ผู้เขียน หัวข้อ: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax  (อ่าน 8460 ครั้ง)

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 02:58:06 »
พาไปลองนั่งFordก่อนครับ ผมว่ามันไม่นิ่มแต่ไม่แข็งนะรับได้
ส่วนDmax 1.9 ไม่ต้องกังวลเลย เพราะ2.5VGSตัวเก่าก็ใช้กันทั่วประเทศไม่เห็นจะเป็นอะไร 1.9แรงกว่าอีก แถมประหยัดโคตรๆ
ให้น้ำหนักแบบไหนมากกว่า ระหว่างความกังวล0บริการ+ปัญหา กับ เครื่องของDmax เลือกเอาครับ
ส่วนราคาขายต่อผมว่าของFordจะดีแค่ตัว 3.2WT เท่านั้นแหละ รุ่นอื่นก็เฉยๆ

ออฟไลน์ +@ Krishna @+

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,295
  • *_* รถที่ดี คือ รถที่ใช้แล้วมีความสุข ^_^
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 11:06:24 »
d max  8)

ออฟไลน์ Mike

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 11:36:15 »
ผมมี 2 คันนี้ แต่ละคัน วิ่งมา 260,xxx km+

FORD Ranger Hi Rider Double Cab XLT 2.2 TDCi AT '12
FORD Ranger Hi Rider Open Cab LIMITED 2.5 TDCi MT '08

คัน 08 MT ไม่เคยซ่อม อะไรทั้งนั้น แค่บำรุงรักษาปกติ  :D
คัน 12 AT กำลังผ่าเกียร์ อยู่ที่ศูนย์ ตอนนี้งบบานปลายไป 60,000 บาท แระ  :-X

อีก 1-2 วัน Ranger T6 AT ของผม ซ่อมเกียร์เสร็จ จะมาเล่าให้ฟังครับ
ผมว่า โลหะวิทยา ของ Supplier shift Ford ยังหากไกล คำว่าทนทาน Built tough

ไม่มีใครปฏิเสธว่า เมื่อปี 2012 T6 handling มันดีที่สุด ในกลุ่ม จนถึงตอนนี้ก็ยังดี แต่ตัวอื่นๆก็พัฒนา ขึ้นมาเท่าเทียม หรือ อาจจะแซง (ตามความรู้สึกของแต่ละคน)
เครื่อง 2.2 L ไม่ได้ประหยัด และมวยรองแบบ Ford ควรจะใจกล้าให้ ESP มาได้แล้วในรุ่น XLT

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2016, 11:43:58 โดย Mike »
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS 22
SUBARU XV 2.0i-P 16
HONDA City SV 12
FORD Ranger Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi 12
FORD Ranger Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi 08
ISUZU Dragon Eye SpaceCab SLX 2.8 00
TOYOTA Hilux Mighty X 94
MITSUBISHI Cyclone 94
TOYOTA Hilux Super Star 88

ออฟไลน์ Thanawat Ton

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 213
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 11:51:25 »
ส่วนตัว ผมใช้ DMAX 4 ประตู ยกสูง ขับสอง Hi-Lander 1.9 รุ่น Z DVD เกียร์ธรรมดา ล้อ 18 นิ้ว 857,000.- (ณ วันที่ 14/9/59 ได้ข่าวแว่วๆมาว่าจะปรับอุปกรณ์เล็กน้อย 1 ตุลาคมนี้) ก่อนหน้าขับ 2.5 VGS spacecab

