FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล

U9WS

FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« เมื่อ: เมษายน 02, 2010, 21:40:46 »
พูดถึงเนื้อน้ำมันล้วนๆ
ไม่นับ Additive ที่แต่ละแบรน์ใส่ลงไป (อันน้อยนิด)
และไม่แยกระหว่าง B5 กับ B2 (ที่เป็นแค่แพะรับบาบ)

ดีเซล บ้านเราจะมีแค่ 3ตัว

1.V-Power Diesel
คือ น้ำมันดีเซล ที่กลั่นด้วยเทคโนโลยี GTL โดยการกลั่นจากก๊าซธรรมชาติ
ซึ่งต่างจาก การกลั่นจากน้ำมันดิบทั่วไป

จึงทำให้มีความบริสุทธิ์มาก (สีจริงเป็นสีใส เหมือนน้ำปล่าว)
มีค่าซีเทนสูง และมีกำมะถันต่ำเพียง 10ppm.

V-Power Diesel มาบ้านเราตอนแรกเป็น 100% สีใสกริ้ง
ต่อมาต้องผสมเป็น B2 ตามกฏหมาย (กลายเป็นสีเขียว)
และเพื่อให้แข่งขันราคากับดีเซลทั่วไปได้ จึงผสมเป็น B5 (ก็สีเขียว และเปลี่ยนเป็นสีแดงตามกฎใหม่)

เท่ากับ V-Power Diesel วันนี้เป็น B5
คือ ดีเซล GTL 95% + ไบโอดีเซล 5%


2.ดีเซล Euro4
คือ ดีเซล ที่กลั่นจากน้ำมันดิบ ซึ่งได้มาตราฐาน Euro4 ที่มีค่าซีเทนสูง และกำมะถันต่ำเพียง 50ppm.

ตอนนนี้มีเพียง บางจากเท่านั้น ทั้ง B5 และ B2


3.ดีเซล Euro3
คือ ดีเซล ที่กลั่นจากน้ำมันดิบ ซึ่งได้มาตราฐาน Euro3 ที่มีค่าซีเทนต่ำ และกำมะถันสูงถึง 350ppm.

ทุกปั้มในประเทศไทย นอกเหนือจาก บางจาก และ เฉพาะ V-Power Diesel นอกนั้นเป็น ดีเซล Euro3 ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น B2 หรือ B5
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2010, 02:28:54 โดย U9WS »



Sarutino

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 02, 2010, 22:09:09 »
เพิ่งรู้ว่า Euro4 กับ Euro3 มันต่างกันขนาดนี้เลยนะเนี่ย :o
"Lose who you are to save what you love."



kritphakhin

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 02, 2010, 22:26:52 »
ขอบคุณมากครับ

ได้ความรู้ดีๆเพิ่มอีกแร้ว



sakdituch5

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 02, 2010, 22:51:50 »
ขอบคุณครับอิอิ



mann

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 02, 2010, 23:17:30 »
นี่รถกระบะเรากิน euro3 อยู่เหรอเนี่ย (อ้่างตามข้มมูลข้างบน)
เติมปั๊มแถวบ้านอ่ะครับที่ชื่อเก่าคือ q8
แต่บางโอกาศก็ได้กิน euro4 บ้างเหมือนกัน
v-power เคยครั้งนึงมั้ง

ส่วนเจ้าของแอบกิน euro custard cake เมื่อตะกี้นี้เอง ;D
ปล่อยมุขกลางดึก หุหุหุ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
1995 honda civic eg 3dr become jdm+spoon
1997 mb c-class w202 elegance
2003 toyota hilux tiger sport cruiser 4x4 2.5 d4d
2006 kawasaki ksr 111
...........................................................................



st_citroen

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 01:52:29 »
อยากให้เพิ่มของยี่ห้อ PURE ด้วยครับ เคยได้ยินว่ากลั่นมาดีมาก แต่จำไม่ได้แล้วว่ากลั่นแบบไหน



U9WS

Re: ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 02:28:21 »
อยากให้เพิ่มของยี่ห้อ PURE ด้วยครับ เคยได้ยินว่ากลั่นมาดีมาก แต่จำไม่ได้แล้วว่ากลั่นแบบไหน

