ผู้เขียน หัวข้อ: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร  (อ่าน 21297 ครั้ง)

ออฟไลน์ MMGLower

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
    • อีเมล์
ท้าวความก่อนครับจากกระทู้ที่ผ่านมาทำให้ผมสงสัยว่า
ตัวผมเองขับเจ้า SUBARU XV เอง แล้วผมรู้สึกว่ามันเกาะถนนมาก
มากกว่ารถขับ 4 อื่นๆที่เคยทดลองขับมา (ในที่นี้ CX-5 X-Trail นะครับ)
ผมไม่อยากว่าผมอวยเจ้า SUBARU XV มากเกินไป เลยหาข้อมูลประกอบนิดหน่อยครับ

อยากให้ตั้งข้อสังเกตครับ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร

จากรูปนะครับช่วงล่างที่เรียกชื่อเท่ห์ๆว่า "Symmetrical All Wheel Drive"
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ส่วนด้วยกันคือ
1.Front Differential ตัวกระจายแรงล้อคู่หน้า
2.Transmission ระบบส่งกำลัง หรือ เกียร์
3.Centre Differential กระจายแรงหน้า หลัง
4.Rear Differential ตัวกระจายแรงล้อคู่หลัง

และที่สำคัญเลยครับทำไมรถ SUBARU ถึงขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ไม่เหมือนระบบอื่น ที่ 4 เป็นบางเวลา หรือ 4 ไม่เกินความเร็วเท่านั้นเท่านี้
คำตอบก็คือ
เกียร์ครับ นี่คือเกียร์ ลูกเดียวกันที่อยู่ใน XV เป็นเกียร์ CVT

ดูสีแดงๆนะครับ สังเกตนะครับว่า แกนการหมุนส่งกำลังล้อหน้า กับล้อหลังเป็นแกนเดียวกัน ฉะนั้นถึงแม้จะขับถึง 200 มันก็ ขับ 4 ตลอดเวลาจริงๆครับ

เออ แล้วมันต่างกันยังไงกับระบบขับ 4 แบบอื่นหล่ะ?
คำตอบซ้อนคำตอบก็คือ

วิศวะกรได้ทำการออกแบบไว้แต่แรกแล้วครับโดยที่ออกแบบให้
รถสามารถขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ระบบ ได้แก่ ระบบขับ 2 และระบบขับ 4 แต่ SUBARU มันได้ถูกออกแบบมาแต่แรกแล้วว่า จะต้องขับ 4 เท่านั้น
สังเกตได้จากการส่งกำลัง SUBARU จะมีการส่งกำลังผ่านเกียร์โดยตรง และ เป็น ขับ 4 ทันที แต่ในระบบอื่น เหมือนว่าการขับ 4 นั้น จะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับ หรือมีระบบ Lock up ไฟฟ้าในการสั่งการทำงานจากขับ 2 เป็นขับ 4 อีกที
ซึ่งข้อแตกต่างนี้ผมขอแยกระบบขับ 4 ออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ครับ

1.ขับ 4 พื้นฐานกระบะ และ PPV

ระบบนี้ง่ายครับ เพราะออกแบบมาให้ขับเคลื่อนล้อหลังอยู่แล้ว ถ้าอยากให้ขับเคลื่อนล้อหน้าก็เพียงแค่ใส่เกียร์เข้าไปเพิ่ม 4L 4H อีกทั้งส่วนมากจะมีแค่ Diff หลัง ไม่สามารถกำหนดว่ากระจายแรงหน้าหลังได้ แต่จะล็อกตายตัวที่ 50 - 50 และการแก้อาการต่างๆ ต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับก่อน ถึงสามารถส่งสัญญาณไปยังล้อได้
ข้อดีคือ มีอัตราแรงฉุดกระชากสูงเพราะสามารถทดเกียร์ได้ต่ำมาก King Of Off Road เลยทีเดียว
ข้อเสียคือ ส่วนมากขับ 4 ประเภทนี้มีไว้สำหรับลุย Off Road เป็นหลัก แต่ในการใช้สำหรับพื้นถนนที่เปียก น้ำขัง หรือถนนลื่น ยังไม่สามารถช่วยได้จริงเท่าไหร่ เพราะระบบตรวจจับต่างๆ ส่งไปแก้ช้าไปหน่อย (จากที่เคยเห็นจากอุบัติเหตุรถลื่นลงข้างทางก็ยังมีรถประเภทกระบะ PPV เขาใส่ขับ 4 วิ่งบนเขาสภาพถนนลื่นครับ อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าขับเร็ว หรือมั่นใจในรถตัวเองมากเกินไปหรือปล่าวนะครับ)

