Renault - Nissan - Daimler - Mitsubishiอันที่จริงข่าวนี้ ที่หน้าเว็บ และ Fanpage Headlightmag.com ได้นำเสนอ
ไปตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่คิดว่าสมาชิกหลายๆท่านในเว็บบอร์ด
น่าจะยังไม่ทราบกันเลยขอเอามาแจ้ง แปะไว้ให้อ่านกันครับ
(ขออภัยที่ลืมเอามาบอกกันในเว็บบอร์ดครับ)
Mitsubishi เข้าร่วมกลุ่ม Renault-Nissan Alliance อย่างเป็นทางการแล้ว
http://www.headlightmag.com/mitsubishi-into-renault-nissan-alliance/หลังจากที่ Nissan Motor ได้รับอนุญาตให้สามารถทำธุรกรรมซื้อหุ้นธุรกิจ Mitsubishi
Motors ในสัดส่วน 34% มูลค่าหุ้น 237,000 ล้านเยน เมื่อไม่นานมานี้ วันนี้ทั้ง Nissan
และ Mitsubishi ก็พร้อมประกาศถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
Carlos Ghosn ประธานคณะกรรมการบริหารและซีอีโอแห่ง Nissan Motor ได้รับเลือก
เป็นประธานคณะกรรมการบริหารของ Mitsubishi Motors ส่วน Osamu Masuko จะ
ถูกแต่งเป็นประธานบริษัท Mitsubishi Motors
โดยมีคณะกรรมการบริหารทำงานร่วมกันอีก 3 ท่าน ได้แก่ Mitsuhiko Yamashita
อดีตรองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนาผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานฝ่ายพัฒนาแห่ง
Mitsubishi Motors ในช่วงต้นปี, Hitoshi Kawaguchi เจ้าหน้าฝ่ายการพัฒนาอย่าง
ยั่งยืนและหัวหน้าฝ่ายความสัมพันธ์ระดับโลก Nissan Motor และ Hiroshi Karube
ผู้จัดการฝ่ายควบคุมและจัดสรรทรัพยากรระดับโลก Nissan Motor
Mitsubishi Motors จะแต่งตั้งผู้บริหารฝ่ายควบคุมปัจจัยเสี่ยงระดับโลกเพื่อรายงานโดย
ตรงต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งจะคอยปฏิบัติและควบคุมความเสี่ยงทั่วโลก
ผลประโยชน์จากการนำพา Mitsubishi เข้าสู่ภายใต้ชายคา Renault-Nissan Alliance
ก็คือทั้ง Nissan และ Mitsubishi จะมีความร่วมมือในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น, ความร่วม
มือในการพัฒนารถมินิคาร์ในช่วงระยะเวลา 5 ปี
สำหรับแผนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและน่าจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้คือ Mitsubishi Motors
จะส่งรถมินิแวนรุ่นใหม่ให้ Nissan นำไปจำหน่ายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และจะนำระบบ Plug-in Hybrid ที่พัฒนาโดย Mitsubishi ให้กลายเป็นระบบ Plug-in
Hybrid มาตรฐานของกลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan Alliance
ทั้ง Nissan และ Mitsubishi ได้กำหนดคุณค่าใหม่ของการประสานพลังร่วมกันดังต่อไปนี้
- มีการจัดซื้อร่วมกันเพื่อลดต้นทุน
- ลงลึกในการดำเนินงานระดับท้องถิ่นทั่วโลก
- การใช้ประโยชน์จากโรงงานผลิตร่วมกัน
- การใช้พื้นตัวถังร่วมกัน
- มีการแชร์เทคโนโลยี
- มีความร่วมมือในการเจาะตลาดเกิดใหม่และในประเทศกำลังพัฒนา
- บริษัททางการเงินของ Nissan จะมารองรับการบริการแก่ลูกค้า Mitsubishi
ในตลาดที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
