ผู้เขียน หัวข้อ: *Review Ford EVEREST 2.2L Titanium 4x2AT : เครื่องเล็กในร่างยักษ์...ก็เอาอยู่!!! (อ่าน 79295 ครั้ง)

sirisak_ac118

-ถ้าพับเบาะแถวสามลงได้โดยยกแกนยกที่กลางเบาะก็จะพับเบาะได้อย่างง่ายดาย
และสามารถแยกพับเบาะได้แบบ 50:50 มีเชือกดึงเพื่อง่ายต่อการยกเบาะขึ้น

sirisak_ac118

-ส่วนเบาะแถวสองสามารถแยกพับแบบ 60:40 เวลาพับเบาะลงหมดจะมีพื้นที่เก็บของเรียบใส่ของได้มากโข การบรรทุกของไม่ใช่ปัญหามีให้มากจนเกินพอ

sirisak_ac118

-ใต้พื้นมีช่องเก็บเครื่องมือและของจุกจิก ส่วนยางอะไหล่อยู่ด้านใต้ตัวรถ

sirisak_ac118

-ระบบความปลอดภัยก็มีให้มาเต็มๆ เพียงพอแม้จะรุ่นต่ำสุด
ระบบความปลอดภัยเชิงปกป้อง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS และม่านนิรภัยรวมเป็น 6 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งในคู่หน้าปรับสูง-ต่ำได้ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ, ISOFIX จุดยึดสำหรับเบาะเด็ก

-ส่วนระบบความปลอดภัยเชิงป้องกัน
เริ่มด้วย ล็อครถอัตโนมัติเมื่อรถออกตัว, เปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, กระจกมองหลังพร้อมระบบตัดแสง, เสียงเตือนการคาดเข็มขัดของเบาะคู่หน้า,
เซ็นเซอร์ถอยจอดพร้อมบอกระยะที่หน้าจอ, สัญญาณกันขโมยสามารถตั้งการร้องเตือนได้เวลาดับเครื่องจะแสดงที่หน้าจอ

-ดิสเบรก 4 ล้อ ระบบป้องกันล็อก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและป้องกันการลื่นไถล (TCS), ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP),
ระบบนี้ช่วยลดการใช้เบรกเมื่อลงทางลดชัน สามารถเปิด-ปิด ได้ที่ปุ่มบริเวณคอนโซลด้านหน้าใต้ชุดควบคุมระบบปรับอากาศ,
ระบบป้องกันล้อลื่นไถล (Traction Control), ระบบความคุมการทรงตัวขณะลากจูง(Trailer Sway Mitigation),
ระบบป้องกันการพลิกคว่ำ (Rollover Mitigation), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HLA)

sirisak_ac118

-มาดูการขับขี่กันบ้าง
เครื่องยนต์ขนาด 2,200 ซีซี ดีเซล 4 สูบแถวเรียงวางตามยาว 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผันพร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ หัวฉีดไดเร็คอินเจ็คชั่นคอมมอนเรล รัดแรงม้าออกมาวิ่งได้ 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 385 นิวตัน – เมตร ที่ 1,600 – 2,500 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สามารถเลือกตำแหน่งเกียร์ได้ด้วยตัวเอง ขับเคลื่อน2ล้อหลัง

-เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็กสุดในรุ่นตัวนี้เดินได้เรียบและเงียบมากในรอบเดินเบา ไม่มีความรู้สึกถึงความเป็นเครื่องยนต์ดีเซล จนได้ออกไปนอกรถหรือฟังเสียงรอบเครื่องที่กำลังกวาดขึ้นไปตามรอบความเร็ว
ข้อได้เปรียบของรุ่นนี้คงจะเป็นน้ำหนักตัวที่ไม่ต้องแบกน้ำหนักเครื่องยนต์ 5 สูบในรุ่นสูงสุดและชุดระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ดูจากในสเปคน้ำหนักตัวรถที่หากันอยู่นานจนต้องไปเปิดหาในเว็บต่างประเทศ
จึงได้รู้ว่าน้ำหนักที่หายไปร่วม 200 กิโลกรัมทีเดียวจากรุ่น 3.2ลิตร 4x4 ทำให้เวลาขับก็ไม่ได้รู้สึกว่ารถอืดอาด กดเต็มเท้าก็เรียกแรงดึงและรถก็พุ่งไปแบบไม่เกรงใจขนาดตัวถังเหมือนกัน
วัดอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงคร่าวๆ ได้ประมาณ 13-14 วินาที ถือว่าไม่เร็วมากแต่พอขับใช้งานจริงก็ไม่ได้รู้สึกว่าอืดอย่างที่คิดไว้ เครื่องมีการรอรอบในจังหวะออกตัวบ้าง
แรงดึงจะเห็นชัดเวลารอบเครื่องผ่านช่วง 2,000 รอบต่อนาทีเป็นต้นไป น่าจะเป็นช่วงที่แรงม้ากำลังไต่เส้นกราฟพุ่งไปอย่างสวยงาม

