เติมลมยางรถยนต์แบบไหนกันครับ ธรรมดาหรือไนโตรเจน

Trafalgar

ผมใช้ไนโตรเจน แต่อยู่ต่างจังหวัดหาที่เติม ( ฟรี ) ยาก  ;D
- 1994 Toyota Corolla AE101 1.6 4A-FE MT
- 1995 Honda Civic EG 1.5 D15B AT
- 1996 Mitsubishi Lancer Evolution IV 2.0 4G63T MT
- 2005 Toyota Hilux Vigo Cab 2.5G 2KD-FTV MT
- 2005 Toyota Fortuner 3.0V 1KD-FTV AT
- 2005 MINI Cooper R50 1.6 AT
- 2013 Honda City 1.5 L15A7 AT



Tien.W

หาเติมยาก ก็ลมธรรมดา แล้วเช็คให้บ่อยหน่อย แค่นั้นก็พอครับ



promt

ตะก่อนเห่ออยู่แป้บ ๆ

แบบ มโน ไปเอง ไนโตรเจนดีแบบโน้น ดีแบบนี้ นิ่ม เงียบ ไม่เติมบ่อย

เลยไปถามร้านว่า มีถังไนโตรเจนไหม

คำตอบคือ ไม่มี กรองเอา ได้ไนโตรเจน

นี่กุสอนวิทยาศาสตร์นะ กรองอากาศ จะได้ไนโตรเจนบริสุทธิ์ได้ไง
นึกว่าจะเอาถังไนโตรเจน มาเติมให้เลย

หลังจากนั้นเติมอากาศธรรมดา
ยางใหม่ นิ่ม เงียบ ไม่เติมบ่อย เหมือนกัน

เติมไนโตรเจน แล้วมโน เอาเอง เป็นคำขายหลอกๆ

ประมาณกล่องกรองไฟ
ติดแล้ว วิ่งดีขึ้น, แอร์เย็นขึ้น, รถแรงขึ้น, ประหยัดขึ้น ฯลฯ



akewizard

รายการ Fifth Gear เคยเอายางรถเติมลมธรรมดากับยางรถเติมไนโตรเจนมาทดสอบเทียบกันในสภาวะต่างๆสำหรับการขับขี่ทั่วไป
แล้วพบว่า...........ไม่ต่างกันครับ

มันจะมีผลบ้างในเรื่องของการซึมของลมตามธรรมชาติ ซึ่งไนโตรเจนจะซึมน้อยกว่าลมปกติ พูดง่ายๆคือไม่ต้องเติมลมบ่อยเท่ากับลมปกตินั่นเอง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 21, 2016, 22:50:32 โดย akewizard »



NONT4477

ไนโตรเจนในอากาศมีอยู่ 78% โดยประมาณ
ผมคงไม่จ่ายเงินเพื่อเติมมันหรอกครับ แต่ถ้าฟรีก็เติมนะ ;D
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



Tan Int

ไนโตรเจนในอากาศมีอยู่ 78% โดยประมาณ
ผมคงไม่จ่ายเงินเพื่อเติมมันหรอกครับ แต่ถ้าฟรีก็เติมนะ ;D

คิดแบบนั้นเหมือนกันครับ 5555 ต่างจังหวัดบางทีเติมครั้งละ 200 ก็บาย ปกติก็ได้
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)



tierak

รายการ Fifth Gear เคยเอายางรถเติมลมธรรมดากับยางรถเติมไนโตรเจนมาทดสอบเทียบกันในสภาวะต่างๆสำหรับการขับขี่ทั่วไป
แล้วพบว่า...........ไม่ต่างกันครับ

มันจะมีผลบ้างในเรื่องของการซึมของลมตามธรรมชาติ ซึ่งไนโตรเจนจะซึมน้อยกว่าลมปกติ พูดง่ายๆคือไม่ต้องเติมลมบ่อยเท่ากับลมปกตินั่นเอง


คงตามนี้แหละครับ อัตราการซึมน้อยกว่า กับเวลาวิ่งทางไกลแล้วความดันไม่เพี้ยนจากเดิมมาก



Pegasus7700

ผมเติมไนโตรเจนแทบทุกคันสม่ำเสมอ

ยืนยันว่า. ต่างกับเติมมลมธรรมดา แบบรุ้สึกได้

ไม่มีหลักวิทยาศาสตร อะไร. แต่แชร์ประสบการที่ใช้บ่อย  แล้ววันนึงเติมลมปกติ รุ้สึกได้ว่ามันต่าง
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



