มาดูสเปคคู่แข่งน้อง March กันเถอะ อยากราคาแพงนัก

[Bandai]

มาดูสเปคคู่แข่งน้อง March กันเถอะ อยากราคาแพงนัก
ไม่ได้เข้ามาป่วนคนที่สนใจน้องมาร์ชนะครับ แต่หลังจากผิดหวังกับราคาที่ตั้งมา
เลยลองหันกลับไปดูทางเลือกอื่น ในราคาที่ใกล้เคียงกันครับ

เรื่องเครื่องยนต์คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ ขนาด 1500 CC. แรงกว่า แต่ก็บริโภคน้ำมันมากกว่า

1. Mazda 2 (1500 cc) อัตราเฉลี่ยการบริโภคน้ำมัน 15 กิโล/ลิตร
รุ่น Groove เกียร์ธรรมดา 535,000 บาท  /  รุ่นGroove AT เกียร์อัตโนมัติ ราคา 570,000 บาท
รุ่นซีดานกำลังจะออกอีก 2-3 วัน ตัวออโต้ราคาถูกลงอีกหน่อย
รุ่น S เกียร์ธรรมดา  535,000 บาท   รุ่น S  เกียร์อัตโนมัติราคา  564,000 บาท

ข้อดี
1. ถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ
2.ระบบเบรก ABS + EBD
3. กระจกมองข้างปรับได้ด้วยไฟฟ้า (พับด้วยมือ)
4. กระจกหน้าต่างเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า
5. กุญแจรีโมท เซ็นทรัลล็อก
6. เบาะหลังแบ่งพับได้ 2 ฝั่ง
7. พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
8. เครื่องเสียง CD/MP3 ได้แผ่นเดียว / ช่องต่อ aux

ข้อเสีย
1. ล้อกะทะแบบฝาครอบ
2. ไม่มี กุญแจนิรภัย immobilizer และระบบสัญญาณกันขโมย



2. City 2010  (1500 cc) อัตราเฉลี่ยการบริโภคน้ำมัน 15.7 กิโล/ลิตร
รุ่น S MT  เกียร์ธรรมดา   534,000 บาท  /  รุ่น S AT เกียร์อัตโนมัติ  574,000 บาท
 
1. ระบบเบรก ABS + EBD
2. กระจกมองข้างปรับได้ด้วยไฟฟ้า (พับด้วยมือ)
3. กระจกหน้าต่างปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า
4. กุญแจรีโมท เซ็นทรัลล็อก
5. กุญแจนิรภัย immobilizer
6. ระบบสัญญาณกันขโมย
7.พวงมาลัยปรับสูง-ต่ำได้
8.เครื่องเสียง MP3 แบบ usb / ช่องต่อ aux

ข้อเสีย
1. ล้อกะทะแบบฝาครอบ
2. ไม่มีถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ

[Tonaka]

เอาเป็นว่าราคาเกียออโต้ กับ ABS เนี่ยก็หลายตังอยู่น่ะครับ

แต่ถ้ามองในทางกับกันน่ะครับ ราคารุ่นทอป ของมาร์ค กับ ซิต้ หรือ 2 เนี่ยมันกลับห่างกันถึงเกือบสองแสนเชียวนาา.....

[Bandai]

เอาเป็นว่าราคาเกียออโต้ กับ ABS เนี่ยก็หลายตังอยู่น่ะครับ

แต่ถ้ามองในทางกับกันน่ะครับ ราคารุ่นทอป ของมาร์ค กับ ซิต้ หรือ 2 เนี่ยมันกลับห่างกันถึงเกือบสองแสนเชียวนาา.....

