ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามครับว่าเครื่องที่มี turbo กับ ไม่มี turbo จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ  (อ่าน 43520 ครั้ง)

ออฟไลน์ bungy

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 304
    • อีเมล์
สอบถามครับว่าเครื่องที่มี turbo กับ ไม่มี turbo จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ

turbo หรือ ไม่มี turbo  ต้องรอบเครื่องยนต์ครับ

ใครเสียที่ ใครซ่อมมากกว่ากันครับ

ใครประหยัดน้ำมันกว่ากันครับ ถ้าเครื่องยนต์ซีซี เท่ากัน ครับ

turbo นี้ขับสนุกกว่า ไม่มี turbo ใช่หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

 

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ถ้ามองในแง่ของรถบ้าน เครื่องยนต์เทอร์โบมีข้อเสียคือหากขับแบบหนักหน่วงมาก จะโทรมเร็วกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา
ยกเว้นแต่ว่าคุณเอาเครื่องเทอร์โบที่หมุน 6,200 รอบไปเทียบกับเครื่องรถบ้านที่หมุน 8,000 รอบ แบบนี้มีสิทธิ์โทรมเร็วเท่ากัน แต่โทรมกันคนละที่

การรอรอบนั้น ถ้าตีความเป็น รอนานจนกว่าพละกำลังแรงดึงจะมา เครื่องธรรมดาๆบ้านๆอัตราส่วนกำลังอัด 10-10.5 ทั่วไปนี่แหละรอรอบน้อยสุด กดเมื่อไหร่เป็นมา ส่วนรถเทอร์โบต้องรอกำลังนิดนึง ขึ้นอยู่กับว่าขนาดของเทอร์โบเมื่อเทียบกับความจุเครื่องสัมพันธ์กันแค่ไหน ถ้าเครื่อง 1.5 ลิตร เอาเทอร์โบของรถ 1.3 ลิตรมาใส่ 1800 รอบแรงก็มา แต่ถ้าเอาเทอร์โบเครื่อง 2.0 ลิตรใส่ อาจต้องรอถึง 3,000 รอบกว่าจะได้แรง

คำว่ารอรอบตรงนี้เป็นการมองในภาพกว้างๆ ถ้ายิ่งเจาะลงไปให้ละเอียดจะเจอเงื่อนไขต่างๆนานา เช่นถ้าสมมติคุณให้เครื่องความจุเท่ากัน และแรงม้า 300 แรงม้าเท่ากัน และไม่มีวาล์วหรือแค็มแปรผันมาช่วย ลองนึกภาพ เครื่องประมาณ 2.0 ลิตร 300 แรงม้า ถ้าเป็นเทอร์โบ แค่ 3,500รอบก็เริ่มดึงแรงแล้ว แต่ NA 2.0 ลิตร 300 แรงม้า คุณรอไปเถอะ 6,000 รอบโน่นค่อยดึง อย่างนี้จะสรุปว่าใครรอรอบดี

รอรอบ กับรอบูสท์ (Turbo Lag) บางทีใช้สลับกันเข้าใจผิดกันบ่อย


เวลาเสีย ใครซ่อมมากกว่ากัน? เทอร์โบมันมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็คือพวกท่อยาง ท่อเทอร์โบ ตัวเทอร์โบเอง และอินเตอร์คูลเลอร์ ดังนั้นจุดที่ต้องดูแล และซ่อม เทอร์โบมีมากกว่า แต่มันไม่ได้ต่างกันแบบเท่าตัวหรอกครับ


ใครประหยัดกว่ากันถ้าเครื่องยนต์ ซีซีเท่ากัน
ตอบยาก เพราะรถบางรุ่นพอมีเทอร์โบ กินน้ำมันขึ้นเยอะทั้งๆที่ขับแบบปกติ แต่รถบางรุ่นมีเทอร์โบกลับกินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิมถ้าขับดีๆ

เทอร์โบขับสนุกกว่าไม่มีเทอร์โบใช่หรือไม่?