NONT4477

ลองดูคลิปนี้ครับ
อธิบายได้ดีและยืนยันผลการทดลองของ Fifth Gear
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^



Nutcracker

เติมไนโตรเพราะฟรีและมีคนเติมให้,อยู่ข้างบ้าน,เครื่องเติมดูใหม่มาตรฐานดีเลยเติมครับ
เติมตามปั้มเองบางทีไม่มั่นใจว่าตรงรึเปล่าเท่านั้นเอง จะให้พกหัววัดแรงดันก็ขี้เกียจ
ส่วนไนโตรถือเป็นของแถม

ส่วนไนโตรซึมช้ากว่ายืนยันว่าจริงครับผมมีรถจอดเก็บจากเติมทุก1อาทิตย์เป็นเดือนละหนครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2016, 01:16:52 โดย Nutcracker »



Pegasus7700

รถแข่ง รถที่เน้นการขับขี่ เครื่องบินหรือรถที่เน้สมรรถนะมักเติมไนโตรเจน
เพราะยางรถพวกนี้อยู่ภายใต้สภาพที่มีอุณหภูมิความร้อนสุงและรุนแรงแปรผันตามการขับขี่

การเติมไนโตรเจนช่วยให้การ"ควบคุมแรงดันลมยางที่ดีกว่า การเพิ่มอุณหภูมิ การบีบอัดอากาศ ความชื้นและปริมาณความชื้นอาจแตกต่างกัน"

ซึ่งปริมาณความชื้นในยางทำให้เกิดอุณหภูมิของยางที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่ไนโตรเจนเนี่ย.  Factor พวกนั้นไม่มีผล.

ดังนั้นหากจะบอกว่า เติมลมปกติ ไม่ต่างกับ เติมไนโตรเจน. จะขัดกับข้อเท็จจริงนี้

อย่างไรก็ตาม. ผมคิดว่า. การเติมไนโตรเจนได้ผลดีกว่าเติมลมปกติในแง่
- คนที่ขี้เกียจมโน.  ขี้เกียจก้มไปดูเชคลมยาง เติมในโตนเจนไม่ต้อฃงกังวล เพราะแรงดันคงที่แน่นอนกว่า
- มีรถที่ขับแรงเร็ว ซิ่งบ่อย.
- มีรถหลายคัน รถที่จอด ขับไม่บ่อย.
น่าจะมีประโยชน์กว่าเติมลมปกติ.
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22



ps000000

ตลอดยี่สิบกว่าปี ผมเติมเอง มีปั๊มลมติดบ้านตลอด 8)



boogie2020

อากาศปกติ มี nitrogen 78%  oxygen 21% argon 1%

ที่บอกว่าลมยางไนโตรเจนมีความดันเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าลมธรรมดา ...มันก็ต่างกันแค่ 1/5 เองอะ เพราะส่วนที่ต่างคือ oxygen ที่ไม่ใช่ก๊าซเฉื่อย  เท่ากับว่า ถ้าอุณภูมิยางเพิ่มขึ้น 10 องศาสำหรับยางลมธรรมดา  ยางเติมไนโตรเจนจะเพิ่มขึ้นแค่ 8 องศา    ....แ่ละนี่ยังไม่รวมว่า เจ้าเติมไนโตรเจนตามร้านเนี่ย มันก็ไม่ได้ 100% นั่นก็เท่ากับว่า ส่วนต่างที่ได้จะยิ่งน้อยลงกว่านี้อีก


ถ้าคนที่คิดว่าส่วนต่างนี้มีความหมายกับชีวิต ก็ตามสบายเลยคับ

ps. สำหรับรถแข่ง ไม่ว่าอะไรที่มันทำให้เร็วขึ้นได้ เขาก็เอาหมดแหละคับ  ขัดรถเงาแว้บๆ  ทำให้รถเร็วขึ้น 0.05 วิ ต่อรอบก็ยังต้องทำ
-----------------------------------------------------------
There is no spoon
-----------------------------------------------------------



Polonium

ตะก่อนเห่ออยู่แป้บ ๆ

แบบ มโน ไปเอง ไนโตรเจนดีแบบโน้น ดีแบบนี้ นิ่ม เงียบ ไม่เติมบ่อย

เลยไปถามร้านว่า มีถังไนโตรเจนไหม

คำตอบคือ ไม่มี กรองเอา ได้ไนโตรเจน

นี่กุสอนวิทยาศาสตร์นะ กรองอากาศ จะได้ไนโตรเจนบริสุทธิ์ได้ไง
นึกว่าจะเอาถังไนโตรเจน มาเติมให้เลย

