ผู้เขียน หัวข้อ: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz  (อ่าน 17451 ครั้ง)

ในช่วง1ปี มานี้ ผมได้อ่านกระทู้ของผู้ที่ซื้อรถเบนซ์มาใช้ แล้วมีปัญหา เยอะมากในอินเตอร์เน็ต
หลายกระทู้ผมอ่านแล้วก็สงสารเจ้าของรถมากๆ ล่าสุดเกษตรกรเก็บเงินมาทั้งชีวิตได้3ล้านกว่า เอาไปซื้อรถเบนซ์ E300 บลูเทคไฮบริดได้5เดือนแล้วเครื่องยนต์ดับสตาร์ทไม่ติด ต้องถูกรื้อรถด้านหน้าออกมาหมดเลย   

ผมเลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เกี่ยวกับความเข้าใจผิดของคนทั่วไปเกี่ยวกับรถ Benz
ผมไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นเซียนอะไร เพียงแต่ผมโชคดีที่เกิดในตระกูลที่บ้ารถกันทั้งตระกูล ตั้งแต่รถอีโค่คาร์ไปจนถึงปอเช่มาคัน ก็ได้สัมผัสมาหมดแล้ว และได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆจากประสบการณ์ใช้จริงของทั้งตัวเอง และ ญาติในบ้าน
และตัวผมเองผ่านปัญหามาเยอะมาก จ้างทนาย และ ร้องเรียน สคบ ผมทำมาหมดแล้ว นั่งเคลียร์ปัญหากับผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ก็เคยมาแล้ว ปวดหัวมาก   และกล้าพูดว่าที่นี่คือประเทศไทย สิทธิผู้บริโภคเรายังด้อย ร้องเรียนไปสิ่งที่ได้มามีแค่อย่างเดียว คือ เสียเวลา  คุณเคยเห็นใครได้เปลี่ยนรถบ้าง เวลารถมีปัญหา

ผมรู้นะว่า benz อ่ะเป็นรถในฝันของคนทั่วโลก ดังนั้นทุกคนที่ไม่เคยสัมผัส จะตั้งความหวังไว้กับมันสูงมากๆ
รถ benz คันแรกที่คุณเก็บเงินซื้อได้สำเร็จ มันเหมือนรางวัลของชีวิตที่คุณรอมานาน

และสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถ benz ก็คือ คิดว่ารถคันละ3-4ล้าน จะต้องไม่มีปัญหา
ตรงนี้แหละคือประเด็น ที่คนไม่เคยใช้รถยุโรป จะตั้งความหวังไว้กับรถเบนซ์คันแรกสูงมากๆ
ปัญหาที่เคยเจอในรถญี่ปุ่นคันเก่าคันละ9แสน มันต้องไม่น่ามีในรถคันละ 4ล้าน  นี่คือความเข้าใจของคนทั่วไป อันจะนำไปสู่ความผิดหวัง
เมื่อซื้อรถเบนซ์มาแล้ว พบว่ามันมีปัญหามากกว่ารถญี่ปุ่นที่เคยใช้ และสิ่งที่เคยวาดฝันไว้ พอความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

ถ้าใครติดตาม Consumer report ของอเมริกา จะเห็นว่าแต่ละปีจะมีรายงานเรื่องปัญหาความจุกจิกของรถยนต์
เขามีระบบการประเมินและเก็บข้อมูล จำนวนครั้งที่ลูกค้าต้องนำรถเข้าศูนย์ไปแก้ปัญหาในแต่ละปี  ผลสรุปคือ รถญี่ปุ่นจุกจิกน้อยกว่ารถยุโรป

ตรรกะของคนทั่วๆไป คือ รถที่แพงกว่ามันต้องดีกว่าสิ
อันนี้ใช่ครับ รถยุโรปดีกว่ารถญี่ปุ่นในเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัย การขับขี่ พวกนี้เหนือกว่ารถญี่ปุ่นครับ
ถ้าคุณคาดหวังสิ่งเหล่านี้เมื่อซื้อรถคันละ4ล้าน  มันให้คุณได้แน่นอน 

แต่ถ้าใครไปคาดหวังว่ารถมันจะไม่มีปัญหา  หรือ ไม่จุกจิก และต้องไม่มีอะไรเสียอะไรทำนองนี้ 
ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่ครับ  ถ้าความจุกจิก ความไม่อยากพบเจอปัญหา คือหัวใจหลักที่คุณต้องการ ไปซื้อรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ

ทุกวันนี้เวลาผมเห็นกระทู้ต่างๆในอินเตอร์เน็ต ผมเห็นใจเจ้าของรถนะ ผมเข้าใจความคาดหวังของพวกเขา
ทุกคนพูดประโยคเดียวกันหมด รถคันละ3-4ล้าน ไม่คิดว่าเจอปัญหาเครื่องดับ ,ลมเข้า ,น้ำเข้า และปัญหาจุกจิกอื่นๆอีก

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถเบนซ์ นี่แหละครับคือปัญหา 
ผมจำได้ว่าในอดีตมันมีปัญหาน้อยกว่านี้นะ  เพราะตอนเด็กๆผมนั่ง E190 ทุกวันไปโรงเรียน ตลอดช่วงเวลาที่พ่อผมใช้จนขายทิ้ง ไม่เคยมีปัญหาจุกจิกเลย  แต่ตั้งแต่ C180 เป็นต้นมาปัญหาโคตรเยอะเลย ตอนหลังขายทิ้งเพราะขี้เกียจซ่อม

รถเบนซ์ เมื่อก่อนบ้านผมขายทิ้ง เพราะอยากเปลี่ยนคันใหม่
แต่ C180 ขายทิ้งเพราะขี้เกียจซ่อม  ตอนหลังมันมากลายเป็นแบบนี้ไปซะงั้น

ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่ารถเบนซ์มันมีปัญหาอยู่ยี่ห้อเดียวนะครับ  รถญี่ปุ่นก็มีครับ
แต่คนทั่วไปเข้าใจผิดว่ารถแพงๆมันจะไม่มีปัญหา ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอมา บอกได้ว่ามันไม่จริง

