สอบถามเรื่องแรงม้า แรงบิด ของรถยนต์ ไฮบริด ครับ

[kitto26]

รถไฮบริดถ้าแบตเตอรี่หมด แรงม้าที่ได้จากตัวมอเตอร์ก็จะหมดลงถูกมั้ยครับ  จะเหลือให้ได้ใช้แค่ตัวแรงม้าแรงบิดของเครื่องยนต์อย่างเดียว

แล้ว ถ้าคนที่อัดบ่อยๆ หรือ วิ่งข้ามจังหวัดระยะทางไกลๆ แบตเตอรี่ก็ไม่เพียงพอ ก็เหลือให้ใช้แค่แรงม้าแรงบิดของเครือ่งอย่างเดียว

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ?


ถ้าเข้าใจถูก รถไฮบริด เหมาะสมกับใช้ในเมือง หรือ ระยะทางไม่ไกล  หรือ คนที่ขับเรื่อยๆ ไม่ซิ่งอัดหนักมาก เพื่อให้มันมีเวลากลับเข้าไปชาร์จแบตเข้าไป  ถูกมั้ยครับ ?


อย่างงี้ รถไฮบริด เช่น camry hybrid ,honda accord hybrid ,nissan xtrail hybrid  , bmw x5 hybrid ,bmw active 3 5 7  , porche cayenne hybrid s   พวกนี้หลักการก็เหมือนกันเลยมั้ยครับ หรือมีไฮบริดของรุ่นไหนที่ไม่เหมือนกันครับ ประมาณว่าแรงม้าแรงบิดมีใช้ได้ตลอดไม่หมด  ไม่ต้องรอชาร์จไฟกลับเข้าแบต ครับ

[Nerdys]

ไม่แน่ใจว่ารถ Tesla จะสามารถเร่งเครื่องและให้อัตราเร่งที่เสถียรและสม่ำเสมอเหมือนรถสันดาปใช้น้ำมันแบบปกติหรือเปล่า
เพราะแบตของ  Tesla ใหญ่มาก วิ่งได้นานเป็นร้อยๆกิโลเมตรโดยใช้แต่ไฟฟ้าอย่างเดียว

ส่วนรถไฮบริดธรรมดา เช่น Camry Accord Hybrid ก็เป็นอย่างที่ว่าแหละครับ ยิ่งถ้าขึ้นเขาสูงชันก็จะยิ่งเห็นผลชัดเจน
เพราะต้องเร่งส่งตลอดจนเครื่องชาร์ทไฟกลับเข้าแบตไม่ทัน ถ้านั่งกันเต็มคันรถ+สัมภาระ กำลังก็จะยิ่งด้อยลง

แต่ด้วยความที่คนขับรถ Hybrid ส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหรือตามจังหวัดที่เป็นถนน 4 เลน การขับปกติในชีวิตประจำวันไม่ต้องเร่งเครื่องเพื่อแซงบ่อยๆ
นานๆทีจะได้กดคันเร่งเต็มๆ บนถนน 2 เลนรถสวนบ้างเป็นบางครั้ง ทำให้เครื่องยนต์สามารถชาร์ทไฟเข้าได้ทัน เลยไม่ค่อยมีคนบ่นเรื่องอัตราเร่งในรถ Hybrid เท่าไหร่
แต่ถ้าซื้อรถ Hybrid ใช้แล้วบ้านอยู่ ปาย ปางมะผ้า แม่ฮ่องสอน ก็อาจมีบ่นได้ 

[WASADM]

ถ้าขับขึ้นเหนือ อันนี้เหนื่อยแน่นอนครับ แบตคงหมดแน่ๆ แต่ถ้าขับขึ้นเขาทั่วๆไป สบายๆ มากครับ หรือจะคิ้กดาวน์บ่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ แบตมันไม่หมดง่ายขนาดนั้นครับ แล้วอีกอย่าง ความเร็วเกิน 60 ไปแล้ว มันก็จะตัดมาเป็นเครื่องสันดาปแทน ซึ่งเครื่องจะทำงานตามความเร็วรถและมันจะชาจกลับเข้าแบตด้วยขณะวิ่งปกติ จะหยุดชาจแบตก็ต่อเมื่อมีการเติมคันเร่งเยอะๆ แล้วยิ่งวิ่งเร็ว แบตยิ่งเต็มเร็วครับ ล่าสุดไปเกาะช้างมา นั่ง 5 คน ของเต็มรถ ขึ้นเขาลงเขาสบายมากครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องแบตหมดหรอกครับ ถ้าไม่ได้ขับขึ้นเหนือหรือขึ้นทางลาดชันตลอดเวลา มีทางราบให้วิ่งซัก 3-4 นาที แบตก็เกือบเต็มแล้วครับ อันนี้หมายถึงวิ่งที่ความเร็วๆสูงน่ะครับ 100-120 ประมานนี้