เท่าที่ทราบมา โรงกลั่นน้ำมันในประเทศไทยมีประมาณ 6-7แห่ง

มีเพียงเอสโซ่เท่านั้นที่เป็นอิสระจากเคลือ ปตท.
โรงกลั่นบางจากก็มี ปตท. ถือหุ้นอยู่ 20-30%
ที่เหลือเป็น ปตท. หมดครับ

และโรงกลั่นที่ปรับปรุ่งเป็น Euro4 มีเพียงโรงกลั่นบางจาก แห่งเดียวครับ
นอกนั้นอยู่มาตราฐาน Euro3 เหมือนกันหมด
เคลือ ปตท. กำลังว่าจ้าง บ.SK ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของเกาหลีใต้ ให้มาปรับปรุงโรงกลั่นอยู่ครับ (เกาหลีใต้บังคับ Euro4 มานานมากแล้ว)

จริงๆบ้านเราต้องบังคับใช้ ดีเซล Euro4 ตั้งแต่ 1ม.ค 53 ที่ผ่านมา
แต่ก็เลื่อนมาแบบไม่มีกำหนดครับ

ไม่ต่างอะไรกับ E20 ตอนที่เลื่อนไป 1ปี

ยุโรปเค้าจะบังคับใช้ Euro5 เร็วๆนี้แล้ว ( Euro5 มีกำมะถันไม่เกิน 10ppm. )
บ้านเรายังไม่ถึงไหนเลย
และจะมีผลต่อการนำเข้ารถดีเซลจากยุโรปมาใช้น้ำมันในประเทศไทยบางตัว


ส่วน V-Power Diesel กลั่นมาจากเพื่อนบ้านครับ
เพราะบ้านเราไม่มีโรงกลั่น GTL

และโรงกลั่นของเชลล์ธรรมดาในบ้านเรา ก็เป็นของ ปตท. แล้วครับ


ปล.รถเมล์ที่เราเรียกกันว่า รถยูโร นั้นเป็น Euro2 (ในมาตราฐานของเครื่องยนต์)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2010, 02:38:08 โดย U9WS »



Northbridge

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 07:34:35 »
ผมว่าถ้าเทียบบ้านเรากับหลายๆประเทศที่ไม่ใช่ในแถบยุโรป มาตรฐานไอเสีย(ของกฏหมาย และรถที่ผลิต ) ก็ค่อนข้างสูงแล้วนะครับ  :D



POPROCK

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 09:45:50 »
ขอบคุณมากครับ
เพิ่งรู้นะเนี่ย

ต่อไปเติม Shell หรือ บางจาก ดีกว่า



Ruksadindan

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 13:05:21 »
ขอบคุณครับ
รณรงค์ ยูโร4 หรือสูงกว่า ครับ



Vici

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 13:32:13 »
สรุปคือ V-Power Diesel  ดีที่สุดถูกต้องมั๊ยครับ



Preceda2

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 17:11:45 »
สนับสนุนเชลล์และบางจาก

ทุกครั้งที่เติมบางจากแล้วรู้สึกดีจัง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ::)



+^ M o N ™ ^+

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 19:57:11 »
ปรับปรุงก็ดีครับดีกว่าไม่คิดจะปรับปรุงแล้ว

ก็ขายราคากันแพงๆเข้าไปชาวบ้าน

ก็ก้มหน้าซื้อของราคาแพงกันไป

โอ้วววว ประเทศไทย

 ;D ;D ;D
+^ M o N ™ ^+



CRO

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 20:13:41 »
ปรับปรุงก็ดีครับดีกว่าไม่คิดจะปรับปรุงแล้ว

ก็ขายราคากันแพงๆเข้าไปชาวบ้าน

ก็ก้มหน้าซื้อของราคาแพงกันไป

โอ้วววว ประเทศไทย

 ;D ;D ;D

ผมว่าจะเอาเป็นข้ออ้าง ขึ้นราคาอีกอะสิครับ นี้ก็จะขึ้นๆบอกค่าการตลาดต่ำ -_-'
PS. ปีนี้ ปตท กำไร 80,000 ล้านหลังหักโบนัสพนักงานแล้ว เอิ๊ก T_T~



