ผู้เขียน หัวข้อ: ปรึกษาเรื่องการเปลี่ยน ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง civic fd  (อ่าน 7185 ครั้ง)

ออฟไลน์ raknajupjup

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
สวัสดีคับ  ผมมีเรื่องมาปรึกษา คับ เป็น civic fd 1.8 at ปี 2011 รถ 5 ปี วิ่ง 54,000 โล

คือ รถผมมีอาการขับไปเฉยๆๆก้อดับดื้อๆๆเลยย แต่ก้อสตาร์ดใหม่ติดเลยนะคับแต่ซึ่งมันอันตรายมากๆๆคับ 

ลองเอารถให้ศูนย์เช็คดู ศูนย์แจ้งว่าเป็นที่ปั๊มเชื้อเพลิงหรือที่เราเรียกกันว่าปั้มติ๊กใช่ไหมคับ ที่เสีย คับ

เช็คราคาศูนย์ เจ็ดพันกว่าบาท ซึ๋งผมลองหาข้อมูลราคาทางเน็ตราคาข้างนอกคร่าวๆๆอยู่ที่ประมาณ 1,500

พี่ๆๆว่า เอายังไงดีคับ จะศูนย์ดีหรือจะอู่นอกกดีคับ..

และก็ รถคนนี้เป็นรถที่บ้านเองซื้อตั้งแต่ป้ายแดงเติม 95 เพียววตลอดจะมีช่วงที่ผมเอามาใช้เองนี่แหล่ะมาเติม e20 เติมมาได้ประมาณ 5 เดือนกว่าๆ จากที่เติม 95 เพียวๆๆคับ เดือนหนึ่งจะเติมแค่ 2 ครั้งเพราะใช้น้อยที่พักใกล้ที่ทำงาน ซึ่งผมสงสัยว่าจะเป็นเพราะ e20 หรือป่าวแต่ทั้งๆๆที่ รถคันนี้ก้อรองรับ e20 ผมเลยแปลกใจว่า e20 เป็นจำเลยยในครั้งนี้หรือป่าว ซึ่งถ้าใช่เป็นที่น้ำมันผมว่าจะเลิกเติม e20 แล้วส่วนอื่นๆๆหัวฉีด regulator โอริง อื่นๆๆ มันจะไปหมดมั้ยคับ

ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคับ

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,480
1.การเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนข้างนอก  มักจะเปลี่ยนเฉพาะไส้ใน(ตัวปั๊ม)  ถ้าคุณมีอู่ที่ไว้ใจได้ในความสามารถ  ก็ใช้บริการได้  ไม่น่าจะเกินสามพัน  แล้วแต่แรงดัน(เลือกได้ด้วย)

2.  กรณีของคุณ  เดาว่าไม่เกี่ยวกับอี 20 เท่าไร  แต่เป็นพฤติกรรมการใช้รถ  ถ้าเดาไม่ผิด  คุณปล่อยให้น้ำมันต่ำกว่า 1/4 ถังบ่อยมาก  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง  ทำให้โอริงของตัวปั๊มสึกหรอเร็ว     
     เหตุผล เมื่อคุณจอดรถไว้น้ำมันในถังเหลือน้อย  ไม่ท่วมปั๊ม เนื้อน้ำมันระหว่างตัวปั๊มกับโอริงจะค่อย ๆไหลลงไปที่ก้นถัง  แห้งในที่สุด  ตอนนี้ส่วนที่สัมผัสของทั้งสองสิ่งไม่มี  แต่มันติดกันหนึบเพราะขาดหล่อลื่น  อีกสองสามวันเมื่อคุณมาติดเครื่องใหม่  มันก็จะกระชากหลุดออกจากกัน  ความเสียหายของโอริงจะมีมากกว่าปกติ   แต่ถ้าคุณมีน้ำมันท่วมปั๊มตลอด  อายุจะทนกว่านี้มาก  เพราะตัวน้ำมันเป็นส่วนที่หล่อลื่นระหว่างสองสิ่งนี้....(ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า)

   

ออฟไลน์ raknajupjup

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 53
1.การเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนข้างนอก  มักจะเปลี่ยนเฉพาะไส้ใน(ตัวปั๊ม)  ถ้าคุณมีอู่ที่ไว้ใจได้ในความสามารถ  ก็ใช้บริการได้  ไม่น่าจะเกินสามพัน  แล้วแต่แรงดัน(เลือกได้ด้วย)