ดังนั้นถ้าใครที่ยังไม่เคยซื้อรถเบนซ์ และคิดจะซื้อ สิ่งที่ต้องคุณควรรู้ ก็คือ มันมีโอกาสอย่างมากที่คุณจะพบปัญหาแบบเดียวกับที่คุณพบในรถญี่ปุ่นคันเก่าที่คุณใช้อยู่ หรืออาจจะพบปัญหาที่ไม่เคยพบก็ได้   

สุดท้ายในฐานะผู้บริโภคเหมือนกัน ผมคิดว่าสิทธิผู้บริโภคในประเทศไทยมันน้อยมาก เราไม่เคยได้รับการคุ้มครองจริงๆ และสคบ ก็เป็นเพียงเสือกระดาษ  ไม่เคยช่วยอะไรเราได้จริงๆ ความเสี่ยงทั้งหมดถูกผลักมาที่ผู้บริโภค  ผู้บริโภคไม่ได้รับความคุ้มครองอะไรเลยจากรัฐ
ในขณะที่น้ำส้มคั้นขวดละสิบบาท ถ้าคุณพบว่าคนขายเอาน้ำเปล่าผสม คุณสามารถฟ้องร้องต่อรัฐได้ และสำเร็จมาแล้ว
ไส้กรอกไม้ละ5บาท ถ้าคุณพบว่ามีดินประสิวปน ก็ร้องเรียนทาง อย.ได้ และ อย.จะเข้ามาจัดการ
แต่รถยนต์คันละ3-4ล้าน ถ้าซื้อมาแล้วเครื่องดับสตาร์ทไม่ติด รัฐจะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้

สิ่งเหล่านี้บอกเราว่า รัฐคุ้มครองเราได้เพียงสินค้าข้างถนนเท่านั้น และรัฐกล้าจัดการได้แต่แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ละ5บาท กับแม่ค้าขายน้ำส้มคั้นริมถนน

สิทธิผู้บริโภคของคุณจะแปรผกผันกับราคาสินค้า ยิ่งคุณซื้อของแพงเท่าไร สิทธิผู้บริโภคของคุณยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น
แต่ สคบ จะแข็งแกร่งขึ้นมาทันที เมื่อต้องเจอกับแม่ค้าขายหมูปิ้ง แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ 

นี่คือความจริงทั้งหมดที่คุณควรรู้ไว้ ก่อนซื้อรถเบนซ์คันแรก



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2016, 03:22:17 โดย กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก »

ออฟไลน์ rotaryman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,586
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 05:35:16 »
ขอบคุณครับที่มาแชร์ประสพการณ์

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,992
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 05:53:44 »
ขอบคุณท่านมากครับ และนั่นก็เป็นสิ่งที่คนที่อยากเก็บเงินออกรถยุโรปคันแรกในชีวิตเช่นผมกังวลเหมือนกันครับ

ราคาเริ่มถูกลงมาใกล้รถญี่ปุ่น จนน่ากัดฟันออกมาใช้เสียนี่กระไร

แต่ที่อ่านมา ถ้าไม่รวยจริงค่าใช้จ่ายระหว่างใช้งานอาจทำให้จุกได้ในหลายๆช่วงเวลาของชีวิต

สุดท้ายคนเดินดินอย่างเราก็คงต้องใช้รถญี่ปุ่นต่อไปครับ

แฟนอยากได้ CountryMan มาก ตอนนี้เลยพยายามกล่อมเธอด้วย All New CX-5 สีแดงแทน (เริ่มใจอ่อนละ 555)

 8) 8) 8) 8) 8) 8)
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ Paul sa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 174
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 06:00:35 »
ขอบคุณที่แชร์ครับ

กฎหมาย และผู้รักษากฎหมายบ้านเรามันไม่แข็งแรงจริง แต่สิ่งสำคัญคือชื่อเสียงของเบนซ์เองจะเสียหายจากปากคนใช้รถเองที่บอกต่อกันไป รอดูแค่ว่าระหว่างเรื่องนี้กับภาพลักษณ์ผู้ใช้รถจะเลือกอะไร

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 06:35:57 »
ลองญี่ปุ่นใส่นั่นนี่เข้าไปเยอะแยะ   มันก็จะเป็นแบบเดียวกันครับ

  ยิ่งระบบซับซ้อนมากเท่าไร  ก็ยิ่งอ่อนไหวมากเท่านั้น  ไม่ใช่ของแปลก  เพราะมันไม่ใช่ w 124 อีกแล้ว

ออฟไลน์ NoBiReacto

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 06:55:35 »
เบนซ์เป็นรถในฝันของหลายๆคนรวมถึงคุณพ่อผมด้วย จนสุดท้ายได้ตัดสินใจซื้อ e300 hybrid ตั้งแต่ปี2014 ในเวลา 2ปี เคลมบ่อยมาก แบตสตาร์ทแบตลูกเล็ก แบตไฮบริด เซนเซอร์นั่นนี่ ขับๆอยู่ไฟก็ขึ้นทั้งหน้าปัด จนตอนนี้ออกต่างจังหวัดใช้รถญี่ปุ่นแทน(ที่บ้านมี isuzu dmax,cx5,accord 2.0) 3คันนี้ไม่เคยเสียหรือมีปัญหาจุกจิกเลย ตอนนี้บ้านผมเข็ดกับรถตราดาวมาก ไม่รู้ใช้ไปจะมีปัญหาอีกเมื่อไหร่

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 07:39:58 »
จริงที่ว่า คนคาดหวังว่า ราคา 3-4 ล้านจะ perferct 

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 07:53:30 »
นี่แหละ สาเหตุหลักที่ผมไม่มองเบนซ์และรถพรีเมี่ยมยุโรปเท่าไร รถพรีเมี่ยมที่อยากได้มียี่ห้อเดียวคือ Lexus แต่ติดตรงที่ภาษีแพงไป ไม่คุ้ม

ปล. ผมเคยเห็นคนได้เปลี่ยนรถ ซื้อคืนนะ แต่เค้าทำสัญญากับบริษัทรถว่าจะไม่เปิดเผยไงล่ะ คุณเลยไม่เคยเห็นออกสื่อ

