ผู้เขียน หัวข้อ: อยากใช้ MB หรือ BMW มือสอง ประมาณ5-6 ปี ครับ  (อ่าน 18583 ครั้ง)

ออฟไลน์ Red Bicycle

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
Re: อยากใช้ MB หรือ BMW มือสอง ประมาณ5-6 ปี ครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: เมษายน 09, 2016, 08:27:57 »
3 เบนซิล ถ้าไม่เล่นหกสูบ อย่าเล่นดีกว่าเสียดายเงิน
เจอรถตลาดแซงพาลจะขายทิ้งได้

325 330 หามาให้ได้ยิ่งเป็น m sport ถึงจะแรงสมชื่อ
แต่ซ่อมยากกว่าดีเซล ระบบวาล์ว ไฟซับซ้อนกว่า
กินแบบถังรั่ว เมื่อเทียบกับดีเซล

n52 ไม่ง่ายแบบm54 ยิ่ง n53 ถ้าหาได้แรง275แรงม้า
อะไหล่เบิกห้างอย่างเดียว อู่นอกเก่งๆต้องมีไว้

แอร์  เตรียมเปลี่ยนไส้ใหม่ของเด็นโซ่
แร็ค รั่วมีชุดซ่อม ของเก่าไม่แพงหมื่นต้นหาได้

ช่วงล่างโชคดียังไม่หลวม ประหยัดหลาย
เพราะเป็นอลูมิเนียมทั้งหมด ยกหมดห้าหมื่นขึ้น ไม่รวมโช้ค ยาง

ถ่ายน้ำมันเกียร์ กรองทั้งอ่าง สองหมื่นขึ้น

ถ้าคิดแบบรถยุ่นว่า ไม่จำเป็นต้องทำ ทนไม่ต่างกัน รถแพงต้องอย่างงั้นอย่างงี้
อาจกินข้าวลิงแบบไม่คาดฝัน เพราะใบพัดเปราะกว่ายุ่นเยอะ
ถ้าไม่มีแหล่งอะไหล่เก่า เบิกห้างอย่างเดียว ควรไปดูราคาอะไหล่แต่เนิ่นๆว่ารับได้รึเปล่า

เจ้าของรถที่รักรถยากนัก ที่จะตัดใจขายในราคาต่ำ ส่วนใหญ่ยำ ขับจนเละ เดิมๆหายากมาก
การซื้อรถมาแก้คืนไม่ถูก แค่ล้อตามสเปคต้องวิ่งหา ไม่นับการใส่กันโคลง ค้ำโช้คแบบผิดๆอีก

เทอร์โมสตัทที่หม้อน้ำ ที่ขายในไทยคือ 90-99 ซึ่งร้อนเกิน ต้องเป็น 80-88 แบบอาหรับ
ที่พังๆกันเพราะร้อนเกิน ไม่เคยเย็นเกิน ส่วนที่ลงไว้ว่าเครื่องทำงานที่ 95 คงสำหรับมีหิมะ
บางคนไปลดไฟอ่อนลง เครื่องแรงขึ้น เพราะความร้อนเครื่องลดลง สูญเสียน้อยลง

คนตั้งระบบไฟ ไอไดรพ์ ต้องเป็นไม่งั้นอุดegrลำบาก ไม่งั้นต้องถอดล้าง รักษ์โลกรึเปล่า

จะเชื่อที่โรงงานประกอบแบบขอไปที หรือเชื่อจากที่ติดมากับรถยุ่น ต้องคิดเอาเอง เงินใครเงินมัน

 :o เห็นภาพชัด ตาสว่างขึ้นเลยครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: อยากใช้ MB หรือ BMW มือสอง ประมาณ5-6 ปี ครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: เมษายน 09, 2016, 09:13:52 »
ผมสงสัยมานานละทำไมคนใช้บีเอ็มเบนซ์ถึงมักบ่นว่าซ่อมกันหลายๆแสนจนกระทั่งมาอ่านตามเว็บบอร์ดต่างไ