2.ขับ 4 พื้นฐานเครื่องวางขวางขับหน้า (แบบเก๋ง)

ระบบนี้ต่อยอดจากรถขับหน้า ส่วนมากขับสี่ประเภทนี้ความดีคงามชอบของมันคือสามารถแก้อาการหน้าดื้อ และสามารถลุยผ่านสิ่งกีดขวางงได้นิดหน่อยแต่ก็อย่างว่าแหละครับการส่งกำลังไปล้อหลังนั้นจะส่งไปก็ต่อเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับพบว่าผิดปรกติเท่านั้น ถึงส่งไป และการแก้อาการในช่วงความเร็ววสูงนั้น ส่วนมากจะล็อกการกระจายกำลังไว้ที่ 80 - 20 แต่ในส่วนการขับ Off Road จะกระจายกำลังที่ 60 - 40 อีกทั้งรถประเภทนี้ส่วนมากจะไม่มี Diff หน้า Diff หลัง ทำให้เมื่อลุย Off Road ท่ายากๆ (ล้อลอย 2 ล้อไขว้ หรือ ขึ้นเนินสูงๆ) ไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ

3.ขับ 4 พื้นฐานเครื่องวางยาวขับหลัง (แบบเก๋ง)

คล้ายๆข้อ 2 ครับแต่เปลี่ยนจากแก้หน้าดื้อเป็นแก้ท้ายปัด และล็อคกำลังคล้ายๆกัน

คราวนี้เข้าคำถาม แล้ว ช่วงล่าง SUBARU XV น้องเล็กสุด ต่างจาก WRX ยังไง ?
ตอบ หลักๆ ต่างกันข้อเดียวครับ "Centre Differential กระจายแรงหน้า หลัง"
พี่ใหญ่ WRX สามารถกระจายแรงหน้าหลังได้(ระบบ  DCCD) แตน้องเล็ก XV ไม่สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ต้องเสียใจครับเพราะเมื่อวิ่งทางปรกติ XV จะโดนล็อกการกระจายกำลังไว้ที่ หน้า 55 หลัง 45 ครับและจะกระจายแรงหน้าหลังอัติโนมัติ เมื่อรถตรวจจับว่ามีการขึ้นลงเนิน (yaw Sensor)

จากที่เล่ามาส่วนประกอบต่างๆนั้น ทำให้ SUBARU มันเหนือกว่าของคนอื่นยังไง เดียวลองดูกันครับ
คลิปที่ 1 ทดสอบระบบ VDC เทียบขัับ 4 ด้วยกันครับ

คลิปที่ 2 เหตุผลว่าทำไมขับ 4 ของ SUBARU ถึงเกาะกว่าครับ

คลิปที่ 3 การกระจายแรงหน้าหลัง และ Diff หน้าหลังครับ

คลิปที่ 4 การตรวจจับโดยระบบ VDC เพื่อแก้อาการสำหรับถนนลื่นครับ

คลิปที่ 5 Off Road XV VS DEFENDER

คลิปที่ 6 XV Off Road ในไทยครับ สังเกตล้อนะครับ ไม่มีอาการฟรีทิ้งเหมือนพวกกระบะเลยครับ