สนุกของคุณคืออย่างไร? เหมือนกับสนุกของผมหรือเปล่า?
สนุกของผมคือการได้สัมผัสแรงดึงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน มีซาวน์แทร็คเสียงวี๊ดและเวสต์เกตประกอบ
มีแรงบิดมหาศาล ทำความเร็วได้ดีโดยไม่ต้องลากรอบสูง ถ้าสนุกแบบนี้ล่ะเทอร์โบสนุกกว่า

แต่ถ้าคุณลองไปขับพวกฮอนด้ารอบจัด เครื่อง B-Series, K-Series ที่มีเกียร์อัตราทดค่อนข้างจัดสำหรับรถบ้าน คุณอาจพบความสนุกจากการฟังเสียงเครื่องกระหึ่ม ลากรอบจรดขอบฟ้า ได้ความเร็วที่ดีและคอนโทรลรถง่ายเพราะแรงบิดเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องมาเลี้ยงคันเร่งกันล้อฟรีทิ้ง สำหรับบางคน แบบนี้ก็คือความสนุกของเค้าครับ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ mann

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 725
  • นี่หรือรถโมเดล
ถ้ามองในแง่ของรถบ้าน เครื่องยนต์เทอร์โบมีข้อเสียคือหากขับแบบหนักหน่วงมาก จะโทรมเร็วกว่าเครื่องยนต์ธรรมดา
ยกเว้นแต่ว่าคุณเอาเครื่องเทอร์โบที่หมุน 6,200 รอบไปเทียบกับเครื่องรถบ้านที่หมุน 8,000 รอบ แบบนี้มีสิทธิ์โทรมเร็วเท่ากัน แต่โทรมกันคนละที่

การรอรอบนั้น ถ้าตีความเป็น รอนานจนกว่าพละกำลังแรงดึงจะมา เครื่องธรรมดาๆบ้านๆอัตราส่วนกำลังอัด 10-10.5 ทั่วไปนี่แหละรอรอบน้อยสุด กดเมื่อไหร่เป็นมา ส่วนรถเทอร์โบต้องรอกำลังนิดนึง ขึ้นอยู่กับว่าขนาดของเทอร์โบเมื่อเทียบกับความจุเครื่องสัมพันธ์กันแค่ไหน ถ้าเครื่อง 1.5 ลิตร เอาเทอร์โบของรถ 1.3 ลิตรมาใส่ 1800 รอบแรงก็มา แต่ถ้าเอาเทอร์โบเครื่อง 2.0 ลิตรใส่ อาจต้องรอถึง 3,000 รอบกว่าจะได้แรง

คำว่ารอรอบตรงนี้เป็นการมองในภาพกว้างๆ ถ้ายิ่งเจาะลงไปให้ละเอียดจะเจอเงื่อนไขต่างๆนานา เช่นถ้าสมมติคุณให้เครื่องความจุเท่ากัน และแรงม้า 300 แรงม้าเท่ากัน และไม่มีวาล์วหรือแค็มแปรผันมาช่วย ลองนึกภาพ เครื่องประมาณ 2.0 ลิตร 300 แรงม้า ถ้าเป็นเทอร์โบ แค่ 3,500รอบก็เริ่มดึงแรงแล้ว แต่ NA 2.0 ลิตร 300 แรงม้า คุณรอไปเถอะ 6,000 รอบโน่นค่อยดึง อย่างนี้จะสรุปว่าใครรอรอบดี

รอรอบ กับรอบูสท์ (Turbo Lag) บางทีใช้สลับกันเข้าใจผิดกันบ่อย


เวลาเสีย ใครซ่อมมากกว่ากัน? เทอร์โบมันมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาก็คือพวกท่อยาง ท่อเทอร์โบ ตัวเทอร์โบเอง และอินเตอร์คูลเลอร์ ดังนั้นจุดที่ต้องดูแล และซ่อม เทอร์โบมีมากกว่า แต่มันไม่ได้ต่างกันแบบเท่าตัวหรอกครับ


ใครประหยัดกว่ากันถ้าเครื่องยนต์ ซีซีเท่ากัน
ตอบยาก เพราะรถบางรุ่นพอมีเทอร์โบ กินน้ำมันขึ้นเยอะทั้งๆที่ขับแบบปกติ แต่รถบางรุ่นมีเทอร์โบกลับกินน้ำมันแทบไม่ต่างจากเดิมถ้าขับดีๆ

เทอร์โบขับสนุกกว่าไม่มีเทอร์โบใช่หรือไม่?