Arado_kung

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 22:02:49 »
เอ่อ ถ้าผมจำไม่ผิด V-power diesel มันไม่ใช่GTL 100% นะครับ มันแค่เอา GTL มาผสมกับน้ำมันดีเซลธรรมดา แต่เชลล์ไม่ยอมบอกว่าใส่ GTL ไปเท่าไหร่ V-power ไม่ดีที่สุดแน่นอนผมยืนยันเลย เมื่อก่อนเติมแต่วีพาวเวอร์ตลอดตั้งแต่สมัยยังเป็นเพียวร่าโน่นแน่ะ มาเรื่อยๆจนกระทั่งวันนึง รถผมรอบเดินเบาไม่เรียบเป็นลูกคลื่นเลย สุดท้ายต้องเปลี่ยน SCV หลังจากนั้นเป็นต้นมาเติมแต่ B5 อย่างเดียวรถยังไม่เป็นอะไรอีกเลย อย่างนี้จะเรียกว่าของแพงแล้วห่วยได้ไหมครับ



U9WS

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 23:10:01 »
เอ่อ ถ้าผมจำไม่ผิด V-power diesel มันไม่ใช่GTL 100% นะครับ มันแค่เอา GTL มาผสมกับน้ำมันดีเซลธรรมดา แต่เชลล์ไม่ยอมบอกว่าใส่ GTL ไปเท่าไหร่ V-power ไม่ดีที่สุดแน่นอนผมยืนยันเลย เมื่อก่อนเติมแต่วีพาวเวอร์ตลอดตั้งแต่สมัยยังเป็นเพียวร่าโน่นแน่ะ มาเรื่อยๆจนกระทั่งวันนึง รถผมรอบเดินเบาไม่เรียบเป็นลูกคลื่นเลย สุดท้ายต้องเปลี่ยน SCV หลังจากนั้นเป็นต้นมาเติมแต่ B5 อย่างเดียวรถยังไม่เป็นอะไรอีกเลย อย่างนี้จะเรียกว่าของแพงแล้วห่วยได้ไหมครับ

V-power diesel ปัจจุบันคือ ดีเซล GTL 95% + ไบโอดีเซล 5% ถูกต้องแล้วครับ
ไม่ใช่ V-power diesel 100% แต่ก็ไม่ได้ผสมดีเซล Euro3 ทั่วไป


แล้วก็ เชลล์เพียวร่า ไม่ใช่ V-power diesel นะครับ เชลล์เพียวร่า ก็คือดีเซล Euro3 ที่มีซีเทนต่ำ และกำมะถันสูง 350ppm. ทั่วไป
V-power diesel มาก็ประกาศใช้ชื่อ V-power diesel เลย ซึ่งตอนั้นเป็น V-power diesel GTL 100% สีน้ำมันใสกริ้ง และก็ค่อยเปลี่ยนมาตามข้อมูลข้างต้น


ที่ผ่านมาเป็นข่าวลือจากวิศวะกรจากค่ายญี่ปุ่นบางค่าย และบวกกับคนในค่ายน้ำมันบางค่ายครับ
ที่พยายามดิสเครดิตน้ำมันเชื้อเพลิงบางตัว เพื่อปัดปัญหาบางอย่าง
แต่ก็ไม่มีการออกมาดำเดินการตรวจสอบ หรือฟ้องร้องอะไรอย่างเป็นทางการเลย


ลองตรวจสอบตามบทความนี้ครับ
"ปัญหาในเครื่องคอมมอนเลว DENSO"
http://www.oknation.net/blog/preechasan/2008/09/12/entry-1

พอจะทราบรึยังครับ ว่าปัญหามาจากอะไร


เพราะที่ผ่านมมา รถดีเซลในเคลือยุโรปไม่มีปัญหาซักรายเลย

แล้วอย่างนี้จะเรียกว่าเครื่องดีเซลยุโรปมันดีเกินไป หรือเครื่องดีเซลญี่ปุ่นบางค่ายมีปัญหาครับ ทั้งที่ใช้น้ำมันเดียวกัน  ;)