สุดท้ายนี้ผมอธิบายผิดตรงไหน ช่วยแย้งผมด้วยครับ เพราะผมก็เป็นเพียงผู้ใช้รถคนหนึ่ง ที่กว่าจะตัดสินใจซื้อรถ ก็ต้องซื้อรถที่ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งานของตนเองมากที่สุด

ขอบคุณครับ
2013 MIRAGE LTD
2015 XV

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 01:07:04 »
โอ้โห เห็นละชอบเลย

แต่ไม่ซื้ออยู่ดี 55+ ไม่สวยอ่าา

ออฟไลน์ kreaninw

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 254
    • อีเมล์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 01:09:08 »
คันต่อไปป้ายแดง ซูบารุเท่านั้น!!!

ออฟไลน์ CJ.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,944
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 01:15:41 »
โอ้โห เห็นละชอบเลย

แต่ไม่ซื้ออยู่ดี 55+ ไม่สวยอ่าา
2005 Jaguar XJ Super V8
2005 Mercedes-Benz C230 Kom. Sports Coupe
2011 Aston Martin DBS
2013 Jaguar XJL 5.0 V8 Portfolio
2017 Lexus RX200t Premium
2019 Honda CR-V 2.4S
2019 Bentley Continental GT W12
2021 Lexus IS300h Luxury
2021 Mercedes-Benz GLE 350de 4MATIC Exclusive
2021 Porsche 911 Carrera S

ออฟไลน์ watchakt

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 57
    • อีเมล์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 08:49:08 »
มีเงินจะไปสู่ขอ BRZ ก่อนเลย

ออฟไลน์ ktonja

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:10:06 »
ขอบคุณสพหรับข้อมูลครับ เดี๋ยวกลับมาอ่าน

ผมรู้แค่ว่า subaru ขับเคลือนทั้ง 4 ล้อตอลดเวลา

ส่วนคันอื่นขับ 4 ตามสภาพถนน
ถนนเรียบปกติก็ขับ 2
ทางชันถนนลื่นตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ถึงจะเปลี่ยนเป็นขับ 4

ออฟไลน์ shikima

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 277
    • CMDEVHUB
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:22:36 »
มีเงินจะไปสู่ขอ BRZ ก่อนเลย

รุ่นนี้ ขับหลังครับ
2010 - Mazda2 hatchback (DE 3rd Gen) - sold
2013 - Subaru XV - sold
2014 - Nissan Sylphy SV - sold
2016 - Subaru WRX (VA)
2016 - Subaru Forester (SJ) 2.0ip
2019 - Hyundai H1

ออฟไลน์ mongolias

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,364
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:30:51 »
ยิ่งอ่านยิ่งคัน

ออฟไลน์ I-PULSE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 977
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:34:54 »
ความรู้ทั้งนั้น ขอบคุณจขกท ที่รวบรวมนำมาเสนอครับ ของเขาดีจริงๆแหล่ะ แต่เปลืองและอืด

ออฟไลน์ starlight

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 492
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:44:24 »
ไร้ข้อสงสัยเกี่ยวกับสมรรถนะจริงๆ

แต่่มันติดตรงที่ว่า 0 บริการมันน้อยเสียจน ว้าเหว่ ไปตจว. เกิดมีปัญหาต้องลากกลับอย่างเดียว คงไม่สนุกเท่าไรนัก


ออฟไลน์ Wooddy144

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 21
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:52:17 »
SUBARU เป็นรถที่มีชื่อเสียงทางด้านขับ 4 มานานแล้วครับ
เป็นรถอีกยี่ห้อนึงที่น่าใช้ และมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ
แต่ปัญหาหลักในการทำตลาดกับไม่ได้อยู่ที่ตัวรถหรือคุณภาพรถ  แต่ปัญหาอยู่ที่ตัวแทนจำหน่าย และศูนย์บริการครับ
ถ้ารถขายได้เยอะมาก ศูนย์บริการต้องมีมากพอที่จะรองรับรถที่ขายออกไปด้วยครับ