2.  กรณีของคุณ  เดาว่าไม่เกี่ยวกับอี 20 เท่าไร  แต่เป็นพฤติกรรมการใช้รถ  ถ้าเดาไม่ผิด  คุณปล่อยให้น้ำมันต่ำกว่า 1/4 ถังบ่อยมาก  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง  ทำให้โอริงของตัวปั๊มสึกหรอเร็ว     
     เหตุผล เมื่อคุณจอดรถไว้น้ำมันในถังเหลือน้อย  ไม่ท่วมปั๊ม เนื้อน้ำมันระหว่างตัวปั๊มกับโอริงจะค่อย ๆไหลลงไปที่ก้นถัง  แห้งในที่สุด  ตอนนี้ส่วนที่สัมผัสของทั้งสองสิ่งไม่มี  แต่มันติดกันหนึบเพราะขาดหล่อลื่น  อีกสองสามวันเมื่อคุณมาติดเครื่องใหม่  มันก็จะกระชากหลุดออกจากกัน  ความเสียหายของโอริงจะมีมากกว่าปกติ   แต่ถ้าคุณมีน้ำมันท่วมปั๊มตลอด  อายุจะทนกว่านี้มาก  เพราะตัวน้ำมันเป็นส่วนที่หล่อลื่นระหว่างสองสิ่งนี้....(ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า)

   
แฮะๆๆ ใช่คับ ปกติผมจะรอไฟเกือบโชว์ถึงจะเติมน้ำมันกลับเข้าไป เพื่อเช็คอัตราบริโภคน้ำมันหรือความผิดปกติอื่นๆๆ ผมทราบบมาว่าเติมทิ้งไว้ใช้สำหรับรถติดแก๊สที่ไม่ได้ใช้น้ำมันทุกวันผมก้อเลยยละเลย ต่อไปผมก้อคงต้องเติมหลังจากเลยครึ่งถังมาหน่อยนึ่งซะแล้ว แต่ fd มันไม่มีบอกปริมาณ 1/4 ของถัง ก้อติดนิสัยยไฟใกล้โชว์ถึงจะเติม  ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนคับบผม

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
1.การเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนข้างนอก  มักจะเปลี่ยนเฉพาะไส้ใน(ตัวปั๊ม)  ถ้าคุณมีอู่ที่ไว้ใจได้ในความสามารถ  ก็ใช้บริการได้  ไม่น่าจะเกินสามพัน  แล้วแต่แรงดัน(เลือกได้ด้วย)

2.  กรณีของคุณ  เดาว่าไม่เกี่ยวกับอี 20 เท่าไร  แต่เป็นพฤติกรรมการใช้รถ  ถ้าเดาไม่ผิด  คุณปล่อยให้น้ำมันต่ำกว่า 1/4 ถังบ่อยมาก  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง  ทำให้โอริงของตัวปั๊มสึกหรอเร็ว     
     เหตุผล เมื่อคุณจอดรถไว้น้ำมันในถังเหลือน้อย  ไม่ท่วมปั๊ม เนื้อน้ำมันระหว่างตัวปั๊มกับโอริงจะค่อย ๆไหลลงไปที่ก้นถัง  แห้งในที่สุด  ตอนนี้ส่วนที่สัมผัสของทั้งสองสิ่งไม่มี  แต่มันติดกันหนึบเพราะขาดหล่อลื่น  อีกสองสามวันเมื่อคุณมาติดเครื่องใหม่  มันก็จะกระชากหลุดออกจากกัน  ความเสียหายของโอริงจะมีมากกว่าปกติ   แต่ถ้าคุณมีน้ำมันท่วมปั๊มตลอด  อายุจะทนกว่านี้มาก  เพราะตัวน้ำมันเป็นส่วนที่หล่อลื่นระหว่างสองสิ่งนี้....(ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า)

 

ขอบคุณครับ ความรู้ใหม่ 
บางครั้งน้ำมันผมก็น้อยกว่า 1/4 เพราะเติม เดือนละ 1-2 ครั้งเอง
เดี๋ยววันนี้ไปเติมเลย  ;D