sirisak_ac118

-ส่วนเกียร์เปลี่ยนได้ราบรื่นดีไม่มีการกระตุกให้ได้รู้สึก ไหลไปได้แต่ยินเสียงเครื่องยนต์กับรอบเครื่องที่ทำให้รู้ว่ามีการเปลี่ยนเกียร์ แต่ในจังหวะช่วงเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นรอบถ้าอยู่ในเกียร์ D
หรือโหมด S รอบที่จะเปลี่ยนจังหวะเกียร์จะอยู่ช่วง 3,200- 3,600 รอบ/นาที กดยังไงก็ไม่ยอมลากรอบสูงกว่านั้น คงเป็นเพราะในช่วงแรงบิดและแรงม้าสูงสุดของเครื่องยนต์ตัวนี้อยู่ในช่วงนั้นพอดี
ทำให้เวลารอยต่อของกำลังเครื่องและเกียร์ โดยรอบจะตกมาที่ 2,000-2,200 รอบในจังหวะเกียร์ต่อไป ช่วงเร่งต่อเนื่องเลยไม่มีปัญหาการรอรอบ ในโหมด S รอบเครื่องจะเปลี่ยนรอบได้สูงขึ้นเล็กน้อย
แต่จังหวะเกียร์จะลดไป 1 จังหวะ ช่วยให้รอบเครื่องอยู่สูงขึ้นในความเร็วเท่ากัน ช่วยให้เวลาขับเข้าโค้งหรือทางลาดชันลดการใช้เบรก ได้แรงเอนจิ้นเบรคมาช่วย และจังหวะเร่งแซงก็ได้แรงมาเร็วขึ้น

-คันเร่งไฟฟ้าก็ยังเป็นสิ่งที่ขัดใจตามมาจากในรุ่น Ranger คือมีการดีเลย์หลังจากกดคันเร่งเล็กน้อย ทำให้รู้สึกรถไม่ค่อยตามเท้า เลยต้องปรับการกดคันเร่งเวลาเร่งแซง

sirisak_ac118

-ช่วงล่างในคันนี้ ช่วงด้านหน้าเป็นแบบระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น ดับเบิ้ลวิชโบน พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบคอยล์สปริงที่มาพร้อมกับแกนช่วงล่างแบบวัตต์ลิงค์
และเหล็กกันโคลง ติดด้วยล้อ 18นิ้ว ขนาด 265/60 R18 ยาง Bridgestone Dueler H/T ตัวรถยกสูงความสูงใต้พื้นรถสูงถึง 225 มิลลิเมตร ช่วงล่างของคันนี้บอกเลยว่าทำออกได้ดีมาก
ขับแล้วลืมไปเลยว่าเป็นรถที่มีต้นกำเนิดมาจากรถกระบะ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของรถกระบะหลงเหลืออยู่บ้าง เวลาขับบนถนนดำปกติมีความนุ่มนวลขับแล้วสบายอารมณ์ เวลาขึ้นเนิน จั๊มคอสะพาน หรือถนนที่เป็นคลื่น
ไม่มีกระเด้งกระดอน เก็บอาการโคลงของตัวรถได้ดี แต่พอต้องเจอรอยต่อถนนหรือผิวถนนที่มีปัญหา ยังมีแรงสะเทือนส่งมาถึงตัวรถรับรู้ได้พอสมควร แต่ไม่ถึงกับกระด้าง ติดกระเทือนมากกว่า

sirisak_ac118

-เวลาเข้าโค้งถือว่าทำได้ดี การกลับคืนของตัวถังได้เร็วและไม่เหวี่ยงมาก คนนั่งหลังไม่เวียนหัว นอกจะจะเข้าโค้งแคบแล้วใช้ความเร็วหรือเปลี่ยนเลนก็อาจมีเหวอๆ ตามสไตล์รถสูง แต่ก็สามารถแก้อาการกลับได้ไม่ยากเย็น

