รถกระบะเกียร์auto ใช้งานได้เหมือนเกียร์ธรรมดาไหม?

kokoro

ขอคำแนะนำหน่อยครับ
- ปัจจุบันใช้ isuzu 4ประตู เครื่องดีเซล 3,000cc ขับเคลื่อน 2ล้อหลัง รถเก่าราวๆ 10ปี เป็นเกียร์ธรรมดา(รถวิ่งไป 9หมื่นกิโล)
ใช้งานทั่วไป, นั่ง2-4คนบ่อยๆ, ส่วนใหญ่วิ่งระยะสั้นๆ (ปีละ1ครั้งวิ่งระยอง-กรุงเทพฯ)
ที่สำคัญคือช่วงหน้าฝน ปีละ 1-2วัน จะต้องเข้าสวน และอาจเจอดินนิ่มๆ บ้าง(ไม่ถึงกับติด) รถคันนี้ก็ทำงานได้ดีแต่ด้วยอายุรถมาก+กับหัวเข่าซ้ายไม่ค่อยดีเหมือนก่อนแล้ว

จึงอยากหารถกระบะเป็นเกียร์ auto มาใช้ทดแทน (ถ้าเกียร์ auto สามารถทำงานได้ดีเช่นคันเก่าก็น่าเปลี่ยน)

ที่กังวลใจ 2เรื่อง และจะขอคำแนะคำคือ
1. ถ้าเปลี่ยนเป็นเกียร์ auto เครื่อง 1.9 bluepower ของ isuzu จะใช้งานได้ตามเดิมไหม? มีแรงกระชากจากหลุมโคลน หรือ เข้าทางลำบากได้เหมือนเกียร์ธรรมดาตัวเดิมที่เคยใช้ไหมครับ?
หรือควรใช้เกียร์ธรรมดาต่อไป?
2. ค่าดูแลรักษาจะเพิ่มขึ้นเยอะไหมครับ?

หรือมีตัวอื่นแนะนำใช้งานทดแทนกันครับ?

ขอบคุณครับ



mamaman

ใช้ได้ เหมือนเดิมทุกอย่างครับ
สบายกว่าเดิม เยอะ
แรงบิดอาจมาช้ากว่านิดเดียว แต่ไหต่อเนื่อง และ ได้แรงบิดสูงพอๆกัน
หากวิ่ง สิป ปี ไม่ถึง 100,000 โล

เปลี่ยนเป็นตัว 1.9 AT ได้เลยครับ

ค่าดูแล ก็จะมี ค่าน้ำมัน เกียร์เพาเวอร์เพิ่มเข้ามาตามรถยะ ไม่กี่บาทครับ
ผมมองว่าตัว 1.9 ปัจจุบัน กำลังมันได้ มากกว่า 3.0 ตัวของคุณใช้อยู่นะ

ที่บ้านมี 3.0 4X2 AT รถปี 2013 อยู่คัน แรงมากๆ ครับ



YenChar

3.0 คันเก่า วิ่งสู้ 1.9 ออโต้ ไม่ได้แน่นอนครับ ดังนั้น ใช้งานแทนกันได้่สบายๆ

ค่าบำรุงรักษา เกียรออโต้สูงกว่าตอนเปลี่ยนน้ำมันเกียรครับ แต่ก็ไม่สูงมาก

กระบะเกียรออโต้จะเสียเปรียบเรื่องหลักๆคือตอนออกตัวเวลาบรรทุกหนักๆ (เป็นตันขึ้นไป)

แต่ถ้าไม่ได้บรรทุกหนัก มาขับเกียรออโต้นี่ สบาย  8)



thiti

รถกระบะเกียร์auto ใช้งานได้เหมือนเกียร์ธรรมดาไหม?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2016, 12:21:38 »
ขอตอบครับ
1. จากตัวเลขกำลังเครื่อง 1.9 ถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้บรรทุกหนักมาก ไม่ใช่ปัญหา เพียงพอครับ
2. กรณีเข้าสวน เนื่องจากเกียร์ Auto มีชิ้นส่วนประกอบภายในค่อนข้างมากและละเอียดอ่อน ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีความทนทานขึ้นจากเดิมมาก แต่การขับที่รักษาอายุการใช้งานของเกียร์ Auto ควรเปลี่ยนพฤติกรรมการขับจากแบบเดิม ที่บางจังหวะต้องกระชากเกียร์ หรือต้องโยกเดินหน้า-ถอยหลัง โดยทันทีให้สามารถนำรถพ้นจากหล่มหลุม เพื่อให้รถผ่านอุปสรรคไปได้ เปลี่ยนเป็นขับแบบปกติธรรมดา ถ้ารถยังไม่สามารถไปไม่ได้ล้อหมุนฟรี ก็ศึกษาเรื่อง Auto Dift Lock เข้าไปเสริมเพิ่มเติมที่เฟืองท้ายเป็นทางเลือกครับ ลองหาใน Youtube นะครับ จะเข้าใจลักษณะการทำงาน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 09, 2016, 12:23:54 โดย thiti »



