ผู้เขียน หัวข้อ: มีรถแต่ไม่มีเงินเก็บ กับ มีเงินเก็บแต่ไม่มีรถ เลือกแบบไหนครับ  (อ่าน 6993 ครั้ง)

ออฟไลน์ เซลล์ขายรถ

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 704
  • เซลล์ขายรถจริงๆนะครับ
จับมือสองเงินสด เก่าหน่อยถ้าเล่นรถเป็น คือคำตอบครับ มีทั้งเงินทั้งรถ
ต้องดันยอดเดี๋ยวเจอโกฮังจัดการ :(

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,407
มีเงิน ยังไงก็ดีกว่าครับ ต่อไปจะทำอะไรก็ง่ายกว่า

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
เพื่อนผมบอกว่า มีรถขับ ก็ต้องมีเงินสำรองติดตัวไว้อย่างน้อย 10,000 เผื่อเหตุฉุกเฉิน เช่นรถเสียหรืออุบัติเหตุ

แต่ผม ตอนแรกคิดว่ามีรถไว้ก่อนดีกว่า สะดวกกว่า แต่พอผ่อนไปแล้วเป็นแบบนี้ไงครับ ไม่เหลือเงินเก็บ ค่าผ่อนรถ รวมค่าน้ำมันก็หมื่นกว่าๆ แล้ว พอวันหยุด เพื่อนชวนไปเที่ยว เอารถไปกันคนละคัน ไปกับเพื่อนไม่ได้เพราะไม่มีงบให้เที่ยวเตร่ หลังจากผ่อนรถคันนี้เสร็จ ผมมีโครงการว่าจะผ่อนบ้าน ต้องการย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่หลังปัจจุบัน แต่พ่อกับแม่ผมมาย้ำว่า ไม่ได้ ต้องช่วยพ่อผ่อนบ้านหลังปัจจุบันให้หมดก่อน เพราะหลังจากพ่อเกษียณแล้วจะยังเหลือผ่อนอีก 5 ปี ถ้าผมไปซื้อผ่อนบ้านใหม่ แล้วบ้านหลังเดิมถูกยึด พ่อกับแม่และน้องก็ต้องย้ายไปอยู่ด้วยที่บ้านที่ผมซื้ออยู่ดี

อีกบทเรียนนึงสำหรับข้อแรก (มีรถแต่ไม่มีเงินเก็บ) คือหลังจากที่ผมมีรถขับแล้ว คิดว่าตัวเองเท่ เหมือนยกระดับภาพลักษณ์ขึ้นมา ทำให้ผมกล้าจีบสาวที่มีรถ แต่พอจีบไปได้สักพัก สาวคนนั้นบอกกับผมว่า อย่างผมไม่ควรมีรถขับในตอนนี้ คือผมกับเธอขับรถราคาเท่าๆ กัน แต่ฐานะทางบ้านต่างกันพอสมควร คือผมผ่อน แต่เธอพ่อแม่ซื้อให้ด้วยเงินสดเลย เธอเลยทั้งมีรถขับและมีเงินเก็บไปพร้อมกัน ต่างจากผมที่มีรถแต่ไม่มีเงินเก็บ แถมยังมีภาระรออยู่อีก
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ Envil

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 294
    • อีเมล์
3ปีก่อนผมพบกับคำถามนี้ในชีวิตเลยครับ แต่ไม่เหมือนกันสักทีเดียว
คุณพ่อให้งบ เล็ง328i แต่ตัดใจไปซื้อS60ครับ งบที่เหลือนำไปทดลองลงทุนส่วนตัวและเช่าที่
สรุป คิดไม่ผิดครับ ถ้าไม่"เหลือ"จริงๆ ใช้เป็นแค่พาหนะก็โอเคแล้วครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
มันต้องดูความจำเป้นในการใช้รถครับ ถ้าไม่ได้จำเป็น ที่ทำงานใกล้ BTSถึง ผมคงไม่ซื้อ
แต่ถ้าเป็นเซล หรือมีกิจการส่วนตัว ยังไงรถมันก็สำคัญมากๆ ยามฉุกเฉินแค่วินาทีเดียวก็ตัดสินชีวิตเราได้
จะไปมัวรอเรียกรถ ผมว่ามันก็ลำบากนะ

