รถยนต์ที่ใช้น้ำมันใช้ชิ้นส่วนประมาณ 2,000 ชิ้น
แต่ "เทสลา" ใช้ชิ้นส่วนแค่ 18 ชิ้น
จุดเปลี่ยนที่ทำให้โลกหันมาจับตามอง "รถยนต์ไฟฟ้า" อยู่ที่การผลิตแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ในต้นทุนที่ต่ำลงเรื่อย ๆ
มีคนบอกว่า ตอนที่โลกเปลี่ยนจากใช้ "รถม้า" มาใช้ "รถยนต์"
บังเอิญ "รถยนต์" ที่ค้นคิดขึ้นมาเป็นรถที่ใช้น้ำมัน
กระแสทั้งหมดก็มุ่งไปที่เครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ไม่มีใครสนใจ"แบตเตอรี่"
พัฒนาการของ "แบตเตอรี่" จึงช้า เพราะคนคิดแต่เรื่องเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน
แต่พอวันหนึ่งมีคนสนใจพัฒนา "รถยนต์ไฟฟ้า"
พัฒนาการเรื่อง "แบตเตอรี่" จึงเกิดขึ้น
"อีลอน มัสก์" คือ ผู้บุกเบิกเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ถามว่า บริษัทรถยนต์ทั้งหลายทำไมไม่มีใครคิดเรื่องนี้
ตอบง่าย ๆ ว่า เขาคงคิดอยู่แล้ว
ถ้า "โตโยต้า" ทำรถไฮบริดได้ ก็แสดงว่าเขาสนใจเรื่อง "รถไฟฟ้า"
เพราะ "ไฮบริด" คือ รถที่ผสมผสานระหว่างการใช้น้ำมันกับไฟฟ้า
เพียงแต่ผ่านเครื่องยนต์แบบเดิม
ที่มีชิ้นส่วน 2,000 ชิ้น
มีคนบอกว่า บางที "โตโยต้า" อาจจะคิดเสร็จแล้วก็ได้
เพียงแต่ว่าในทางธุรกิจ โมเดลธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า คือ หอกที่ทิ่มแทงตัวเอง
เพราะเป็นโมเดลที่ฆ่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
ถ้าพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าเร็วมากเท่าไรธุรกิจเดิมก็ตายเร็วเท่านั้น
เรื่องอะไรเขาจะทำ
อย่าลืมว่าโครงสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์นั้นใหญ่โตมโหฬาร
ถ้า"รถยนต์ไฟฟ้า" ที่ใช้ชิ้นส่วน 18 ชิ้นมาเมื่อไร
พังกันเป็นแถบแน่นอน
ที่น่าจับตามองคือ ตอนนี้ "จีน" กำลังบุกธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าอย่างหนัก
เพราะนี่คือ "โอกาส"
ถ้าสู้ในเกมเดิม คือ รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
เขาคงสู้ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา หรือเยอรมันไม่ได้
แต่ถ้าเกมเปลี่ยน เกิดสนามใหม่คือ รถยนต์ไฟฟ้า
แบบนี้ทุกคนเท่าเทียมกัน
เพราะเริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมด
กลายเป็นว่าใครที่มีธุรกิจเดิมใหญ่เท่าไรจะเสียเปรียบทันที
"ความใหญ่"ของธุรกิจเดิมคือ "จุดอ่อน"
เพราะไม่กล้าเปลี่ยน
กลัวจะเสียตลาดเดิม
แต่คนที่เริ่มต้นใหม่ ไม่มี "สัมภาระ" อะไร สามารถเดินหน้าได้เต็มที่
ไม่ใช่เพียงแค่ "จีน"
แต่หมายถึงกลุ่มธุรกิจที่มีเงินและเทคโนโลยีอย่างกูเกิล แอปเปิล หรือไมโครซอฟท์
เขาสามารถข้ามสายพันธุ์สู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ทันที
ยิ่งเห็นกราฟตัวเลขต้นทุนแบตเตอรี่ที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ผมเชื่อว่าค่ายรถยนต์ในปัจจุบันคงเริ่มพลิกดูกรณีศึกษาที่คลาสสิกมากของวงการธุรกิจโลกเรื่องนี้
การล่มสลายของ"โกดัก" ครับ
ทำอย่างไรจะไม่เป็น "โกดัก" ของวงการรถยนต์
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1464588615