ประสบการณ์ การซื้อรถ Premium ( MB หรือ BMW ) ของท่านมนุษย์เงินเดือน ( พันธ์ุแท้ )

Red Bicycle

 ;D ;D ;D ขออนุญาติถามเป็นประสบการณ์หน่อยนะครับ เพราะการจะได้เป็นเจ้าของรถ MB หรือ BMW ใหม่ๆป้ายแดงซักคัน ( แม้เป็นรุ่นไม่ใหญ่ ) สำหรับคนไทยโดยทั่วไปถือว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายเลย แต่ในช่วงหลังก็ได้มีโอกาสเห็นว่าคนรุ่นใหม่ๆที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ได้ใช้รถเหล่านี้ไม่น้อยเหมือนกัน

 8) 8) 8) เลยขออนุญาติถาม ท่านที่ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน พันธ์ุแท้ ( ที่ทางบ้านไม่ได้สนับสนุนทางการเงิน ยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในครอบครัวทุกอย่างด้วยตัวเอง ส่งบ้าน ส่งลูกเรียน ) ได้รายได้จากการรับเงินเดือนเป็นหลัก ท่านออกรถตอนนั้นมีจังหวะได้อย่างไรครับ   สำคัญคือได้รับอนุญาติจากภรรยาได้อย่างไรครับ

                                                                      :-* :-* :-* ขอบคุณทุกท่านครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 13, 2016, 09:44:24 โดย Red Bicycle »



seeker

ถ้าเป็นผม เกิดมีคำถามนี้ขึ้นมาในใจ ผมจะไม่ซื้อ premium car
เพราะผมยังต้องกังวลเรื่องเงินว่าจะพอหรือไม่
อาจจะต้องรับมือภรรยาที่มีคำถามเกิดขึ้นในใจ

ถ้าตอบ 2 ข้อนี้ได้ ผมถึงซื้อ

ขออภัยที่อาจตอบไม่ตรงคำถาม



dekdemo

ขอนอกเรื่องครับ(ลบได้เลยนะครับ)

ผมกับแฟนเงินเหลือจากเงินเดือนรวมกัน 40,000 (หักค่าใช้จ่ายแล้วประมาณ 20,000 ) และบริษัทช่วยออกค่าใช้จ่ายบางส่วน เช่น ค่าที่พัก อาหาร น้ำมันรถ ค่าบำรุงรถ ฯลฯ

ผมกับแฟนคุยกันดีแล้ว ยังไม่ซื้อรถ Premium เลยครับ



Stp

ถ้าคุณมีครอบครัว (หรือจะแต่งงานแน่ๆ) มีลูกที่ต้องดูแล คงต้องคิดวางแผนระยะยาวให้ดี ถ้ายังไม่มั่นใจก็คงไม่แนะนำให้ซื้อ ถ้าจะซื้อก็เก็บเงินสด+เงินก้อนกลางๆ จำเป็นมาก

แต่ถ้าคุณไม่มีแฟนหรือยังไม่มีแนวโน้มใดๆ ก็วางแผนเก็บเงินระยะยาวแล้วตัดสินใจเอง เพราะคนอื่นย่อมรู้ตัวเราไม่ดีเท่าตัวเราเอง แรกๆ อาจมีนอยด์ตัวเองบ้าง แต่เมื่อมั่นใจก็เดินหน้าครับ

คนที่บอกว่าให้รออายุ 50-60 เก็บเงินให้พอแล้วค่อยซื้อ ผมกลับมองอีกมุมหนึ่งว่า ซื้อตอนนั้นเราก็นั่งคนเดียวขับคนเดียว มันมีความสุขจริงเหรอ

เราซื้อเพราะอยากให้คนข้างๆ ตัวเรา (พ่อ แม่ แฟน ?) นั่งไปกับเราไม่ใช่เหรอ แล้วการซื้อตอนที่ยังหาเงินได้กับตอนที่ต้องใช้เงินอย่างเดียว อะไรมีความเสี่ยงมากกว่ากัน ตัวคุณเท่านั้นที่จะตัดสินใจ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D