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2010, 23:29:48 โดย U9WS »



U9WS

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: เมษายน 03, 2010, 23:32:23 »
ปล.บทความนี้ ผมไม่มีส่วนใดส่วนเสียกับ บ.ใดๆ

ผมเป็นเพียงผู้บริโภคคนหนึ่งที่มี รถดีเซลยุโรป เลยต้องศึกษาเพื่อหาเชื้อเพลิงที่เหมาะสม
และมาแชร์ความรู้ จากการสนใจและศึกษา ตลอดจนประสบกาณ์จริง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 03, 2010, 23:38:16 โดย U9WS »



st_citroen

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: เมษายน 04, 2010, 00:49:48 »
ผมว่าปัญหาเกิดจากปั๊มครับ ว่าเก็บได้สะอาดแค่ไหน
รถดีเซลที่บ้านผมมีทั้งเดนโซ่และBOSCH ใช้น้ำมันที่เติมจากปั๊มประจำและปั๊มเดียวกันเกือบตลอดทุกถัง
ไม่มีคันไหนที่จะมีปัญหาเลยครับ



dispong

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: เมษายน 05, 2010, 10:07:59 »
แล้ว Techron D จาก Caltex ละครับ??
http://www.caltex.com/th/th/TechronD.asp



liveshow

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: เมษายน 05, 2010, 22:16:52 »
คาลเท็กไม่รู้ รู้แต่เติมแล้วเครื่องเร่งดีกว่า b5 uro4 กะ v-power อีก
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้



DF-SLB

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: เมษายน 04, 2011, 15:21:22 »
กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่  เป็นกระทู้เก่า แต่อยากรบกวนอัพเดทครับ ว่าเป็นอย่างไรแล้วตอนนี้ น้ำมันดีเซลตามปั๊ม ณ ปัจจุบัน  ยี้ห้อไหนให้พละกำลังมากที่สุดครับ

ปล. ผมสนับสนุนให้มีกระทู้กรณีแบบนี้มากๆ  ช่วงนี้ ผมว่า  HLM จะ..........



U9WS

Re: FQA : ว่าด้วยเรื่องของน้ำมัน ดีเซล
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: เมษายน 07, 2011, 02:24:13 »
ว่าด้วยเรื่องน้ำมันดีเซล อัพเดท เมษา 54

มาตราฐานไอเสีย Euro ถูกแบ่งออกเป็น 2ส่วน คือ
1.มาตราฐานของตัวน้ำมันเชื้อเพลิง
2.มาตราฐานการปล่อยไอเสียของรถยนต์

ที่เรามีการอิงค์มาตราฐาน Euro กับน้ำมันเชื้อเพลิงในบ้านเรา จะอยู่ในเรื่องของ 1.มาตราฐานของตัวน้ำมันเชื้อเพลิง



ดีเซล ในประเทศไทยตอนนี้มีเพียง บางจาก ทั้ง B3 และ B5 เท่านั้นที่เป็น Euro4 เต็มตัว (ได้ทั้งค่ากำมะถันและซีเทน)
(ยกเว้นปั้มบางจากในภาคใต้ลงไป เพราะเนื่องจากการขนส่งจึงต้องรับน้ำมันจากโรงกลั่น ปตท.)


มาตราฐาน Euro 4 ของน้ำมันดีเซล คือ มีค่ากำมะถันไม่เกิน 50ppm. และ ค่าซีเทนไม่ต่ำกว่า 50 หน่วย 

ส่วน Euro3 คือ มีค่ากำมะถันไม่เกิน 350ppm. และ ค่าซีเทนไม่ต่ำกว่า 47 หน่วย

ส่วนดีเซลเจ้าอื่นในประเทศไทยทั้งหมด ค่ากำมะถันยังไม่มีใครต่ำกว่า 50ppm.