ออฟไลน์ zapdos191

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 683
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:55:06 »
นึกว่าเป็นกระทู้ถาม กำลังจะเข้ามาช่วยตอบ อ่านแล้วไม่ช่วยละครับ ครบหมดแล้ว 5555+
.
มีคนหลายคนครับ เข้าใจว่าไอ้ขับเคลื่อน 4 ล้อ มันเอาไว้ลุยอย่างเดียว จริงๆไม่ใช่ครับ และโดยเฉพาะขับ 4 All time แบบนี้ มันช่วยเราได้เยอะนะครับ ตัวผมเองรอดตายเพราะไอ้ขับ 4 ของมันช่วยก็หลายรอบแล้ว หลายรอบในระดับที่ค่าตัวรถถือว่าคุ้มไปแล้วครับ กรณีที่ไม่จำเป็นต้องใช้ขับ 4 จริงๆคือขับในตัวเมืองอย่างเดียวในความคิดผมนะ ถ้าออกนอกเมืองทางหลวงนี่นานาจิตตังครับ แต่ส่วนตัวผมมีไว้ดีกว่าไม่มีครับ  8) 8)
-------- Toyota Vios 2003 --------
-------- Subaru WRX STi 2015 --------
-------- Honda Jazz GK5 --------
-------- BMW G20 330i --------
-------- Subaru Impreza WRX STi 2008 (GRF) --------
-------- Subaru Forester XT (SJG) MC --------

ออฟไลน์ ismael

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 982
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 09:55:45 »
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ
สำหรับระบบขับ4
น่าสนใจมากๆคับ

ปล.ว่าแต่มันอืดจริงปล่าวคับ?

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 685
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 10:05:25 »
ซู ออกแบบขับสี่กับทางเรียบเป็นหลัก ไม่ได้ทำสำหรับทางกันดาร

ภายหลังรถยกสูงขายดีเลยทำบ้าง แต่ระบบลุยมากๆไม่ได้
เครื่องแรงบิดน้อย กินน้ำมันมาก ตอนนี้มีดีเซล ออโต้แต่ไม่เอาเข้ามาขาย

ระบบช่วยไต่ ช่วยลงไฟฟ้า คือระบบคุมการจับเบรกทีละล้อแบบไฟฟ้า
สมัยก่อนที่เป็นกลไกอย่างเดียว จะใช้เกียร์กระปุกและฝีมือคนขับคุม
และซูไม่มีดิฟล็อค แต่ใช้เบรคไฟฟ้าแก้ พอแก้ขัดได้แต่ไม่ดีกว่า

ทางเจอทางโคลน กกอ้อ ยังไงออฟโรดแท้ก็ดีกว่า
ลำพังรีโว่ ไตตันมีดิฟล็อคหลัง ออโต้ ฟูลไทม์ถนนดำ รถถูกกว่า อะไหล่เยอะกว่า ก็สู้ลำบากแล้ว
ถ้าปาปอด ฟอร์ ใส่มาครบๆ แถมดิฟล็อคหน้าด้วย ซูเบนซินก็เกิดยาก อะไหล่เก่าน้อยกว่า ราคาไม่ถูกกว่า

แต่ใส่ของดีในราคาล้านต้นถึงกลางขายหลายยี่ห้อ คนซื้อจะได้มีตัวเลือก
ไม่ใช่มีแต่รถแพงๆ คันใหญ่ๆ ใช้ในเมืองลำบาก ถ้าซูจะสู้อย่ากลัวรวย
นำดีเซลออโต้มาขาย มีคลังอะไหล่ ถึงต้องสั่งอย่านานเกินสองสัปดาห์ รถจะขายดีกว่านี้
หัวตัดจะมาเยอะขึ้น อะไหล่เก่ามากขึ้น รถมือหนึ่งจะขายดีขึ้นเอง

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,997
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 10:06:48 »
SUBARU ถ้ามีเงินเหลือก็อยากมีใช้สักคันครับบอกตรงๆ ครับชอบระบบขับสี่ขับ