***จะไม่พูดถึงอุปกรณ์ออฟชั่นภายในน่ะครับ อันนี้แล้วแต่ชอบเลย จะพูดแค่ฟีลลิ่งสมรรถนะล้วนๆ ที่ผมใช้อยู่***

 - เท่าที่ใช้มาตอนนี้ 2 เดือนเศษ ตั้งแต่ออกรถ วิ่งแล้ว 7พันกว่ากิโลเมตร  รู้สึกว่าคันเร่งมันเซ็ทมาให้หน่วงกว่าเดิม(รุ่นเครื่อง 2.5 VGS)เล็กน้อย อาจเพราะจะเน้นประหยัด แต่ถ้าเหยียบหนักจริงๆ ก็รู้สึกได้มาแรงมาตามเท้าครับ
 - จุดเด่นเครื่อง 1.9 คือ ภาษีรายปีถูกมาก ปีแรกเริ่มที่ 2,492 บาท (รุ่น 4ประตู ยกสูง)
 - จุดเด่นคือลดช่องว่างความประหยัดลงในสภาพขับใช้งานจริง หมายความว่า เมื่อก่อนผมใช้ 2.5 VGS ใช้ใน กทม. ได้เฉลี่ย 10.5-12 กม./ลิตร และนอกเมืองความเร็วช่วง 100-120 ตามสภาพ ได้ 15-16 กม./ลิตร   แต่กับเครื่อง 1.9 ในเมือง กทม. ได้เฉลี่ย 13-14.5 กม./ลิตร และนอกเมือง ช่วงความเร็ว 100-120 ตามสภาพ ได้เฉลี่ย 15-17.5  ในลักษณะขับปกติ ไม่เร่งมาก ไม่เรื่อยมาก  ที่หน้าจอ MID เช่นค่าที่รถแสดง คือ 14.0 กม./ลิตร แต่ใช้วิธีเติมกลับ จะคำนวนได้ 14.7 กม./ลิตร ครับ
ถ้า วิ่ง 80 นิ่งๆเนียนๆ ตอนขับ 2.5 ได้ 21 กม./ลิตรเลยแหนะ แต่ 1.9 ได้แค่ 19-20 เอง เส้นสระบุรี-เพชรบูรณ์ ไม่รู้เพราะอะไร
 - จุดด้อยคือ เกียร์ 1 ทดมาค่อนข้างสูง ทำให้ออกตัวช้ามากกกกก อาจเพื่อรองรับการออกตัวเครื่องเล็ก 1.9 ในจังหวะที่เทอร์โบบูสไม่เต็มที่ (จะพูดในช่วงประสบการณ์ที่ใช้มาครับ)
 - จุดด้อย เกียร์ 2 ทดห่างจากเกียร์ 1 มากไปนิด จนรู้สึกได้ว่า จน 1 ไป 2 ที่ 2000 รอบ/นาที แล้วลดรอบมาไม่ต่ำกว่า 14000 รอบ/นาที รถจะกระโดจนรู้สึกได้ครับ คือว่า ที่ความเร็ว 20 กม./ชม. เกียร์ 1 ใช้รอบที่ 2000 รอบ แต่เกียร์ 2 ใช้รอบที่ 1200 รอบ หากส่งเกียร์บนทางชันกว่า 8-10%ขึ้นไป อาจต้องส่งเกียร์ 1 ให้มากถึง 2500-3000 รอบ เพื่อให้จังหวะต่อเกียร์ 2 มาในช่วงที่เทอร์โบทำงานเต็มที่ครับ

ช่วงนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ใช้มาจริง กับคำถามที่พบบ่อยครับ
1. เครื่องอืดไหม...
    .....รู้สึกได้ว่าไม่ติดเท้าเท่า 2.5 VGS เล็กน้อย จะเพราะคันเร่งไฟฟ้าเซ็ทมาหน่วง ก็ไม่แน่ใจครับ เกียร์ 6 ที่ความเร็ว 100 ไปแล้ว เร่งได้มีแรงอยู่ครับ ยกเว้นทางขึ้นเนิน อาจต้อง 5 (กังวลความแรง มีตังทำเพิ่มได้ครับ)
2. ช่วงล่างหละ....
    ..... ถ้าใช้งานช่วงความเร็ว ไม่เกิน 120 กม./ชม. นิ่มสบายครับ โยนบ้างเวมาถนนเป็นคลื่นแต่เอาอยู่ครับ เข้าโค้งพื้นสีแดงตรงมอเตอร์เวย์เข้าสุวรรณภูมิ นั่ง 4 คน ที่ความเร็ว 110 ได้สบายครับ ถ้ามากกว่านี้มีเสียว แต่มันเอาอยู่ (กังวลช่วงล่าง นี้มีตัง ทำเพิ่มได้ครับ)
3. บรรทุกไหวไหม...
    ..... ผมเพิ่งใช้บรรทุก 1 ตันมา (น้ำตาลทราย 20 กระสอบ กระสอบล่ะ 50กก.) เติมยาง หน้า 38 หลัง 45  ช่วงเร่งจากออกตัว อาจต้องลากรอบไปถึง 2600 รอบ แล้วเปลี่ยนเกียร์ เพื่อให้อยู่ในช่วงมีกำลังต่อเนื่อง ไม่รู้รึกอืดมากน่ะ พอความเร็วลอยตัวแล้วก็สบายครับ ผมวิ่งอยู่ 120 ก็ยังโอเคอยู่ แต่แอบเสียวยางระเบิดเวลามันเด้งถนนเป็นคลื่น เพราะช่วงล่างเดิม แหนบนั่งเพลาแล้ว เร่งแซงขึ้นเนินได้อยู่ ที่เกียร์ 3 จาก ค.เร็ว 60 ไป 100 และ เกียร์ 4 จาก 100-130
4. ขึ้นเขาหละ....
    .... เมื่อต้นเดือนกันยายน 59 ไปเที่ยวสวนผึ้ง ราชบุรี มาครับ ได้ขึ้นจุดชมวิวห้วยคอกหมู ลักษณะพื้นถนนจะเป็นดินลูกรังผสมหินภูเขาที่ถล่มมาตามแนวดินไสลด์แล้วเกลี่ยเป็นหน้าผิวถนน(คือก้อนหินกรวดมันไม่แน่น) มีรอยน้ำเซาะถนนเป็นร่องชวงฝน และโขดหินปูดโปนมาเต็มเลยครับ  ระดับความชันประมาณ 10-18% (เห็นป้ายบอกข้างถนนที่มันล้มๆอยู่) ตลอดระยะทางประมาณ 4-5 กม. ผมก็ลองขึ้นดู แรกๆก็ เป็นเนินเบา พอสักพัก ชันมากครับ ต้องคลานเกียร์ 1-2 ยาวครับ แต่มีช่วงที่ชันมาก น่าจะประมาณ 16% แล้วมีร่องถนนลึกและโขดหิน ต้องค่อยๆหยอด ลองให้เกียร์ 1 คลานที่รอบเดินเบา 900-1000 รอบ ดู ปรากฏว่า มันไปได้แฮะ ไม่มีทีท่าจะดับด้วย แต่ล้อหลังมันเริ่มตะกุยหินซะงั้น เพราะชันมาก จึงต้องเร่งช่วยบ้างนิดหน่อย เดี๋ยวล้อติดหล่มลูกรังกลางเนินล่ะยุ่งเลยครับ (เคยแล้ว เมื่อ2ปีก่อน กับคัน ดีแม็ก 2.5 VGS แค็ปเตี้ย ถอยยาก เดินหน้าไม่ได้ ทางแคบ โชคดีมีคนตามหลังมา 6 คน ลงมาช่วยเข็นออกจากหล่ม 5 คน) ความยากอยู่ที่พื้นมันลื่นกรวดหินครับ