หลังจากนั้นเติมอากาศธรรมดา
ยางใหม่ นิ่ม เงียบ ไม่เติมบ่อย เหมือนกัน

เติมไนโตรเจน แล้วมโน เอาเอง เป็นคำขายหลอกๆ

ประมาณกล่องกรองไฟ
ติดแล้ว วิ่งดีขึ้น, แอร์เย็นขึ้น, รถแรงขึ้น, ประหยัดขึ้น ฯลฯ
เค้าใช้กรองเอาจริงๆครับ คือมันจะมีเยื่อเลือกผ่านที่ยอมให้ไนโตรเจนกับออกซิเจนผ่านได้ไม่เท่ากัน จะได้ไนโตรเจนบริสุทธ์กับอากาศส่วนที่เหลือที่มีไนโตรเจนติดไปด้วยเยอะเลย

ส่วนประเด็นเรื่องเติมมไนโตรเจนส่วนตัวผมไม่เติมนะ ผมซื้อคอมเพรสเซอร์ของมิชลินติดรถแทน จะเติมบ่อยแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องสนใจจะซึมเร็วซึมช้า
ส่วนเรื่องที่ไนโตรเจนรักษาสภาพยาง ผมไม่รู้นะ แต่ผมมอว่ายางข้างนอกก็ดดนลมเหมือนกัน โดนแดดอีก มันเสื่อมก่อนยางข้างในอยู่แล้วล่ะ



norachon

ของฟรีไม่มีหรอก  เสียตังมีเยอะ



peterW

เดิม ผมก็ไม่เคยเชื่อครับ ว่ามันต่าง

แต่หลังจาก ไปเติม เพราะ
ร้าน B เร็ว ขึ้นโปร  เติม 100 บาท 4 ล้อ เหลือ 25 บาท/ล้อ เติมฟรี ทุกสาขา 6 เดือน ทั่วประเทศ
ก็เลยไปลองดูซักหน่อย

ปรากฎว่า ต่างแบบรู้สึกได้  วิ่งถนนเรียบ เฉยๆ  แต่วิ่งผ่านรอยต่อถนน สะพาน จะออกโทนนุ่มขึ้น ไม่แหลมกระแทก  เวลาขับผ่านที่ขระขรุ หลุมบ่อ จะออกนุ่มขึ้นกว่าเดิม เวลาจั้มขึ้นสะพาน ก็ดีขึ้น ยางเป็น Pilot 3st  เติมลมยางเท่าตอนลมธรรมดา

แต่เอาอีกคัน SUV ไปเติม ยางเป็น Bridgestone ECO แทบไม่ต่าง ดีขึ้นนิดเดียว

เลย สรุปไม่ได้ เติม nitrogen แล้วดีขึ้นจริงไหม หรือ อยู่ที่ชนิดของยางด้วยหรือเปล่า



ฟง อวิ๋น

เติมลมธรรมดา และซื้อปั๊มลมเสียบที่จุดบุหรี่เอาไว้เติมลมเล็กๆน้อยๆครับ 2-3 เดือนจะไปเติมที่ปั๊มทีนึง
Isuzu SLX, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 I, Mazda2 II, D-Max, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer II, Lander III, Ranger, XL7, Forester SK, Swift, Stargazer, Aion V



prayut

มองข้อดีหลัก ๆของการเติมลมยางด้วยไนโตรเจน คือ

-ไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉี่อย โมเลกุลใหญ่ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวช้ากว่า
  เมื่อนำมาเติมลมยางทำให้เกิดการรั่วซึมน้อยกว่าลมยางปกติ ถึง 6 เท่า
  ทำให้ไม่ต้องเติมลมยางบ่อย เหมาะกับคนไม่ว่างเอารถไปเติม

-ถ้าใครมีปั้มลม จะทราบว่าต้องคอยระบายน้ำทิ้งจากตัวปั้ม
  ดังนั้น เมื่อเราเติมลมยางแบบปกติ ก็จะได้ทั้งลมและน้ำเข้าไปในล้อยางเรา
  ยามรถวิ่ง ความร้อนที่สะสมในยางก็จะมากขึ้น จนทำให้น้ำบางส่วนกลายเป็นไอ
  ส่งผลให้แรงดันลมยางสูงขึ้น ไม่สม่ำเสมอ
     แต่ภาวะนี้จะไม่เกิดกับไนโตรเจน เพราะตัวมันมีความชื้นน้อยมาก
  % ของไนโตรเจนที่แนะนำเติม ต้องมีความบริสุทธิ์อย่างน้อย 93% ขึ้นไป
  ถ้าตัวเลขต่ำกว่านี้ ก็จะไม่ได้ประโยชน์จากการเติมไนโตรเจนเท่าที่ควร