คือว่าตัวถูกสุดทั้งของ 2 และ ซิตี้ ที่เป็นเกียร์ธรรมดา มันมี abs ด้วยน่ะสิครับ ที่พิเศษคือของ 2 มีถุงลมให้ด้วยซ้ำ
ส่วนเกียร์ออโต้ก้อจ่ายเพิ่มอีกแค่ 35000 บาทเอง

ประเด็นที่ผมจะชี้คือมันแพงมากไปหน่อย กับออปชั่นที่ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก
อย่าหาว่าโจมตีเลย ผมท้าให้เทียบตัวที่ราคาใกล้ๆกันเลยดีกว่า
พอเทียบราคามาร์ชตัวท๊อป (537000 บาท) กับราคาซิตี้ตัวถูกที่ยังราคาถูกกว่า (534000 บาท)

สิ่งที่มาร์ชให้มากกว่าซิตี้ตัวถูก คือ

1. ระบบสตาร์ทอัตโนมัติ
2. ระบบดับเครื่องอัตโนมัติตอนรถติด
3. ล้อแมกซ์
4. เกียร์อัตโนมัติ
5. ถุงลม
6. มาตรวัดอัจฉริยะ

ลองคะเนดูเอาครับว่าคุ้มมั๊ย จำเป็นมั๊ย

[CRO]

วันนี้เห็นซีดานใน 0 แล้วครับ แต่ขออภัย ลืมถ่ายรูปมา T_T~~~~~

[Tonaka]

คือผมก็ไม่ได้โจมตี จขกท น่ะครับ  แต่เพียงจะบอกว่า  ออฟชั่นที่จัดมา สำหรับรุ่นทอปนั้นมันมีของเล่นฟุ่มเฟือยมากเกินไปก็ว่าได้

คือ  ถ้าจะให้ดีการจัดอุปกรณ์หน่ะเกือบจะเหมาะสมแล้วสำหรับ มาร์ช  นอกเสียจากเจ้า ABS เนี่ยแหล่ะ มันน่าจะให้มาทุกรุ่นมากกว่าเจ้าถุงลมนิรภัย

ส่วนอุปกรณ์อื่นเช่นเกียร์ CVT พร้อม i-stop เนี่ย ผมว่ามันสมราคาอยู่ แต่ส่วนของฟุ่มเฟือยเช่น keyless นั้นมีไว้เพื่อสร้างราคาเท่านั้น  แต่ถ้าจะให้มองอีกว่าทำไม ไม่

เอา ABS ไว้ทุกรุ่นหล่ะ?? รุ่นทอปคงขายยากสิน่ะ!!!  

ส่วนเรื่องการจัดสเปคของทางนิสสันนั้น โดยส่วนตัวผมก็ยังไม่พอใจอยู่เหมือนกัน  ซึงจะว่าไปผมก็เห็นมีแค่เจ้า mazda 2 เท่านั้นที่จัดมาได้สมราคาที่สุด

           ผมว่า จขกท ยังสับสนอะไรบางอย่าง  ประเด็นที่โต้แย้งของคุณอาจะมองที่ในด้านราคาเป็นหลักใช่ไหม 

เอางี้ครับ  สมมติว่า march ไม่ใช่ eco-car และมีเครื่อง เท่ากับ B-segment ทั่วไป  แล้วลองจับสเปคมาเทียบรุ่นต่อรุ่นดูสิ  มันก็ไม่ค่อยจะต่างมากเสียเท่าไหร่ นอกเสียจาก มารช์ ตัวต่ำสุด ที่ตัดของเล่น และของใช้ออกเพื่อหันราคาจริงๆ

       ปล. เครื่อง 1.2 L 3 สูบ ยังไงๆ ก็สู้เครื่อง 1.5 L 4 สูบ ไม่ได้ครับนอกจากเรื่องราคาต้นทุนกับค่าบำรุงรักษา และมาร์คก็ยังเทียบกับ B-segment ไม่ได้โดยตรงครับ  ใจจริงผมอยากให้มันถูกเปรียบเทียบกับ Proton savy มากกว่าน่ะ

[prai]

เอาเป็นว่าราคาเกียออโต้ กับ ABS เนี่ยก็หลายตังอยู่น่ะครับ

แต่ถ้ามองในทางกับกันน่ะครับ ราคารุ่นทอป ของมาร์ค กับ ซิต้ หรือ 2 เนี่ยมันกลับห่างกันถึงเกือบสองแสนเชียวนาา.....