ออฟไลน์ mewzabahl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,621
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 10:46:54 »
คำว่ารถซูบารุ ช่วงล่างดี ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย  8) 8)

ออฟไลน์ thanakorn

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 218
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 11:07:40 »
ถ้านำตัวดีเซลเข้ามาขายจะเป็นรถที่น่าสนใจมากเพราะแรงบิดและค่าน้ำมันที่ถูกกว่า แถมดีเซลสูบนอนอยากลองขับมาก ยิ่งถ้าลดราคาเยอะๆแบบตอนนี้ใครก็ต้องเสี่ยงสนใจเหมือนตอนแคปติว่าออกแรกๆแน่เลย ซูเกลื่อนเมือง รถไม่สวยแต่ความสามาถรอบด้านขนาดนี้คันเดียวเที่ยวทั่วไทยเลย
ทุกวันนี้ยังอยากได้อยู่เลยติดแค่เบนซิลมันกินน้ำมันในเมืองแรงบิดมันน้อยทางไกลไม่กินเท่าไหร่แต่ดีเซลมันไม่ค่อยกินต่างกันเท่าไหร่ในเมืองนอกเมืองพอกัน

ออฟไลน์ Jhinz

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 161
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 11:12:04 »
ในเทสเหมือนมี bias เล็กๆเหมือนจะเลือกรถที่ไม่ผ่านทดสอบเลยยกเว้นซูบารุ สังเกตว่าไม่มีรถยุโรป crossover มาเทียบเลย เช่น VW Audi BMW MB Volvo Renault ฯลฯ (ถ้าจะบอกว่าราคาต่างกันเยอะ จะบอกว่ามันเฉพาะบ้านเราครับ ที่อื่นราคาต่างกันไม่มาก)

ส่วนเรื่องซูบารุยอมรับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับถ้าไม่ติดที่ราคา หน้าตา และศูนย์บริการ คงเลือก ForXT แทน CX-5 2.2AWD mc แล้วครับ
2005 Honda CRV 2.0 Gen2 (Sold)
2007 Toyota Camry 2.4V ACV40
2014 VW Tiguan 2.0 TSI R-Line (drive in CN)
2015 Volvo S60 (Sold)
2016 Mazda CX-5 2.2XDL mc

ออฟไลน์ JAMMAI

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 11:28:51 »
ในเทสเหมือนมี bias เล็กๆเหมือนจะเลือกรถที่ไม่ผ่านทดสอบเลยยกเว้นซูบารุ สังเกตว่าไม่มีรถยุโรป crossover มาเทียบเลย เช่น VW Audi BMW MB Volvo Renault ฯลฯ (ถ้าจะบอกว่าราคาต่างกันเยอะ จะบอกว่ามันเฉพาะบ้านเราครับ ที่อื่นราคาต่างกันไม่มาก)

ส่วนเรื่องซูบารุยอมรับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับถ้าไม่ติดที่ราคา หน้าตา และศูนย์บริการ คงเลือก ForXT แทน CX-5 2.2AWD mc แล้วครับ
คิดเหมือนกันครับ สังเกตดูคลิปการทดสอบที่ 4 ทุกคันจะหยุดที่กลางทางทดสอบ ยกเว้น Su จะเคลื่อนที่ต่อเนื่อง
 :-X :-X :-X

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,768
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 11:31:04 »
รีโว่ นี่ ขับ4 บังคับให้ลูกค้า ปรับเป็นระบบขับ4 อย่างน้อยเดือนละ 60 กม. หรือเปล่าไม่แน่ใจ

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 12:25:22 »
รีโว่ นี่ ขับ4 บังคับให้ลูกค้า ปรับเป็นระบบขับ4 อย่างน้อยเดือนละ 60 กม. หรือเปล่าไม่แน่ใจ
มันต้องใช้บ้างครับ  ไม่งั้นระบบเสียเข้าเกียร์โฟร์ไม่ได้เลย