ปล.เป็นเครื่อง 2.5 hybird ของพี่โตน่ะครับ

[kitto26]

ถ้าขับขึ้นเหนือ อันนี้เหนื่อยแน่นอนครับ แบตคงหมดแน่ๆ แต่ถ้าขับขึ้นเขาทั่วๆไป สบายๆ มากครับ หรือจะคิ้กดาวน์บ่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ แบตมันไม่หมดง่ายขนาดนั้นครับ แล้วอีกอย่าง ความเร็วเกิน 60 ไปแล้ว มันก็จะตัดมาเป็นเครื่องสันดาปแทน ซึ่งเครื่องจะทำงานตามความเร็วรถและมันจะชาจกลับเข้าแบตด้วยขณะวิ่งปกติ จะหยุดชาจแบตก็ต่อเมื่อมีการเติมคันเร่งเยอะๆ แล้วยิ่งวิ่งเร็ว แบตยิ่งเต็มเร็วครับ ล่าสุดไปเกาะช้างมา นั่ง 5 คน ของเต็มรถ ขึ้นเขาลงเขาสบายมากครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องแบตหมดหรอกครับ ถ้าไม่ได้ขับขึ้นเหนือหรือขึ้นทางลาดชันตลอดเวลา มีทางราบให้วิ่งซัก 3-4 นาที แบตก็เกือบเต็มแล้วครับ อันนี้หมายถึงวิ่งที่ความเร็วๆสูงน่ะครับ 100-120 ประมานนี้

ปล.เป็นเครื่อง 2.5 hybird ของพี่โตน่ะครับ

แล้วถ้าวิ่งอัดยาวๆตลอดความเร็ว 160-180 ละครับ

[SM.]

ผมข้องใจเหมือนกันเรื่องนี้ ที่ว่ารถ hybrid ขึ้นเขาไปแล้วไม่มีแรง ผมอาจจะไม่เข้าใจระบบการทำงานของมันเท่าไหร่นะครับ

สมมติว่าเป็น G9 hybrid ใหม่ เป็นเครื่อง 2.0 เบนซิน + มอร์เตอร์ไฟฟ้า ถ้าจำไม่ผิด ลำพังตัวเครื่อง 2.0 ก็ให้แรงม้า 140-150 แรงม้าแล้ว ผมว่าการขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่น่ามีปัญหาอะไรเลย ต่อให้ไม่มีไฟในแบตเตอรี่เลยก็ตาม รถเล็กกว่านี้ แรงม้าน้อยกว่านี้ก็ขึ้นได้

[WASADM]

ถ้าขับขึ้นเหนือ อันนี้เหนื่อยแน่นอนครับ แบตคงหมดแน่ๆ แต่ถ้าขับขึ้นเขาทั่วๆไป สบายๆ มากครับ หรือจะคิ้กดาวน์บ่อยๆ ก็ไม่ใช่ปัญหาครับ แบตมันไม่หมดง่ายขนาดนั้นครับ แล้วอีกอย่าง ความเร็วเกิน 60 ไปแล้ว มันก็จะตัดมาเป็นเครื่องสันดาปแทน ซึ่งเครื่องจะทำงานตามความเร็วรถและมันจะชาจกลับเข้าแบตด้วยขณะวิ่งปกติ จะหยุดชาจแบตก็ต่อเมื่อมีการเติมคันเร่งเยอะๆ แล้วยิ่งวิ่งเร็ว แบตยิ่งเต็มเร็วครับ ล่าสุดไปเกาะช้างมา นั่ง 5 คน ของเต็มรถ ขึ้นเขาลงเขาสบายมากครับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเรื่องแบตหมดหรอกครับ ถ้าไม่ได้ขับขึ้นเหนือหรือขึ้นทางลาดชันตลอดเวลา มีทางราบให้วิ่งซัก 3-4 นาที แบตก็เกือบเต็มแล้วครับ อันนี้หมายถึงวิ่งที่ความเร็วๆสูงน่ะครับ 100-120 ประมานนี้