Teera

ถ้ายังต้องคิดมาก ยังต้องขอเมีย อย่าซื้อครับ
วิธีคิดคือ ต้องไหวแบบสบายๆ ตกงานซัก 6 เดือน ก็ยังมีเงินผ่อนอยู่
ถ้ายังไม่ได้ โอกาศเดือดร้อน สูงมาก



seamonkey

ของผมเสียภาษีปีละเกือบ 300000 (ก่อนหักลดหย่อนนะครับ) ขอพ่อแม่ซื้อ BRZ ด้วยเงินตัวเองยังทะเลาะกันแทบบ้านแตก (โสด+อยู่บ้านกับน้องชาย 2 คน) สรุปที่นั่งรถเมล์เหมือนเดิม

สรุปว่าแล้วแต่บ้านครับว่าให้นํ้าหนักกับอะไรมากกว่ากัน ::)



Tui_PSG

รถ Premium คันแรกที่ผมซื้อคือ BMW 525i (E34) ราคารถเกือบๆสองล้าน(ถ้าจำไม่ผิด) ต้องการซื้อสด แต่ตอนนั้นโปรฯ0%48เดือนคุ้มกว่า ก็เลยผ่อน(ตกเดือนละสองหมื่นกว่าบาท)

ซื้อรถคันนี้ด้วยเงินตัวเองทั้งหมดในขณะที่ทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทข้ามชาติบริษัทหนึ่งในเมืองไทย(แต่เดินทางไปต่างประเทศบ่อย) ณตอนที่ซื้อยังไม่ได้แต่งงาน หนี้สินไม่มีครับ

ไม่แน่ใจจุดประสงค์ที่คุณจขกทตั้งกระทู้นี้ แต่ถ้าเป็น"มนุษย์เงินเดือน",มีครอบครัวและลูกแล้ว, มีภาระอื่นๆ และต้องการเป็นเจ้าของรถกลุ่มนี้ ในความเห็นผม ถ้าจะซื้อ ต้องเป็นเงินเย็นๆ เหลือจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้ว(รวมถึงเงินออม)ครับ



Oah

ยังไงก็ต้องคุยกับภรรยานะครับ ภรรยาผมไม่เคยคิดจะให้ซื้อ แต่พอถึงเวลาเปลี่ยนรถ พาไปดูทุกยี่ห้อ ภรรยาเป็นคนบอกให้ซื้อเองครับ หลักๆคือเค้าคิดเรื่องความปลอดภัย

ส่วนเรื่องรายได้ ผมว่าแต่ละคนมีความมั่นคงทางหน้าที่การงานและความต้องการใช้เงินไม่เหมือนกัน ถามตัวเองดีกว่าครับว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น ไม่มีงานทำ รถคันนี้จะกลายเป็นภาระที่เรารับผิดชอบไม่ไหวหรือเปล่า ถ้าใช่คงต้องคิดดีๆครับ โดยเฉพาะเหตุผลที่จะซื้อ ถ้าซื้อเพราะแค่ใจอยาก ส่วนตัวผมคิดว่าควรมีเงินเก็บเท่าราคารถนะครับ ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อเงินสด นอกจากนั้นควรพิจารณาถึงภาระอื่นๆประกอบครับ



MrNumberOne

ย้อนกลับไปเมื่อ 13-14 ปีที่แล้ว ตอนเป็นมนุษย์เงินเดือน ชายโสด เงินเดือน 120,000 ไม่รวมโบนัส ไม่รวมเงินพิเศษต่างๆ งานที่ผมทำไม่มีรถประจำตำแหน่ง มีแต่ค่าน้ำมันกับค่าสึกหรอให้ ตอนนั้นขับ hyundai accent 1997 (มั้ง) ใช้มาได้ 5-6 ปีแล้ว เป็นรถคันแรกทั้งของตัวเองและครอบครัว