คือว่าตัวถูกสุดทั้งของ 2 และ ซิตี้ ที่เป็นเกียร์ธรรมดา มันมี abs ด้วยน่ะสิครับ ที่พิเศษคือของ 2 มีถุงลมให้ด้วยซ้ำ
ส่วนเกียร์ออโต้ก้อจ่ายเพิ่มอีกแค่ 35000 บาทเอง

ประเด็นที่ผมจะชี้คือมันแพงมากไปหน่อย กับออปชั่นที่ไม่ค่อยมีประโยชน์มากนัก
อย่าหาว่าโจมตีเลย ผมท้าให้เทียบตัวที่ราคาใกล้ๆกันเลยดีกว่า
พอเทียบราคามาร์ชตัวท๊อป (537000 บาท) กับราคาซิตี้ตัวถูกที่ยังราคาถูกกว่า (534000 บาท)

สิ่งที่มาร์ชให้มากกว่าซิตี้ตัวถูก คือ

1. ระบบสตาร์ทอัตโนมัติ
2. ระบบดับเครื่องอัตโนมัติตอนรถติด
3. ล้อแมกซ์
4. เกียร์อัตโนมัติ
5. ถุงลม
6. มาตรวัดอัจฉริยะ

ลองคะเนดูเอาครับว่าคุ้มมั๊ย จำเป็นมั๊ย

ราคาถ้าเทียบกันแบบนี้ ผมมองว่ายังไงๆ มารช์ก้คุ้มกว่านะครับ

[Bandai]

คุณ  Tonaka  มาถูกประเด็นแล้วครับ
เพราะว่า ผมใช้ราคาชี้วัดเป็นหลัก ถึงความคุ้มค่า

แล้วเผอิญเจ้า มาร์ช ดันวางตัวเองให้เป็น อีโค่คาร์
แต่พอราคาออกมาแบบนี้ จึงไม่ค่อยถูกใจนัก และเริ่มแปรพักตร์หันไปมองรุ่นอื่น


เอาเป็นว่า ถ้ารุ่นกลาง มี abs ปัญหาจบเลยครับ

[Tonaka]

คุณ  Tonaka  มาถูกประเด็นแล้วครับ
เพราะว่า ผมใช้ราคาชี้วัดเป็นหลัก ถึงความคุ้มค่า

แล้วเผอิญเจ้า มาร์ช ดันวางตัวเองให้เป็น อีโค่คาร์
แต่พอราคาออกมาแบบนี้ จึงไม่ค่อยถูกใจนัก และเริ่มแปรพักตร์หันไปมองรุ่นอื่น


เอาเป็นว่า ถ้ารุ่นกลาง มี abs ปัญหาจบเลยครับ

เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงกันครับ โดยเฉพาะเรื่อง ABS

[Dr.com&phone]

  หลายแง่หลายมุม 

[The Coup Channel]

เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เดี๊ยววววววววว







Nissan March = ECO car
ECO car = Ecology car = รถรักษาสิ่งแวดล้อม

เอ่อ ราคามันเกี่ยวอะไรกับอีโคคาร์อะครับ
หรือเกี่ยวกับกระดาษใบเช็ค กระดาษธนบัตร ถ้าราคาแพงแล้วต้องใช้เยอะขึ้น
ใช้ต้นไม้ในการทำกระดาษเยอะขึ้น??

ผมไม่ได้จะเชียร์มาร์ช แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนถึงคิดหนักเรื่องราคารุ่นท้อปกันจังเลย
ถ้าไม่อยากได้ของในรุ่นท้อปก็ซื้อรุ่นกลางๆก็ได้นี่ครับ งง

แต่ก็ไม่พอใจกับเรื่อง ABS ที่มันน่าจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานเสียที
แต่ในมุมกลับผมมองว่า อย่างน้อยๆนิสสันก็ได้ให้ออพชั่นต่างๆมาใน
ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งทั้งหมด ซึ่งตัวท้อปของมาร์ช ไปเทียบกับตัวล่างสุดของรุ่นอื่น
มันก็ดูจะแปลกๆไปหน่อย จริงอยู่ที่เครื่องยนต์เล็กกว่า ได้ภาษีที่ต่ำกว่า

แต่มันคือ อีโคคาร์ ที่ประหยัดน้ำมันมาก และปล่อยมลภาวะต่ำ

ลองมองภาพในระยะยาวดูสิครับ

[Dr.Shank]

แล้วแต่มุมมองหละกันครับ . . .