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
ผมเลือกมีเงินเก็บครับ
ถ้าไม่มีเงิน ชีวิตคุณจะทำอะไรไม่ได้สักอย่าง บางครั้งจะกินยังไม่มีเลย
ไม่มีรถแต่มีเงิน ทางออกมีเยอะครับ

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
ไม่น่าจะต้องมาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนะครับ   เราสามารถมีรถได้ในหลากหลายราคา  ถูก แพง มือหนึ่ง มือสอง กระทั่งมอเตอร์ไซค์  ในเมืองไทยยังไงก็ควรมีรถ  ต่อให้อยู่คอนโดติดรถไฟฟ้าก็เถอะ 

ออฟไลน์ SZG

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 118
    • อีเมล์
ชีวิตเราครับ ประหยัดและแน่วแน่ ไม่ต้องไปตามคนอื่น น้องเพิ่งทำงาน จงขยันทำงานแล้วก็มองหาโอกาสต่อไป รายได้จะเพิ่มพูนขึ้นตามกาลเวลา
โดยทั่วไปแล้ว พอเริ่มตั้งตัวได้ ผู้ชายเราจะซื้อรถก่อน เพราะเราใช้วิ่งหาโอกาส แล้วก็ซื้อบ้านก่อนแต่งงานเมื่อลงหลักปักฐาน

คนออกรถป้ายแดง ส่วนใหญ่ทรัพย์สินจะติดลบนะครับ ไม่ได้ร่ำรวยอะไรหรอก แค่เครดิตดี
แต่ถ้าจำเป็นต้องซื้อรถและเป็นหนี้ แนะนำว่ามีกำลังซื้อ class ไหน ให้ลบลงมา 1-2 class จากรถเก๋ง อาจจะเหลือแค่รถเครื่อง แต่ชีวิตจะเป็นสุข จะมีทั้งรถ ทั้งเงินเก็บ

lesson learn นะครับ ตอนนี้พี่อายุ 37 ตอนพี่เริ่มตั้งตัวได้ แล้วผ่อนรถหมด พี่ก็หาเรื่องจะซื้อรถใหม่ให้ได้ โชคดีว่ารุ่นที่อยากได้มานานตกรุ่น พอตัวใหม่ออกมาก็ไม่ถูกใจ เลยตัดสินใจว่าเก็บเงินไว้ดีกว่า

ก็ตัดสินใจไม่ผิดครับ หลังจากน้น พี่ยังขับคันเดิมแต่ไม่ต้องผ่อนมา 3 ปีแล้ว รวมถึงประหยัดเรื่องอื่นๆด้วย บัตรเครดิตจ่ายได้เต็มตลอด บ้านก็กลบไปได้เยอะ เงินเก็บจากไม่มี ก็เริ่มดูดี ชีวิตเริ่มมั่นคง

ตอนนี้พี่ก็ยังใช้รถคันเดิมอยู่ ซ่อมบ้าง แต่ซ่อมเป็น คงใช้ไปให้ครบ 10 ปี แล้วเปลี่ยนเป็นรุ่นเดิม โฉมใหม่ เพราะไม่ได้มีความต้องการมากมายอะไร
ครบ 10 ปีผ่านไป เงินเดือนขึ้นมาเกือบสองเท่า บ้านคงจะกลบหมดแล้ว แต่ซื้อรถราคาเท่าเดิม เงินก็คงไปนอนอยู่ในบัญชี (ถ้าไม่โดนเลออฟซะก่อน 5555)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 04, 2016, 00:03:41 โดย SZG »