สนุกของคุณคืออย่างไร? เหมือนกับสนุกของผมหรือเปล่า?
สนุกของผมคือการได้สัมผัสแรงดึงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน มีซาวน์แทร็คเสียงวี๊ดและเวสต์เกตประกอบ
มีแรงบิดมหาศาล ทำความเร็วได้ดีโดยไม่ต้องลากรอบสูง ถ้าสนุกแบบนี้ล่ะเทอร์โบสนุกกว่า

แต่ถ้าคุณลองไปขับพวกฮอนด้ารอบจัด เครื่อง B-Series, K-Series ที่มีเกียร์อัตราทดค่อนข้างจัดสำหรับรถบ้าน คุณอาจพบความสนุกจากการฟังเสียงเครื่องกระหึ่ม ลากรอบจรดขอบฟ้า ได้ความเร็วที่ดีและคอนโทรลรถง่ายเพราะแรงบิดเพิ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องมาเลี้ยงคันเร่งกันล้อฟรีทิ้ง สำหรับบางคน แบบนี้ก็คือความสนุกของเค้าครับ

คุณผู้การครับ พวก k และ b series ของฮอนด้านี่ เดิมๆก็ลากรอบได้แล้วโดยไม่ต้องแต่งเพิ่มแล้วหรือครับ
แล้วพวก vvt-i หรือ mivec หรือ ระบบแปรผันของค่ายอื่นมันทำได้อย่างเจ้า v-tec หรือเปล่าครับ
1995 honda civic eg 3dr become jdm+spoon
1997 mb c-class w202 elegance
2003 toyota hilux tiger sport cruiser 4x4 2.5 d4d
2006 kawasaki ksr 111
...........................................................................

ออฟไลน์ sakdituch5

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 244
สำหรับผม เทอร์โบสนุกกว่าครับ
เทียบกันระหว่างรถที่บ้าน2คันคือ
a31 กับ งูเห่า 
งูเห่า จะเป็นอะไรที่เนิบๆ แต่จะมาเรื่อยๆ
มีแรงตลอดครับ ขับสบาย เหยียบกันยัน160 ยังเร่งต่อบได้สบายๆ
แต่ถ้าเป็น a31 ตอบออกตัวแรกๆจะอืดมากเลยครับ คือมันจะเหมือนดึงๆ
รั้งๆไว้ แต่ถ้าเหยียบลึกลงไปอีกนิดหน่อย หลังติดเบาะเลยครับ
ถ้าคนไม่เคยขับรถประเภทนี้มาคงมีตกใจกันยกใหญ่
และเครื่องเทอร์โบนั้นถ้าเรารักษารอบดีๆ จังหวะเร่งแซง
จะให้ความรู้สึกที่มันกว่า สนุกกว่า แม่ว่าจะเร่งความเร็วเท่ากับรถเครื่อง
ธรรมดาทั่วไป ส่นa31 นั้น เหยียบได้ยันมึดไมครับ
หรือถ้าใครอยากลองดู ลองดูครับเอาแค่ตอนออกตัวก็พอ
รถธรรมดา เหยียบเต็มที่เลย
กับรถเทอร์โบ เหยียบเหมือนกัน
อารมณ์ต่างกันราวฟ้ากับเหวแม้ว่าเครื่องยนต์จะมีขนาดเท่ากันก็ตาม
ส่วนเรื่องประหยัดนี่แล้วแต่คนขับครับ ไม่กดมาก ก็ประหยัดใช้ได้

แก้คำผิด

ออฟไลน์ JIRATH

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,782
    • อีเมล์
เสียงของมันทำให้ผมหลงรัก
2008 Mazda CX-9 (SOLD)
2008 BMW X5 3.0si E70 (SOLD)
2010 Volkswagen CC R-Line (SOLD)
2014 Subaru BRZ Limited (SOLD)
2016 Subaru STi (SOLD)
2016 Honda Accord Sport
2016 BMW 328d F31 Xdrive
2015 Lexus CT200h F-Sport
2006 BMW 330i E90 6M/T

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ตอบคุณ Mann
เครื่อง K, B ในสภาพเดิมๆนั้นกล่องจะล็อครอบไว้ที่ประมาณ 8,000-8,400 ซึ่งถ้าปลดล็อคแล้วสามารถลากเกินนั้นได้ ยกเว้น B20 ซึ่งเป็นเครื่องช่วงชักยาว แม้หลายคนจะบอกว่าลากไปเหอะ แ่ต่ส่วนตัวผมกับเพื่อนเวลาจูน มักจะโปรแกรมไม่ให้ลากเกิน 8,500 และส่วนใหญ่จะลากกันที่แค่ 8,000 เพราะนอกจากช่วงชักยาวแล้ว ชิ้นส่วนท่อนล่างบางชิ้นยังเล็กกว่า B18 ซะอีก