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:08:45 »
สำหรับผมอาจจะแตกต่างกับ เจ้าของกระทู้เยอะเลยครับ
ที่เคยใช้มา ที่คนไทยส่วนใหญ่มองว่าพรีเทียม
ผมไม่เคยเจอปัญหาdefect ที่แก้ไม่ได้หรือปัญหาอะไรใหญ่โต
มีแต่ขับไม่ถุกใจ และความคาดหวังมากเกินไปครับ

แต่หากจะspecific เป็นรุ่นปี หลัง2012 อันนี้ผมไม่แน่ใจละกัน


W124
525  E60
W212

สำหรับผม ผมมีเจอปัญหากับรถใหม่ของญี่ปุ่น เมกา  มากกว่าครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ oatekung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:19:59 »
มันก้อปลอดภัยกว่า เบรคดีกว่า เครื่องแรงกว่า ดูหรูกว่า
ส่วนค่าบำรุงก้อแพงกว่า defect  ย่อมมีเหมือนรถทั่วไปครับ แหะๆ

ออฟไลน์ rosaniyomdeelerd

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:23:09 »
รัฐคงกลัวกระทบเรื่องการลงทุนในระดับชาติมากกว่านะ จึงไม่กล้าเด็ดขาดกับบริษัทรถ เอ้ะหรือว่าเขาจะเป็นพวกเดียวกัน

ออฟไลน์ nl2br

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,018
    • ร้านค้าออนไลน์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:43:27 »
ผิดแล้วครับที่นี่ใช่ประเทศไทยที่ไหน ที่นี่บราซิลครับ!!!  ;D ;D ;D
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:53:15 »

สุดท้ายในฐานะผู้บริโภคเหมือนกัน ผมคิดว่าสิทธิผู้บริโภคในประเทศไทยมันน้อยมาก เราไม่เคยได้รับการคุ้มครองจริงๆ และสคบ ก็เป็นเพียงเสือกระดาษ  ไม่เคยช่วยอะไรเราได้จริงๆ ความเสี่ยงทั้งหมดถูกผลักมาที่ผู้บริโภค  ผู้บริโภคไม่ได้รับความคุ้มครองอะไรเลยจากรัฐ
ในขณะที่น้ำส้มคั้นขวดละสิบบาท ถ้าคุณพบว่าคนขายเอาน้ำเปล่าผสม คุณสามารถฟ้องร้องต่อรัฐได้ และสำเร็จมาแล้ว
ไส้กรอกไม้ละ5บาท ถ้าคุณพบว่ามีดินประสิวปน ก็ร้องเรียนทาง อย.ได้ และ อย.จะเข้ามาจัดการ
แต่รถยนต์คันละ3-4ล้าน ถ้าซื้อมาแล้วเครื่องดับสตาร์ทไม่ติด รัฐจะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้

สิ่งเหล่านี้บอกเราว่า รัฐคุ้มครองเราได้เพียงสินค้าข้างถนนเท่านั้น และรัฐกล้าจัดการได้แต่แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ละ5บาท กับแม่ค้าขายน้ำส้มคั้นริมถนน

สิทธิผู้บริโภคของคุณจะแปรผกผันกับราคาสินค้า ยิ่งคุณซื้อของแพงเท่าไร สิทธิผู้บริโภคของคุณยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น
แต่ สคบ จะแข็งแกร่งขึ้นมาทันที เมื่อต้องเจอกับแม่ค้าขายหมูปิ้ง แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ 

นี่คือความจริงทั้งหมดที่คุณควรรู้ไว้ ก่อนซื้อรถเบนซ์คันแรก

เป็นความจริงที่น่าเศร้า ในยุคที่เงินคือความถูกต้องเฉกเช่นในปัจจุบันนี้

ส่วนตัวผมการทำตัวให้เล็กที่สุด เป็นทางออกที่พึงทำได้ดีที่สุดในยุคเสื่อมเช่นทุกวันนี้ครับ ใช้ชีวิตอยู่กับตนเอง ทั้งร่างกายและจิตใจ อยู่กับครอบครัว

ให้น้ำหนักกับวัตถุให้น้อยลง เท่าที่พึงกระทำได้ มองให้ออกว่าสิ่งไหนสำคัญ และมีคุณค่าอย่างแท้จริงกับชีวิตเรา
อาจอ่านดูแล้วไม่เกี่ยว แต่ถ้าทำได้ จะเบาขึ้นอีกมากครับ

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 08:56:17 »
แค่ชื่อเรียกคนส่วนมากก็เรียกกันผิดแล้วครับ 

Mercedes อ่านว่า เมอร์เซดีส ส่วนไทยแลนด์เรียก เมอร์ซีเดส LOL

ออฟไลน์ MystogaN

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,476
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:07:18 »
กำลังจะได้คันที่ 2 หวังว่าจะดีเหมือนคันแรก 5 ปี ไม่มีปัญหาเลย

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:18:00 »
ผมอ่านมาม่าในพันดริฟบ่อย กะยี่ห้อนี้

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:22:14 »
ลองญี่ปุ่นใส่นั่นนี่เข้าไปเยอะแยะ   มันก็จะเป็นแบบเดียวกันครับ

  ยิ่งระบบซับซ้อนมากเท่าไร  ก็ยิ่งอ่อนไหวมากเท่านั้น  ไม่ใช่ของแปลก  เพราะมันไม่ใช่ w 124 อีกแล้ว

ผมว่าไม่ใช่นะ
Consumer report เขาเก็บข้อมูลของคนที่ซื้อรถไปใช้แล้ว นำมาวิเคราะห์ทางสถิติ แล้วรายงานผลออกมา
Lexus ก็ยังติดอันดับต้นๆ ของรถที่ไม่จุกจิกอยู่ดี
ทั้งๆที่เทคโนโลยีมันก็พอกับยุโรปนั่นแหละ

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:33:38 »
ตอนแรกก็สนใจครับ แต่พอหาข้อมูลลึกๆ พี่ๆที่เคยใช้บอกว่า E Coupe , C Coupe แกซ่อมจนเบื่อ จนแกใช้ Camry แทนละ อุ่นใจกว่า