ปล.เป็นเครื่อง 2.5 hybird ของพี่โตน่ะครับ

แล้วถ้าวิ่งอัดยาวๆตลอดความเร็ว 160-180 ละครับ

ไม่น่าจะมีปัญหาน่ะครับ ผมไม่เคยขับถึง 180 แต่ตอนที่วิ่ง 160 มันก็ใช้เพียงเครื่องสันดาปอย่างเดียวน่ะครับ มอเตอร์จะเข้ามาช่วยแค่ตอนที่เราเติมคันเร่งลงไปแค่นั้นเองครับ บางทีมอเตอร์ไม่ทำงานด้วยซ้ำ ถ้าเราเติมคันเร่งไม่ลึกมากพอ

ผมข้องใจเหมือนกันเรื่องนี้ ที่ว่ารถ hybrid ขึ้นเขาไปแล้วไม่มีแรง ผมอาจจะไม่เข้าใจระบบการทำงานของมันเท่าไหร่นะครับ

สมมติว่าเป็น G9 hybrid ใหม่ เป็นเครื่อง 2.0 เบนซิน + มอร์เตอร์ไฟฟ้า ถ้าจำไม่ผิด ลำพังตัวเครื่อง 2.0 ก็ให้แรงม้า 140-150 แรงม้าแล้ว ผมว่าการขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่น่ามีปัญหาอะไรเลย ต่อให้ไม่มีไฟในแบตเตอรี่เลยก็ตาม รถเล็กกว่านี้ แรงม้าน้อยกว่านี้ก็ขึ้นได้

อันนี้หมายถึงว่า มันจะเหนื่อยกว่ารถที่เป็นเครื่องสันดาปอย่างเดียว เพราะรถพวกนี้น้ำหนักตัวรถค่อนข้างเยอะครับ เมื่อเทียบกับกำลังที่มาจากเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว

[Ex_machina]

ต้องบอกว่ารถ Hybrid เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ไม่ใช่รถแข่งจะถูกกว่า
หากใช้งานทั่วไป มันต้องมีเหตุการณ์ที่ต้องชาร์ตไฟกลับบ้าง
เหยียบอย่างเดียว เป็นรถแข่ง แบตมันก็หมดน่ะสิ ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์(atkinson)ที่แรงน้อยกว่าเครื่องทั่วไป(otto)
รถที่มีพลังงานให้ใช้เหลือเฟือไม่มีหมด ยังไม่มีในโลกนี้นะ

ต่อให้รถ Tesla แบตยักษ์ขนาด 90 kWh
เหยียบสุดเต็มความสามารถของมอเตอร์ขนาด 568 kw
ยังวิ่งได้แค่ 9 นาทีกว่าๆเอง ต่อการชาร์ตแบตเตอรี่เต็ม

แบต hybrid เล็กกว่านั้นมาก มันไม่เหมาะกับการแข่งขันหรอก

[bbbasty]

รถไฮบริดถ้าแบตเตอรี่หมด แรงม้าที่ได้จากตัวมอเตอร์ก็จะหมดลงถูกมั้ยครับ  จะเหลือให้ได้ใช้แค่ตัวแรงม้าแรงบิดของเครื่องยนต์อย่างเดียว

แล้ว ถ้าคนที่อัดบ่อยๆ หรือ วิ่งข้ามจังหวัดระยะทางไกลๆ แบตเตอรี่ก็ไม่เพียงพอ ก็เหลือให้ใช้แค่แรงม้าแรงบิดของเครือ่งอย่างเดียว

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ?


ถ้าเข้าใจถูก รถไฮบริด เหมาะสมกับใช้ในเมือง หรือ ระยะทางไม่ไกล  หรือ คนที่ขับเรื่อยๆ ไม่ซิ่งอัดหนักมาก เพื่อให้มันมีเวลากลับเข้าไปชาร์จแบตเข้าไป  ถูกมั้ยครับ ?