ด้วยตำแหน่ง ความมั่นใจตัวเองมากๆในตอนนั้น จะถอย MB เงินดาวน์พร้อม เงินผ่อน เงินเก็บพร้อม แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนใจ เพราะ
1. เกรงว่ารถตัวเองจะไปเหมือนกับรถ Boss มากเกินไป (ซึ่ง Boss เป็นผู้มีอุปการะคุณ)
2. เอาเงินไปดาวน์บ้านเดี่ยวดีกว่า ตอนนั้นอยู่ทาวน์เฮ้าส์ แต่ก็ยังมีเงินเหลือผ่อน MB นะนั้น
3. ข้อนี้สำคัญที่สุด พ่อแม่เตือนว่า "ในอนาคตเราอาจจะมีภาระอื่นเพิ่มก็ได้ เก็บเงินไว้ก่อนลูก"
และต่อมาอีกไม่ถึงปี สิ่งที่พ่อแม่เตือน ก็มาถึงจริงๆ ขอบคุณพ่อแม่ย้อนหลังอีกครั้งครับ



Tui_PSG

BMWคันแรกที่ผมซื้อเอง มันคันละ9แสน ตอนนั้นMX5 NA 890,000 Corolla คันละ4แสน Civic คันละสามแสนกว่าครับ

ยี่สิบปีละครับตอนนั้นยังทำงานกินเงินเดือน โชคดีทำงานแบบกินค่าคอม เหลือพอซื้อรถได้ไม่ยากครับ
ถ้าบอกตอนนั้นบีเอ็มคันละ9แสน ผมว่าไม่ใช่ยี่สิบปีหละมั๊งครับ อิอิ



NS

ตีกลมๆ รถ4ล้าน ผ่อนเดือนละ 4หมื่น ประกันตกเดือนละ 4พัน ค่าน้ำมันเดือนละ 2หมื่น ค่าดูแลตกเดือนละ 1หมื่น (อันนี้ตีไว้เฉยๆนะ ถ้าอยู่ในประกันก็เก็บไว้) ถ้ามีรายได้เดือนละแสนนึง ที่เหลือก็ค่าบ้าน ประกัน ลูก เที่ยว และส่วนมากคนที่ออกรถ premium จะมีรายได้มากกว่า 2แสน ซึ่งอาจได้รถประจำตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ถอยให้ภรรยาใช้ อิอิ
จะเลือกรถหรือเมีย....

...รถสิคร๊าฟ



bobsan

ตีกลมๆ รถ4ล้าน ผ่อนเดือนละ 4หมื่น ประกันตกเดือนละ 4พัน ค่าน้ำมันเดือนละ 2หมื่น ค่าดูแลตกเดือนละ 1หมื่น (อันนี้ตีไว้เฉยๆนะ ถ้าอยู่ในประกันก็เก็บไว้) ถ้ามีรายได้เดือนละแสนนึง ที่เหลือก็ค่าบ้าน ประกัน ลูก เที่ยว และส่วนมากคนที่ออกรถ premium จะมีรายได้มากกว่า 2แสน ซึ่งอาจได้รถประจำตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ถอยให้ภรรยาใช้ อิอิ

ใช่เลยครับ คนที่จะออกรถ premium ใช้ควรมีรายได้มากกว่า 200,000 พวกแสนกลางๆก็พอซื้อได้ แต่เหนื่อยครับ



5ume7h

เก็บเงินซื้อสด
นานหน่อยแต่สบายใจดี

วิธีเก็บก็บ้านๆ เลย คือเงินเดือนเข้าปุ๊บก็แบ่งเป็นกองๆ เงินออม เงินฉุกเฉิน ... แล้วก็บัญชีนึงสำหรับสะสมเงินไว้ซื้อรถ
ที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่าย
นับจากตอนที่ตั้งใจว่าจะซื้อจนถึงได้ซื้อก็หลายปีเหมือนกัน
ระหว่างที่กำลังเก็บเงินก็ได้สำรวจความรู้สึกตัวเองด้วยว่ายังอยากได้รุ่นนี้อยู่มั้ย ได้เวลาศึกษาข้อมูลจากลุ่มผู้ใช้รถรุ่นนั้นด้วย
และอาจจะมีรถรุ่นอื่นที่น่าสนใจกว่ามาให้พิจารณาอีกต่างหาก

ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม



Tui_PSG

ตีกลมๆ รถ4ล้าน ผ่อนเดือนละ 4หมื่น ประกันตกเดือนละ 4พัน ค่าน้ำมันเดือนละ 2หมื่น ค่าดูแลตกเดือนละ 1หมื่น (อันนี้ตีไว้เฉยๆนะ ถ้าอยู่ในประกันก็เก็บไว้) ถ้ามีรายได้เดือนละแสนนึง ที่เหลือก็ค่าบ้าน ประกัน ลูก เที่ยว และส่วนมากคนที่ออกรถ premium จะมีรายได้มากกว่า 2แสน ซึ่งอาจได้รถประจำตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ถอยให้ภรรยาใช้ อิอิ

ใช่เลยครับ คนที่จะออกรถ premium ใช้ควรมีรายได้มากกว่า 200,000 พวกแสนกลางๆก็พอซื้อได้ แต่เหนื่อยครับ
ผมว่าต้องดูที่ภาระที่มีอยู่ประกอบกันด้วยครับ ไม่ใช่มองเรื่องรายได้อย่างเดียวครับ



maxillofacial surgeon

กว่าผมจะซื้อก็ทำงานมา9 ปีครับ
 จบมามีรายได้แสนกว่าๆ  ผมให้พ่อกะแม่ก่อนเลยครับ  ช่วยใช้หนี้ที่ท่านยืมมาส่งเราเรียน
ส่วนตัวช่วง4-5แรกที่เริ่มทำงาน ใช้เงินแบบเละเทะมาก กินเที่ยวหนักมาก 
 ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเงิน  การลงทุน 
หามาได้ก็ใช้  เพราะคิดว่ามันหาง่าย  แต่รถก็ซื้อหลายคันครับตามความจำเป็น ให้พ่อบ้าง น้องบ้าง แฟนบ้าง
แต่ไม่ใช่พรี่เมี่ยมคาร์
  โชคดีเที่ยวหนักจนเรียกว่าเบื่อ  จนกระทั่งก่อนแต่งงาน เริ่มมองถึงอนาคต
 ก็เน้นลงทุนก่อนเลยครับ  เปิดคลินิก   ซื้ออสังหา   ลงทุนทำประกัน  ประกันชีวิตผมแนะนำให้เพื่อนๆซื้อไว้เยอะๆครับ
หากท่านยังไม่มีเงินเก็บมากพอ  ยิ่งถ้าเป็นหัวหน้าครอบครับ  อย่างน้อยเบี้ยสุขภาพ ต้องพอจ่าย  หากต้องรักษาตัวครั้งใหญ่
หรือทุนประกัน ก็ต้องพอเพียงให้คนที่ท่านรักไว้ใช้ยาวๆ  ถ้ารักษาเอกชน  ไม่สบายหนักๆ  เงินล้านนี่หมดเอาได้ง่ายๆครับ  เพราะเจอมากับตัว คนใกล้ตัวไม่สบาย   
    ตอนผมซื้อ bm คันแรก  รายได้ตอนนั้น  ก็เกือบล้าน  เอาจิงๆช่วงที่อยากได้มากที่สุดคือช่วงวัยรุ่นอะครับ  ด้วยความอยาก  ตอนนี้พอได้มาแปปเดียวก็หายเห่อ
ความอยากไม่มีที่สิ้นสุด   ทุกวันนี้สนุกกับการทำงาน  สร้างธุรกิจ  รถก็ตามความเหมาะสมคับ



Starplatinum35

ถ้าคุณมีครอบครัว (หรือจะแต่งงานแน่ๆ) มีลูกที่ต้องดูแล คงต้องคิดวางแผนระยะยาวให้ดี ถ้ายังไม่มั่นใจก็คงไม่แนะนำให้ซื้อ ถ้าจะซื้อก็เก็บเงินสด+เงินก้อนกลางๆ จำเป็นมาก

แต่ถ้าคุณไม่มีแฟนหรือยังไม่มีแนวโน้มใดๆ ก็วางแผนเก็บเงินระยะยาวแล้วตัดสินใจเอง เพราะคนอื่นย่อมรู้ตัวเราไม่ดีเท่าตัวเราเอง แรกๆ อาจมีนอยด์ตัวเองบ้าง แต่เมื่อมั่นใจก็เดินหน้าครับ

คนที่บอกว่าให้รออายุ 50-60 เก็บเงินให้พอแล้วค่อยซื้อ ผมกลับมองอีกมุมหนึ่งว่า ซื้อตอนนั้นเราก็นั่งคนเดียวขับคนเดียว มันมีความสุขจริงเหรอ