-พวงมาลัยไฟฟ้าแบบ EPS น้ำหนักเบามือขับง่าย ทำให้การควบคุมรถขนาด 2 ตันกว่าไม่ใช้เรื่องยาก แต่อาจจะหมุนพวงมาลัยหลายรอบหน่อย วงเลี้ยวไม่กว้างขับได้ง่าย รัศมีวงเลี้ยวไม่น่าถึง 6 เมตร
ความไวไม่มากขับแล้วคุมตัวได้ไม่มีปัญหาไม่ต้องเกร็งเวลาขับความเร็วสูงเพราะมีน้ำหนักหนักมือขึ้น แต่ก็อยากให้หนักกว่านี้อีกนิดจะได้ความมั่นใจมากขึ้น เพราะตัวรถที่สูงใหญ่รู้สึกว่าจะมีปัญหากับลมพอสมควร
เจอลมต้านเวลาขับเร็วๆ มีอาการเป๋เหมือนกัน

-ระบบเบรก ดิสเบรก 4 ล้อชะลอรถได้ดี ระยะเบรกไม่ลึกมากสามารถเบรกได้อย่างนุ่มนวล แต่ถ้ากดเบรกเร็วๆ จะมีอาการหัวทิ่มอยู่บ้าง ขับได้สักพักชินกับระยะเบรกก็เบรกได้อย่างนุ่มนวล
การชะลอความเร็วในยามความเร็วสูงก็ทำได้ตามระยะที่กด ชะลอและเลี้ยงความเร็วได้ดี น้ำหนักสู้เท้ากำลังสบาย

sirisak_ac118

-การเก็บเสียง ด้วย Everest คันนี้ สเปคบอกว่ามีระบบ Active Noise Cancellation ที่จะปล่อยคลื่นเสียงหักล้างทำให้ห้องโดยสารเงียบ แต่ผมพยายามหาไมค์บนเพดานในรุ่นนี้แล้วหาไม่เจอ
เลยไม่แน่ใจว่ามีในรุ่นนี้จริงหรือเปล่า แต่มีหรือไม่ก็ถือว่าเก็บเสียงดีมาก ขับไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงจะได้ยินแต่เสียงเครื่องเวลาเร่งในรอบสูง เสียงยางบดพื้นถนนเบาๆคุยกันได้แบบไม่ต้องตะเบ็งเสียงคุยกัน
แต่ถ้าเกิน 130 ขึ้นไปเสียงลมจะเข้ามาตามขอบกระจกแล้วดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับรำคาญ

sirisak_ac118

-ทัศนวิสัยสูงโป่รง มองข้ามรถเก๋งได้สบายๆ แต่ด้วยตัวรถที่ยาวเสา C ที่ใหญ่ด้านหลัง พอไม่มีกล้องมองหลังเลยมีจุดบอดเยอะ
สวนเสา A ก็ยื่นออกไปข้างหน้าและใหญ่ ออกจากซอยบางครั้งมีบดบังเช่นกัน ต้องโยกตัวหาช่องมองกันเล็กน้อยถึงจะกล้าออกรถอย่างปลอดภัย

sirisak_ac118

-การประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร กับรถหนัก 2 ตันกว่า ถังน้ำมัน 80 ลิตรจากการขับน้ำมัน 1 ถังเต็มๆ ขับได้ระยะทาง 700 กว่ากิโลเมตร ไฟสัญญาณน้ำมันก็เตือนแล้วเปลี่ยนเป็นสีส้ม
เติมน้ำมันกลับเข้าไปบวก ลบ คูณ หารแล้ว อยู่ประมาณ 11 กิโลเมตร/ลิตร การขับขี่ วิ่งทางไกล 70% คลานในเมือง รถติดแถวโคราช ลงไปถ่ายรูป 30% ขับขึ้นลงเขา วิ่งทางโค้งใช้รอบเครื่องช่วย
ถือว่าประหยัดใช้ได้เลย ขับดีๆ อาจจะประหยัดกว่านี้ ใครขับประหยัดคงมี 800-900 กิโลเมตรแน่ๆ

sirisak_ac118

สรุป
-เป็นรถPPV ที่ทำออกมาดี วิ่งได้พลิ้ว เห็นถึงความตั้งใจของทาง Ford ที่ทำรถออกได้น่าพอใจมาก ตัวรถที่ใหญ่โต ขับง่าย เอนกประสงค์ เครื่องดีเซลประหยัดใช้ได้และดูแลง่ายเหมือนรถกระบะ ลุยน้ำสูงได้
นั่งได้ 7 คน.....แต่ขอบอกเป็น 5+2 ที่นั่งละกัน แต่ก็นั่งได้สบายขับแล้วผ่อนคลาย ที่เก็บของท้ายรถใหญ่โต ทำให้บางครอบครัวที่กำลังมองหารถ MPV ถึงกับเปลี่ยนใจหันมามองรุ่นนี้

