ผู้เขียน หัวข้อ: รถรุ่นพรีเมี่ยม vs รถแบรนด์พรีเมี่ยม ใครคุ้มเงินมากกว่า  (อ่าน 7317 ครั้ง)

ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
ถ้าให้ราคาต่างกันไม่เกิน 1 ล้าน ตัดฟังชั่นสะดวกสบายในห้องโดยสารออกไป เทียบสมรรถนะล้วนๆ ฟังชั่นที่ให้มาโดยความปลอดภัยในการควบคุมรถและความปลอดภัยผู้โดยสาร กำลัง ความเงียบ เข้าโค้ง

ออฟไลน์ mark2015

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
ต่างกันไม่เกินล้าน แบรนด์ มาก่อนเลยครับ
" เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาจนตาย "

ออฟไลน์ akewizard

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,620
ถ้าระบุรุ่น ยี่ห้อด้วย น่าจะเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นนะครับ

อย่างรถรุ่น Premium vs แบรนด์พรีเมี่ยม ที่ว่าหมายถึง D-Sec ยี่ห้อตลาดเทียบกับพวก BMW3 หรือเบนซ์ C-Class ถ้าแบบนี้รถค่ายเยอรมันได้เครื่องที่ดีกว่า เงียบกว่า วิ่งที่ความเร็วสูงเข้าโค้งดีกว่า

ออฟไลน์ demo2

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 786
    • อีเมล์
ถ้าระบุรุ่น ยี่ห้อด้วย น่าจะเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นนะครับ

อย่างรถรุ่น Premium vs แบรนด์พรีเมี่ยม ที่ว่าหมายถึง D-Sec ยี่ห้อตลาดเทียบกับพวก BMW3 หรือเบนซ์ C-Class ถ้าแบบนี้รถค่ายเยอรมันได้เครื่องที่ดีกว่า เงียบกว่า วิ่งที่ความเร็วสูงเข้าโค้งดีกว่า
D sec จะได้ในแง่กว้างขวาง นั่งสบาย ออฟชั่นด้านอำนวยความสะดวกมากกว่า
compack premium จะได้ในแง่แบรนด์  การขับขี่ ช่วงล่าง
ส่วนออฟชั่้นด้านความปลอดภัยผมว่าพอๆกันแล้ว
จะเลือกอะไรก็แล้วแต่เหมาะสมในแต่ละคนครับ เอาที่สบายใจ

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
ส่วนตัวมองว่า ถ้ารุ่นไหนที่เราได้ใช้สิ่งที่รถรุ่นนั้นให้มาได้มากที่สุดคันนั้นแระคุ้มค่าสำหรับผม เช่นถ้าซื้อ D-Sec มาแต่ส่วนใหญ่นั่งคนหรือ 2 คน ก็คือไม่คุ้ม
หรือถ้าซื้อรถเครื่องแรงมา แต่เป็นคนขับรถไม่เกิน 120 นั่นก็ถือว่าไม่คุ้ม มันอยู่ที่การใช้งานส่วนบุคคล

ตอบคำถาม : รถรุ่นพรีเมี่ยม vs รถแบรนด์พรีเมี่ยม ใครคุ้มเงินมากกว่า ราคาต่างกันไม่เกิน 1 ล้าน
ถ้ามองการใช้งานของผมตอนนี้ผมขอเลือก รถแบรนด์พรีเมี่ยมแล้วกันครับ แต่ถ้าอีกหน่อยอายุเริ่มมากขึ้นอาจจะเปลี่ยนคำตอบก็ได้  :-X

ออฟไลน์ pulp

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 265
    • อีเมล์
รถรุ่นพรีเมี่ยม จะโชว์ออฟชั่นทุกอย่างที่มี

แต่พรีเมียมแบรนด์ จะมีออฟชั่นหลายๆ อย่างโดยไม่แจ้งอะคับ

ไม่ลองขับ บรรยายไม่ถูก
1996 City
2004 Wish
2008 Yaris
2015 GLA

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,846
  • *** HLM.COM ***
ขับไม่เร็ว คลานแต่ในเมืองรถติดๆ พรีเมี่ยมไม่คุ้ม
เท้าหนัก ความเร็วสูง ขับทางไกลบ่อย ยังไงก็ยุโรป

ออฟไลน์ musicman1892

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
BRAND PREMIUM ย่อมคุ้มเงินกว่าถ้าหากมีเงินนะ