เราซื้อเพราะอยากให้คนข้างๆ ตัวเรา (พ่อ แม่ แฟน ?) นั่งไปกับเราไม่ใช่เหรอ แล้วการซื้อตอนที่ยังหาเงินได้กับตอนที่ต้องใช้เงินอย่างเดียว อะไรมีความเสี่ยงมากกว่ากัน ตัวคุณเท่านั้นที่จะตัดสินใจ



+1000 ใช่เลยครับ ผมมาลองคิดๆดูพออายุเยอะๆถึงรถจะขับสนุกแค่ไหนแต่เราคงไม่สนุกกับมันแล้วครับ
2015 BMW 525d m sport Project'A stage 1
2012 nissan GT-R R35 GT700+EcuTek +E85 flex fuel
2016 MB CLA 250 AMG
2017 MB E220d AMG
2017 BMW 320d GT



ฟง อวิ๋น

มนุษย์เงินเดือน ถ้าเป็นผู้บริหารมักจะได้รถประจำตำแหน่งอยู่แล้วครับ (Camry, MB, BMW แล้วแต่ระดับขั้น)

แต่ถ้าเป็นพนักงานระดับผู้จัดการปกติที่ใช้รถ Premium Car ส่วนใหญ่ที่บ้านจะมีเงินอยู่แล้วเงินเดือนตัวเองไม่ต้องจ่ายค่าข้าว ค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าน้ำ ไม่ต้องผ่อนคอนโด ไม่ต้องให้พ่อแม่ แบบว่าเงินเดือนได้ใช้เต็มๆ พวกเขาก็จะออก Premium Car แบบไม่คิดมากครับ

ผมก็เคยคิดจะออก Mini ครับ เพราะรู้สึกว่าพอจะไหว แต่พอดูสิ่งที่จะต้องจ่ายระหว่างการใช้งาน ค่าประกันภัย ค่าซ่อมบำรุงหลัง MSI ราคาขายต่อ ราคาอะไหล่ ความจุกจิกในการซ่อม บลาๆๆ สุดท้ายมาจบที่ Accord G9 ครับ คันใหญ่ นั่งสบาย ซ่อมไม่แพง ประกันก็ไม่แพงมาก ใช้ยาวก็ไม่น่าเกลียด

คิดให้ถี่ถ้วนครับ เอามาแล้วเกิดไม่ชอบอยากปล่อยก็มีแต่เจ็บครับ  :( :( :(
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



wa330

รอมือสองคับ5-7ปีหายไปครึ่ง



mamaman

ผมว่า มนุษย เงินเดือน
รอช้อน มือสอง ตัวล่างครับ
แต่ก็ไม่มีปัญญา เข้าศูนย์อยู่ดี

สองคนผัวเมีย รายได้เกินแสนไปไกล ยังไม่กล้าซื้อเลย เพราะรายจ่ายเยอะกว่า




Slipknot`

อยู่ที่รายจ่ายด้วยครับ
พี่ผม2xx,xxx/ด ผ่อนสองคันได้สบายเลย เพราะไม่มีลูกไม่มีเมีย ไม่มีภาระใดๆทั้งสิ้น



fishfinger

จริงๆ รถพวกนี้ใช้ไปซักพักเดี๋ยวก็เบื่อครับถ้าคุณมองระยะสั้นแบบอยากได้มากๆ 1คันผมว่าไม่มีปัญหาหรอก ถ้ามันซื้อความสุขให้คุณได้ แต่ปัญหาคือตอนคุณเปลี่ยนรถเนี่ยแหละรถแพงมันตามมาด้วยภาพลักษณ์ สมมุติคุณขายคันนี้คันต่อไปอย่างน้อยก็ต้องD set ละคงไม่กลับไปใช้รถเล็กๆหรอก

ถ้ามองตามหลักการเงินการลงทุนนี่เงินเดือนไม่กี่แสนนี่ไม่ค่อยน่าซื้อรถแพงๆเพราะ เอาไป ลงทุนต่อยอดในอนาคตดีกว่าและอีกอย่างถ้ามีลูก จะใช้เงินซื้อความสุขให้ตัวเองอย่างเดียวไม่เหลือให้ลูกหลานเลยก็ใช่เรื่องครับ เงิน2-3แสนไม่ได้ถือว่าเยอะเลย จะผ่อนบ้านใหญ่ๆสวยๆในกรุงเทพยังยาก แนะนำให้Balance ดีๆครับ