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
1.การเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนข้างนอก  มักจะเปลี่ยนเฉพาะไส้ใน(ตัวปั๊ม)  ถ้าคุณมีอู่ที่ไว้ใจได้ในความสามารถ  ก็ใช้บริการได้  ไม่น่าจะเกินสามพัน  แล้วแต่แรงดัน(เลือกได้ด้วย)

2.  กรณีของคุณ  เดาว่าไม่เกี่ยวกับอี 20 เท่าไร  แต่เป็นพฤติกรรมการใช้รถ  ถ้าเดาไม่ผิด  คุณปล่อยให้น้ำมันต่ำกว่า 1/4 ถังบ่อยมาก  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง  ทำให้โอริงของตัวปั๊มสึกหรอเร็ว     
     เหตุผล เมื่อคุณจอดรถไว้น้ำมันในถังเหลือน้อย  ไม่ท่วมปั๊ม เนื้อน้ำมันระหว่างตัวปั๊มกับโอริงจะค่อย ๆไหลลงไปที่ก้นถัง  แห้งในที่สุด  ตอนนี้ส่วนที่สัมผัสของทั้งสองสิ่งไม่มี  แต่มันติดกันหนึบเพราะขาดหล่อลื่น  อีกสองสามวันเมื่อคุณมาติดเครื่องใหม่  มันก็จะกระชากหลุดออกจากกัน  ความเสียหายของโอริงจะมีมากกว่าปกติ   แต่ถ้าคุณมีน้ำมันท่วมปั๊มตลอด  อายุจะทนกว่านี้มาก  เพราะตัวน้ำมันเป็นส่วนที่หล่อลื่นระหว่างสองสิ่งนี้....(ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า)

 

ขอความรู้ครับ.  ผมเติมเมื่อไฟเตือนเกือบตลอด ทุกคัน
มีข้อมุลอ้างอิงมั้ยว่าต้องเติม1/4ถัง
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,380
    • อีเมล์
อู่นอกเยอะแยะครับ
ไปช่างกล่ำ พรานนกก็ได้

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์

ขอความรู้ครับ.  ผมเติมเมื่อไฟเตือนเกือบตลอด ทุกคัน
มีข้อมุลอ้างอิงมั้ยว่าต้องเติม1/4ถัง

อันนี้ ความเห็นส่วนตัวจากที่ เล่นกับ มอเตอร์บ่อยๆ
DC มอเตอร์ ทำงานตัสเปล่าๆ จะร้อนมากๆ กรณีมี Load หรือกระแสสูงๆ
โดยเฉพาะปั๊ม ทำงาน ที่ความเร็วสูง ตลอด แช่อยู่ ในถังน้ำมัน
เราจะเห็นว่า พวกมอเตอร์ในรถ เช่น
ปั๊มติ้ก ปั๊มน้ำ พัดลมแอร์ พัดลมหม้อน้ำ กระจกไฟฟ้า 
ไอ้ที่จะพังก่อนพวก ก็ พัดลมหม้อน้ำ และ ปั๊มติ้กนี่ละ เพราะ ทำงานตลอดเวลา
แต่ความร้อนไม่ใช่ประเด้นการเสียของมอเตอร์อย่างเดียว

การเสีย ของมอเตอร์ ที่พบบ่อย ดังนี้

1.แปรงถ่านที่ทำหน้าที่ ต่อไฟ ให้ขดลวดมอเตอณ์ ขณะหมุน ทำงานตลอดเวลา มีายุการใช้ งาน สึกหรอของชิ้นส่วน ( มอเตอร์ยังไงก็ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งาน).
2.ขดลวดมอเตอร์ ขาด ไหม้ เนื่อง จาก เก่า หมดอายุ ร้อนจัด กระแสสูง เกิด การช๊อตที่จุดอื่น.