จะบอกว่าซับซ้อนกว่าเลยทำให้จุกจิก ผมว่าไม่เกี่ยว  ทำไมขอบยางรถคันละสี่ล้าน น้ำรั่วเข้ารถ ขณะที่ Ecocar คันละไม่กี่แสนมันไม่เป็น

หลอด LED ไฟท้ายเสียใน Benz ทั้งๆที่ แท็กซี่ Altis วิ่งกันเกลื่อนเมืองก้ใช้ ไฟท้าย หลอด LED เหมือนกัน

ผมว่ารถจากเยอรมัน เท่าที่รู้จัก Porsche นี่น่าจะได้ยินปัญหาน้อยสุดน่ะ ส่วน BMW Benz สาหัสหนักหนาเอาเรื่องเลย

ไม่รู้ตอนนี้ BMW ยังใช้นโยยายน้ำมันเกียรสุดล้ำ  อายุการใช้งานตลอดชีพ(BSI) ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร ให้มันพังไปพร้อมเกียร์แล้วเปลี่ยนถ่ายทีเดียวอยู่หรือเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2016, 09:42:11 โดย Butterzai »

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:35:04 »
เคส Benz ที่เป็นเรื่องใหญ่โต ส่วนใหญ่ศูนย์บริการแทบจะเป็นต้นเหตุเกือบทั้งหมด ถ้าศูนย์บริการดูแลดีรีบจัดการแก้ไขให้จบเรื่องโดยเร็ว ปัญหาจะไม่ลุกลามขนาดนี้ หลายเคสนี่ชื่อศูนย์เจ้าปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ

แน่นอนแหละคนซื้อรถระดับราคานี้ก็คาดหวังสูงมากหรือมากที่สุด บางคนนี่ซื้อแบบไม่หาข้อมูลเลยด้วยซ้ำ เจอ Service A ราคาหลักหมื่นก็โวยออกสื่อกันแล้ว ทั้งที่เป็นเรื่องปกติ
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ dt9

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
    • อีเมล์
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:38:50 »
ปัญหาหลายอย่างก็เป็นที่การออกแบบหรือการพัฒนาของ MB เองครับ เช่น  W205 ประตูดัง หรือเสียงลม เป็นปัญหาทั่วโลก
แต่ที่เจอ ซึ่งผมเองจะเช็คกับหลายศูนย์ คือ เมื่อเกิดปัญหากับตัวรถขึ้น MB ไม่มีการแจ้งไปที่ศูนย์บริการ ทางศูนย์ต้องหาทางแก้ปัญหากันเอง
กว่า MB จะแจังก็ใช้เวลานานบางปัญหาใช้เวลาเป็นปี และเมื่อมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างเป็นทางการแล้ว
บางศูนย์กลับไม่ทราบว่ามีวิธีแก้แล้ว หรือบางปัญหาก็แก้ไขไม่เหมือนกัน
   
และเป็นธรรมดาที่คนทั่วไปที่ยังไม่ใช้ MB ก็คงคาดหวังไว้มาก เพราะคิดว่าราคามันสูงกว่าก็ควรจะดีกว่ารถญี่ปุ่น
ผมใช้ทั้ง MB และ BMW รวม 4 รุ่น กับรถญี่ปุ่นด้วย  ผมจะบอกกับคนอื่นๆ เสมอว่าอย่าคาดหวังกับ MB
โดยส่วนตัวรถญี่ปุ่นใช้ดีกว่ามาก ในชีวิตประจำวันผมเลือกใช้รถญี่ปุ่นมากกว่าด้วยซ้ำ
เพื่อนผมหลายคนก็รู้ว่ามันสู้ญี่ปุ้นไม่ได้ แต่ซื้อเพราะตราดาว นี่แหละ จะเจอปัญหากันยังไงก็ซื้ออยู่ดี เพราะยี่ห้อ
คนที่ใช้ MB แล้ว ไม่เจอปัญหา ผมถือว่าโชคดีมาก คงทำบุญมาดี
บางอย่างที่ไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นความตั้งใจ ซึ่งควรแก้ไขเมื่อมาขายที่ไทยมีหลายจุด เช่น ระบบแอร์ (จุดนี้ BMW ก็เคยมีปัญหา แต่ตอนนี้ปรับปรุงมาแล้ว ถือว่าดี)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2016, 09:47:00 โดย dt9 »

ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:40:46 »
แค่ชื่อเรียกคนส่วนมากก็เรียกกันผิดแล้วครับ 

Mercedes อ่านว่า เมอร์เซดีส ส่วนไทยแลนด์เรียก เมอร์ซีเดส LOL

การออกเสียงขึ้นอยู่กับท้องที่ครับ คนไทยจะออกเสียง เมอ เซ เดส ก็ไม่ผิด เพราะภาษาไทยสำเนียงอังกฤษจะตีความ e เป็น สระเอกับอี จะออกเสียงยังไงก็ได้ให้คนท้องถิ่นเป็นที่เข้าใจ

ถ้าจะเอาตามการออกเสียงต้นฉบับจริงๆ ต้องออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส เพราะภาษาเยอรมันออกเสียง ER เป็น แอร์ หรืออย่าง Mercedes AMG ก็ออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส-อา-เอม-กี ซึ่งคุณไปบอกเซลว่าอยากซื้อรุ่นอาเอมกี คิดว่าเค้าจะงงมั้ยครับ คือมันถูก แต่มันไม่ Localized ใช้สื่อสารไม่ได้ก็ถือว่าไม่ถูกครับ

หรือถ้าจะเอาเป็น American English มันก็ออกเสียง เมอร์-ซี-ดีส อยู่ดี ไม่ได้ออกเสียง เมอร์เซดีสอย่างที่คุณเข้าใจ

ออฟไลน์ mick

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,546
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:49:30 »
เห็นด้วยครับ อยากให้มีเวทีให้คนอื่นๆรู้ก่อนซื้อเหมือนกัน

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:52:42 »
แค่ชื่อเรียกคนส่วนมากก็เรียกกันผิดแล้วครับ 