อย่างงี้ รถไฮบริด เช่น camry hybrid ,honda accord hybrid ,nissan xtrail hybrid  , bmw x5 hybrid ,bmw active 3 5 7  , porche cayenne hybrid s   พวกนี้หลักการก็เหมือนกันเลยมั้ยครับ หรือมีไฮบริดของรุ่นไหนที่ไม่เหมือนกันครับ ประมาณว่าแรงม้าแรงบิดมีใช้ได้ตลอดไม่หมด  ไม่ต้องรอชาร์จไฟกลับเข้าแบต ครับ

รถไฮบริด แบตจะไม่มีวันหมดครับ เพราะมันจะมีจุดสูงสุดและต่ำสุดของปริมาณไฟฟ้าในแบตเตอรี่อยู่ เช่น สูงสุด 80% และต่ำสุด 20% ซึ่งในสภาวะปกติมันจะไม่มีวันเต็มและไม่มีวันหมด

ยกตัวอย่าง prius มี 99 แรงม้า จากเครื่องยนต์ และ 37 แรงม้าจากแบตเตอรี่ไฮบริด กำลังรวม 136 แรงม้า

ซึ่งกำลังรวม 136 แรงม้าจะได้ต่อเมื่อแบตเตอรี่อยู่ในช่วงมากกว่า 2 ขีดเป็นต้น ถ้าแบตเตอรี่เหลือ 2 ขีดพอดี รถยนต์จะต้องแบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรี่ด้วย ซึ่งหมายความไม่ใช่แค่เหลือ 99 แรงม้า แต่จะเหลือน้อยกว่า 99 แรงม้า

ผมเคยลองดูแล้วกรณีแบตเตอรี่ Max สุด กดคันเร่งออกจากจุดหยุดนิ่งเต็มเท้า แบตจะเหลือ 2 ขีดที่จุดต่ำสุดที่ความเร็วประมาณ 160-165 หลังจากนั้นกว่าจะพาจาก 160-165 ไปสู่ Top Speed ได้นี่ ลากกันยาวนานยิ่งกว่า รถเครื่อง 1.5 ทั่วไป ต่างกันกรณีที่คุณใช้ความเร็วนิ่งๆอยู่ที่ 160 แบตเตอรี่เหลือๆ คุณกดคันเร่งเต็มเท้าเพื่อจะพาไปสู่ Top Speed มันใช้เวลาแปบเดียวเท่านั้น

กรณีใช้ความเร็วสูงๆตลอดเวลา ต้องแยกแยะให้ออก ถ้าเป็นการค่อยๆไล่คันเร่งขึ้นไป จะ 160 170 180 แล้วแช่ไว้แบบนั้น ยังไงแบตก็ไม่หมดครับ มันจะสลับชาร์ตสลับคายตลอดเวลา แต่ถ้ากดเต็มเท้าตลอดเวลา อันนี้ยังไงก็หมดครับ

มีรถ Hybrid จะซิ่งแข่งกับรถสันดาปทั่วไป ต้องรู้จักจังหวะการกดคันเร่งให้ดีครับ ไม่งั้นอาจหนีรถ 1.2 บางคันอย่าง Yaris ไม่ออก (กรณีของ Prius นะ)

ปล. อย่าง Prius ผมเคยกดแข่งกับ Altis 1.8 Dual-VVTi โฉมก่อน เริ่มกดที่ประมาณ 100 ช่วงที่มีแบตนี่สามารถขึ้น Altis ได้ประมาณ 1 คันรถด้วยซ้ำ แต่พอแบตหมด Altis ก็สามารถกลับมาตีคู่ได้ ก่อนที่ Altis จะติด lock ที่ 185 และ Prius ติด lock ที่189 พอดี

[Tedjung84]

รถไฮบริดถ้าแบตเตอรี่หมด แรงม้าที่ได้จากตัวมอเตอร์ก็จะหมดลงถูกมั้ยครับ  จะเหลือให้ได้ใช้แค่ตัวแรงม้าแรงบิดของเครื่องยนต์อย่างเดียว
ตอบ ไฮบริดที่ผมใช้อยู่แบตจะไม่ต่ำว่า 30% ครับ กำลังที่จะมาจากตัวมอเตอร์จะอ่อนกำลังลงตามลำดับของไฟที่มีอยู่ครับ