เมื่อ Mitsubishi Motors อยู่ภายใต้ชายคากลุ่มพันธมิตร Renault-Nissan Alliance
ก็จะช่วยให้กลุ่มพันธมิตรมียอดขายรวมกันถึง 10 ล้านคันภายในปีงบประมาณ 2016 และ
Renault-Nissan Alliance จะถูกจัดเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ลำดับ 3 ของโลก
Carlos Ghosn เผยว่าการรวมตัวกันทั้ง Nissan, Mitsubishi Motors และ Renault
จะช่วยสร้างพลังแห่งการผลิตรถยนต์ระดับโลก โดยอาศัยความได้เปรียบของจำนวนยอด
ขายทั้งสามแบรนด์รวมกันก่อให้เกิดความคุ้มค่าในทางเศรษฐศาสตร์, การพัฒนาเทคโนโลยี
ทันสมัยและขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์ที่รองรับกับความต้องการในแต่ละตลาด
และในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก
ภารกิจสำคัญของ Carlos Ghosn คือการมุ่งมั่นให้ความช่วยเหลือ Mitsubishi ที่จะกลับ
มาสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าอีกครั้งซึ่งเป็นผลจากการร่วมมือและดึงศักยภาพในการเติบโต
จากความสัมพันธ์ที่ถูกขยายออกไป
Carlos Ghosn เผยวิสัยทัศน์ก่อนปฏิรูป Mitsubishi Motors
http://www.headlightmag.com/carlos-ghosn-will-recover-mitsubishi/ปัญหาของ Mitsubishi Motors เป็นปัญหาที่สั่งสมมาอย่างยาวนานสิบ ๆ ปีแล้วนับ
ตั้งแต่ปัญหาสะสมขั้นเล็กน้อยจนถึงปัญหาระดับองค์กรที่อาจทำให้มูลค่าของแบรนด์
และยอดขายรถยนต์ถดถอยลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง Mitsubishi ประสบวิกฤตศรัทธา
บิดเบือนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรถยนต์ Mitsubishi หลายรุ่นกลายเป็นจุดหักเหที่ทำ
ให้ค่ายรถนี้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
Carlos Ghosn เพิ่งได้รับเกียรติให้เป็นประธานคณะกรรมการบริหาร Mitsubishi
Motors อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2016 หลังจาก Nissan Motor เข้าครอง
ครอบหุ้นธุรกิจ Mitsubishi Motors ในอัตรา 34% โดยมีภารกิจสำคัญมากคือการ
ผ่าตัด Mitsubishi Motors ให้กลับมาแข็งแกร่งดั่งเดิมให้ได้
ถึงแม้ Renault-Nissan Alliance ประสบความสำเร็จในการกอบกู้วิกฤตบริษัท
รถยนต์ที่พร้อมจะล้มหายตายจากตั้งแต่ Nissan, Dacia และ AvtoVaz ผู้ผลิตรถยนต์
Lada ให้กลับมาพลิกฟื้นทั้งยอดขายและกำไรได้ แต่สำหรับ Mitsubishi Motors
ดูเหมือนจะเป็นภารกิจกอบกู้บริษัทที่แตกต่างจากบริษัทในเครือพอสมควร
Carlos Ghosn กล่าวว่า ผมได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลเพื่อให้แน่ใจว่า Mitsubishi
Motors แผนระยะกลางนั้นเหมาะสมและโปร่งใสอย่างแท้จริง โดยยังคงเอกลักษณ์ของ
บริษัทและสามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตนเอง
Mitsubishi Motors เคยมีคดีพัวพันปัญหาอื้อฉาวมาตั้งแต่ปี 2000 โทษฐานบริษัท
ปกปิดข้อมูลด้านความปลอดภัยของรถยนต์หลายรุ่นที่มีปัญหาระบบเบรกและระบบ
คลัชต์จนส่งผลร้ายต่อความรู้สึกของลูกค้าภายใน 4 ปีนับต่อจากนั้น
กลยุทธ์ของ Ghosn ในวันนี้คือการรับมือกับความเสียหายที่เกิดขึ้นอันเกิดจากการที่