Mercedes อ่านว่า เมอร์เซดีส ส่วนไทยแลนด์เรียก เมอร์ซีเดส LOL

การออกเสียงขึ้นอยู่กับท้องที่ครับ คนไทยจะออกเสียง เมอ เซ เดส ก็ไม่ผิด เพราะภาษาไทยสำเนียงอังกฤษจะตีความ e เป็น สระเอกับอี จะออกเสียงยังไงก็ได้ให้คนท้องถิ่นเป็นที่เข้าใจ

ถ้าจะเอาตามการออกเสียงต้นฉบับจริงๆ ต้องออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส เพราะภาษาเยอรมันออกเสียง ER เป็น แอร์ หรืออย่าง Mercedes AMG ก็ออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส-อา-เอม-กี ซึ่งคุณไปบอกเซลว่าอยากซื้อรุ่นอาเอมกี คิดว่าเค้าจะงงมั้ยครับ คือมันถูก แต่มันไม่ Localized ใช้สื่อสารไม่ได้ก็ถือว่าไม่ถูกครับ

หรือถ้าจะเอาเป็น American English มันก็ออกเสียง เมอร์-ซี-ดีส อยู่ดี ไม่ได้ออกเสียง เมอร์เซดีสอย่างที่คุณเข้าใจ

Mercedes เป็นชื่อที่มีที่มาจากภาษาสเปนแปลว่า Lady of Mercy ถ้าอ่านแบบ original จริงๆ ก็คือเมอร์เซดีสครับ

ส่วน yank accent ก็อ่านเมอร์เซดีสเหมือนกัน  ถ้าสังเกตจากที่พวก yank เรียกก็จะอ่านตามนี้ครับ

ออกเสียงแบบ original แบบสเปน


ออกเสียงแบบ yank



ออฟไลน์ ซิ่งเข้าส้วม

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,150
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 09:58:08 »
แค่ชื่อเรียกคนส่วนมากก็เรียกกันผิดแล้วครับ 

Mercedes อ่านว่า เมอร์เซดีส ส่วนไทยแลนด์เรียก เมอร์ซีเดส LOL

การออกเสียงขึ้นอยู่กับท้องที่ครับ คนไทยจะออกเสียง เมอ เซ เดส ก็ไม่ผิด เพราะภาษาไทยสำเนียงอังกฤษจะตีความ e เป็น สระเอกับอี จะออกเสียงยังไงก็ได้ให้คนท้องถิ่นเป็นที่เข้าใจ

ถ้าจะเอาตามการออกเสียงต้นฉบับจริงๆ ต้องออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส เพราะภาษาเยอรมันออกเสียง ER เป็น แอร์ หรืออย่าง Mercedes AMG ก็ออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส-อา-เอม-กี ซึ่งคุณไปบอกเซลว่าอยากซื้อรุ่นอาเอมกี คิดว่าเค้าจะงงมั้ยครับ คือมันถูก แต่มันไม่ Localized ใช้สื่อสารไม่ได้ก็ถือว่าไม่ถูกครับ

หรือถ้าจะเอาเป็น American English มันก็ออกเสียง เมอร์-ซี-ดีส อยู่ดี ไม่ได้ออกเสียง เมอร์เซดีสอย่างที่คุณเข้าใจ

Mercedes เป็นชื่อที่มีที่มาจากภาษาสเปนแปลว่า Lady of Mercy ถ้าอ่านแบบ original จริงๆ ก็คือเมอร์เซดีสครับ

ส่วน yank accent ก็อ่านเมอร์เซดีสเหมือนกัน  ถ้าสังเกตจากที่พวก yank เรียกก็จะอ่านตามนี้ครับ

ออกเสียงแบบ original แบบสเปน


ออกเสียงแบบ yank


คุณก็รู้นี่ครับว่ามันออกเสียงได้หลายแบบ คุณลองไปบอกคนเยอรมันว่าทั้งประเทศเค้าออกเสียงเรียกแบรนด์ Mercedes ผิดหมดนะ ของจริงต้องออกเสียงแบบสเปน คุณคิดว่าเค้าจะขำมั้ยครับ เค้าจะคิดว่าคุณเก่งกว่าคนเยอรมันทั้งประเทศมั้ย ที่ออกเสียงแบรนด์รถประเทศตัวเองผิดหมดน่ะ

อย่างที่ผมบอกครับ คนไทยจะเรียกเมอร์เซเดส เมอร์ซีเดส เมอร์ซีดีส มันไม่ผิดหรอก ตราบเท่าที่เราเข้าใจว่าเราสื่อสารถึงอะไร

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:09:29 »
แค่ชื่อเรียกคนส่วนมากก็เรียกกันผิดแล้วครับ 

Mercedes อ่านว่า เมอร์เซดีส ส่วนไทยแลนด์เรียก เมอร์ซีเดส LOL

การออกเสียงขึ้นอยู่กับท้องที่ครับ คนไทยจะออกเสียง เมอ เซ เดส ก็ไม่ผิด เพราะภาษาไทยสำเนียงอังกฤษจะตีความ e เป็น สระเอกับอี จะออกเสียงยังไงก็ได้ให้คนท้องถิ่นเป็นที่เข้าใจ

ถ้าจะเอาตามการออกเสียงต้นฉบับจริงๆ ต้องออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส เพราะภาษาเยอรมันออกเสียง ER เป็น แอร์ หรืออย่าง Mercedes AMG ก็ออกเสียงว่า แมร์-ซี-ดิส-อา-เอม-กี ซึ่งคุณไปบอกเซลว่าอยากซื้อรุ่นอาเอมกี คิดว่าเค้าจะงงมั้ยครับ คือมันถูก แต่มันไม่ Localized ใช้สื่อสารไม่ได้ก็ถือว่าไม่ถูกครับ

หรือถ้าจะเอาเป็น American English มันก็ออกเสียง เมอร์-ซี-ดีส อยู่ดี ไม่ได้ออกเสียง เมอร์เซดีสอย่างที่คุณเข้าใจ