บางคนคิดอีกแบบ

แต่ก็เป็นการแสดงความคิดครับ

ใจเย็นๆ

[muying]

มองในเรื่องราคาแล้วผมนี่ตาลุกวาวเลย  ทำไมมันถูกจังฟะ  เพิ่งออก 2 มาได้ไม่ถึงเดือนเลย

แต่ถ้ามามองในแง่การใช้งาน (ส่วนตัว) แล้ว

มีนายังตอบโจทย์ของผมไม่ได้  เพราะว่าอยู่ต่างจังหวัด รถไม่ติดมาก  และต้องใช้พละกำลังของรถบ้าง  ความมั่นคงของการทรงตัว
ผมคิดว่ามีนามันยังไม่เหมาะนัก  จึงเลือกไปใช้ 2 เกียร์ธรรมดา(เลือกเอาแต่เกียร์ธรรมดาครับ ออโต้มันอืดได้ใจ)

สรุปคือ ไม่ได้ดูแค่ว่าสวยหรือไม่สวย แต่เหมาะกับการใช้งานของแต่ละท่านหรือป่าว

ก็เท่านั้น

[Arado_kung]

ถ้าเทียบน้องมีนาตัวท็อปกับรถรุ่นอื่นๆตัวท็อปแล้วมันจะกลายเป็นถูกไปเลยทันที ที่ให้ออปชั่นมาใกล้กับเจ้ามีนาก็คงเป็น swift แต่ราคามันก็แพงกว่าเป็นแสนๆ ถ้าชีวิตผมต้องอยู่ในเมืองเกือบตลอดเจ้ามีนารุ่นท็อปผมจะซื้อเลย ผมไม่รู้ว่าจะเอาเครื่อง 1.5 เพิ่มความแรงมาเผาน้ำมันเล่นตอนรถติดทำไม ไอ้ที่รถเครื่องเล็กๆมันไม่เกิดเพราะสันดานคนไทยรถคันเดียวจะเอาให้มันได้ทุกอย่างเนี่ยแหละ คนบางคนเครื่องเล็กหน่อยก็โวยวายทั้งๆที่ตัวเองแค่ขับรถจากบ้านไปที่ทำงานไม่กี่กิโลจะเอารถแรงๆมาทำแพะอะไร

[kritphakhin]

ติดตามข่าวครับ..........

[E@K]

แล้วแต่แง่มุมของแต่ละคนครับ โดยส่วนตัวนะครับ ผมแอบชอบรถ M2 ตัวเกียร์ธรรมดาเอามากๆ เพราะดูแล้วมันสวย+คุ้ม(ที่จะเอามาแต่ง)    ส่วน March ตัวท๊อปราคาต่างกันแค่ 2 พัน  ผมขอเลือก M2 ดีกว่า เพราะมันสามารถตอบโจทย์ของผมได้ดีกว่าครับ    อันนี้ผมเปรียบเทียบจากงบประมาณนะครับ

[joufo]

อืมมม

มาชเกียร์ธรรมดา
กับ มาสด้า 2 เกียร์ธรรมดา ราคาต่างกันถึง 1.1 แสนบาท

หลักๆ ก็ต่างกันที่ เครื่องยนต์ และ เอบีเอส



1.1 แสนบาท นี่ ถือว่าเยอะนะครับ



ถ้า มาชท๊อป ก็ต้องเทียบกับ มาสด้า 2 ท๊อป สิครับ ถึงจะพอเทียบได้


ถ้าเอา มาชท๊อป เทียบกับ มาสด้า 2 ถูกสุด
ก็เหมือนกับเอา วีออสตัวท๊อป ไปเทียบกับ อัลติสตัวถูกสุดนั่นแหละครับ



แล้วถ้าถามว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน
อยากจะถามว่า ความคุ้มค่าของแต่ละคนเท่ากันเหรอครับ แล้วเอาอะไรวัด

คุ้มไม่คุ้ม อยู่ที่การใช้งานและเงินในกระเป๋าของแต่ละคนครับ

[BBOnLY]