ออฟไลน์ Eddy5659

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,619
คำตอบมันขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อเลยครับ

เหมือนนาฬิการคาซิโอ้ รุ่นพรีเมี่ยมตกแต่งพิเศษ กับพาเทก ฟิลิเป้ รุ่นธรรมดา มันเทียบกันไม่ได้ครับขึ้นกับความชอบส่วนตัว

ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเลือกรุ่นพรีเมียม เพราะยังเด็กรายได้น้อย แต่พอรายได้เพิ่มขึ้นความมั่นคงในชีวิตมีมากขึ้นเงินเหลือๆ ผมเลือกแบรนด์พรีเมี่ยมแน่นอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 10, 2016, 14:05:49 โดย Eddy3585 »
2007 Toyota Vios
2009 Toyota Hilux Vigo
2010 Toyota Camry
2011 Ford Ranger
2011 Isuzu Dmax
2011 Toyota Hilux Vigo
2015 Ford Ranger
2015 Ford Everest 2.2 Titanium
2015 Ford Everest 3.2 Titanium+
2016 Toyota Hilux Revo 2.4 J m/t (5 คันจะที่รัก)
2017 BMW 320d iconic

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 937
เทียบเป็นคันๆดีกว่าครับ ถามแบบนี้ผมว่าแต่ละคนนึกภาพคู่เทียบไม่เหมือนกัน

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,483
ถ้าสมรรถนะ รถยุโยปจะน่าวางใจกว่า แต่ถ้า option ต่างๆ ยังไงรถญี่ปุ่นก็ให้มามากกว่าครับ

ออฟไลน์ sakchai99

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ขออนุญาติถามเพิ่มเติมนะครับ จะเลือกอะไร

ขอยกตัวอย่าง ระหว่าง

1.Toyota Camry Hybrid 2.5 HV Premium 1.9 ล้าน บาท
2.BMW 320i base  2ล้านบาท


ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
ตอนใช้ยาวๆ ถ้าคนมีตังก์เลือกแบรนด์พรีเมียมสิครับ

ถ้าเงินไม่ถึง เอายี่ห้อบ้านๆ น่าจะใช้เงินน้อยกว่า

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ห่างกันไม่ถึงล้าน ...

ถ้าหมายถึงป้ายแดงก็ต้องรถคนละขนาดครับ ความปลอดภัยรถคันไหนหนักกว่าต่อปริมาตรก็ได้เปรียบครับ

แต่ถ้าคิดแค่ขนาดรถเท่ากันผมเคยเห็นสภาพแอคคอร์ดG7ชน50%กับE-class w211 รถแอคคอร์ดยุบไปเหมือนแคลชเทส แตเบนซ์ยุบแค่หม้อน้ำเอง

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
Brand คุ้มกว่า + ความพึงพอใจในตัวได้เสพสุข ดังใจ
(ต่างไม่เกินล้าน และยิ่งตัดสินใจง่ายถ้าแค่หลักไม่กี่แสน)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 10, 2016, 15:55:53 โดย yourturle »
One Day.

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าให้ราคาต่างกันไม่เกิน 1 ล้าน ตัดฟังชั่นสะดวกสบายในห้องโดยสารออกไป เทียบสมรรถนะล้วนๆ ฟังชั่นที่ให้มาโดยความปลอดภัยในการควบคุมรถและความปลอดภัยผู้โดยสาร กำลัง ความเงียบ เข้าโค้ง

ไม่มีความสะดวกสบายของผู้โดยสาร หรือการซ่อมบำรุงรักษาเป็นปัจจัย ไปแบรนด์พรีเมี่ยมเลยครับ

ออฟไลน์ bingoman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,366
ค่อนข้างไม่เข้าใจกับสิ่งที่จขกท. จะถามนะ

รถรุ่นพรีเมียม คืออะไร 
อย่าง Honda HRV นี่รถรุ่นพรีเมี่ยมไหม  เพราะโฆษณาว่าเป็น Premium Crossover  แล้วนอกจากนั้นอย่าง Nissan Sylphy ก็โฆษณาว่าเป็นรถ premium   ไม่ต่างกับ Mazda 3 โฉมปัจจุบัน