Mercedes เป็นชื่อที่มีที่มาจากภาษาสเปนแปลว่า Lady of Mercy ถ้าอ่านแบบ original จริงๆ ก็คือเมอร์เซดีสครับ

ส่วน yank accent ก็อ่านเมอร์เซดีสเหมือนกัน  ถ้าสังเกตจากที่พวก yank เรียกก็จะอ่านตามนี้ครับ

ออกเสียงแบบ original แบบสเปน


ออกเสียงแบบ yank


คุณก็รู้นี่ครับว่ามันออกเสียงได้หลายแบบ คุณลองไปบอกคนเยอรมันว่าทั้งประเทศเค้าออกเสียงเรียกแบรนด์ Mercedes ผิดหมดนะ ของจริงต้องออกเสียงแบบสเปน คุณคิดว่าเค้าจะขำมั้ยครับ เค้าจะคิดว่าคุณเก่งกว่าคนเยอรมันทั้งประเทศมั้ย ที่ออกเสียงแบรนด์รถประเทศตัวเองผิดหมดน่ะ

อย่างที่ผมบอกครับ คนไทยจะเรียกเมอร์เซเดส เมอร์ซีเดส เมอร์ซีดีส มันไม่ผิดหรอก ตราบเท่าที่เราเข้าใจว่าเราสื่อสารถึงอะไร

มันก็แล้วแต่ครับ ส่วนตัวผมเป็นแนวๆโลกตะวันตก อย่าง Americophile, Anglophile, Germanophile ก็ติดหลายๆอย่างมาจากทางนั่น คิดว่าเรียก เมอร์ซีเดส ก็เพี้ยนจากเมืองนอกเกินไป 

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,535
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:12:31 »
เอาส่วนตัวนะ ถ้าไปพูดกับใครว่า เมอร์เซเดส หรือ ซีดิส อะไรก็ตามเหอะ บ้านเราหลายคนไม่รู้หรอก

คนไทยเรียกสั้นๆ จบว่า "เบนซ์" คำเดียวรู้เรื่องทุกคน  ;D
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ the kit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,313
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:13:13 »
เข้าใจ จขกท. ครับ

คือเปรียบเหมือน MB = Rolex ที่คนส่วนใหญ่มองว่า เป็นความสำเร็จ, ความภูมิใจ, ความหรูหราภูมิฐาน แต่มันก็ไม่ได้ทนทานทุกรุ่น
แต่ รถญี่ปุ่น=Casio, Seiko ที่เดินเที่ยงตรงกว่า และใส่ได้สมบุกสมบันมากกว่า

เราเลือกที่จะให้เขามอง และ/หรือ เราเลือกที่จะยืนเองมากกว่า ไม่มีผิด ไม่มีถูก ครับ
"Make It Count"

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:19:01 »
ในช่วง1ปี มานี้ ผมได้อ่านกระทู้ของผู้ที่ซื้อรถเบนซ์มาใช้ แล้วมีปัญหา เยอะมากในอินเตอร์เน็ต
หลายกระทู้ผมอ่านแล้วก็สงสารเจ้าของรถมากๆ ล่าสุดเกษตรกรเก็บเงินมาทั้งชีวิตได้3ล้านกว่า เอาไปซื้อรถเบนซ์ E300 บลูเทคไฮบริดได้5เดือนแล้วเครื่องยนต์ดับสตาร์ทไม่ติด ต้องถูกรื้อรถด้านหน้าออกมาหมดเลย   

ผมเลยตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เกี่ยวกับความเข้าใจผิดของคนทั่วไปเกี่ยวกับรถ Benz
ผมไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นเซียนอะไร เพียงแต่ผมโชคดีที่เกิดในตระกูลที่บ้ารถกันทั้งตระกูล ตั้งแต่รถอีโค่คาร์ไปจนถึงปอเช่มาคัน ก็ได้สัมผัสมาหมดแล้ว และได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆจากประสบการณ์ใช้จริงของทั้งตัวเอง และ ญาติในบ้าน
และตัวผมเองผ่านปัญหามาเยอะมาก จ้างทนาย และ ร้องเรียน สคบ ผมทำมาหมดแล้ว นั่งเคลียร์ปัญหากับผู้บริหารจากสำนักงานใหญ่ก็เคยมาแล้ว ปวดหัวมาก   และกล้าพูดว่าที่นี่คือประเทศไทย สิทธิผู้บริโภคเรายังด้อย ร้องเรียนไปสิ่งที่ได้มามีแค่อย่างเดียว คือ เสียเวลา  คุณเคยเห็นใครได้เปลี่ยนรถบ้าง เวลารถมีปัญหา

ผมรู้นะว่า benz อ่ะเป็นรถในฝันของคนทั่วโลก ดังนั้นทุกคนที่ไม่เคยสัมผัส จะตั้งความหวังไว้กับมันสูงมากๆ
รถ benz คันแรกที่คุณเก็บเงินซื้อได้สำเร็จ มันเหมือนรางวัลของชีวิตที่คุณรอมานาน

และสิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถ benz ก็คือ คิดว่ารถคันละ3-4ล้าน จะต้องไม่มีปัญหา
ตรงนี้แหละคือประเด็น ที่คนไม่เคยใช้รถยุโรป จะตั้งความหวังไว้กับรถเบนซ์คันแรกสูงมากๆ
ปัญหาที่เคยเจอในรถญี่ปุ่นคันเก่าคันละ9แสน มันต้องไม่น่ามีในรถคันละ 4ล้าน  นี่คือความเข้าใจของคนทั่วไป อันจะนำไปสู่ความผิดหวัง
เมื่อซื้อรถเบนซ์มาแล้ว พบว่ามันมีปัญหามากกว่ารถญี่ปุ่นที่เคยใช้ และสิ่งที่เคยวาดฝันไว้ พอความเป็นจริงกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น

ถ้าใครติดตาม Consumer report ของอเมริกา จะเห็นว่าแต่ละปีจะมีรายงานเรื่องปัญหาความจุกจิกของรถยนต์
เขามีระบบการประเมินและเก็บข้อมูล จำนวนครั้งที่ลูกค้าต้องนำรถเข้าศูนย์ไปแก้ปัญหาในแต่ละปี  ผลสรุปคือ รถญี่ปุ่นจุกจิกน้อยกว่ารถยุโรป