kokoro

ปัจจุบันที่ใช้รถเกียร์ธรรมดาเจออุปสรรค จะใช้แรงเหวี่ยง กับการกระชากเกียร์ก็พอช่วยให้พ้นได้
แต่สำหรับเกียร์auto (ผมเข้าใจว่า)ต้องเป็นแรงบิดจากเครื่องยนต์อย่างเดียวใช่ไหมครับ?
(รถautoไม่มี mode ที่ช่วยให้พ้นอุปสรรคเล็กๆหรือครับ?)
ขอหาข้อมูล Auto Dift Lock ก่อน เผื่อเป็นทางเลือกครับ

ขอบคุณมากครับ



tnp_super

แค่ใช้งานธรรมดาไม่มีปัญหาครับ



kris-lack

ใช้นาวาร่าเกียร์ธรรมดามาก่อนจะมาเป็นรีโว่ออโต้ ตอนแรกกะกลัวจะกระตุก กลัวโน่นนี่นั่น แต่ใช้มาแล้วอยากบอกว่าขับสบายมากๆ ขึ้นเขาลงห้วย ไม่ต้องกลัวดับ จอดกลางเนินสบายๆ ลงเขาก็ไม่ได้ยากไรเลย



ps000000

ชิลลลลลลลลลลลลลลล

ภาษีรายปีถูกลงบานนนนนนนนน



kokoro

ขอบคุณครับทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
ใช้งานธรรมดาๆ เพียงแต่ไม่เคยใช้เกียร์ออโต้แบบจริงจัง (เคยแต่ใช้ขับถนนหลัก)
และคุ้นกับเกียร์ธรรมดามานาน
ขอบคุณครับ



peterW

เกียร์ออโต้  กินน้ำมัน มากกว่า เกียร์ธรรมดา อย่างรู้สึกได้
(โดยเฉพาะวิ่งในเมือง)




Matlab

หมายถึงพี่จะใช้ AUTO แทน เกียร์ ธรรมดา ใช่ไหมครับ  เนื่องจากพี่มีปัญหาเรื่องอายุมากขึ้นเลยจะใช้ auto ผมมองว่าดีครับ แต่ไม่เหมือนเกียร์ manual แน่นอน เอาง่ายๆเลยนะครับ พอรถติดหล่มนิดๆ manual หรือธรรมดา สับเกียร์ เรียกรอบ แล้วค่อยๆกดกระชากขึ้นมา แต่ ออโต้ ไม่ได้ครับ ต้องลดเกียร์เท่าที่รถมีให้มากดให้ไต่ขึ้นมา เวลาจะโยกให้ไหลถอยหลังใช้โมเมนตั้มแล้วสับเกียร์ส่งก็ไม่ได้  เอาตรงๆนะครับ ไม่เหมือนเลยครับ ต้องปรับตัวตาม



SETTHASART

ตอนนี้ผมใช้กระบะ mt แต่ในอนาคตคันต่อไปคงใช้ at เพราะอายุเยอะสับเกียร์คงไม่ไหวแล้วถึงจะชอบ mt มากขนาดไหน
1. at โยกหน้า-หลังเวลาติด ไม่ไวเท่า mt แน่นอนครับ
2. at ทำ walking spd ไม่ได้



Darkart

1. ใช้งานได้ตามเดิม เข้าทางลำบากได้สบายๆ แรงเพียงพอ

2. ค่าดูแลรักษาจะเพิ่มขึ้นเยอะไหมครับ?
ดูแลน้ำมันเกียร์เป็นพิเศษหน่อย เปลี่ยนถ่ายไวหน่อย น้ำมันเกียร์คู่กับระบบหล่อเย็นทุกๆ 40,000 กิโล

ไปลองตัว 1.9 กับ 3.0 แล้วจับความรู้ตัวเอง ว่าชอบแบบไหนครับ
ผู้ไม่มีแผลเป็น คือ ผู้ไม่มีประสบการณ์