แล้ว ถ้าคนที่อัดบ่อยๆ หรือ วิ่งข้ามจังหวัดระยะทางไกลๆ แบตเตอรี่ก็ไม่เพียงพอ ก็เหลือให้ใช้แค่แรงม้าแรงบิดของเครือ่งอย่างเดียว

ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ? อัดบ่อยๆ ขับทางไกลเครื่องยนต์จะติดตลอดเวลาครับและจะชาร์จไฟไปในตัวด้วยเพราะงั้นแบตจะไม่มีทางหมดครับในกรณีแบบนี้


ถ้าเข้าใจถูก รถไฮบริด เหมาะสมกับใช้ในเมือง หรือ ระยะทางไม่ไกล  หรือ คนที่ขับเรื่อยๆ ไม่ซิ่งอัดหนักมาก เพื่อให้มันมีเวลากลับเข้าไปชาร์จแบตเข้าไป  ถูกมั้ยครับ ?จะทางใกล้หรือทางไกลใช้ได้ปกติครับแต่สำหรับในเมืองรถติดๆระบบไฮบริดจะทำงานบ่อยมากหากมีไฟอยู่มากพอไม่ให้เครื่องยนต์ทำงานแต่ถ้าหากแบตเหลือน้อยจริงๆเครื่องยนต์จะกลับมาทำงานทันทีครับและจะชาร์จไฟกลับเข้าตัวแบตอีกครั้งแต่อาจจะรำคาญได้เพราะมันจะค่อยๆชาร์จไฟแต่รถติดๆเดี๋ยวเบรคเดี๋ยวเหยียบคันเร่งถ้าไฟยังมีไม่มากเครื่องยนต์ก็จะติดบ้างดับบ้างแก้ไขโดยปรับโหมดการขับขี่ไป sport เครื่องยนต์จะติดตลอดเวลาการชาร์จไฟเข้าระบบจะต่อเนื่องครับ


อย่างงี้ รถไฮบริด เช่น camry hybrid ,honda accord hybrid ,nissan xtrail hybrid  , bmw x5 hybrid ,bmw active 3 5 7  , porche cayenne hybrid s   พวกนี้หลักการก็เหมือนกันเลยมั้ยครับ หรือมีไฮบริดของรุ่นไหนที่ไม่เหมือนกันครับ ประมาณว่าแรงม้าแรงบิดมีใช้ได้ตลอดไม่หมด  ไม่ต้องรอชาร์จไฟกลับเข้าแบต ครับ

ที่ผมพยายามอธิบายไปนี้เป็นรถ C300 ไฮบริดนะครับคันอื่นๆเป็นอย่างไรรอท่านอื่นเข้ามาแชร์กันครับ

[Tedjung84]

แถมอีกนิดครับ ผมไปเชียงใหม่กับเชียงรายเมื่อปลายปีที่ผ่านมาขับขึ้นเขาที่ว่าชันๆและลงเขา ผมปรับเข้าโหมด sport + เครื่องยนต์
ทำงานตลอดเวลาระบบไฮบริดก็พร้อมจะทำงานทันทีก็ต่อเมื่อกดคันเร่งลึกๆครับ C300 ผมแบตเต็ม 100% ให้เห็นเป็นครั้งแรกก็ขับ
ขึ้นเขาลงเขาไปโหมด sport+ นี่ล่ะครับ บอกได้เลยว่าขึ้นเขาลงเขานี่สบายมากๆครับไม่มีอะไรให้กังวลเลย

หากอยากรู้ว่าไฟในแบตเหลือน้อยกับเหลือมากต่างกันอย่างไรให้ลอง
ตอนรถจอดนิ่งๆแล้วลองกดคันเร่งดูครับกดแบบไม่ให้เครื่องยนต์ติดนะ
นั่นละคุณจะรู้เองว่ากำลังที่ออกมาจากระบบนั้นไฟมีมากน้อยจะต่างกันยังไง

[bbbasty]

ขอเพิ่มเติมกรณีของ Camry Hybrid

ถ้าเทียบกับ Prius หลักการทุกอย่างเหมือนกัน เพียงแต่ว่าแบตเตอรี่ Hybrid ของ Camry จะมีความจุไฟฟ้ามากกว่า แรงม้าจึงมากกว่า มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดใหญ่กว่า ทำให้แรงบิดเยอะกว่า รวมถึงเครื่องยนต์สันดาปที่แรงม้ามากกว่า ทำให้ Camry ดูจะมีปัญหาน้อยกว่า Prius ยามต้องใช้งานบนทางลาดชันนานๆ เป็นระยะทางยาวๆ

