต่างกันมาก แต่พูดไปพูดมา ถ้าคุณจะเอา 2.0 vs 2.5 (และ vs hybrid) กลายเป็นเทียบกันด้วยราคาแทน แบบนั้นยังไง 2.0 ก็กินขาดแน่นอนอยู่แล้วครับ ผมยังพูดอยู่ตั้งแต่แรก ๆ เลยว่าคนอาจจะไม่ได้กลัว hybrid เรื่องมันไม่ดี แต่อาจจะกลัวเรื่องราคามากกว่า เช่น x-trail hybrid

แล้วทำไมถึงไม่ทำขายทุกรุ่นหรือทำไมถึงยกเลิก กรุณาอย่าตอบด้วยคำถามครับ ถ้าคุณมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากเรื่องราคา ช่วยสรุปมาเลยดีกว่าว่าคุณต้องการจะสื่ออะไร แต่ถ้าจะใช้ตรรกกะเดียวกัน การที่เราเห็น hybrid รุ่น top เกลื่อนเมืองแบบนี้ (vs top non-hybrid) แสดงว่าคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้กลัว hybrid ใช่มั้ยครับ ?

ในการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน จะเทียบอะไรต้องเทียบในบริบทเดียวกัน การทำงานและกำลังของเครื่อง hybrid แต่ละรุ่น (camry, civic, jazz, ฯลฯ) แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร ต้นทุนและกำไรของผู้ผลิตมีผลมากน้อยเท่าไหร่ ถ้าเราไม่รู้เรื่องพวกนี้ อย่าเอาการเปรียบเทียบอื่นเข้ามายุ่งเลยครับ ไม่มีทางหาข้อสรุปได้

ผมว่าผมเริ่มคุยด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดที่จริงแล้ว ณ วันนี้ คนส่วนใหญ่ต้องการจริงๆหรือไม่ต่างหากครับ ตามข้อความสีเหลือง ซึ่งประโยคนั้นผมเป็นคนเขียนเองแต่อยู่ก่อนโพสนั้น

จากนั้นก็มาถึงที่ว่ายอดขายไฮบริดอาจบอกไม่ได้ว่ามัดมือชก ตรงนี้ผมตีความว่าคนที่ซื้อรถไฮบริดส่วนใหญ่ต้องการเครื่องยนต์ไฮบริดจริงๆ แต่ผมแย้งว่าลองไปเชคออฟชั่นดูดีๆครับ มันมีแน่ๆคนที่ซื้อเพราะออฟชั่นมัดมือชกและเชื่อว่าไม่น้อยด้วย

และผมเสริมต่อของผมเองว่า ถ้ารถไฮบริดมีความต้องการในไทยสูงจริง หลักฐานที่จะพิสูจน์ตามนั้นได้ไม่ใช่ยอดขาย (เพราะถ้าจะใช้ยอดขายวัดต้องไม่มีปัจจัยตัวเครื่อง 2.0 มาเกี่ยว คือต้องไม่มีขาย และการทำราคากับออฟชั่นต้องไม่เอื้อหนุนให้เครื่องยนต์แบบใดแบบหนึ่ง)  แต่เป็นจำนวนรุ่นของรถไฮบริดที่ต้องเพิ่มขึ้นตามการประเมินความต้องการของผู้บริโภคโดยผู้ผลิต ตามการตลาดถ้าประเมินได้ว่าความต้องการเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นสูงมีหรือจะไม่นำมาขายที่ตลาดล่างซึ่งเป็นยอดขายส่วนใหญ่ ถ้าผลลัพท์เป็นไปตามนี้น่าจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าเครื่องยนต์ไฮบริดนั้นตอบโจทย์และเป็นที่่ต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในบ้านเราจริงๆ ซึ่ง ณ วันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

และผมไม่ได้ตอบคำถามด้วยคำถามครับ เพราะนั่นเป็นคำตอบของผม จากข้อความด้านบนหวังว่าคุณจะเข้าใจสิ่งที่ผมอยากจะสื่อ ..... แต่ถ้าไม่เข้าใจผมคงไม่รู้จะอธิบายยังไงละ เอาเป็นว่าถ้าได้รับการยอมรับเมื่อไรมันจะมาในรถยนต์แทบทุกรุ่นเหมือนเกียร์ออโต้ละกันครับ หรือไม่ก็จำช่วงที่มือถือเปลี่ยนจากปุ่มกดเป็นจอทัชสกรีน พอนึกภาพออกมั้ย ถึงตอนนั้นการซ่อมบำรุงก็จะเป็นที่ยอมรับได้ ประสิทธิภาพและราคาที่ขายก็จะเป็นที่ยอมรับได้ ราคาขายต่อก็ไม่ตกโหดร้าย ปัญหาที่คนกลัวๆมันจะถูกแก้ด้วยตัวของมันเอง ....... พอจะเข้าใจที่ผมอยากจะบอกบ้างหรือยัง แต่มันไม่ใช่ ณ วันนี้ มันยังไม่เป็นแบบนั้น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 17, 2016, 00:07:30 โดย Nonlamer »