สรุปว่า เดี๋ยวเราจะยืมรถกลับมาเทสต์อีกรอบครับ
ระหว่างนี้ผมเตรียมเขียนหัวข้ออื่นๆกับเตรียมรูปไปก่อน ทำงานขนานกันไป พอได้ตัวเลขมาแล้วก็เอามาเสียบเข้า
แล้วก็อัพรีวิวขึ้นได้เลยเป็น Full review จากเดิมตั้งใจจะออกงานชิ้นนี้เดือนมกราคม อาจต้องเลื่อนไปหน่อย
ยืมรถรอบหน้าไม่ต้องถ่ายรูปเก็บรายละเอียด แค่ทดสอบตัวเลขกับทำคลิปแล้วส่งรถคืน ใช้เวลายืมไม่นาน
อาจจะหาคิวได้ง่ายหน่อย ซึ่งก็มีดีอีกแง่เหมือนกัน เพราะเดือน ก.พ. รถทดสอบ MG5 จะเริ่มปล่อยออก
ก็ถือโอกาสเทียบฟีลลิ่งกันไปเลย
แต่บางคนที่อยากรู้ว่ารถเป็นยังไงบ้าง ผมบอกสั้นๆก็ได้
- อัตราเร่ง จับจากความรู้สึก ตอนที่อากาศมันยังไม่หนาว ผมว่าไวขึ้นนิดๆ
- คันเร่ง ตอบสนองเร็วกว่าเดิม คือรับคำสั่งจากเท้าเร็วขึ้น (เฉพาะคันเร่ง ไม่เกี่ยวกับเกียร์)
- เกียร์ นิสัยเสถียรขึ้น เวลาร้อนกับเย็นทำงานใกล้เคียงกัน ขับแบบปกติเปลี่ยนเกียร์เนียนแทบไม่กระตุก
แต่ต้องรอให้เครื่องและเกียร์อุ่นสักหน่อย ตอนคิกดาวน์ยังอมๆรอรอบกวาดรับจังหวะเกียร์นานเหมือนเดิม
แต่ส่งแรง G มาให้รู้สึกได้เร็วกว่าตัวเก่า ตอนนี้เกียร์ MG6 จากเดิมที่ผมคิดว่าเป็นเกียร์ Dual Clutch
ที่ขับแล้วอยากไปขับ CVT มากกว่า กลายเป็นว่าน่าคบขึ้น เหลือข้อเสียแค่การขับช่วงความเร็วต่ำๆไม่นุ่ม
มีเย่อๆดึงหน้าดึงหลังเบาๆคล้ายพวก CVT Jatco แต่สุภาพกว่า กับเรื่องความไวเวลาคิกดาวน์
- ช่วงล่าง ตัว 4 ประตูบอดี้ด้านท้ายเหนียวกว่า เข้าโค้งท้ายออกง่ายกว่าตัว 5 ประตู
แต่ออกแล้วจะไม่ดีดแรง จะเป็นในลักษณะสไลด์ตามหน้ารถ ถือว่ายังดีเหมือนเดิม อาจจะแข็งตึงตัง
เวลาเจอหลุมสันคมๆบ้าง อาจจะไม่นุ่มแบบ Altis ล้อ 16 แต่ถ้าวิ่งทางไกล 110-120 ช่วงล่างมันจะ
กระชับแบบกำลังพอดี ผู้ใหญ่ขับรถเร็ว (ไม่ใช่วัยรุ่นนัวร์เบิร์กริง) น่าจะชอบ
- พวงมาลัย ความเร็วต่ำ เบาลงกว่าเดิม อัตราทดเฟืองพวงมาลัยเหมือนเดิม น้ำหนักหน่วงถือตรง
เบาไปนิดแต่ระยะฟรีช่วง 1 นิ้วแรกไม่ไวมากนัก การเข้าโค้งมุมแคบต้องหักพวงมาลัยมากกว่า Ford, Mazda
แต่สูสี Sylphy และหักน้อยกว่า Altis นิดหน่อย
- เบาะ ทรงเดิม เบาะหน้าดันตรงหัวไปนิดแต่รองก้นกับหลังโอเค ผมขับไปกลับจันทบุรีในวันเดียวกันไม่เมื่อยตูดเมื่อยน่อง
- เบาะหลัง Legroom ไม่ได้ยาวแบบ Sylphy แต่ส่วนรองก้นกับแผ่นแหลังและศรีษะชนะ Sylphy และดีกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่
- อุปกรณ์ . ดีขึ้น มี Auto Hold มาให้เหมือน HR-V ขับเวลารถติดสบายเท้าดี จอกลางเปลี่ยนใหม่ มีระบบนำทางมาให้
ช่องเสียบ USB ของเดิมด้านขวามีอยู่ แต่เพิ่มอีกช่องมาให้ที่คอนโซลกลางแถวสวิตช์เครือ่งเสียง
พูดง่ายๆเลยว่า ถ้ามันราคา 1 ล้านนิดๆเหมือนปีที่แล้ว สิ่งที่ MG6 ให้มานี่ที่จริงแล้วก็ดีอยู่ ผมว่าวัยรุ่นคงไม่ชอบ
เพราะบางจังหวะมันยังไม่ทันใจเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่พวกผู้ใหญ่อายุ 35-45 ที่แก่พอจะเลิกซิ่ง แต่ยังแอบขับรถเร็ว
น่าจะโอเค ถ้ารับได้กับความเสี่ยงในการเล่นแบรนด์หน้าใหม่และชอบรถที่อุปกรณ์มาเยอะๆ (แต่ยังไม่มี Keyless Entryนะ)