ส่วน B16 นั้นช่วงชักสั้น พวกผมลากกัน 9,500 รอบโดยใช้น้ำมันสังเคราะห์คาสตรอลที่หาได้ทั่วไป สบม. ไม่มีปัญหา แต่อย่าแช่นานแบบหลายๆนาทีนะ พังได้

เครื่องของค่ายอื่นทำได้หรือไม่? คุณต้องเข้าใจก่อนว่า VVTi หรือ MIVEC ที่คุณพูดถึงมันอยู่ในเครื่องของอะไร MIVEC รอบจัดที่มีอยู่คือ 4G92 ใน Mirage Cyborg R แต่ MIVEC อย่างในพวกรถประกอบในบ้านเรามันเป็น MIVEC แบบใช้งานทั่วไป

เหมือน VTEC นั่นล่ะครับ มีหลายประเภท ไม่ใช่ว่า VTEC ทุกแบบจะทำมาเน้นรอบจัด Accord งูเห่า 2.3 ก็เป็น VTEC แต่ไม่ได้ทำมาให้ลาก 9,000 รอบ

เครื่อง SR16VE ของ Nissan สามารถลากได้ 8,500 รอบเช่นกัน ถ้าเป็นรุ่น N1 สามารถแตะ 9,000 รอบได้เช่นกัน แต่ไม่ต้องหวังจะแตะ 11,000 รอบครับ ชุดกระเดื่องบินก่อน และถ้า 13,000 รอบ พังท่อนล่างครับ ตายสนิท เปิดเครื่องดูลูกสูบหายตัวได้

เครื่อง 4A-GE ของ Toyota ก็ลากได้ 7,800-8,000 แต่ยังไ่ม่เคยลองอัดไปไกลกว่านั้น ส่วนมากเครื่อง Toyota ผมมักชอบเล่นกับเทอร์โบแล้วใช้รอบต่ำมากกว่า

เครื่อง 1JZ-GTE ของอู่ที่ผมวางเครื่อง เคยไปดูเค้าวัดไดโน่ ก็เล่นกัน 8,200 รอบ..ท่อนล่างเดิ๊มเดิมเลยนะ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
พูดแล้วคันมือ เรามาฟังเสียงเครื่องรถกันเล่นดีกว่า!

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=kz-yoVMkXJU&feature=fvw[/youtube]
ุ6 สูบเทอร์โบ ฟังเสียงวี๊ดกับเสียงโบล์วออฟ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=7xypJ-ccosc[/youtube]
SAAB 900 4 สูบเทอร์โบ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=nUVBXqe8MyM&feature=related[/youtube]
ชอบเดินทางสายกลาง เอา 5 สูบเทอร์โบไป

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=TDuLPXunHQQ&feature=related[/youtube]
V8 ซูเปอร์ชาร์จ!

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=54gou4WCLIw&feature=related[/youtube]
V8 อิตาเลียน ไม่มีเทอร์โบ

[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=NylBj75sEAk[/youtube]
VTEC ไม่มีเทอร์โบ 4 สูบ


- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ TAI ^^

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 353
  • Faculty of Political Science, TU
ชอบ VTEC - B Series(?)อ่ะครับ เป็น N/A แถมไม่ใหญ่อีกต่างหาก ธรรมดาที่ไม่ธรรมดาจริงๆ

V8 Supercharge นี่ฟังแล้วนึกถึงกระสุนอ่ะ 555+
Beauty is in the eye of the beholder...

ออฟไลน์ kritphakhin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,943
ผมอีคนที่ชอบเสียงเทอร์โบเป็นอย่างมากรับ

ออฟไลน์ Monstruo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 381
ชอบเสียง Supra ที่สุดแฮะ
แต่ Saab คันนี้นี่ turbo lag เยอะเกิน กว่า boost จะมาก็เกือบๆ 5000 รอบแล้ว สับเกียร์ขึ้นทีรอบตกไป 3000 กว่า T_T

preme123

  • บุคคลทั่วไป
เครื่อง S2000 อะครับ เห็นว่ากันว่าลากรอบกัน ไม่หวั่นไม่ไหวเลย สนุกมากมาย ห้ามให้รอบตกเด็ดขาด ต้องเพยายามให้อยู่ใน power band หรือ torque band ตลอดแล้วแต่ว่าจะเข้าโค้งแบบไหนครับ 555 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ U9WS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,180
  • slower is better
เอารถบ้านๆ กลางๆหน่อย
ลองดูรถยุคใหม่ๆที่มีเทอร์โบจากโรงงาน รับรองติดใจครับ