เอาจริงๆ  สำหรับผม  มันไม่มีหรอกครับ รถรุ่นพรีเมี่ยม  เพราะทุกอย่างมันวัดด้วยราคา  แล้วคำจำกัดความของเขาว่ารถรุ่นพรีเมี่ยมมันไม่มี  Camry, Accord, Teana เหรอที่เรียกว่ารถรุ่นพรีเมี่ยม   มันก็ไม่ใช่นะ  มันคือรถบ้าน d-segment ที่พยายามใส่วัสดุที่ดี 

แต่คำว่า premium brand อันนี้ชัดเจนและทุกคนทราบว่ามันคือแบรนด์อะไร 

อ้อเกือบลืมไป  ถ้าให้ผมบอกว่ารถยี่ห้อตลาดแต่รุ่นพรีเมี่ยม   ผมนึกออกอยู่คันเดียวในเมืองไทย  คือ Toyota Crown แต่ราคา 3-4 ล้าน  ซึ่งเทียบเคียงกับ Benz E-Class, BMW Series5   เพราะฉะนั้นผมว่าการเปรียบเทียบ  รถรุ่นพรีเมี่ยมกับรถแบรนด์พรีเมี่ยม   มันไม่ค่อยชัดเจน  และเข้าใจยากไปนะครับ

อย่าง Ford Focus นี่พรีเมี่ยมไหมเพราะออพชั่นและวัสดุเยอะกว่าเพื่อนเค้า ผิวสัมผัสก็ดี
ผมว่าถ้าจะถาม ควรจะถามเป็นประเด็นไปเลยมากกว่า เช่น วัสดุรถอันไหนดีกว่ากัน ช่วงล่างอันไหนดีกว่ากัน 

ออฟไลน์ jztang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Born To Race
แบรนด์

ออฟไลน์ ADS

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 227
ถ้าหมายถึง ตัวท็อป เทียบกับ premium brand  ตัวเริ่มต้น ซึ่งราคาเริ่มเข้ามาใกล้กัน

ผมว่ายังไง เรื่องการขับขี่ และ การมองของสังคม   premium brand ตัวเริ่มต้น คุ้มกว่าครับ
แต่ยังไง ก็ไม่พ้นเรื่อง trade off  เพราะไม่มีอะไรที่ได้ครบทุกอย่าง
อดีต       Austin ... VW เต่า ... VW ตู้ ... Lancer Champ ... Galant GLS ... CRV G1 ... Nissan Super Neo
ปัจจุบัน   Accord G6 ... CRV G3 ... BMW F30 316i

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,604
    • อีเมล์
ความคิดเห็นส่วนตัวนะ พวกที่ซื้อพรีเมี่ยมตัวล่างมันเหมือนพวก wanna be อยากได้รถพรีเมี่ยมเหมือนคนอื่นแต่งบไม่ถึง ส่วนพวกซื้อรุ่นธงอย่างพวก d-seg ตัวท็อปทั้งหลาย คือพวกที่สามารถซื้อตัวล่างที่ภายนอกเหมือนๆกันคนทั่วไปแยกไม่ออกได้ แต่ขอเล่นตัวท็อปเพราะเงินถึง

คนละกรณีกับพวกที่ซื้อ b seg top กับ c seg low เพราะการขับขี่มันต่างกันจริงๆ บางทีกัดฟันซื้อตัวใหญ่จบกว่า



แต่ถ้าให้ตอบคำถาม เหมือนตอบว่า จะให้เป็นคนจนในหมู่คนรวย หรือคนรวยในหมู่คนจน เลือกเอาว่าจะเอาอย่างไหนมากกว่า

ออฟไลน์ Pat.Lee

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 961
ถ้าเอาคุ้มเงินอย่างเดียว รุ่นไหนถูกสุดก็แทบจะคุ้มสุดครับเพราะ รถซื้อแล้วมีแต่เงินจะลดยิ่งซื้อแพงก็ยิ่งจ่ายมากครับ

แต่ถ้าถามว่าคุ้มค่าอันนี้และแต่บุคคลครับ อย่างผมระหว่าง D-Seg top กับ C180 ผมเลือก D-Seg ครับ

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,487
คำถามแนวนี้เยอะน้อ
ความต้องการคน เทียบยากนะครับ
ไม่งั้นมันก็ขายกันแค่รุ่นเดียวแล้ว
เปิดใจยอมรับครับ ไม่มีรถรุ่นไหนคันไหน คุ้มสุด ดีสุดสำหรับทุกคนหรอก 55