Artist

ผมกับแฟนมนุษย์เงินเดือนเพียวๆ แต่ไม่มีลูก บ้านผ่อนเอง รถผ่อนเอง
สาเหตุที่ต้องซื้อรถเพราะแฟนย้ายที่ทำงานไปทำคนละที่ ค่อนข้างไกล เลยคุยกันว่าจะซื้อรถ
คำนวนรายได้แล้วผ่อนได้ไม่มีปัญหา เลยจัด BMW 116i มา เพราะคิดว่าอยากสัมผัสรถพรีเมี่ยมซักครั้งในชีวิต
มาขับตอนอายุเยอะๆมันคงไม่ฟินแล้ว

ตอนนี้เงินเดือนขยับขึ้นมาพอสมควร คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ซื้อรถตอนนั้น



kimmeng21

ตอบเรื่องได้รับอนุญาตจากภรรยายังไงบ้างน่ะคับ

ผมกับแฟนอยู่กันในลักษณะเงินใครเงินมัน ไม่ยุ้งเรื่องเงินของใครคับ

ผมมีธุรกิจส่วนตัวของผมไปได้เรื่อยๆ  ส่วนของแฟนผมทำธุรกิจของครอบครัวรายได้น่าจะหลักร้อยล้านต่อปี

เค้าเคยบอกกับผมว่า เงิน U  U อยากทำไรก็ทำอยากใช้ไรก็ใช้แต่ขออย่างเดียวอย่ามายุ้งกับเงิน I ก็พอ 55555

จนมีอยู่ครั้งนึ่งผมไปเสียเงินที่บ่อนจนหมดตัว เค้าก็ใช้ชีวิตปกติของเค้า พร้อมบอกผมมาสั้นๆแค่ว่า I เตือน U แล้วน่ะ  :-X :-X :-X

ส่วนเรื่องรถ ใครซื้อก็ขับคันนั้นคับ รถแฟนผมอยู่ในบ้านผม ผมก็ไม่มีสิทธิขับ ส่วนรถที่ผมซื้อแฟนผมเค้าก็ไม่มายุ้งเหมือนกัน

รถจะได้นั่งพร้อมกัน 2 คนนานๆที 

อารมณ์ประมาณว่า ถ้าผมซื้อ accord มา 1 คัน ถ้าแฟนผมเค้าอยากขับ ก็ใช้เงินเค้าซื้อ accord เองมาอีกคันนึ่งไว้ขับเอง

อะไรประมาณนี้แหละคับ

ผมกับแฟนเลยไม่เคยทะเลาะกันเรื่องรถเลย เพราะใครจะซื้อไรก็ซื้อ






"โอกาส มันก็เหมือนสายน้ำ ที่ไหลผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ถ้าคุณไม่ตักตวงมันไว้ สายน้ำมันก็จะไม่ไหลย้อนกลับ"



FlyMe

เก็บเงินซื้อสด
นานหน่อยแต่สบายใจดี

วิธีเก็บก็บ้านๆ เลย คือเงินเดือนเข้าปุ๊บก็แบ่งเป็นกองๆ เงินออม เงินฉุกเฉิน ... แล้วก็บัญชีนึงสำหรับสะสมเงินไว้ซื้อรถ
ที่เหลือเก็บไว้ใช้จ่าย
นับจากตอนที่ตั้งใจว่าจะซื้อจนถึงได้ซื้อก็หลายปีเหมือนกัน
ระหว่างที่กำลังเก็บเงินก็ได้สำรวจความรู้สึกตัวเองด้วยว่ายังอยากได้รุ่นนี้อยู่มั้ย ได้เวลาศึกษาข้อมูลจากลุ่มผู้ใช้รถรุ่นนั้นด้วย
และอาจจะมีรถรุ่นอื่นที่น่าสนใจกว่ามาให้พิจารณาอีกต่างหาก

ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

จริงครับ ผมซื้อรถทุกคัน รวมทั้ง BMW 2 คันด้วยเงินสด หรืดถ้ามีโปรผ่อนดีๆ ก็จะเก็บเงินสดที่จะใช้ซื้อรถไว้ในการลงทุนที่มีความมั่นคง  วิธีซื้อรถแบบนี้จะไม่ทำให้เครียดในภาระการผ่อน  ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมาตลอด ร่วม 26+ ปีแล้ว  อีกไม่นานก็ retire แล้ว ไม่เคยมีความเครียดเรื่องการเงิน



tvm

คำว่ามนุษย์เงินเดือนคือหมายถึงระดับไหนล่ะ หมื่นสองหมื่น เจ็ดแปดหมื่น แสน สามสี่แสน?
ถ้าเขาซื้อรถที่เหมาะกับรายได้และความเอใจ มันก็ไม่ได้ยากเย็นหรือต้องคอยขอเมียมั้ยครับ



Visual

เงินเก็บเหลือเกินราคารถ รายได้หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือผ่อนสบายๆ ได้ 2 อย่างนี้ก็ซื้อเลยครับ
อย่างที่หลายๆคนว่า กว่าจะรอชีวิตพร้อมทุกด้านมันก็หมดอารมณ์ไปแล้ว
ตอนเรียนผมอยากได้รถสปอร์ตมาก พอเรียนจบก็เฉยๆละครับ ความกระเหี้ยนกระหือรือมันหายไปแล้ว



Tui_PSG

Re:
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: เมษายน 13, 2016, 14:20:24 »
ผมกับแฟนมนุษย์เงินเดือนเพียวๆ แต่ไม่มีลูก บ้านผ่อนเอง รถผ่อนเอง
สาเหตุที่ต้องซื้อรถเพราะแฟนย้ายที่ทำงานไปทำคนละที่ ค่อนข้างไกล เลยคุยกันว่าจะซื้อรถ
คำนวนรายได้แล้วผ่อนได้ไม่มีปัญหา เลยจัด BMW 116i มา เพราะคิดว่าอยากสัมผัสรถพรีเมี่ยมซักครั้งในชีวิต
มาขับตอนอายุเยอะๆมันคงไม่ฟินแล้ว

ตอนนี้เงินเดือนขยับขึ้นมาพอสมควร คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดที่ซื้อรถตอนนั้น
อายุเยอะอย่างผมก็ยังฟินได้ครับ อิอิ
คันนี้เอาไว้ขับสนุกๆในวันที่ไปไหนคนเดียวหรือไม่มีลูกไปด้วยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 13, 2016, 14:33:32 โดย Tui_PSG »



NeoZeLon

ผมตอบในฐานะเด็กๆเพิ่งทำงานได้ 2 ปี ถ้าวันนึงผมมีเงินเดือนที่หักค่าใช้จ่ายทุกอย่างแล้วเหลือพอผ่อนรถ ผมจะซื้อครับ ฝันว่าจะต้องมีให้ได้เหมือนกัน ผมไม่สนเรื่องนำเงินลงทุน โน้นนี้ บลาๆๆ ถ้ามีเงินเหลือพอซื้อ ซื้อเถอะครับ เงินเรา รถเรา ความสุขเรา
Honda Jazz GK 2014
Honda Accord G8 2008



jaesz

BMWคันแรกที่ผมซื้อเอง มันคันละ9แสน ตอนนั้นMX5 NA 890,000 Corolla คันละ4แสน Civic คันละสามแสนกว่าครับ

ยี่สิบปีละครับตอนนั้นยังทำงานกินเงินเดือน โชคดีทำงานแบบกินค่าคอม เหลือพอซื้อรถได้ไม่ยากครับ
ถ้าบอกตอนนั้นบีเอ็มคันละ9แสน ผมว่าไม่ใช่ยี่สิบปีหละมั๊งครับ อิอิ

316 compact ปี1997 ราคา 9แสนบาทครับ



Tomz

ได้มาจากฝาอิชิตันครับ 5555+ (ล้อเล่นน่า)

ได้รับอนุญาติยังไงหรอ คือ มันชื้อเองเลยครับ ไม่ต้องขออนุญาติ 555