สอบถามค่าบำรุงรักษา+ประกัน รถญี่ปุ่น กับ รถยุโรปครับ

[Khanintakarn]

รถยุโรป premium compact (C class, 3 series) มีค่าบำรุงรักษากับค่าประกันต่างจาก D-segment hybrid (Camry hybrid, Accord hybrid) เยอะมั้ยครับ ตกประมาณปีละเท่าไหนครับ
ขอบคุณครับ

[caton]

ผมใช้ Series 3 320D อยู่นะครับ
ค่าบำรุงรักษา 5 ปีแรก ฟรีทุกอย่าง (ยกเว้น เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ และ ยาง)
ส่วนค่าประกัน ปีแรก 5x,xxx บาท ปีที่ 2 4x,xxx บาทครับ

[Tedjung84]

bmw มีคุณ caton บอกไว้แล้ว งั้นผมจะบอกของเจ้า C แล้วกันครับ

ผมใช้ C 300 AMG ครับ
จ่ายค่าประกันปีแรก 54xxx  ปีที่สอง 5xxxx
เข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะ
ผมเข้ามา 3 ครั้ง  ทุกครั้งมี 10xxx - 12xxx ประมาณนี้
คร่าวๆพวก น้ำมันเครื่อง กรองแอร์ น้ำยาแอดบลู อะไรประมาณนี้ครับ
หากแพงกว่านี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าต้องเปลี่ยนอะไรเพิ่ม เช่น ผ้าเบรค กรองอากาศ อะไรประมาณนี้ครับ
 

[DiKiBoyZ]

ค่าประกัน คิดเป็น % กับมูลค่าของรถ หรือ ทุนประกัน ครับ หรือง่ายๆ คือ รถแพงกว่า ก็เบี้ยแพงกว่า ในชั้นความคุ้มครองเดียวกัน บริษัทเดียวกัน

ค่าบำรุงรักษา จะเกิด มาเข้าสู่ period ของที่ต้องจ่ายเอง อย่างทนบนบอกว่า BSI 5 ปี ผมก็เชื่อว่า รถญี่ปุ่น 5 ปีแรก ส่วนใหญ่(ถ้าไม่ แจ็คพ็อต)ไม่ต้องจ่ายอะไร ยกเว้นค่าแบตเตอรี่ ค่ายางรถยนต์(ถ้าหมด) ค่าน้ำมันเครื่อง บลาๆ เหล่านี้ (accord hybrid รู้สึกว่าจะรับประกันระบบ hybrid 10 ปี หรือเฉพาะแบตนี่ล่ะ ไม่แน่ใจ) ซึ่งรับได้อยู่แล้วกับราคาหลัก พัน

แต่หลังจากหมดประกันและฟรีค่าแรงไปแล้ว(แต่ล่ะค่ายก็มีชื่อเรียกของตัวเอง) ผมว่าอยู่ที่คนว่าจะเลือกใช้บริการที่ศูนย์ต่อไปหรือซ่อมอู่นอก ซึ่งผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจเลยว่า ถ้าคิดราคาศูนย์ ค่ายยุโรปแพงกว่าญี่ปุ่นแน่ๆ

[Fat]

ผมมาตอบในมุมของคนใช้ camry hybrid ละกันครับ

ค่าประกันชั้น1ปีแรกได้แถม ปีที่2กับ3 ต่อชั้น1 เบี้ย 25,xxx และ 22,xxx กำลังจะต่อปีที่4 มีโบรกเสนอมา 19,xxx

ค่าบำรุงรักษา เข้าเช็คระยะทุก6เดือน เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกับไส้กรอง พวกน้ำยาสารพัดประโยชน์ไม่เอา อยู่ที่ครั้งละ 2,200-2,600บาท ไม่เกินจากนี้ อาจจะมีสลับยางถ่วงล้อบ้าง บางครั้ง ซึ่งรวมในราคานี้แล้ว

อย่างอื่นยังปกติดี ไม่มีอะไรเสียหรือต้องเปลี่ยน ผมใช้รถน้อยด้วย มกรา60 จะครบ3ปี แต่วิ่งไป 19,xxx เอง

[sukhontha]

เอาสไตล์ผมบ้าง ....