ถ้าจะพูดให้เห็นภาพ
Prius แบตเตอรี่เหลือต่ำสุด --> อัตราเร่งจะอยู่ระหว่าง รถเครื่อง 1.2 - 1.5 (ต่ำกว่า 1.5 แต่มากกว่า 1.2)
Prius ยามแบตเตอรี่มีเพียงพอ --> อัตราเร่งจะอยู่ระหว่างรถเครื่อง 1.8 - 2.0 (มากกว่า 1.8 ทั่วไป แต่ช้ากว่า 2.0 นิดๆ)

Camry ถ้าแบตเตอรี่เหลือต่ำสุด --> อัตราเร่งจะประมาณ รถ D-Seg เครื่อง 2.0 ทั่วไป
Camry ถ้าแบตเตอรี่มีเพียงพอ --> อัตราเร่งดีกว่า D-Seg เครื่อง 2.5 แบบเห็นได้ชัด การไต่ความเร็วดีกว่า E250CGI 320d 520d (อันนี้กล้าพูด กล้าการันตี)

[kitto26]

แล้วถ้ารถอย่างพวก

bmw x5 40ehybrid
bmw active hybride series
porches cayenne hybrid

พวกนี้การทำงานเหมือนกันมั้ยครับ แบตใหญ่กว่าใช่มั้ยครับ

[bbbasty]

แล้วถ้ารถอย่างพวก

bmw x5 40ehybrid
bmw active hybride series
porches cayenne hybrid

พวกนี้การทำงานเหมือนกันมั้ยครับ แบตใหญ่กว่าใช่มั้ยครับ

x5 40e รู้สึกจะเป็น plug-in ซึ่งความจุแบตเตอรี่มากกว่า ไม่ plugin อยู่แล้วครับ

ส่วน Active hybrid ก็คือ Toyota Hybrid นั่นแหละครับ หลักการเดียวกัน ต่างกันที่ขนาดเครื่องยนต์ ชนิดแบตเตอรี่ ความจุแบตเตอรรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า

[Gopz]

ถ้า prius ขึ้นเขาหนักๆมันจะขึ้นแบบนี้บน hybrid energy monitor ครับ

[J_Serie5]

พูดถึง Prius ถ้าใครเท้าไม่หนักก็น่าจะรับได้ ตามนี้ครับ
- แบตเหลือน้อย = อัตราเร่งด้อยกว่า vios
- แบตเหลือเยอะ = อัตราเร่งพอๆกับ jazz
Prius มีปัญหาแค่ตอนขึ้นเขาชันๆยาวๆและแบต hybrid หมด ขึ้นเขาได้นะครับ แต่เสียวและลุ้นมากๆ อัตราเร่งตอนขึ้นเขาอืดหนักพอๆกับ eco car ครับ

ที่รู้เพราะหาข้อมูลรถมือ2พวกนี้อยู่ 
Prius อะไหล่แพง อัตราเร่งจัดว่าอืดสำหรับผม แต่ข้อดีคือได้รถปีค่อนข้างใหม่ 2012-2013 และประหยัดน้ำมันมากๆ
Civic FB 1.8-2.0 อะไหล่ไม่แพง อัตราเร่ง 2.0 ถือว่าok ส่วน 1.8 อัตราเร่งอืดพอๆกับ Prius มีรถให้เลือกเยอะมากๆ ของแต่งเพียบ
Camry hybrid AHV40 อะไหล่แพง มีปัญหาเรื่องปั๊มเบรคไฟฟ้าที่เสียทุกคัน และไม่บอกอาการล่วงหน้า ซึ่งอันตรายมาก ถึง toyota จะเคลมให้ก็เถอะ แต่ถ้าไปเสียตอนลงเขาล่ะ? = ไม่น่ารอด / ส่วนเรื่องอัตราเร่งต่อให้แบต hybrid หมด ก็ยังมีแรงม้าจากเครื่องยนต์ 150 แรงม้าอยู่ ขึ้้นเขาลงห้วยไม่มีปัญหา