............................
ส่วนฟอร์ด มีเพื่อนและพี่ ที่ใช้อยู่ 2.2 ไวแทรค 4ประตู โฉมแรก อยู่ 2 คน
 คันแรก มีปัญหาตอนหมดประกันพอดี ทั้งท่ออินเตอร์แตก ระบบเกียร์ออโต้มีปัญหา เนื่องจากหมดประกันแล้ว ศูนย์จึงงี่เง่าจะให้เสียตังซ่อม  ซึ่งก่อนหน้าก็เสียตังซ่อม แต่ซ่อมไม่จบ จอดทิ้งไว้ 4 เดือน ตอนนี้เห็นว่า ฟ้องอยู่ นัดขึ้นศาลนัดแรกครับ เพราะพี่บอกว่า มันเกิดจาก defectรถ ไม่ใช่เพราะคนขับ
 คันสอง ยางระเบิดตั้งแต่ 1000 กม.แรก ทั้งๆที่ ป้ายแดง ไม่เคยขับแรก วิ่งลาดยางอย่างเดียว รอยแตกจากแก้มยางประมาณ 10-15เซนติเมตร ไม่มีรอยทิ่มแทงอะไรเลย และหลังจากนั้น 2 เดือนที่ระยะ เกือบ 2 พัน กม. เกียร์มีปัญหา เร่งไม่ออก เกียร์ไม่เปลี่ยน เข้าศูนย์ไป แก้มาหาย ได้ 3 วันเป็นอีก เข้าใหม่ แก้หาย ใช้มาเกือบ 2 ปี เมื่อวาน 13/9/59 มีเสียงดังมากจากห้องเครื่องคล้ายเสียงเหล็กกระทบกระแทกกัน ต้องใช้รถไสลด์มาหิ้วไปครับ
**ทั้ง2 คัน เกียร์ AT 2.2  ถ้ารถสมบูรณ์ ถือเป็นรถที่ดีมาก เคยขับครับ แต่เจ้าของ บอกว่าคันต่อไป ไม่เอาแล้ว Ford
แต่ข้างบ้านก็มีใช้อยู่คันนึง ไม่มีปัญหาเลย คงดวงดี เลือกคิวออกรถดีครับ 555
...................
ก่อนนี้ พี่ผมออก มาสด้า 2 ดีเซล 1.5 เทอร์โบ มา วิ่ง 300กม.เกียร์พัง เปลี่ยนยกลูก ตอนนี้ยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เคยถามคนขับรถสไลด์ ที่ยกรถมาครับ เขากระซิบว่า เท่าที่ดูมา ช่วง 4 ปีมานี้ที่เขายกตามถนนเข้าศูนย์ประจำ คือ เชฟครูส เชฟเคปติว่า มากสุด ตามด้วย ฟอร์ดเฟียสต้า และเรนเจอร์ มีมาสด้า 2 บ้างนิดหน่อย ส่วนพวก โตโยต้า อีซูซุ ไม่มีเลย เขาว่าที่ว่ามานี่คือพวกรถใหม่ทั้งนั้น และก็เสียเรื่องระบบเครื่องและเกียร์ทั้งนั้นครับ (พี่เขาอยู่ให้บริการแถวโซนถนนสายเอเชียง อยุธยา-ชัยนาท)