ผมรู้สึกว่าเรื่อง 2 เรื่องตอนนี้ที่รู้สึกว่าเกิดอาการของผู้คนเมื่อได้รู้คือ
 
1. IPhone by DTAC
2. Nissan march

ผมรู้สึกได้ว่าหลายๆคนจะบ่นแนวเดียวกันว่า ราคาแพงเหลือแสน ไม่น่าสนใจ บลาๆๆๆๆๆ
ผมรู้สึกว่าทั้ง 2 ตัว มันมาพร้อมกันการคาดหวังของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของราคา ทุกคนจะคาดว่า ทั้ง IPhone และ Nissan march จะต้องถูกกว่าคู่แข่งมากๆ
พอราคาที่เปิดออกมาไม่เป็นไปตามคาด ก็แสดงความผิดหวังกันทันที โดยที่ยังไม่ดูรายละเอียดภายในทั้งหมดเลยว่าที่มาที่ไปของราคาที่เราเห็นมันเป็นอย่างไร
ผมมองว่าสิ่งที่ nissan กำลังมอง เค้าไม่มองเจ้านี่เป็น ECOCAR จริงๆหรอกครับ เค้ามองว่าเค้าเป็นรถ B-Segment ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ทำเป็น ECOCAR เพื่อตีตั๋วด้านภาษีเพื่อเปิดราคาออกมาให้น่าสนใจเท่านั้นเอง

ผมว่าสุดท้ายอยู่ที่เราเองละครับ ว่าเราจะเลือกอะไร  เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง
เท่านั้นละครับ

[kemjc]

หากไม่เอาเรื่องราคามาเป็นตัวตั้ง
ผมจะเอาสิ่งที่คำนึงถึง 3 เรื่อง มาเปรียบเทียบกัน คือ
สมรรถนะ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
สมรรถนะ มาร์ช ยังไม่ได้ทดสอบ ยังไม่ทราบ ให้เดา ก็น่าจะด้อยกว่าเครื่อง 1.5 ทั่วไปแน่
ความปลอดภัย ต้องแบ่งระบบความปลอดภัยเป็น Active safety พวกระบบป้องกันต่างๆ ABS EBD  อีกอย่างคือ Passive safety คือ Airbag เข็มขัดนิรภัย
หากเปรียบเทียบกับคู่แข่ง มาสด้า 2 ให้มาได้ดีในรุ่นต่ำสุด ส่วนมาร์ช ให้passive safety ก่อน active safety แล้วค่อยมาให้ครบในรุ่น top
ความสะดวกสบาย แจ๊ซ ให้มาตั้งแต่รุ่นต่ำสุด ส่วนมาสด้ากับมาร์ช ยังไงยังงั้น
ส่วนออฟชั่นต่างๆ มันแค่ของเล่น ไม่ได้ใช้้เท่าไหร่หรอก

[Bandai]

มีใครบ้างไม่แคร์เรื่องราคา พอออกมาก็ผิดหวังไปตามๆกัน
ผมว่ารถคันนี้ ถ้าไม่มีการลดภาษี ราคามันก็คือๆกะรถธรรมดา ที่ไม่ใช่อีโค่คาร์

ราคาตั้งตัวท๊อปในไทย ทำไมยังแพงกว่าตัวท๊อปที่ขายในญี่ปุ่นเสียอีก

[nicsjerry]

เหอะๆ  ในรุ่นนี้ผมว่า MAZDA2 ยังไงๆ  มานก้อสมราคาที่สุด เหตุผลเพราะ  เจ้ามาร์ช  เครื่อง 3 สูบ แระคง เดินทางไกล อาจจะสู้ M2 ไม่ได้ แต่ก้อนะ ถ้ามาเทียบราคากัน มานก้อคง ดู กันเหนื่อย  แต่ผมก้อชอบเจ้า 2

[sHarK]

ถ้าการเปรียบเทียบผมคิดว่า 2 ครับ ยังไงๆ ก็กินขาด
ทั้งความสวย และ เครื่องยนต์ อะไรต่างแน่นอน ชัวร์