SLuang

ผมลองเติม อยู่สองครั้ง  เมื่อประเมินทุกอย่างอย่างรอบด้านแล้วจากนั้น ไม่ไขว่คว้าหามาเติมอีกเลยครับ

เพราะเติมแบบลมปกติที่ทำกันมานานนับศตวรรษ  มันก็ใช้งานได้ไม่ส่งผลเสียใดๆ  ที่สำคัญมันมีให้เติมฟรีๆ  กันทั่วทุกแห่งหน
ใช้มา 3 คัน วิ่งมาไม่น้อยกว่า 7 แสน กม. (ไม่นับสมัยวัยรุ่นใช้มอไซด์อีกนะ) ก็วิ่งมาได้ แถมยังวิ่งกันทั่วโลกอีกนะ

สิ่งสำคัญเกี่ยวกับลมยาง และยาง ก็คือ ให้อยู่พิกัดใช้งานปกติ ไม่อ่อน ไม่แข็ง จนเกินไป  และยางอยู่ในสภาพดี ก็เพียงพอแล้วครับ 

ต่อให้ลมข้างในวิเศษเพียงใด แต่ถ้ายางหมดสภาพก็เปล่าประโยชน์  อยากให้คำนึงแบบนี้มากกว่า

ปล. ใครที่เติมลมไนโตรเจน ตลอดนั้น  อย่าลืมไปดูถังเก็บเขาหน่อยนะ  มันไนโตรเจนกี่ % กันแน่  เผลอปั้มลมเติมให้ก็เป็นได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2016, 16:11:54 โดย SLuang »



samaklen

เคยไปยืนดูเครื่องเติม ที่ร้านเขาซื้อมาใหม่
มีตัวเลขดิจิตอล บอก % ของการแยกไนโตรเจน
ดูเหมือนเลขจะเปลี่ยนไปมา ในช่วง 90-98%
เลยสงสัยเหมือนกันว่า เขาแยกกันยังไง
เท่าที่รู้ การแยกในโตรเจนออกจากอากาศธรรมดา
ต้องใช้การลดอุณหภูมิลงมากพอสมควร



Polonium

เคยไปยืนดูเครื่องเติม ที่ร้านเขาซื้อมาใหม่
มีตัวเลขดิจิตอล บอก % ของการแยกไนโตรเจน
ดูเหมือนเลขจะเปลี่ยนไปมา ในช่วง 90-98%
เลยสงสัยเหมือนกันว่า เขาแยกกันยังไง
เท่าที่รู้ การแยกในโตรเจนออกจากอากาศธรรมดา
ต้องใช้การลดอุณหภูมิลงมากพอสมควร
การแยกแบบที่คุณเข้าใจคือใช้การกลั่นครับ แต่มีเทคโนโลยีอื่นอีกที่เหมาะสมกับการผลิตไนโตรเจนประมาณน้อยๆมากกว่าเช่นการใช้เยื่อเลือกผ่าน หลักการก็คือโมเลกุลของไนโตรเจนกับก๊าซอย่างอื่นมีขนาดต่างกัน เค้าก็ผลิตเยื่อเลือกผ่านให้มีรูที่เหมาะสม ก็จะกรองเอาไนโตรเจนออกมาได้ครับ



kpar

ผมเคยยางแตกครับ มาเร็วเข้าโค้งเจอหลุมที่มีเหล็กเส้นอยู่ แต่โชคดีที่เป็นไนโตรเจน ยางจะไม่ระเบิดเสียงดัง แต่สภาพยางนี่ฉีกใหญ่มาก คิดว่าถ้าเป็นลมธรรมดาคงระเบิดเสียการทรงตัวไปแล้ว



Darkart

เติมลมไนโตรเจน ดีกว่าลมธรรมดา พอรู้สึกความแตกต่างครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์



madboy

ผมไม่เติมอ่ะครับ ขี้เกียจหาที่เติม ลมธรรมดาสะดวกกว่า

ปล.วิ่งสนามผมก็ลมธรรมดา ตรวจสอบก่อน/หลัง วิ่งแค่นั้นครับ  :o



SM.