ออฟไลน์ bsawanya

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 38
    • อีเมล์
ขออนุญาติถามเพิ่มเติมนะครับ จะเลือกอะไร

ขอยกตัวอย่าง ระหว่าง

1.Toyota Camry Hybrid 2.5 HV Premium 1.9 ล้าน บาท
2.BMW 320i base  2ล้านบาท

ถ้าเป็นผมเลือก 320i ครับ ผมไม่สน option เท่าไหร่ขอขับมันพอ แต่ต้องทำใจนะครับถ้าตัวล่างของ BMW หรือ Benz นี่จะโล้นๆมาก แต่ตัว base น่าจะเลิกผลิตมาสักพักแล้วนะครับ ถ้าตัวเลือกเป็น BMW ผมแนะนำ หา 320i sport ที่เป็น Demo ไม่ก็ก่อน LCI ส่วนลดจะเยอะหน่อย ก็จะได้ option เพิ่มมาครับ

ออฟไลน์ Artist

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 221
    • อีเมล์
รถรุ่นพรีเมี่ยม(น่าจะหมายถึงรถญี่ปุ่น)เน้นออพชั่น รถแบรนด์พรีเมี่ยม(น่าจะหมายถึงรถยุโรป)ออกแบบมาเน้นในทุกจุด
เท่าที่ลองนั่งมา สิ่งที่ต่างของรถแบรนด์พรีเมี่ยมกับรุ่นพรีเมี่ยม
1. ความเงียบ รถยุโรปทำได้ดีกว่ามากๆ
2. ความแน่นหนาของอุปกรณ์ มองผ่านๆไม่ต่างกัน แต่รถญี่ปุ่นมันจะรู้สึกหลวมๆกลวงๆ การกดปุ่ม เสียงประตู ฟีลลิ่งมันต่างกัน
3. ช่วงล่าง เบรค รถญี่ปุ่นออกแบบให้วิ่งได้ดีในระดับความเร็วไม่เกิน 180 ตามกฏหมายบ้านเค้า (จะวิ่งเกินก็ได้ แต่จะเริ่มโหวงๆ) แต่รถยุโรป(เยอรมัน) เค้าวิ่งกันเกิน 200 เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้นเรื่องช่วงล่าง เบรค ถูกออกแบบมาต่างกัน
4. เกรดวัสดุ เบาะ พรม จิปาถะ ภายนอกอาจจะดูคล้ายๆกัน แต่ลองสัมผัสดูจะรู้ได้ไม่ยากว่ามันต่างกัน


ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,433
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
คุ้มเงิน D-Seg ถือว่าคุ้มค่ากับเงินลงทุนในการใช้งานเป็น "ยานพาหนะ" มากกว่าครับ
เพราะ
> ราคาถูกกว่า ทั้งราคาซื้อ และราคาค่าบำรุงรักษา
> ระบบความปลอดภัยเหมือนกัน
> การขับขี่และควบคุมที่ความเร็วมาตรฐานที่กฏหมายกำหนด "เพียงพอ" ต่อการใช้งาน

ส่วน แบรนด์พรีเมี่ยม "คุ้มค่าทางจิตใจ สังคม และธุรกิจ" มากกว่าครับ

เรื่องการขับขี่ ก็ชั้นเหนือกว่า แต่เมื่อเอากฏหมายมาวัดหรือลักษณะการขับขี่ทั่วไป อาจเกินความจำเป็น เมื่อต้องจ่ายเงินมากกว่า


ออฟไลน์ SuperY

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 241
    • อีเมล์
รถรุ่นพรีเมี่ยม(น่าจะหมายถึงรถญี่ปุ่น)เน้นออพชั่น รถแบรนด์พรีเมี่ยม(น่าจะหมายถึงรถยุโรป)ออกแบบมาเน้นในทุกจุด
เท่าที่ลองนั่งมา สิ่งที่ต่างของรถแบรนด์พรีเมี่ยมกับรุ่นพรีเมี่ยม
1. ความเงียบ รถยุโรปทำได้ดีกว่ามากๆ
2. ความแน่นหนาของอุปกรณ์ มองผ่านๆไม่ต่างกัน แต่รถญี่ปุ่นมันจะรู้สึกหลวมๆกลวงๆ การกดปุ่ม เสียงประตู ฟีลลิ่งมันต่างกัน
3. ช่วงล่าง เบรค รถญี่ปุ่นออกแบบให้วิ่งได้ดีในระดับความเร็วไม่เกิน 180 ตามกฏหมายบ้านเค้า (จะวิ่งเกินก็ได้ แต่จะเริ่มโหวงๆ) แต่รถยุโรป(เยอรมัน) เค้าวิ่งกันเกิน 200 เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้นเรื่องช่วงล่าง เบรค ถูกออกแบบมาต่างกัน
4. เกรดวัสดุ เบาะ พรม จิปาถะ ภายนอกอาจจะดูคล้ายๆกัน แต่ลองสัมผัสดูจะรู้ได้ไม่ยากว่ามันต่างกัน