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 12:52:59 »
ท้าวความก่อนครับจากกระทู้ที่ผ่านมาทำให้ผมสงสัยว่า
ตัวผมเองขับเจ้า SUBARU XV เอง แล้วผมรู้สึกว่ามันเกาะถนนมาก
มากกว่ารถขับ 4 อื่นๆที่เคยทดลองขับมา (ในที่นี้ CX-5 X-Trail นะครับ)
ผมไม่อยากว่าผมอวยเจ้า SUBARU XV มากเกินไป เลยหาข้อมูลประกอบนิดหน่อยครับ

อยากให้ตั้งข้อสังเกตครับ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร

จากรูปนะครับช่วงล่างที่เรียกชื่อเท่ห์ๆว่า "Symmetrical All Wheel Drive"
ประกอบด้วยองค์ประกอบ 4 ส่วนด้วยกันคือ
1.Front Differential ตัวกระจายแรงล้อคู่หน้า
2.Transmission ระบบส่งกำลัง หรือ เกียร์
3.Centre Differential กระจายแรงหน้า หลัง
4.Rear Differential ตัวกระจายแรงล้อคู่หลัง

และที่สำคัญเลยครับทำไมรถ SUBARU ถึงขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ไม่เหมือนระบบอื่น ที่ 4 เป็นบางเวลา หรือ 4 ไม่เกินความเร็วเท่านั้นเท่านี้
คำตอบก็คือ
เกียร์ครับ นี่คือเกียร์ ลูกเดียวกันที่อยู่ใน XV เป็นเกียร์ CVT

ดูสีแดงๆนะครับ สังเกตนะครับว่า แกนการหมุนส่งกำลังล้อหน้า กับล้อหลังเป็นแกนเดียวกัน ฉะนั้นถึงแม้จะขับถึง 200 มันก็ ขับ 4 ตลอดเวลาจริงๆครับ

เออ แล้วมันต่างกันยังไงกับระบบขับ 4 แบบอื่นหล่ะ?
คำตอบซ้อนคำตอบก็คือ

วิศวะกรได้ทำการออกแบบไว้แต่แรกแล้วครับโดยที่ออกแบบให้
รถสามารถขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ระบบ ได้แก่ ระบบขับ 2 และระบบขับ 4 แต่ SUBARU มันได้ถูกออกแบบมาแต่แรกแล้วว่า จะต้องขับ 4 เท่านั้น
สังเกตได้จากการส่งกำลัง SUBARU จะมีการส่งกำลังผ่านเกียร์โดยตรง และ เป็น ขับ 4 ทันที แต่ในระบบอื่น เหมือนว่าการขับ 4 นั้น จะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับ หรือมีระบบ Lock up ไฟฟ้าในการสั่งการทำงานจากขับ 2 เป็นขับ 4 อีกที
ซึ่งข้อแตกต่างนี้ผมขอแยกระบบขับ 4 ออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ครับ

1.ขับ 4 พื้นฐานกระบะ และ PPV

ระบบนี้ง่ายครับ เพราะออกแบบมาให้ขับเคลื่อนล้อหลังอยู่แล้ว ถ้าอยากให้ขับเคลื่อนล้อหน้าก็เพียงแค่ใส่เกียร์เข้าไปเพิ่ม 4L 4H อีกทั้งส่วนมากจะมีแค่ Diff หลัง ไม่สามารถกำหนดว่ากระจายแรงหน้าหลังได้ แต่จะล็อกตายตัวที่ 50 - 50 และการแก้อาการต่างๆ ต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจจับก่อน ถึงสามารถส่งสัญญาณไปยังล้อได้
ข้อดีคือ มีอัตราแรงฉุดกระชากสูงเพราะสามารถทดเกียร์ได้ต่ำมาก King Of Off Road เลยทีเดียว
ข้อเสียคือ ส่วนมากขับ 4 ประเภทนี้มีไว้สำหรับลุย Off Road เป็นหลัก แต่ในการใช้สำหรับพื้นถนนที่เปียก น้ำขัง หรือถนนลื่น ยังไม่สามารถช่วยได้จริงเท่าไหร่ เพราะระบบตรวจจับต่างๆ ส่งไปแก้ช้าไปหน่อย (จากที่เคยเห็นจากอุบัติเหตุรถลื่นลงข้างทางก็ยังมีรถประเภทกระบะ PPV เขาใส่ขับ 4 วิ่งบนเขาสภาพถนนลื่นครับ อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าขับเร็ว หรือมั่นใจในรถตัวเองมากเกินไปหรือปล่าวนะครับ)