ตรรกะของคนทั่วๆไป คือ รถที่แพงกว่ามันต้องดีกว่าสิ
อันนี้ใช่ครับ รถยุโรปดีกว่ารถญี่ปุ่นในเรื่องสมรรถนะ ความปลอดภัย การขับขี่ พวกนี้เหนือกว่ารถญี่ปุ่นครับ
ถ้าคุณคาดหวังสิ่งเหล่านี้เมื่อซื้อรถคันละ4ล้าน  มันให้คุณได้แน่นอน 

แต่ถ้าใครไปคาดหวังว่ารถมันจะไม่มีปัญหา  หรือ ไม่จุกจิก และต้องไม่มีอะไรเสียอะไรทำนองนี้ 
ผมบอกได้เลยว่าไม่ใช่ครับ  ถ้าความจุกจิก ความไม่อยากพบเจอปัญหา คือหัวใจหลักที่คุณต้องการ ไปซื้อรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ

ทุกวันนี้เวลาผมเห็นกระทู้ต่างๆในอินเตอร์เน็ต ผมเห็นใจเจ้าของรถนะ ผมเข้าใจความคาดหวังของพวกเขา
ทุกคนพูดประโยคเดียวกันหมด รถคันละ3-4ล้าน ไม่คิดว่าเจอปัญหาเครื่องดับ ,ลมเข้า ,น้ำเข้า และปัญหาจุกจิกอื่นๆอีก

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรถเบนซ์ นี่แหละครับคือปัญหา 
ผมจำได้ว่าในอดีตมันมีปัญหาน้อยกว่านี้นะ  เพราะตอนเด็กๆผมนั่ง E190 ทุกวันไปโรงเรียน ตลอดช่วงเวลาที่พ่อผมใช้จนขายทิ้ง ไม่เคยมีปัญหาจุกจิกเลย  แต่ตั้งแต่ C180 เป็นต้นมาปัญหาโคตรเยอะเลย ตอนหลังขายทิ้งเพราะขี้เกียจซ่อม

รถเบนซ์ เมื่อก่อนบ้านผมขายทิ้ง เพราะอยากเปลี่ยนคันใหม่
แต่ C180 ขายทิ้งเพราะขี้เกียจซ่อม  ตอนหลังมันมากลายเป็นแบบนี้ไปซะงั้น

ที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ไม่ได้หมายความว่ารถเบนซ์มันมีปัญหาอยู่ยี่ห้อเดียวนะครับ  รถญี่ปุ่นก็มีครับ
แต่คนทั่วไปเข้าใจผิดว่ารถแพงๆมันจะไม่มีปัญหา ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผมพบเจอมา บอกได้ว่ามันไม่จริง

ดังนั้นถ้าใครที่ยังไม่เคยซื้อรถเบนซ์ และคิดจะซื้อ สิ่งที่ต้องคุณควรรู้ ก็คือ มันมีโอกาสอย่างมากที่คุณจะพบปัญหาแบบเดียวกับที่คุณพบในรถญี่ปุ่นคันเก่าที่คุณใช้อยู่ หรืออาจจะพบปัญหาที่ไม่เคยพบก็ได้   

สุดท้ายในฐานะผู้บริโภคเหมือนกัน ผมคิดว่าสิทธิผู้บริโภคในประเทศไทยมันน้อยมาก เราไม่เคยได้รับการคุ้มครองจริงๆ และสคบ ก็เป็นเพียงเสือกระดาษ  ไม่เคยช่วยอะไรเราได้จริงๆ ความเสี่ยงทั้งหมดถูกผลักมาที่ผู้บริโภค  ผู้บริโภคไม่ได้รับความคุ้มครองอะไรเลยจากรัฐ
ในขณะที่น้ำส้มคั้นขวดละสิบบาท ถ้าคุณพบว่าคนขายเอาน้ำเปล่าผสม คุณสามารถฟ้องร้องต่อรัฐได้ และสำเร็จมาแล้ว
ไส้กรอกไม้ละ5บาท ถ้าคุณพบว่ามีดินประสิวปน ก็ร้องเรียนทาง อย.ได้ และ อย.จะเข้ามาจัดการ
แต่รถยนต์คันละ3-4ล้าน ถ้าซื้อมาแล้วเครื่องดับสตาร์ทไม่ติด รัฐจะไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้

สิ่งเหล่านี้บอกเราว่า รัฐคุ้มครองเราได้เพียงสินค้าข้างถนนเท่านั้น และรัฐกล้าจัดการได้แต่แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ละ5บาท กับแม่ค้าขายน้ำส้มคั้นริมถนน

สิทธิผู้บริโภคของคุณจะแปรผกผันกับราคาสินค้า ยิ่งคุณซื้อของแพงเท่าไร สิทธิผู้บริโภคของคุณยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น
แต่ สคบ จะแข็งแกร่งขึ้นมาทันที เมื่อต้องเจอกับแม่ค้าขายหมูปิ้ง แม่ค้าขายไส้กรอกเสียบไม้ 

นี่คือความจริงทั้งหมดที่คุณควรรู้ไว้ ก่อนซื้อรถเบนซ์คันแรก

ข้อแรก ผมจะบอกว่า รถยนต์(รถทุกยี้ห้อที่ขายในไทย)คันหนึ่งราคา ไม่ควรแพงถึงขนาดนี้เมื่อเทียบกับรายได้ของคนในประเทศไทย
         ซึ่งไม่มีใครนึกถึง และไม่มีใครสนใจ

ข้อสอง รถยนต์ไม่ได้แพง นะครับที่แพงเพราะภาษี ซึ่งคนก็ไม่สนใจอีกเช่นกัน รถคันละ 4แสน ขาย 8แสนได้ แต่ภาษีเข้ารัฐ
 