sirisak_ac118

-แต่ด้วยความใหญ่ของตัวรถในการขับขี่ในเมืองบ้างครั้งก็เป็นปัญหาพอสมควร ที่จอดรถที่แคบหรือวิ่งในซอย หน้ารถที่ยาวแล้วกดลงทำให้มองไม่เห็นหน้ารถชัดเจน ทำให้การจอดในที่แคบๆ เป็นปัญหาในบางสถานการณ์
ช่วงล่างมีกระเทือนบ้างแต่ก็น่าจะปรับแก้พอได้บางเปลี่ยนย่างนุ่มขึ้นก็น่าจะพอช่วยได้

sirisak_ac118

-เครื่อง 2.2 ลิตรกับตัวถังรถใหญ่ขนาดนี้ก็ทำได้น่าพอใจถ้าใครไม่ต้องเอารถไปลุยขับ เป็นรถครอบครัววิ่งในเมือง ขนของเยอะๆออกต่างจังหวัด ขับง่าย ไม่แรงแต่ไม่อืดอาดเอาตัวรอดได้
ถ้าตั้งใจอยากให้สนุกก็สร้างแรงดึงให้สนุกได้เหมือนกัน ด้วยราคากับออปชั่นที่ให้มาถือว่าน่ามอง

sirisak_ac118

-แต่ถ้าใครอยากได้ลูกเล่นมากกว่านี้แต่ไม่อยากได้เครื่อง 3.2 ลิตรได้ยินเข้าหูมาว่าเร็วๆ นี้มีรุ่นจัดออปชั่นจัดเต็มในเครื่อง 2.2 ลิตรถ้าราคาดีดเพิ่มในระดับรับได้
ก็ทำให้เครื่อง 2.2 ลิตร ก็เป็นตัวเลือกที่น่ามองและประหยัดเงินได้หลายแสนเช่นกัน

sirisak_ac118

ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี

เฮียวิรัตน์ ผู้บริหาร ฟอร์ดเจริญผล มอเตอร์เซลส์ ผู้ให้นำรถ Ford Everest ให้มาทดสอบในครั้งนี้

และสุดท้าย
ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม

ติชมกันได้ตามสะดวกนะครับ

sirisak_ac118

namliab

ขอบคุณมากเลยครับ ที่นำรีวิวดีดีมาให้ชมกัน
เครื่องเสียงรุ่นนี้สามารถต่อ Apple Carplay หรือมีต่อ HDMI ได้ไหมอ่ะครับ

SM.

ขอบคุณครับ

ภาพสวยทุกรีวิวเลย

Fly to dream

อ้างจาก: namliab ที่ กรกฎาคม 31, 2016, 11:17:42

ขอบคุณมากเลยครับ ที่นำรีวิวดีดีมาให้ชมกัน
เครื่องเสียงรุ่นนี้สามารถต่อ Apple Carplay หรือมีต่อ HDMI ได้ไหมอ่ะครับ

ไม่ได้ครับ แต่รู้สึกเดี๋ยวจะเป็น MY 2017 ปรับเป็น SYNC 3 จะใช้ได้ครับ มีสิทธิมากับตัว 2.2+ เลย และปรับให้หมดเป็น MY2017

namliab

อ้างจาก: Fly to dream ที่ สิงหาคม 01, 2016, 06:29:35

อ้างจาก: namliab ที่ กรกฎาคม 31, 2016, 11:17:42
ขอบคุณมากเลยครับ ที่นำรีวิวดีดีมาให้ชมกัน
เครื่องเสียงรุ่นนี้สามารถต่อ Apple Carplay หรือมีต่อ HDMI ได้ไหมอ่ะครับ

ไม่ได้ครับ แต่รู้สึกเดี๋ยวจะเป็น MY 2017 ปรับเป็น SYNC 3 จะใช้ได้ครับ มีสิทธิมากับตัว 2.2+ เลย และปรับให้หมดเป็น MY2017

เยี่ยมไปเลยครับ

Slipknot`

ขอบคุณครับ ผมเคยไปลอง2.2มันก็โอเคนะไม่ได้แย่สำหรับอัตราเร่ง ถ้าเท้าไม่หนักจริงๆ

gofiro

ถ้านำไปใส่ล้อ 265/65r17 จะนิ่มนวลขึ้นบ้างไหมหนอ..

kittiphat123

ขอบคุณมากๆเลยครับ รีวิวแบบนี้แหละครับที่ต้องการ สุดยอดครับ

ktonja

ขอบคุณครับ อ่านจบแล้วอยากได้เลย

Tnohm

ใช้อยู่ครับ โดยรวมโอเคเลยครับ