แต่ ค่าซีเทน เกิน 50 หน่วย กันแทบจะหมดแล้ว เพราะมีการเติม Addtive กันเข้าไป
(โดยเฉพาะ ปตท. ที่มีสูงถึง 68หน่วย และ Petronas ที่มีค่าซีเทน สูงถึง 50ปลายๆเลย)



ซึ่งค่าปริมาณกำมะถัน แทบไม่มีผลต่อความแรงในเบื้องต้นเลย มันเป็นเพียงความสะอาดและบริสุทธิของน้ำมัน (ซึ่งจะผลมีต่อเขม่า และการเผาไหม้ในระยะยาว)
และค่ากำมะถัน มาจากขบวนการกลั่นเท่านั้น ไม่สามารถเสริมเติมแต่งด้วย Additive ได้

แต่ค่าของ ซีเทน มันมีผลต่อการแรงเบื้องต้นโดยตรง (ค่าซีเทน เหมือน ค่าออกเทน ในน้ำมันเบนซิน)
ซึ่งค่าของซีเทน มาได้ทั้งจากขบวนการกลั่น และการเพิ่มด้วย Addtive


คราวนี้ก็แล้วจะมอง คือ ปตท. และ Petronas เผาไหม้ดีเป็นพิเศษ เพราะซีเทนสูง แต่ค่ากำมะถันยังเยอะ
กับ บางจาก ที่เผาไหม้ปกติตามมาตราฐาน แต่ค่ากำมะถันต่ำ

ถ้าในวันข้างหน้า ประเทศไทยบังคับใช้ดีเซล Euro4
(จริงๆกำหนดเดิมคือ 1 ม.ค.53 แต่ ปตท. ถ่วงเวลาเพื่อเลื่อนการลงทุน ไปอย่างไม่มีกำหนด)

วันนั้น ปตท. และ Petronas จะน่าสนใจมาก ด้วยค่าซีเทนที่สูงมาก + กับมีกำมะถันต่ำกว่า 50ppm.



และสุดท้าย V-Power Diesel ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ

ตอนนี้ Shell บ้านเรา ปรับสูตร V-Power Diesel
จากเดิม น้ำมันดีเซลกลั่นสังเคาะห์ (GTL) + ไบโอดีเซล 5% = ซีเทนสูง 52-55หน่วย กับ กำมะถันต่ำเพียง 10ppm. ซึ่งได้มาตราฐานถึง Euro5

ได้เปลี่ยนเป็น น้ำมันดีเซลกลั่นสังเคาะห์ (GTL) + น้ำมันดีเซล Euro3 ธรรมดา (ที่รับจากโรงกลั่น ปตท.ก่อนเดิม Additive) + ไบโอดีเซล 5% = ซีเทนลดลงอยู่ระดับ 50 หน่วย และ กำมะถันเกิน 50ppm. ซึ่งโดยรวมไม่ผ่าน Euro4 แล้ว


แต่ก็เช่นเดียวกัน ถ้าวันหน้าบ้านเราบังคับใช้ดีเซล Euro4
V-Power Diesel บ้านเราก็จะเป็น
น้ำมันดีเซลกลั่นสังเคาะห์ (GTL) + น้ำมันดีเซล Euro4 (ที่รับจากโรงกลั่น ปตท.ก่อนเดิม Additive) + ไบโอดีเซล 5% = กำมะถันต่ำกว่า 50ppm. ไปเยอะ ซึ่งจะเป็นดีเซลที่มีกำมะถันต่ำที่สุดในประเทศ ส่วนค่าซีเทนถ้าไม่มีการใช้ Addtive มาเพิ่ม ก็คงอยู่ระดับ 52-53หน่วย
แต่ถ้า Shell ใจปลั้มเติม Additive มาให้ หรือเรา เติม Additive แล้วค่าซีเทนกลายเป็น 50ปลายๆ ก็จะเป็นอะไรที่ดีมาก


ปล.ความแรงที่มีผลมาจาก ตัวน้ำมันเชื้อเพลิงก็ไม่ได้อยู่กับค่าของซีเทน (หรือออกเทนในเบนซิน) เพียงค่าเดียว
ยังมีส่วนผสม และองค์ประกอบอื่นๆในน้ำมันด้วย