ส่วน 1/4 นี่ เป็นค่าโดยประมาณ เพื่อให้มีระดับ น้ำมัน แช่อยู่ เพื่อระบายความร้อนพื่อยืด ระยะการใช้งาน แต่ไม่ได้ ป้อนกันการพัง หรือ เสื่อมสภาพ
จริงๆ ต้องไปดูการออกแบบว่า ระดับไหน ที่ ยังมีน้ำมันแช่อยู่ในถัง
บางคัน หมดเกจ แต่จริงๆ น้ำมันแช่ปั๊มติ้กอยู่ทั้งตัวก็มีครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น พวก มอเตอร์ ยังไงก็มีวันหมดอายุ อยู่ที่ ว่าจะ เปลี่ยนทั้งชุดหรือซ่อมตามอาการ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 22, 2016, 09:33:01 โดย mamaman »

ออฟไลน์ alpha14

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,109
ช่างข้างนอกเลยคับถูกกว่า รถรุ่นนี้มีใช้ทั่วไปช่างที่ไหนก็ทำได้คับ

ออฟไลน์ Darkart

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,192
    • อีเมล์
หาปั้มติ๊ก ยี่ห้อฮอนด้าด้วยกันใส่ก็ได้ แนะนำอู่เฉพราะHondaโดยตรงจะดีกว่า
เติมน้ำมันก็ถึงขีดแดง เพื่อยืดอายุการใช้งานของปั้มติ๊กครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
ผมไม่เคยรอให้ไฟเตือนขึ้นเลยถึงเติม ดูตามความเหมาะสมมากกว่า บางทีก็มีไฟเจือน บางทีก็ไม่มี เหลือน้อยก็เติม

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,480
1.การเปลี่ยน  ถ้าเปลี่ยนข้างนอก  มักจะเปลี่ยนเฉพาะไส้ใน(ตัวปั๊ม)  ถ้าคุณมีอู่ที่ไว้ใจได้ในความสามารถ  ก็ใช้บริการได้  ไม่น่าจะเกินสามพัน  แล้วแต่แรงดัน(เลือกได้ด้วย)

2.  กรณีของคุณ  เดาว่าไม่เกี่ยวกับอี 20 เท่าไร  แต่เป็นพฤติกรรมการใช้รถ  ถ้าเดาไม่ผิด  คุณปล่อยให้น้ำมันต่ำกว่า 1/4 ถังบ่อยมาก  ซึ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง  ทำให้โอริงของตัวปั๊มสึกหรอเร็ว     
     เหตุผล เมื่อคุณจอดรถไว้น้ำมันในถังเหลือน้อย  ไม่ท่วมปั๊ม เนื้อน้ำมันระหว่างตัวปั๊มกับโอริงจะค่อย ๆไหลลงไปที่ก้นถัง  แห้งในที่สุด  ตอนนี้ส่วนที่สัมผัสของทั้งสองสิ่งไม่มี  แต่มันติดกันหนึบเพราะขาดหล่อลื่น  อีกสองสามวันเมื่อคุณมาติดเครื่องใหม่  มันก็จะกระชากหลุดออกจากกัน  ความเสียหายของโอริงจะมีมากกว่าปกติ   แต่ถ้าคุณมีน้ำมันท่วมปั๊มตลอด  อายุจะทนกว่านี้มาก  เพราะตัวน้ำมันเป็นส่วนที่หล่อลื่นระหว่างสองสิ่งนี้....(ไม่รู้เข้าใจหรือเปล่า)

 

ขอความรู้ครับ.  ผมเติมเมื่อไฟเตือนเกือบตลอด ทุกคัน
มีข้อมุลอ้างอิงมั้ยว่าต้องเติม1/4ถัง

..............คงไม่ต้องอ้างอิง มันเป็นกฎของธรรมชาติ ....คุณลองใช้ไซริ้งฉีดยา  ได้มาใหม่ ๆ มีหล่อลื่น   ดึงเข้าออกเคลื่อนตัวได้ดี นุ่นนวล  คุณล้างให้สะอาด เกลี้ยงเกลา  เช็ดให้เกือบแห้ง   เสียบเข้าไปสักครึ่งหนึ่ง   ทิ้งไว้สักสัปดาห์ ให้แห้งสนิท    จากนั้นนำมากดลงให้สุด  ดูดน้ำขึ้นมา  ให้เทียบความหนืด  ขนะดันสุด  ดูดน้ำเข้า  แล้วกดพ่นออก  ความลื่น และแรงในการกดและดึง ต่างกันไหม? เช่นเดียวกัน ปั๊ม ช่วงกระชากแรก ๆนี่แหละที่ทำความเสียหายให้ยางมากที่สุด......