ขอแก้นิดนึงครับ  ความเร็วสูงสุดบนไฮเวย์ที่ญี่ปุ่นคือ 100 กม./ชม. เท่ากับของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
เกินไปนิดเดียว จ่ายค่าปรับกันมึน (แพงมาก)   มีแต่เมืองไทยนี่แหละครับ ถนนห่วยๆ ความปลอดภัยต่ำ
วิ่งกันแหลก ถึงได้ตายกันเป็นอันดับต้นๆ (ที่สอง) ของโลก  แก้ไขก็ง่ายนิดเดียว ตำรวจไม่พอจับ (แต่ตำรวจ
เสียรายได้คงไม่ยอม) คือออกกฎหมายล็อคความเร็วรถยนต์ที่ 110 กม./ชม. ที่กล่องเลย  (ให้เพิ่ม 10%
แล้วนะ)  ร้านไหนรับปลดล็อคกล่อง ปรับแรงและติดคุก ไม่มีรอลงอาญา   แค่นี้ชีวิตคนไทยจะปลอดภัยขึ้น
ไม่ใช่เราขับของเราดีๆ  มีรถวิ่งข้ามเกาะมาชน เราบาดเจ็บพิการหรือตาย โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย

ขอโทษที่นอกเรื่องครับ


ออฟไลน์ shipcake

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 679
    • อีเมล์
ขอบคุณครับ พอดีมีคนถามมาครับ เป็นน้าๆ เพราะเค้าเลือกไม่ถูกว่า ของยุโรป มันจะดีกว่าของ ญี่ปุ่น มากขนาดไหน เลยมาถามพี่ๆที่ใช้รถยุโรปครับ  camry 3.0 กับ  bmw 3 หรือ bmw1 อะไรแบบนี้ครัย

ออฟไลน์ mark2015

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
ขอบคุณครับ พอดีมีคนถามมาครับ เป็นน้าๆ เพราะเค้าเลือกไม่ถูกว่า ของยุโรป มันจะดีกว่าของ ญี่ปุ่น มากขนาดไหน เลยมาถามพี่ๆที่ใช้รถยุโรปครับ  camry 3.0 กับ  bmw 3 หรือ bmw1 อะไรแบบนี้ครัย

ดีกว่ามากครับเกือบทุกด้าน ยกเว้นราคากับความกว้างที่ได้

แต่เอาคุ้ม ญี่ปุ่นคุ้มกว่า ขาดทุนน้อยกว่า เซอร์วิสถูกกว่า โต ฮอน จบปิ๊ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 12, 2016, 12:51:28 โดย mark2015 »
" เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาจนตาย "

ออฟไลน์ NS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,712
  • การเดินทางครั้งใหม่
ขอเทียบ c180(2015) กับ Camry ตัว top ครับ  ให้ C class มากกว่าเรื่องความสวยงามปราณีต สมรรถนะ Camry เลย
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ

ออฟไลน์ BenzParagon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 671
  • . . .
ถ้าให้ราคาต่างกันไม่เกิน 1 ล้าน ตัดฟังชั่นสะดวกสบายในห้องโดยสารออกไป เทียบสมรรถนะล้วนๆ ฟังชั่นที่ให้มาโดยความปลอดภัยในการควบคุมรถและความปลอดภัยผู้โดยสาร กำลัง ความเงียบ เข้าโค้ง

ขอบคุณครับ พอดีมีคนถามมาครับ เป็นน้าๆ เพราะเค้าเลือกไม่ถูกว่า ของยุโรป มันจะดีกว่าของ ญี่ปุ่น มากขนาดไหน เลยมาถามพี่ๆที่ใช้รถยุโรปครับ  camry 3.0 กับ  bmw 3 หรือ bmw1 อะไรแบบนี้ครัย