Mitsubishi บิดเบือนข้อมูลอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงรถยนต์ซึ่งปัญหาเหล่านี้ก็ต้องสะสาง
กันที่ต้นตอให้ได้เสียก่อน
Ghosn อธิบายว่าต้นเหตุของปัญหา Mitsubishi Motors ทั้งหมดเกิดจากกระบวน
การทำงาน, ความคิดขององค์กรและวัฒนธรรมองค์กรซึ่งปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับการ
แก้ไขอย่างรวดเร็ว
ปัญหาของ Mitsubishi Motors มีหลายประการเฉกเช่นในอดีตที่ไม่มีการแก้ไขถึง
ต้นตอที่แท้จริงและไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจนมันกลายเป็นนิสัยที่ก่อให้เกิดทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราขอยืนยันว่าต้องเข้าถึงรากแห่งปัญหาที่แท้จริงให้ได้และนำพาไป
สู่การแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายในอนาคต Ghosn กล่าว
Mitsubishi Triton และ Nissan Navara รุ่นใหม่ จะพัฒนาร่วมกัน รวมถึง C-Segment ด้วย
http://www.headlightmag.com/news-mitsubishi-nissan-joint-venture/หลังจากที่ Nissan ได้เข้าซื้อหุ้นจำนวน 34% ของ Mitsubishi รวมถึง Carlos Ghosn ประธาน
คณะกรรมการบริหารและซีอีโอแห่ง Nissan Motor ได้รับเลือกเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร
ของ Mitsubishi Motors
ผลประโยชน์จากการนำพา Mitsubishi เข้าสู่ภายใต้ชายคา Renault-Nissan Alliance ก็คือ
ทั้ง Nissan และ Mitsubishi ทั้งคู่ได้ตกลงที่จะใช้ทรัพยากรต่างๆ ด้วยกันเพื่อเป็นการลดต้นทุน
ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้อร่วมกัน, การใช้โรงงานในท้องถิ่นของแต่ละค่าย, การแบ่งปันเทคโนโลยี
และ การใช้โครงสร้างพื้นฐานหรือ Platform ร่วมกัน
ซึ่งผู้บริหารของ Nissan ได้เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่ Navara และ Triton รุ่นใหม่
จะใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกันด้วย ตามการกำหนดคุณค่าใหม่ของการประสานพลังร่วมกัน
Hiroto Saikawa CO-CEO ของ Nissan เปิดเผยว่าผู้ผลิต ล้วนแต่ประสบปัญหาในการรับมือ
กับผลิตภัณฑ์ที่เริ่มเก่าลงเรื่อยๆ รวมไปถึง Nissan และ Mitsubishi ซึ่งถึงว่าตอนนี้จะยังไม่สามารถ
ระบุอะไรได้ แต่เขาบอกได้ว่าจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของรถยนต์จาก 2 ค่ายร่วมกัน รวม
ไปถึงรถกระบะที่ Mitsubishi ชำนาญในตลาด ASEAN เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย
นอกจากนี้ Saikawa ยังเปิดเผยด้วยว่าการนำโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วมาประยุกต์ใช้เพิ่มเติม
สามารถเกิดขึ้นได้หากฟังดูเข้าท่า ทำให้หลายฝ่ายพุ่งเป้าไปยัง CMF Platform ที่ใช้เป็นโครงสร้าง
พื้นฐานของ Renault Megane, Nissan Qashqai และ Nissan Pulsar / Sylphy ว่าจะถูกนำมา
พัฒนาเป็น Lancer รุ่นถัดไปหรือไม่
แต่ก่อนที่จะมีความคืบหน้าของ Lancer ใหม่ ว่าจะเป็นอย่างไร เราคงจะได้เห็นกระบะ Triton และ
Navara รุ่นใหม่ ที่พัฒนาร่วมกันที่น่าจะเปิดตัวในช่วงปี 2021 กันก่อน ส่วนที่เหลือคงต้องติดตาม
กันต่อไป
Daimler เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไร ทำไม Mercedes-Benz ต้องเอา