แรง ประหยัด ไม่ต้องรอรอบ กำลังมาตั้งแต่รอบต่ำ ไม่มีแลกแล้ว

ขับในเมืองแล้วสบายๆครับ ขับไกลๆก็ยังเหลือ


ส่วนรถ NA รอบสูงขับในเมืองแล้วเซงครับ
แต่ขับยาวๆเมื่อไหร่ได้บริหารอะลินนาลีนเลยครับ 

ออฟไลน์ fhon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 4
    • อีเมล์
ต่างคนก็เชียร์รถตัวเองครับ  ขับโบก็เชียร์โบ  ส่วนรถใครไม่มีโบ ก็ไม่ต้องวอร์รี่ครับ เพราะรถยุโรปหลายตัว แบบหายใจเอง สวนรถที่มีโบมานักต่อนัก

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
ผมชอบเครื่อง N/A แต่ CC 5000+ ครับ ขับแล้วเหมือนแรงไม่มีหมดเลยครับ

ออฟไลน์ Boyd

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 105
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมเองขับในเมืองชอบเทอร์โบมากกว่า
ขับปกติแบบสามัญชนเราเลือกขับแบบบูสต์ไม่ติดก้อได้ ก้อเหมือนรถNAนั่นแหละ
แต่หากยามที่ต้องการอัตราเร่งเมื่อไหร่มันกระชากลากดึงดี อิอิอิ

การดูแลรักษาก้อเหมือนกันทั้งคู่(ถ้าเป็นรถเดิมๆสแตนดาร์ดจากโรงงานนะ)
จะแตกต่างกันตรงเวลาที่บูสต์มาเนี่ยแหละ รอบกวาดไว สับเกียร์กันแทบไม่ทัน ชิ้นส่วนต่างๆก้อมีโอกาสสึกหรอได้เยอะกว่า
แต่ถ้าได้น้ำมัน น้ำมันเครื่อง น้ำ อากาศปกติ(และดี ย้ำต้องดี เพราะเวลาบูสต์มามันเหมือนคนทำงานแบบยกกำลัง) รับรองว่าไม่มีพัง
อ้อ เบรค ช่วงล่าง ต่างๆ รถเทอร์โบ ก้อต้องดีด้วยไม่งั้นมันก้อเอาไม่อยู่ และสึกหรอมากกว่า เพราะเวลาบูสต์มามันต้องพึ่งพาของพวกนี้ทั้งหมด

ปกติทางฝากยุโรปจะชอบรถเทอร์โบ เพราะทางตรงน้อย ต้องการเครื่องยนต์ที่มีอัตราเร่งดีๆ

แต่ทางฝากอเมริกา จะชอบNA ที่มีซีซีเยอะๆมากกว่า เพราะมีทางยาวๆให้วิ่งไกลๆ
แต่ซีซีที่มีมากกว่าก้อเหนื่อยน้อยกว่า เพราะเหมือนคนปอดใหญ่กว่า รอบจะเดินต่ำกว่า
ความร้อนสะสมในห้องเครื่องห้องเผาไหม้น้อยกว่า ทน ทึก สไล์ NA (แต่ที่ว่ามาถ้าวิ่งในเมืองรถติดๆ ซีซีเยอะๆเนี่ยก้อซดกระจายยยยย)

ประมาณนี้ครับ ความคิดเห็นส่วนตัว ผิดพลาดตรงไหนขออภัย อิอิอิ  ;D ;D ;D
ปล.ดูรถกระบะใหม่ๆจิ มีเทอร์โบทั้งนั้น ขึ้นเขาลงห้วยบรรทุกโคดๆ ไม่พัง

ออฟไลน์ mkuski

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 204
Vtec เสียงลากรอบมันหวานจริงๆๆ 

แล้วเรื่องน้ำหนักของเครื่องล่ะครับ
เอาเครื่อง 1.6 มันอัก turbo ให้ได้ 200 แรงม้า
กับวาง 2.0 na 200 แรงม้า น้ำหนักจะต่างกันมากไหมครับ

เช่น L15A  set Turbo กับ K20A

ถ้าแบกน้ำหนักบนเพลาหน้ามากๆๆ มันก็ไม่ดีใช่ไหมครับ