2.ขับ 4 พื้นฐานเครื่องวางขวางขับหน้า (แบบเก๋ง)

ระบบนี้ต่อยอดจากรถขับหน้า ส่วนมากขับสี่ประเภทนี้ความดีคงามชอบของมันคือสามารถแก้อาการหน้าดื้อ และสามารถลุยผ่านสิ่งกีดขวางงได้นิดหน่อยแต่ก็อย่างว่าแหละครับการส่งกำลังไปล้อหลังนั้นจะส่งไปก็ต่อเมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับพบว่าผิดปรกติเท่านั้น ถึงส่งไป และการแก้อาการในช่วงความเร็ววสูงนั้น ส่วนมากจะล็อกการกระจายกำลังไว้ที่ 80 - 20 แต่ในส่วนการขับ Off Road จะกระจายกำลังที่ 60 - 40 อีกทั้งรถประเภทนี้ส่วนมากจะไม่มี Diff หน้า Diff หลัง ทำให้เมื่อลุย Off Road ท่ายากๆ (ล้อลอย 2 ล้อไขว้ หรือ ขึ้นเนินสูงๆ) ไม่สามารถผ่านไปได้ง่ายๆ

3.ขับ 4 พื้นฐานเครื่องวางยาวขับหลัง (แบบเก๋ง)

คล้ายๆข้อ 2 ครับแต่เปลี่ยนจากแก้หน้าดื้อเป็นแก้ท้ายปัด และล็อคกำลังคล้ายๆกัน

คราวนี้เข้าคำถาม แล้ว ช่วงล่าง SUBARU XV น้องเล็กสุด ต่างจาก WRX ยังไง ?
ตอบ หลักๆ ต่างกันข้อเดียวครับ "Centre Differential กระจายแรงหน้า หลัง"
พี่ใหญ่ WRX สามารถกระจายแรงหน้าหลังได้(ระบบ  DCCD) แตน้องเล็ก XV ไม่สามารถทำได้ แต่ก็ไม่ต้องเสียใจครับเพราะเมื่อวิ่งทางปรกติ XV จะโดนล็อกการกระจายกำลังไว้ที่ หน้า 55 หลัง 45 ครับและจะกระจายแรงหน้าหลังอัติโนมัติ เมื่อรถตรวจจับว่ามีการขึ้นลงเนิน (yaw Sensor)

จากที่เล่ามาส่วนประกอบต่างๆนั้น ทำให้ SUBARU มันเหนือกว่าของคนอื่นยังไง เดียวลองดูกันครับ
คลิปที่ 1 ทดสอบระบบ VDC เทียบขัับ 4 ด้วยกันครับ

คลิปที่ 2 เหตุผลว่าทำไมขับ 4 ของ SUBARU ถึงเกาะกว่าครับ

คลิปที่ 3 การกระจายแรงหน้าหลัง และ Diff หน้าหลังครับ

คลิปที่ 4 การตรวจจับโดยระบบ VDC เพื่อแก้อาการสำหรับถนนลื่นครับ

คลิปที่ 5 Off Road XV VS DEFENDER

คลิปที่ 6 XV Off Road ในไทยครับ สังเกตล้อนะครับ ไม่มีอาการฟรีทิ้งเหมือนพวกกระบะเลยครับ


สุดท้ายนี้ผมอธิบายผิดตรงไหน ช่วยแย้งผมด้วยครับ เพราะผมก็เป็นเพียงผู้ใช้รถคนหนึ่ง ที่กว่าจะตัดสินใจซื้อรถ ก็ต้องซื้อรถที่ตรงวัตถุประสงค์ในการใช้งานของตนเองมากที่สุด