ญี่ปุ่น x-trail t31  ประกันปีแรกสองหมื่น ชั้นหนึ่ง  ปีที่สอง ชั้น 3  จากนั้นเป็นต้นมา สามบวก 

ยุโรปใช้ saab  อย่างเดียว.....คันแรก saab 900s 2.3  ซ่อมประมาณ7หมื่น แล้วถ่ายของเหลวไปเรื่อย ๆจนขายไป

คันที่สอง saab 9000cd  2.3   ซ่อมราว ๆสองหมื่น  ใช้ไม่ได้เรื่อง  ให้น้องไป....
คันที่สาม saab 900s 2.0  3d  ซื้อเพราะมันเท่ห์ ไม่ได้ซ่อม ใช้ไม่สะดวก  ขายไป...
คันที่สี่   saab 9000cse 2.3t   ซ่อมราวๆ สามหมื่น  ปัจจุบันให้พี่ใช้(อีกรอบ)
คันที่ห้า  saab 93  2.0T  ไม่ต้องซ่อม  ใช้จ่ายระหว่างทางไม่เกิน สี่หมื่น   ใช้อยู่
คันที่หก  saab 95 2.3t  ได้มายกเครื่องลงมาทำแปดหมื่น   ..เพิ่งใช้ได้ปีครึ่ง...

          ทั้งหกคัน  ทำแค่พรบ.ทั้งหมด..   ยกเว้น 93 ss ให้ลูกขับ ทำ สาม+     

[InBkk]

Benz E200 W212

เข้าศูนย์ ถ้าเปลี่ยนแค่ นมค กับนิดๆ หน่อยๆ ก็ 9,000-10,000 แต่ถ้าเปลี่ยนเยอะก็ 2-3 หมื่นครับ ตอนครบ 3 หมื่นโล เอาเข้าศูนย์ จนท ขับมาส่งถึงบ้าน เจอไป 2 หมื่นกว่า เปลี่ยนจานเบรค เขาให้เหตุผลว่า เจียร์ไม่ได้ ผิดรูปหน่อยก็เปลี่ยนเลย...

[Koong]

ML250   
ซื้อแพคเกจบำรุงรักษาเพิ่ม ประมาณ 200000 บาท
ได้บำรุงรักษาฟรี เปลี่ยนถ่ายของเหลวทั้งหมด รวมกับ รับประกันคุณภาพรถ ระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

ตอนนี้ 2 ปี 50000 โล เพิ่งเข้าเช็คระยะ เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนราคา  4xxx  บวกค่าแรงเปลี่ยนอีก 900 (จะแพงไปไหน)
อ้อ ก่อนหน้านี้ตอน 40000 กม เปลี่ยนผ้าเบรคหน้าราคา 1xxxx 

ผมว่าแพงกว่ารถญี่ปุ่น3-4 เท่าตัว   ซื้อมาใช้งานยิ่งใช้เยอะเหมือนยิ่งไม่คุ้ม

[jaesz]

ตอบแบบรวมๆสำหรับคนท ี่หาอะไหล่เอง ซ่อมรถเองนะ

รถยุโรป มันมักจะใช้อ่างนมค.ใหญ่ ใช้น้ำมันเครื่องมากกว่า  ไส้กรองน้ำมันก็แพงกว่า รวมๆ แพงกว่าตรงนี้แน่ๆ 50%

รถญี่ปุ่น D segอะไหล่ศูนย์ รวมๆ พอๆกับรถยุโรป เบิกข้างนอกศูนย์ เช่นพวกโช๊คอัพ ผ้าเบรค และของสึกหรอต่างๆ แต่ถ้าเบิกนอกศูนย์เหมือนกัน D-seg ยี่ปุ่นถูกกว่าอีกครึ่งนึง

อะไหล่แจ๊กพ็อต พวกที่ไม่ได้เสียประจำ เช่นกล่องเครื่อง กล่องคุมระบบไฟ รถญี่ปุ่นไม่ค่อยเสีย รถยุโรปเสียบ่อยกว่า( โดยสถิตินะครับ ไม่ใช่ว่าทุกคันทุกเคสจะเหมือนกัน เลยเรียกว่า Jackpot ) ของรถญี่ปุ่นก็ถูกกว่าอีกนั่นแหละ เคยเห็นแพงๆของTeana ที่จะแพงเท่ายุโรป แต่นอกนั่นถูกกว่า เช่น VSC toyota ตัวละแสนสอง แต่ของ C-class ESP กล่องละ สองแสน

ค่าประกัน มันคิดตามราคารถ มูลค่ารถในวันที่ทำครับ รถแพงประกันแพง