พื้นฐานของกระบะ Nissan Navara มาทำ Concept X-Class
http://www.headlightmag.com/mercedes-benz-concept-x-class-revealed/Mercedes-Benz Concept X-Class เป็นรถกระบะที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง
Daimler AG และ Renault-Nissan Alliance ด้วยการถือหุ้นไขว้ฝ่ายละ 3.1%
ในปี 2010 เพื่อร่วมกันดำเนินยุทธศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย
[ข่าว ปี 2010]
Renault-Nissan และ Daimler พันธมิตรหน้าใหม่ในประวัติศาสตร์ยานยนต์โลก
http://www.headlightmag.com/Renault-Nissan-1150/ในที่สุดทั้ง Renault-Nissan และ Daimler AG ต้นสังกัด Mercedes-Benz
ก็ร่วมตกลงปลงใจเข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สร้างประวัติศาสตร์การร่วมมือที่แตกต่าง
จากยุคก่อน ๆ ที่บริษัทใหญ่กว่าล้วนเข้ายึดครองบริษัทที่เล็กกว่า แต่ปัจจุบันจากรูปแบบ
บริษัทในเครือกลายเป็นหุ้นส่วนพัฒนาร่วมกันและปล่อยให้แต่ละบริษัทแสดงเอกลักษณ์
ด้านการบริหารของตนเองจะดีกว่า
ความตั้งใจของ Renault-Nissan ที่จะควานหาพันธมิตรรายที่ 3 เพื่อประกอบกัน และ
ช่วยกันอุดช่องว่างรวมไปถึงเกื้อกูลกันใช้ทรัพยากรร่วมกันได้อย่างลงตัวเริ่มมีแนวความคิด
มาตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นไปเพราะทั้งคู่ต่างมองโมเดลการทำธุรกิจรถยนต์ในลักษณะนี้
ย่อมดีกว่าการครอบครองกิจการทั้งหมดเสียอีก
วันนี้ (7 เมษายน 2010)ก็ถือวันแห่งประวัติศาสตร์ของ Renault-Nissan และ
Daimler AG ร่วมกันแถลงข่าวการจับมือเพื่อสมประโยชน์ทั้ง 3 ฝ่ายโดยฝ่าย Renault-Nissan
จะเข้าถือหุ้นใน Daimler AG จำนวน 3.1% และฝ่าย Daimler AG จะเข้าไปถือหุ้นใน
Renault 3.1% และ Nissan 3.1% ในกรุงบรัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม
กลยุทธ์ความร่วมมือแบบซื้อหุ้นข้ามซึ่งกันและกัน เชื่อว่าเป็นกลยุทธ์การบริหารอย่างยั่งยืน
และ สมประโยชน์ทั้งหมด โดยมีหลักการการแลกหุ้นแบบ 3.1/3.1/3.1 ดังต่อไปนี้
- Daimler ถือหุ้นใน Renault 3.1% ของจำนวนหุ้นที่ออกใหม่
- Daimler ถือหุ้นใน Nissan ที่มีอยู่ใน Renault 3.1%
- Renault ถือหุ้นใน Daimler 3.1%
- Renault และ Nissan จะถือหุ้นทุนคืนฝ่ายละ 1.55% ใน Daimler
- Renault ได้ตกลงที่จะดำเนินการแลกเปลี่ยนหุ้น 1.55% ของ Daimler ให้กับทาง Nissan
โดยที่ Nissan จะตอบแทนโดยยอมให้ Renault ถือหุ้นในบริษัทตนเองเพิ่มอีก 2%
ทั้งนี้ จะทำให้ทั้ง Renault และ Nissan ต่างก็มีหุ้นจำนวน 1.55% ของ Daimler อยู่ในมือ
ผู้จัดการความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้คือ Renault-Nissan B.V โดยมีเหล่าคณะกรรมการ
ร่วมชุดใหม่ที่เห็นชอบในความร่วมมือครั้งนี้ โดยแต่งตั้งให้ Mr.Carlos Ghosn และ
Dr. Dieter Zetsche เป็นผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 3 บริษัทร่วมกัน
รายการ DR!VE by J!MMY วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา
มีการเล่าถึงเคสนี้ ช่วง
นาทีที่ 23.57 เป็นต้นไป