ธรรมดาครับ ใช้ง่าย เติมง่าย



No Trespassing

ลมธรรมดาก็เกินพอครับ รถผมแค่รถบ้านๆ วิ่งไม่เกิน 250 กม/ชม

จริงๆจะเติมก็ได้ แถมเป็น Nitrogen แท้ๆอัดถังอีกต่างหาก เพราะต้องเอาไว้เติมยางเครื่องบิน แถมหัวเติมก็เหมือนกันด้วย

แต่ไม่เอาครับ ใช้ลมธรรมดาแบบนี้ละ หาเติมง่ายดี



promt

มองข้อดีหลัก ๆของการเติมลมยางด้วยไนโตรเจน คือ

-ไนโตรเจนเป็นก๊าซเฉี่อย โมเลกุลใหญ่ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวช้ากว่า
  เมื่อนำมาเติมลมยางทำให้เกิดการรั่วซึมน้อยกว่าลมยางปกติ ถึง 6 เท่า
  ทำให้ไม่ต้องเติมลมยางบ่อย เหมาะกับคนไม่ว่างเอารถไปเติม


N2 เล็กกว่า O2 ครับ
N2 เป็นก๊าซเฉีื่อย (N2=100%) เราใช้สมบัติข้อนี้ข้อเดียวที่ทำให้มันดีกว่า อากาศ ทั่วๆ ไป (N2=78%) และโฆษณาจนทำให้ผู้ใช้หลงทาง



tarahlm

รถใช้งานทั่วไป เติมแค่ลมธรรมดาก็พอ(์N2 78%) ไม่คุ้มค่าถ้าต้องเสียเงินเติมลมไนโตรเจน(N2 >90%)

แต่ถ้าได้เติมฟรี หรืออยู่ในโปรฯตอนเปลี่ยนยางล้อรถ ก็เติมไปเถอะ


แบบที่หลายท่านข้างบนบอกนั่นแหละครับ
ก๊าซไนโตรเจน เฉื่อย ไม่ค่อยทำปฎิกิริยากับสารอื่นภายใต้แรงดันและอุณหภูมิปกติทั่วไป

แต่คุณสมบัติสำคัญของก๊าซไนโตรเจน(บริสุทธิ์)อันหนึ่งคือ ค่อนข้างคงที่ ไม่ค่อยมีการขยายปริมาตรหรือหดตัวลดปริมาตร
เมื่อเปรียบเทียบกับอากาศธรรมดา

ในอากาศธรรมดามีความชื้น(น้ำ) ดั่งที่เราเคยทราบกัน
เมื่อน้ำโดนความร้อนกลายเป็นไอปริมาตร/แรงดันเพิ่มมากจนเอาไปขับดันรถจักรไปน้ำได้เลย
กลับกันไอน้ำเมื่อกลั่นเป็นน้ำ ปริมาตร/แรงดันจะลดลงมากมาย

ดังนั้นลมที่ดีที่เติมในยางล้อรถแข่ง ในยางล้อเครื่องบิน ต้องการความแม่นยำคงที่ของแรงดันลมยางสูง
ไม่แปรเปลี่ยนตามอุณหภูมินัก ก็ต้องปราศจากไอน้ำ/ความชื้น
ก๊าซไนโตรเจน100% จึงเป็นทางเลือกที่ง่ายและราคาถูก

(นอกจากนี้ถ้ามี O ออกซิเจน ซึ่งจะจับกับH ไฮโดรเจนเป็นน้ำนั้น
ตัวออกซิเจนจะทำให้เกิดปฎิกริยาออกซิเดชั่นเกิดการเสื่อมของสารหลายๆอย่าง
แต่คงไม่ทันทำความเสียหายกับโครงสร้างลวดโลหะของยางรถ
น่าจะครบกำหนดเปลี่ยนยางตามอายุใช้งานเสียก่อนมากกว่า)

สรุปสุดท้ายว่า รถบ้านๆทั่วไปไม่จำเป็นถึงขั้นต้องเสียเงินเติมลมไนโตรเจน
ยกเว้นเพื่อสบายใจ เสริมความมั่นใจกว่า


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 22, 2016, 16:31:33 โดย tarahlm »



franklnwna

พอดีเจอในเฟสมาครับ แต่ส่วนตัวใช้ลมธรรมดาเพราะไม่เสียเงิน เข้ามาอยากรู้ด้วยคนครับ :D



J_Serie5

เติมลมธรรมดาครับ แต่ถ้าขี้เกียจเติมลมบ่อยๆก็เติมไนโตรเจนครับ เพราะอัตราการซึมออกน้อยกว่าลมธรรมดา ส่วนเรื่องอื่นๆพอๆกันครับ