« ตอบกลับ #94 เมื่อ: พฤศจิกายน 18, 2016, 16:29:34 »
ไปบวชแล้วสึกออกมาเพราะต้องมาเข้าระบบขบวนการของศาล ล่าสุดโดนทนายคนแรกทิ้งคดีหนีเปิดตูดไปแล้ว ส่วนทนายคนถัดมาก็ทิ้งให้ต้องมาขึ้นศาลกับแม่กันเสมียนแก่ๆที่น่าจะเป็นลูกน้องของพ่อมันที่ตัดหางลูกปล่อยวัดอย่างไม่ใยดี......เป็นพ่อภาษาเ_ี้ยอะไรแทนที่จะสั่นสอนดีเลวให้ลูกร่วมทุกข์จนถึงที่สุดแต่แม่มถีบทิ้งชัดเจน เมียผมเพิ่งไปขึ้นศาลที่อยุธยามาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาพร้อมกับแม่ยายกับแฟนของผู้ตายพร้อมลูกสาวของผม เนื้อข่าวคือตามในลิงค์นี้
http://www.khaosodenglish.com/news/crimecourtscalamity/courts/2016/11/14/surprising-court-jenphop-withdraws-insanity-defense/ ใส่อารมณ์เพราะความสะเทือนใจมากชักเหนื่อย.......แฮ่กๆๆๆๆๆ......คราวนี้ผมขอพูดดีๆบ้างดีกว่า.....ขอเถอะครับไอ้เรื่องของความเร็วบนท้องถนนหลวงเนี่ย ทั้งอัตราเร่ง ทั้งความเร็วปลาย ทั้งความรู้สึกอยากจะเอาชนะรถคันอื่นๆบนท้องถนนทั้งหลาย มันไม่มีชัยชนะที่แท้จริงหรอก มีแต่เราคิดกันเอาเองทั้งนั้นว่ามีชัยแล้ว แต่ปล่าเลย เส้นชัยของการแข่งอยู่ที่ไหน? กฏกติกาของการแข่งคืออะไร? ไม่มีนะ.....ไม่มีเลย เป็นการแข่งที่ไม่มีอะไรสักอย่างไม่มีกฏเกณท์ไม่มีชัยชนะที่แท้จริงและสิ่งที่ตามมาก็หนีไม่พ้นคำก่นด่าสาปแช่งของคนรอบข้างที่พบเห็น ในเมื่อไม่มีอะไรสักอย่างที่ได้มาแล้วจะเสี่ยงชีวิตไปทำไมครับ? เรามาขับรถตามสมควรแก่การจราจรไม่ดีกว่าเหรอ? ขับปกติตามกฏหมายกำหนดอาจจะไม่ถูกใจแต่ถูกจริตความปลอดภัย ต่อให้โดนตัดหน้ากระทันหันก็มีเวลาหลายวินาทีที่จะรับมือทัน ต่อให้รับมือไม่ทันก็มีโอกาสรอดชีวิตจากแอร์แบกไม่ต้องไปหวังพึ่งว่าโครางสร้างของรถมันจะทนทานได้เท่าไหร่ก่อนถึงจุดฉีกขาดคนคนในรถกระเด็นออกมา
ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่าความเร็วในวันที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ประมาณ220-240 และนั่นคือความเร็วที่ทำให้คนในรถเฟียสต้าที่นั่งอยู่เบาะคู่หน้าเกิดอาการบาดเจ็บภายในหัวใจฉีกขาดทัน......ผลใบชันสูตรศพอยู่ที่บ้านผมเองผมไม่กล้าเปิดซองออกมาอ่านไม่กล้าที่จะรับรู้ความจริงว่าสาเหตุการตายที่แท้จริงของเค้าคืออะไร......เสียชีวิตทันทีหรือว่าต้องทรมานจากการถูกไฟคลอกก่อนขาดอ็อกซิเจนจนเสียชีวิต.......ฟังต่อจากที่เมียผมปรึกษาทนายในการดำเนินคดีฟ้องร้องเท่านั้นพอ.....เอาเป็นว่าผมอยากให้คุณไม่ลืมกันนะครับว่าความเร็วที่CLSชนเฟียสต้า กับความเร็วที่คุณๆทั้งหลายกำลังใช้กันทุกวันๆเนี่ยไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่เลย พวกคุณห่างจากการเป็นนายเจนภพเพียงแค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น จะขับที่180หรือ200แต่ถ้าพลาดไปชนรถที่ขนาดเล็กกว่าข้างหน้าคนนั่งเบาะหลังก็ตายคาที่......ดูอย่างในกระทู้นี้มาสด้า2เล็กกว่าฟอร์จูนเนอร์มากแต่ด้วยความเร็วที่พุ่งมาขนาดนั้นชนท้ายเค้ารถที่ขนาดใหญ่กว่าก็ยังเสียหลักตกทางด่วนได้ ผมขออย่าได้ประมาทความเร็วเด็ดขาด ไม่ว่าจะเรื่องของความเร็วปลายหรืออัตราเร่งก็ตาม ไปลองในสนามเถอะครับ.....ที่นั่นมีเกียรติยศและถ้วยรางวัลรอให้ผู้ชนะไม่เหมือนการซิ่งข้างถนนพวกนี้
เอาไว้เมื่อคดีความฟ้องร้องจบลงผมจะเล่าให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่ขอบอกว่าถ้าหากว่าเรายังมีความคิดที่จะใช้ความเร็วเพราะความทะนงตนหรือคึกคะนองส่วนตัวขึ้นมา ยามที่พวกคุณพลาดกันขึ้นมาคุณจะเลวร้ายยิ่งกว่านายเจนภพเสียอีก......ขอเถอะครับ ขับขี่ด้วยความปลอดภัยเห็นแก่ชีวิตของคนรอบข้างเถอะ ถนนบนประเทศไทยทุกวันนี้มันตายแล้วตายจากความเร็วทุกวันอีกไม่รู้กันเท่าไหร่ อย่าให้ถึงวันที่พลาดฆ่าคนตายกันขึ้นมาแล้วค่อยตระหนักได้ว่าอันตรายของความเร็วมันเป็นยังไง......คุณเก่งกันแค่ไหนไปดูในสนามแข่งสิครับ F1, nascar, indycar พวกนี้นักแข่งเค้าเก่งกว่าเราเยอะยังตายกันบ่อยๆ อย่าคิดว่ารถที่ใช้รุ่นใหม่ประสิทธิภาพดีขับแค่120มันช้าเกินไป รถนายเจนภพก็ CLS63AMGแท้ๆยังเอาไม่อยู่นะ......