ออฟไลน์ Joe NG

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 316
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 13:08:15 »
ผมว่าเล่นได้ทั้งคู่ ส่วนจะเลือกค่ายไหน ขึ้นอยู่กับคุณมองที่อะไร

ดีแมกซ์  ผมว่าเป็นรถที่ใช้แล้วสบายใจ ไม่ได้ขี้เหร่อะไรมากมาย  ช่วงล่างที่ว่าห่วย จับโช๊คสปริงดีๆ สักชุดก็จบ  คันเร่งที่ว่าช้า รีเฟรช ดีไหม จะเอาแรงเท่าไรละ เครื่องเดิมๆ เขารับได้มากอยู่  ส่วนเรื่องงานบริการและคุณภาพของอะไหล่ สองข้อนี้ไม่ต้องห่วงเลย

เรนเจอร์  เป็นรถที่ขับดี  พวงมาลัยคม on center feeling ดีมาก  ตัวโครงสร้างรถออกแบบมาดี การบาลานซ์น้ำหนักหน้าหลังดี ทำให้ผลที่ได้คือการตอบสนองของตัวรถในการเข้าโค้งหรือวิ่งซิกแซก ซอกแทรกไปมาทำได้ดี  ไม่ค่อยเสียอาการ   การตอบสนองของช่วงล่างดี 
   จุดติในตัว 2.2MT คือ กำลังเครื่องยนต์ถ้าดูจากกระดาษ มันดูเหมือนจะแรงพอได้ แต่ใช้งานจริง ผมว่ารอบเครื่องมันไม่ค่อยลื่นไหลและช่วงของกำลังที่ได้มันแคบ ถึงแม้ในกระดาษจะบอกว่า 385nm ที่ 1600 รอบต่อนาทีเถอะ แต่คุณจะไม่รับรู้ถึงการมีอยู่จริงของแรงบิดตรงนี้เลย กว่าจะมาก็เกือบๆ สองพันรอบ ยิ่งพอจับคู่กับเกียร์ 6MT ตัวนี้ ทำให้ในการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน จะต้องเปลี่ยนจังหวะเกียร์ไปมาบ่อยครั้งกับอีกเรื่องคือการกินน้ำมัน  อย่าคาดหวังไว้มากกับ 2.2 ตัวนี้ เพราะว่าเท่าที่ผมใช้มา 12000 กิโล ม้นกินกว่า Dmax 3000 คอมมอนเรวตัวแรกซะอีก ถ้าเทียบกับการขับขี่ในรูปแบบเดียวกัน  ยกเว้นว่าคุณเป็นคนที่ขับแบบชิลๆ  มันก็น่าจะประหยัดพอได้อยู่


ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,427
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กันยายน 14, 2016, 15:41:51 »
ถ้ากังวลใจเรื่อง Ford ก็อย่าเสี่ยงเลยครับ ไป D-Max สบายใจกว่า

ออฟไลน์ พ่อบ้านสายเที่ยว

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 624
  • ยาเขียวชนิดเม็ดตราใบห่อ แก้ร้อนในกระหายน้ำ
Re: ขอรบกวนความคิดเห็นหน่อยนะครับ ของ ford กับ dmax
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กันยายน 18, 2016, 00:57:47 »
D max การขับขี่ไม่ได้แย่เลย เพียวแต่ถ้าคุณได้ขับ Ranger คุณจะลืมมันไม่ลง และไม่อยากกลับไปขับ D max
ถ้าจะใช้ Ford น่าจะต้องมีความรู้เรื่องรถเป็นอย่างดี เผื่อไว้นะครับ ดูๆ หลายท่านในนี้ก็้กันหลายท่าน น่าจะให้คำปรึกษาได้ยามมีปัญหา
"แตกต่าง" แต่ไม่ "แตกแยก"