ผมใช้รถจากป้ายแดง ถึงวันที่ขายหลายคันมีตั้งแต่ 7-15ปี ไม่มีคันไหนซ่อมเกินแสน

รถซ่อมแพง คือรถที่เสียพวกระบบไฟฟ้าหนักๆ เครื่องยนต์พังสุดๆ เกียร์พัง ผมเองก็เจอแค่W211ที่เป็นแบบนี้ เบรคไฟฟ้าพัง เกียร์รูด

ถ้านอกจากนี้แล้ว เอาค่าโน่นค่านี่ในช่วงสิบปีแรก ไม่น่ามีอะไรพัง ถ้ารู้จักดูแล

น้ำมันเกียร์คนอื่นถ่ายที่หมื่นสองหมื่นบาทแต่เกียร์พังกันที่แสนกว่าโล ผมถ่าย 2000 บาทมีทอนใช้ไปสามแสนโลก็มี ไม่ยักกะพัง

เข้าใจธรรมชาติของรถก่อนครับ เช่น น้ำมันเกียร์ มันคืออะไร เอาไว้ทำไม เกียร์ใช้ผ้าคลัทช์แบบไหน โซลินอยด์ไฟฟ้ามีโอริงรึเปล่า พลาสติกในเกียร์ทนน้ำมันอะไรไม่ได้ แรงกดที่อุณหภูมิทำงานต้องการความหนืดเท่าไหร่ ถ้าไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ จ่ายสองหมื่นกันจ่อไปครับ แล้วปล่อยให้เกียร์พังกันตามมีตามเกิด เรื่องพวกนี้ไม่ต้องไปเรียนก็ได้ หาจากแหล่งข้อมูลเปิดมีให้อ่านมากมายจากเว็บที่เชื่อถือได้

ที่สำคัญ รถมือสองสภาพดีๆ ดูออกแค่ไหนครับ

แต่ก็ใช่ว่ารถเบนซ์บีเอ็มจะซ่อมได้ถูกแบบ รถตลาดอย่าง Altis Camry Vios City Civic DMax นะครับ เจอหัวฉีดดีเซลของเบนซ์ซักชุดนึง ชุดซ่อมระบอัดอากาศซักที ไฟหน้าอัจฉริยะซักชุด ก็ร่วมแสนแล้ว

รู้จักทำการบ้าน เข้าใจธรรมชาติของถ ไม่โดนอู่ฟัน มันถึงจะเรียกว่า ซ่อมเป็นครับ

พระคุ้มครอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 09, 2016, 16:34:23 โดย SK Jae »

ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
Re: อยากใช้ MB หรือ BMW มือสอง ประมาณ5-6 ปี ครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: เมษายน 09, 2016, 16:07:54 »
เชียงใหม่ BMW ผมใช้อู่หลังโรงเรียนสารสาสน์ ตรงข้ามสุสาน ผมใช้มาตอนนี้อายุ e39 15 ปีแล้วยังสบายๆ เขามีอะไหล่พร้อม ถูกกว่าศูนย์เกินครึ่ง เฉลี่ยปีหนึ่งผมเสียตังค์ให้อู่ไม่เกิน5หมื่น(4พันกว่าต่อเดือนก็คิดว่าผ่อนeco car ละกัน)ไม่เคยกินข้าวลิง ส่วนหนึ่งคือเราชอบศึกษาปัญหาก่อนพังหนักๆหรือก่อนไปหาช่าง  และคงดวงดีไม่มีอะไรเสียหนักๆ ส่วนเบนซ์นี่ตอนนี้ประกันอยู่ นอกประกันก้เห็นเข้าเบนซ์สุวิทย์กันครับแถวแยกสันทรายแต่ไม่เคยใช้บริการนะ

 ปล.ซื้อรถจากคนชอบซ่อมถึงๆ ใจถึงแบบ คห.ก่อนผมนี่ปลื้มเลยเหมือนถูกหวย

เชียงใหม่เหมือนกัน ขอบคุณมากครับ ผมก็อยากเห็นBMWตัวเก่าๆดูสักทีเหมือนกัน ด้วยความเคารพครับ