เรียนอย่างนี้ครับ
เรื่องที่ทำงานนี่ ผมอยู่ที่นี่อะไรก้ดีหมดครับ ยกเว้นการเมือง
ผมสนิทกับเฮียเจ้าของ ส่วนเมียแกที่เป็นซ้อผมก้คุยได้
ในที่ทำงานมันจะชอบแบ่งว่าใครเป็นเด็กซ้อ เด็กเฮีย
ซึ่งผมไม่ชอบเรื่องแบบนี้ มันอึดอัด
เลยว่าจะออกมาก่อน ยังไม่ได้หางานใหม่ อะไรรอไว้เลย
เฮียแกรู้ว่าผมจะออก เลยเรียกไปคุย บอกให้อยู่ช่วยกันก่อน
สายงานผมทำเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์
ถ้าออกไปตอนนี้ไม่มีงานอะไรทำ ก็รับฟรีแลนซ์ได้อยู่ รายได้จากทุกทางรวมกันก้ยังอยู่ได้
เพราะผมไม่ค่อยได้ใช้เงินทำอะไรเท่าไหร่
ตอนแรกไม่มีรถ ไม่คิดซื้อ พอมีแล้วก้สะดวกในการเดินทางดี เพราะมอไซต์ขนของไม่ได้
พอได้มีรถเลยชอบรถ 5 ประตู มากกว่า 4ประตู น่าจะขนของได้ดีกว่า
ตอนแรกก้คิดว่าผ่อนเองเอารถอะไรก้ได้ดูแลถูกๆ ทนๆ
พอมาเจอข้อเสนอนี้ ยอมรับเลยว่า ลังเลมาก
คือรถมันสวย ชอบ เรื่องงานไม่เกี่ยว เกี่ยวที่ค่าใช้จ่ายตามมาอ่ะครับ
เรื่องทำงานต่อกับเค้าไม่ได้มีปันหาอะไร
อนาคตคงไม่ได้เป็นลูกจ้าง คงทำอะไรของตัวเอง
ค่อมันห่างจากที่ตั้งไว้ตอนแรกมาก
อยากได้รถไม่แพง ทน ดูแลง่าย ถูก
กลายมาเป็น รถสวย ค่าดูแลแพง ขับแล้วเท่ 5555
ถ้าหมด bsi ราคามันจะตก/ปมากไม๊ครับ
ขอบคุณครับ
ผมขอพูดเรื่องงานละกันนะ อะไรเป็นหลักประกันว่าไปที่ใหม่แล้วจะไม่เจอเรื่องการเมืองในองค์กรแบบที่เดิม แถมด้วยที่อยู่ปัจจุบันนี้คุณก็สามารถคุยกับเจ้านายได้ทั้ง2คนแบบไม่มีปัญหาอยู่แล้ว สำหรับผมถ้ามีเจ้านายคุยกันรู้เรื่องก็เป็นที่ทำงานในฝันแล้วครับ ใครจะเล่นการเมืองก็ปล่อยเค้าไปในเมื่อคุณสามารถสายตรงได้ทั้ง2ฝั่งลอยอยู่เหนือเรื่องพวกนี้แล้ว
มันวางตัวยากครับ
เวลาที่คนนู้นนี่การเมือง
แล้วจะมาดึงผมไปเข้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
เพื่ออาศัยว่าผมมีแบคดี มีคนหนุนหลัง
ผมก็ออกตัวไปตลอดว่า ผมลูกจ้าง ไม่ใช่หุ้นส่วน ลากผมไปมันก็ไม่ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก
บางทีการที่เราไม่มีใครรู้จักเลย อยู่แบบคนธรรมดา ไม่รู้เรื่องอะไร มาทำงานอย่างเดียว อาจจะสบายใจกว่าครับผม
ส่วนเรื่องเงินเก็บไปออกรถเอง ผมก็คิดอยู่ครับ
ตอนนี้ผมถอนตัวลำบากยังไงไม่รู้
ถึงไม่เจอกันที่ทำงาน
แต่บ้านผม กับบ้านญาติๆ ฝั่งแฟนจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันหมดเลย
ยังไงก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี
ผมไม่แน่ใจว่า บีเอ็มเป็นรถในฝันคุณหรือเปล่า ถ้าใช่ก็คิดหนัก
แต่ถ้าไม่ใช้ ก็ไม่ต้องเอาครับ
คุณไม่ชอบสังคมการเมือง ยิ่งคุณเอารถมายิ่งเป็นขี้ปาก และจะยิ่งการเมืองเข้าไปอีกนะครับ คิดดีๆนะครับ
ปกติคุณขับมอไซด์ทุกวัน ผมว่ารถยังไม่จำเป็นมากสำหรับคุณ ดังนั้นยิ่งบีเอ็มยิ่งเกินจำเป็นเข้าไปใหญ่ครับ
ดังนั้น
ถ้าเอา ก็เอามาขับสัก 1 ปีจนเบื่อแล้วก็ขาย เอาเงินเก็บไว้เป็นทุน แต่อาจจะต้องเกรงใจ หรือ เป็นหนี้บุญคุณทางความรู้สึกไปอีกหลายปีครับ
ถ้าไม่เอาก็สบายใจดี ทำงานเก็บเงิน ถ้าจะเป็นต้องใช้ก็ซื้อรถ 5 ประตู Eco car หรือ Jazz มาใช้ พอมีลู่ทางจะออกไปก็สบายใจกว่าครับ ถ้าเป็นไปได้ ขอเงินเดือนเพิ่มดีกว่ารถครับ มีประโยชน์มากกว่าครับ