ถ้า มีอายุ และ ไม่ได้ชอบ Sportback แบบจริงจัง 1 Series ไม่น่าจะตอบโจทย์
Camry Accord ยังไม่เคยสัมผัสขณะขับหรือนั่งบนถนนจริง เคยแต่ Altis Civic สำหรับผมถือว่าผ่าน

ถ้าถาม การควบคุมรถ ความปลอดภัย กำลัง ความเงียบ เข้าโค้ง
ณ ปัจจุบัน รถยุโรป น่าจะเหลื่อมนำ รถญี่ปุ่น อยู่เล็กน้อย ไม่น่ามากเท่าสมัยก่อน

3 Series ไม่มีตัวช่วยเบรคก่อนชนด้านหน้า ไม่มีตัวช่วยเตือนจุดบอดด้านข้าง ซึ่งควรจะมี
ในรุ่นเริ่มต้น ไม่มีกล้องมองหลัง ในส่วนความปลอดภัย ผมว่าขาด

ถ้าขับรถด้วยความเร็ว อยู่ในช่วง 120 ไม่เกิน 130
ไม่ได้ปาดซ้ายแซงขวาเป็นกิจวัตร ไม่ได้เร่งๆแล้วไปจี้ท้ายคันหน้าเป็นประจำ ไม่ได้เข้าโค้งแบบ Drift เป็นอาจิณ
ร่างกายพร้อม มีสติ ประสาทสัมผัสต่างๆฉับไว
ผมว่ารถเกือบทุกรุ่นทุกยี่ห้อสอบผ่านหมด

-ต้องการภาพลักษณ์ มองที่ ยี่ห้อ
หรู โก้ เก๋ เลือกตามใจชอบ
เป็นคนชอบ First Impression

-ต้องการคุ้มเงิน มองที่ รุ่น
อาจไม่ต้องถึง D-Segment ถ้า ผู้ขับ ผู้โดยสาร ร่างกายไม่ใหญ่มาก
C-Segment ( Corolla Civic หรือ รุ่นอื่นๆที่ใกล้เคียง) น่าจะคุ้มเงินกว่า

ถ้าเป็นคนที่ดื่มด่ำกับการใช้รถ ชอบรถ เลือกที่ ยี่ห้อ
รับค่าบำรุงรักษาตามระยะทางได้ รับค่าซ่อมที่เกิดความเสียหายจากการใช้งานได้
(บางยี่ห้อสบายใจส่วนนี้ได้ 3-5 ปี)
ใช้รถ เพื่อหน้าตา เพื่อการงานบางแบบ เพื่องานสังคม เพื่อการติดต่อที่ง่ายขึ้น

ถ้าคิดว่าใช้รถแค่เพื่อไปถึงจุดหมายให้สะดวกสบายขึ้น เลือกที่ รุ่น
ความสะดวกพอตัว ความสบายพอตัว ความปลอดภัยพอตัว ช่วงล่างพอตัว
ค่าบำรุงรักษาน้อยกว่า ค่าซ่อมน้อยกว่า
ใช้รถ ในงานบางประเภท ในการเข้าสังคมกลุ่มสังคมบางประเภท ต้องทำตัวให้ดูไม่มี

เพิ่มเติม ไม่เกี่ยวกับรถ
ในสังคมมีคนหลายแบบ

แบบที่เห็นคนรวยคนเก่ง แล้วชื่นชม อยากเป็น สักวันจะเป็นแบบนั้นให้ได้
ถ้าบังเอิญเจอหรือมีความเกี่ยวพันธ์กับสังคมหรือคนแบบนี้ เลือกรถที่ยี่ห้อ
เพราะ จะเกื้อกูล ส่งเสริม ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน

แบบที่เห็นคนรวยคนเก่ง แล้วอิจฉา หมั่นไส้ สักวันต้องเหนือกว่านั้นให้ได้
ถ้าบังเอิญเจอหรือมีความเกี่ยวพันธ์กับสังคมหรือคนแบบนี้ เลือกรถที่รุ่น(รุ่นธรรมดาๆยิ่งดี)
เพราะ จะแย่งชิง กลั่นแกล้ง ทำร้ายทำลายกัน

Hybrid Battery Of Mercedes-Benz Thailand https://goo.gl/3nn9sk

มาตรา 157 https://goo.gl/lIGkMt

lim n = 0 , n -> ...

0 = 1

?