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
มันต้องดูความจำเป้นในการใช้รถครับ ถ้าไม่ได้จำเป็น ที่ทำงานใกล้ BTSถึง ผมคงไม่ซื้อ
แต่ถ้าเป็นเซล หรือมีกิจการส่วนตัว ยังไงรถมันก็สำคัญมากๆ ยามฉุกเฉินแค่วินาทีเดียวก็ตัดสินชีวิตเราได้
จะไปมัวรอเรียกรถ ผมว่ามันก็ลำบากนะ
เห็นด้วยตามนี้ครับ
ของผมตอนนี้ก็อยากซื้อรถมาก บริษัทมีสวัสดิการให้กู้ แทบไม่เสียดอก  เงินเดือนก็ผ่อน CX-5 ได้เหลือๆ ถึงจะผ่อนคอนโดอยู่ด้วยก็ตาม

สุดท้ายก็กัดฟันไม่ซื้อครับ เพราะที่บริษัท ให้ Vios มาขับฟรีด้วย ออกเองแต่ค่าน้ำมัน นอกนั้นบริษัทจ่าย
ใจนึงก็อยากซื้อรถตัวเอง  อีกใจก็ไม่รู้จะเอามาทำไม รถฟรีก็มีขับ

ก็เลยเอาตังไปลงทุนแทน ธ.ค.ปีที่แล้ว ตอนวันเกิดซื้อทองไป 5 แสน  ตอนนี้ยิ้มเลยทีเดียวครับ *-*

ออฟไลน์ SZG

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 118
    • อีเมล์
มันต้องดูความจำเป้นในการใช้รถครับ ถ้าไม่ได้จำเป็น ที่ทำงานใกล้ BTSถึง ผมคงไม่ซื้อ
แต่ถ้าเป็นเซล หรือมีกิจการส่วนตัว ยังไงรถมันก็สำคัญมากๆ ยามฉุกเฉินแค่วินาทีเดียวก็ตัดสินชีวิตเราได้
จะไปมัวรอเรียกรถ ผมว่ามันก็ลำบากนะ
เห็นด้วยตามนี้ครับ
ของผมตอนนี้ก็อยากซื้อรถมาก บริษัทมีสวัสดิการให้กู้ แทบไม่เสียดอก  เงินเดือนก็ผ่อน CX-5 ได้เหลือๆ ถึงจะผ่อนคอนโดอยู่ด้วยก็ตาม

สุดท้ายก็กัดฟันไม่ซื้อครับ เพราะที่บริษัท ให้ Vios มาขับฟรีด้วย ออกเองแต่ค่าน้ำมัน นอกนั้นบริษัทจ่าย
ใจนึงก็อยากซื้อรถตัวเอง  อีกใจก็ไม่รู้จะเอามาทำไม รถฟรีก็มีขับ

ก็เลยเอาตังไปลงทุนแทน ธ.ค.ปีที่แล้ว ตอนวันเกิดซื้อทองไป 5 แสน  ตอนนี้ยิ้มเลยทีเดียวครับ *-*

หล่อกว่าขับ series 5 อีกครับ น้องๆควรเอาเป็นแบบอย่าง

ออฟไลน์ aun002

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 106
    • อีเมล์
ถึงตอบไป ก็เอาคำตอบแต่ละคนไปใช้ได้แค่บางส่วน เพราะการใช้ชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน
อย่างผม ที่ทำงานห่างจากบ้าน 50 กิโล ผมไม่มีเงินเก็บก็จริง แต่ผมก็ต้องซื้อรถเพราะความจำเป็น

บางคนไม่ต้องซื้อเอง หรือมีคนช่วย ก็ดีไป แต่ผมนี่สิ ต้องรีบเก็บเงินเพื่อจะดาวน์รถ แต่ยังโชคดีที่ว่าทำไม
ไม่มีเงินเก็บถึงจะออกรถ คนก็ถามว่าจะผ่อนไหวเหรอ ผมเลยลองเก็บเงิน

ตอนนี้เก็บเดือนละ 8000 ทุกเดือน เพื่อจะเอาเงินไปดาวน์รถ เก็บมา 6 เดือนแล้ว ถ้าเคลียหนี้บัตร
เดือนละ 5000 หมด ก็สบาย

สรุป อยู่ที่การใช้ชีวิตแต่ละคน