ขอบคุณครับ
ถ้าเทียบกับขับสี่กระเทยเหล่านี้ของซู เหนือกว่าอยู่แล้ว
แต่ถ้าเทียบกับของเอเวอร์เรส ที่กระจายแรงตามสภาพถนนและการขี่ผมว่าของเอเวอร์เรสน่าจะดีกว่า คหสต.นะครับ ต้องรอผู้ใช้จริงมาไขข้อกระจ่าง

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 13:06:00 »
ซูบารุนี่สมกับเป็นาราชาทางฝุ่นจริงๆ ทำเอารถยี่ห้ออื่นๆเป็นของเด็กเล่นไปเลย อิอิ

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 13:11:15 »
ผมก็ว่าในคลิปมันดูลำเอียงนะ เหมือนเน้นจุดเด่นของซู ชูจุดด้อยของรุ่นอื่น ไม่เถียงว่าระบบขับสี่ของSubaruมันดีจริง แต่ไม่ได้ดูดีทุกด้านเหมือนในคลิปอะ ดูจากคลิปที่เป็นทางเนินลงมาเจอโค้งตัวS เหมือนรถแต่ละคันความเร็วไม่เท่ากันเลย

ออฟไลน์ min217

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 14:14:58 »
ขอบคุณมากครับได้ความรู้เพิ่มเติมเยอะเลยครับ

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,381
    • อีเมล์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 14:42:34 »
ไม่ลอง ไม่รู้ครับ
ผมใช้ Imprezza มา 5 ปี ขายไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพราะเริ่มเก่ามาก
ปัจจุบัน ใช้ V40 ทางโค้ง หรือ ออกตัวแรงๆเมื่อไหร่ คิดถึงอิม ทุกครั้ง

มีปัญญา จะไปหามาใช้อีกคันครับ

ออฟไลน์ CNX

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,300
    • อีเมล์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 14:57:41 »
รถสวย มีเอกลักษณ์ ราคายั่วใจ  :)

แต่รถแบบนี้ ถ้าตลาดไทย ได้เครื่องดีเซล แรงบิดรอบต่ำมาไว จะโดนใจมากกว่า 
ชอบแรงบิดดีเซล แต่ไม่ชอบกะบะ 8)  ;D  ::)
วิถีพอเพียง วิถียั่งยืน

ออฟไลน์ boogie2020

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,046
    • อีเมล์
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 15:33:37 »
แล้วถ้าไปเจอกับ Audi Quattro ละคับ
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------

ออฟไลน์ muying

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 16:09:33 »
ผมก็ว่าในคลิปมันดูลำเอียงนะ เหมือนเน้นจุดเด่นของซู ชูจุดด้อยของรุ่นอื่น ไม่เถียงว่าระบบขับสี่ของSubaruมันดีจริง แต่ไม่ได้ดูดีทุกด้านเหมือนในคลิปอะ ดูจากคลิปที่เป็นทางเนินลงมาเจอโค้งตัวS เหมือนรถแต่ละคันความเร็วไม่เท่ากันเลย

เขาเปรียบเทียบรถในคลาสเดียวกันนี่ครับ  ไม่ได้เลือกที่ระบบขับสี่คล้ายกัน  จะเอาเอฟเวอเรสมาเทียบมันก็เป็นมวยข้ามรุ่น


แต่ใจจริงก็ยากให้เขาลองเทียบดูเหมือนกันน่ะ  จะได้รู้ว่าใครดีกว่ากัน

ออฟไลน์ champyadme

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 214
Re: SUBARU ขับ 4 แตกต่างจากขับ 4 ทั่วไปอย่างไร
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 13, 2016, 17:23:23 »
แล้วถ้าไปเจอกับ Audi Quattro ละคับ

เสมอกันมั้งครับ เพราะทำงานแบบเดียวกันหนิครับ  :-X