โลกนี้เป็นอนิจจังครับคุณJIMMY มีเจริญก็ย่อมมีเสื่อม
เชื่อผมสิ คนลาวยุคนี้ฟุ้งเฟ้อขึ้นเยอะ ผมเองยังไม่คิดว่าสาวลาวจะนุ่งสายเดี่ยว หรือ เกาะอก เหมือนสาวไทยมาก่อนนะ ลองข้ามโขงไปเวียงจันทร์ แล้วเข้าpubลาว รับรองได้เห็นแล้วครับ
สาวลาวแต่ก่อนกาลนั้น คนโสดไว้ผมยาว คนแต่งงานแล้วเกล้าผมมวย ตอนนี้เจอแถวๆชนบทหรือในคนรุ่นก่อนๆครับ
ผมไม่ค่อยเชื่อน้ำมนต์ฝ่ายวัฒนธรรมของลาวหรอกครับ ขนาดเกาะอก สายเดี่ยวยังมีให้เห็นกันได้ ข้าราชการเงินเดือนไม่ถึง 2พันบาทไทย แต่มีปัญญาขับLand cruiser แค่ค่าน้ำมันก็เกินเงินเดือนแล้ว ไม่รู้รับเงินมาจากไหน พี่ชายข้ามโขงไปทำงานด้านชลประทานกับทางฝั่งโน้นประจำเจอมากับตัวเอง รู้แต่เพียงว่ามีรายได้พิเศษงอกมา
ที่ใดก็ตามที่ระบบทุนนิยมเข้าไป ที่นั่นความคิดอ่านของผู้คนจะเปลี่ยนไป
ถึงแม้ว่่าในช่วงสั้นๆที่ผมข้ามโขงไปเที่ยวและศึกษาวัฒนธรรมเขามา เขาอาจจะมีอะไรที่ดีกว่าเราหลายๆอย่าง เช่น ความสงบสุขในสังคมของเขา , ลูกหลานของเขาจะยากดีมีจน ทุกคนได้เรียนหนังสือหมด , คนจนนอกเมืองปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ไว้กินเอง , ( คนทำงานในเมือง แย่หน่อย ต้องซื้อกิน ) แต่สิ่งที่เขาลำบากกว่าเรา เช่น ค่าครองชีพสูง 100กีบ = 4บาท ( โดยประมาณ แล้วแต่ช่วง ) ของกิน เครื่องใช้ของลาว ไม่เคยลงท้ายด้วยเศษกีบ เศษสิบกีบ เพราะเงินที่เล็กที่สุดของเขาเท่าที่เห็นก็คือ แบงค์ 100 กีบ แปลว่าเขาต้องจ่ายเงินเป็นทวิของ100กีบ หรือ 4 บาท เช่น 4,8,12,16,20 บาทไทย แต่เรายังจ่าย 0.5 , 1 , 2, 3 บาทได้อยู่ ถ้าระบบทุนนิยมจากฝั่งเราเข้าไปทำให้เขาลุ่มหลงมัวเมาได้มากขึ้น เมื่อนั้นเขาจะลำบากในไม่ช้าครับ
ระบบการปกครองในลาว ถึงจะเป็นสังคมนิยม แต่ก็ให้สิทธิประชาชนมากทีเดียว ห้ามแค่เรื่องวิจารณ์หรือแสดงความเห็นทางการเมืองการปกครองเท่านั้น นอกนั้นไม่ห้ามอะไรเลย ( ขออย่าผิดกม.ก็แล้วกัน )
สังคมลาวเองก็ไม่ได้ถูกปิดผนึกปิดตายหรอกครับ อะไรใหม่ๆเข้ามาก็อาจจะรับเข้ามาได้ทั้งหมด
ระบบมือถือของลาวจะว่าไป ก็ไม่ใช่พี่ไทยหรือที่ไปลงทุน ผมซื้อบัตรเติมเงินของลาวเทเลคอม มีสัญญาณตลอดทางจากเวียงจันทร์ยันหลวงพระบางเลย
สิ่งที่ต้องทราบไว้เกี่ยวกับลาวก็คือ เขาปกครองเป็นแขวง แต่ละแขวงมีความเป็นอิสระต่อกัน และอาจจะคิดอ่านที่แตกต่างกัน มีนโยบายแตกต่างกันไป แต่ที่เวียงจันทน์นี่ ผมว่ามันก็เกินไปหน่อยครับ คนแก่ๆอย่างผมรับยากเหมือนกันนะ ทางหลวงพระบางอาจจะกวดขันเรื่องประเพณีนะครับ แต่เมืองอื่นๆอย่างวังเวียงนี่ พูดไปก็เท่านั้น มีโอกาสหาเวลาไปสัมผัสดูสิครับ
ทุกสิ่งมีเจริญ ก็มีเสื่อม เป็นอนิจจังทั้งสิ้น
สิ่งที่ครั้งหนึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องน่าละอาย กลับกลายเป็นเรื่องปกติ
ประเพณี วัฒนธรรมอันงดงาม กลับกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ น่ารำคาญ
สิ่งที่ทรามๆทั้งหลาย กลับกลายเป็นสิ่งที่งดงาม และนิยม
ครั้งหนึ่งในอดีต เราก็เอาใจใส่กับวัฒนธรรมของเราแบบที่ลาวเอาใจใส่ในขณะนี้นั่นแหละครับ แต่เมื่อนาฬิกาเดินไปหลายรอบ ปฏิทินถูกเปลี่ยนไปทุกปี อะไรต่อมิอะไรมันก็เปลี่ยนครับ
กม.ลามกอนาจารบ้านเรา บอกว่า สื่อหรือการแสดงที่เข้าข่ายลามกอนาจาร ประกอบด้วย 1. เห็นหัวนม หรือ 2. เห็นอวัยวะเพศ แค่นี้ก็ขำตายแล้วครับ สาวกลางคืนเธอถอดเสื้อ เอาสติกเกอร์ปิดหัวนม กลายเป็นคนหัวนมบอด แค่นี้ก็ไม่ผิดกม.แล้ว อุบาทว์ไหม? เต้าทั้งเต้า เต้นอยู่โทงๆ บอกว่าไม่อนาจาร อีกหน่อยนะคงจะใส่กางเกงในแบบ C-clip หนีบปิดฝีเย็บไปเกือบถึงหัวเหน่า แค่มองไม่เห็นอวัยวะเพศก็ไม่ลามกแล้วเช่นกัน กร๊ากกกกกกกก คิดตามผมสิ แล้วจะเริ่มแก่แบบผม ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แก่แล้วครับ มองอะไรบนวัฏจักรแห่งอนิจจัง
ผมเชื่อว่าสุดท้าย อะไรต่อมิอะไรก็ต้านแรงแห่งเวลาไม่ได้
พลังแห่งกิเลส ( โลภ โกรธ หลง ) มันมีแรงมหาศาลครับ และมันผลักทุกอย่างในโลกนี้ให้สั่นไหวได้เสมอๆ
ลาวก็ไม่ได้อยู่เหนือข้อยกเว้นในกฏแห่งโลก กฎนี้ไปได้หรอกครับ