ข้อสาม องค์การผู้บริโภคประเทศไทยมีด้วยหรือครับ ถ้าเอา อเมริกามาเทียบ ผมว่าเทียบไม่ได้อ่ะ เพราะ รถก็คนละแบบ คนขับก็มีความรู้เรื่องรถกัน   
         คนละแบบอีก  แต่ถ้าจะเทียบว่า ซ่อมบ่อยหรือไม่ก็ได้เท่านั้น ไม่เอาญี่ปุ่นมาเทียบละครับ เข้าใช้ 3-4 ปีทิ้งเลยไม่ต้องซ่อม

ข้อสี่ (ตรรกะของคนทั่วๆไป คือ รถที่แพงกว่ามันต้องดีกว่าสิ) นั้นคือความคิดของคนไร้สมองครับ ซึ่งก็มีอยู่มากๆด้วย

สรุป ต้องไม่มีใครอยู่เหนือ กฎหมายครับ ที่ว่า สคบเก่งกะคนจน ผมว่าไม่จริงนะ แต่ กฎหมายมันมี ขบวนการของมันอยู่ แต่ถ้าอาจจะ นานมากอันนั้นคนละเรื่องกัน

รถยนต์ ต้อง บำรุงรักษา ต้อง ใช้เงินดูแล

ปัญหาที่คุณเล่ามาทั้งหมดจะหายไปได้เลย ตรงที่ว่า คนที่ซื้อรถต้องมีความเข้าใจ เรื่องรถเยอะ เรื่องเครื่องยนต์กลไกล ซึ่ง คนไทยคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องรู้อ่ะ คนไทย ซ่อมรถเองอยู่บ้านก็ไม่ค่อยเป็น DIY ก็น้อยมาก พึ่งแต่ ช่างโดนหลอกก็เยอะ พอโดนหลอกก็เอามาด่า ตัวลูกค้าเองและครับที่โง่ เพราะว่า ทุกอย่าง ที่ซ่อมในคู่มือมันมีเขียนหมด แล้ว ต้องทำอะไรบ้าง โดนหลอกทำอะไรก็เยอะ

มอเตอร์โชว์ MOTOR SHOW เขาShow ครับ ไม่ sale ไม่งั้นต้องเป็น motor sale car

motor show เขาของว่ารถเข้าดียังไง ทนแค่ไหน แต่บ้านเรา ดาวน์เท่าไหร่ ได้รถเมื่อไหร่  ok จบ(ไม่ดร่ามานะครับ)

ใช้ชีวิต คุณภาพต่ำของคุณต่อไป (ประชด)
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:31:31 »
ส่วนตัวผม ผมก็เห็นด้วยนะครับ

ปัจจุบัน ผมใช้รถญี่ปุ่นเป็นหลัก ใช้มาหลายปีมากแล้ว
ตั้งแต่ผมมีลูก ผมก็เก็บตังค์ในส่วนที่ต้องใช้รถยุโรปไปเป็นค่าเทอมของเด็กๆ

แต่พ่อกับแม่ก็ยังใช้รถเบ๊นซ์กันอยู่

ผมเชื่อในสิ่งที่คุณพูดมาทุกประการ แต่รถของพ่อและแม่ผมอาจจะเป็นน้อยกว่าของคุณ

แต่ยอมรับว่าจุกจิกมากขึ้น และความทนทานน้อยลงมาก

เบ๊นซ์ที่ผมใช้คันสุดท้ายคือ c240 w202 ภายในยังอยู่ในสภาพที่ดีมาก ปัจจุบัน ไปอยู่ที่ญาติผมแล้ว ก็ยังเป๊ะเว่อร์อยู่

แต่เบ๊นซ์คันใหม่ๆของพ่อ ภายในทั้งแตก ทั้งแห้ง กรอบ
สารพัดจะเป็นเลย รวมถึงอาการลอกของปุ่มต่างๆ

ไม่ถึงแสนโล เปลี่ยนถังพักน้ำฝน แก้ไขแอร์ เปลี่ยนเซ็นเซ่อร์เบรค

ซึ่งผิดกับรถญี่ปุ่นของผมทั้งสองคัน ที่เกินแสนโลแล้วยังไม่เกเรอะไรเลย


ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 579
Re: ความเข้าใจผิดของคนทั่วไป เกี่ยวกับรถ Benz
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 10:50:50 »
ผมว่า  ถ้าเป็นคนที่ใช้ หรือ แฟน BENZ , BMW มานานแล้ว เขาจะรู้ว่า

ทุกวันนี้ ไม่ได้ซื้อเพราะว่า รถมันดีมีคุณภาพ หรือ รถมันทน เหมือนในอดีต
ซื้อเพราะ มันเป็น Benz , Bmw  ไม่มีรถแบรนด์ใดให้ความรู้สึกแบบนี้

มันทรงคุณค่าทางความรู้สึก และ อารมณ์ มันมีประวัติศาสตร์ อย่างที่ Lexus Volvo ยังทำไม่ได้
รถ Benz ทุกวันนี้ เหมาะที่จะซื้อ แล้วเปลียนใน 5 ปี แบบไม่เสียดายเงิน ก็จะไม่ค่อยหงุดหงิดเรื่องซ่อมบำรุง

แต่คนที่ไม่เคยใช้ แล้วได้มาเป็นเจ้าของ มักจะคิดว่า รถมันแพง มันต้องคุณภาพดีมาก

ซึ่งคิดผิดมาก  แล้วมันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่รุ่น W140 จนถึงปัจจุบันแล้ว
เสียจุกจิกไปเรื่อย  ตั้งแต่ สวิทชิ่ง W140 300,500SEL ของใหม่ตัวละ 80,000 กว่าบาท แอร์แมส สวิทแอร์ออโต้ เป็นต้น

W211, W203, W220  รุ่น Generation นี้เสียมากที่สุด เก่าแล้วข้างในโทรมมาก ราคารถถึงตกแบบ ไม่มีค่า

W212, W204, W207, W221 ทนขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ยังจุกจิกไปเรื่อยๆ 

รถเพื่อน W207 ใช้ 4 ปี เฟืองดันปรับองศาแคมชาร์ป Camshaft Actuator เสีย เปลี่ยนไป 2 ข้าง 80000 กว่าบาท