ใช้ Camry Extremo 2016 รุ่นปรับอุปกรณ์มาได้สัปดาห์เดียวครับ ยังไม่เจอปัญหาจากการประกอบครับ คันเก่าใช้ Tiida 2008, Vios 2010 และ City 2012 (City ยังใช้อยู่ครับ)
พวงมาลัยในความเร็วต่ำหมุนง่ายครับ ไม่หนัก ความเร็วสูงก็น้ำหนักกำลังดีครับไม่เบาไป และเนื่องด้วยวงเลี้ยวกว้างกว่า C Seg นิดเดียวทำให้การกลับรถในเมืองไม่ลำบากเท่าไร
ช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ดี เก็บเสียงดีมาก ตัวรถขับความเร็วปกตินิ่งและผ่อนคลายดีมากครับ(ผมยังไม่เคยเหยียบเกิน 120) แต่บางครั้งตัวรถจะมีสั่นเบาๆซ้ายขวาทีนึงแล้วก็หยุด งงเหมือนกัน
เครื่องยนต์เงียบครับ เปลี่ยนเกียร์สมูทมาก เหมาะสุดๆสำหรับความสบายและผ่อนคลาย แต่ตอนสตาร์ทใหม่ๆดังใช่เล่น ไม่นานพอเครื่องร้อนได้ที่ก็เงียบ อัตราเร่งผมว่าดีในระดับที่พอเพียงแล้วในการใช้งานปกติ
ห้องโดยสารกว้างมาก นั่งสบายมากครับ ผมนั่งข้างคนขับบ่อยๆก็เหยียดขาได้นั่งสบายไม่โดนเรื่องดันขา ปรับเบาะขึ้นลงได้ปรับให้โอบกระชับต้นขานี่ผมชอบมาก และยังดันให้สูงขึ้นทำให้เบาะไม่จม ทัศนะวิสัยดีไม่อึดอัด ที่รองหัวนุ่มสบายครับ สัมผัสของหนังที่ใช้ก็ดีมากตัวเบาะก็นุ่มแน่นดีครับ แต่ถ้าไปนั่งเบาะหลังบอกได้เลยว่านั่งสบายสุดๆ
ภายในห้องโดยสารไม่มีเสียงก๊อกๆแก๊กๆจากพวกสายไฟหรืออะไรแม้แต่น้อย ตัวจอทัชสกรีนใช้งานได้โอเคครับไม่หน่วงเท่าไร แต่นาวิเกเตอร์กว่าจะเซตที่หมายได้นานอยู่ ผมว่าไปใช้บนมือถือดีกว่าเยอะ เครื่องเสียงปรับกันนานกว่าจะเข้าที่ แต่ก็ได้เสียงที่ออกมาแล้วชอบครับ ปัญหาคือนั่งหน้าฟังโอเค นั่งหลังเสียงยังขาดๆไป แต่ก็นะดีกว่าทุกๆคันที่เคยใช้มา
ด้านข้างสามารถปิดระบบ Blind spot monitor ได้ สำหรับคนที่คิดว่าไอ้ระบบนี้มันรบกวน รวมทั้งสามารถปิดเสียงเตือนจากเซนเซอร์รอบคันได้ครับ ปกติผมก็ปิดเสียงเตือน และจะเปิดตอนเข้าจอดและออกจากที่จอดครับ ส่วนปุ่ม VSC TRC เปิดไว้ตลอดครับ
มาถึงสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าข้อเสียที่ต้องแลกกับข้อดีมา คือขนาดครับ ทั้งยาวทั้งกว้าง เข้าซอยเล็กๆลำบากพอสมควร รวมทั้งเวลาเข้าจอดก็ต้องกะระยะกันใหม่ แต่ดีที่มีเซนเซอร์รอบคัน กล้องถอยหลัง รวมทั้งกระจกข้างที่ปรับลงอัตโนมัติมาช่วยทำให้ง่ายกว่าที่คิดเยอะ และอีกอย่างคือตำแหน่งการนั่งที่เตี้ยลงจาก Tiida ทำให้ทัศนะวิสัยดูแปลกๆในช่วงแรกๆซึ่งต้องปรับตัวกันหน่อย
รุ่นนี้ปลายตลาดแล้วครับ ทำไมถึงซื้อรถปลายตลาด? ผมคิดอย่างนี้ครับ เนื่องจากเป็นรุ่นหลัง MC การประกอบน่าจะเข้าที่สุดๆแล้ว ปัญหาที่เคยเกิดในรุ่นก่อน MC ทั้งหลายน่าจะได้รับการแก้ไขไปเยอะมากแล้ว และมีการใส่อุปกรณ์ความปลอดภัยมาให้ครบ รวมถึงมีออฟชั่นที่เคยอยากได้แต่ไม่ใส่มาให้ก่อนหน้านี้เช่นเมมเบาะ และยังมีออฟชั่นที่ทำให้ดูหรูเช่น welcome lamp ตอนเปิดประตูอีกด้วย อีกทั้งหน้าตาดูดีขึ้นกว่าตัวก่อน MC รวมถึงการที่โตโยต้าเปลี่ยนชุดแต่งใหม่เอาไอ้สามเหลี่ยมอุบาทว์ด้านหน้าออกไป ทำให้ทุกๆอย่างมันลงตัวพอดีสำหรับผมในด้านความต้องการในการใช้งานที่ต้องการใช้รถออฟชั่นครบๆ ใช้นานๆ ไม่มีปัญหาเล็กๆน้อยๆจุกจิกกวนใจ และตอบโจทย์การใช้งานแบบเป็นรถครอบครัวที่ไม่ต้องขนของเยอะๆเน้นนั่งสบายๆ 4 คนเป็นประจำครับ
2.0 ก็ตอบโจทย์ ทำไมต้อง Extremo? มี 3 ปัจจัยหลักๆครับ คือ
1. ภายในสีดำ คือทางบ้านผมไม่ค่อยดูแลรถสักเท่าไร การที่ใช้เบาะสีเบจนั้นมันเลอะง่ายและนานๆไปจะดูแย่ครับ (คันเก่า vios เป็น)
2. มีสมาชิกในบ้านที่ไม่ชอบการออกแบบของรุ่นปกติ แก่ไป พวงมาลัย 4 ก้านไม่ชอบ ล้อแม็กแก่มาก 16 นิ้วไม่ชอบ ถ้าซื้อมาก็จะเอาไปเปลี่ยนอีก ใส่ชุดแต่งอีก ผมว่ามันจะบานปลาย เอานี่แหละจบๆไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่ม
3. มันไม่มี bluetooth ถ้าอยากได้ต้องเปลี่ยน front อีก ไม่อยากรื้อรถ
แล้วทำไมไม่รอตัวใหม่ปลายปี 2018? ก็เพราะเจอรถที่มันใช่แล้วครับ ออฟชั่นลงตัวเปะๆ การขับขี่การโดยสารก็เปะๆ(เคยไปทดลองขับเมื่อตอนเปิดตัวรุ่น MC ปี 2015 โดยการลองขับนี่คือสองวันครับ ขับเต็มๆเลย 5 ชั่วโมงกว่าๆ .... ใช่ครับ ผมดูรุ่นนี้มาเกือบสองปี แต่เวลาและโอกาสไม่เป็นใจ) การขับขี่การโดยสารตัวใหม่จะเปลี่ยนไปยังไงก็ไม่รู้ ออฟชั่นจะให้มาแบบไหนก็ไม่รู้ ส่วนใหญ่รถเปิดตัวใหม่ๆออฟชั่นตัวล่างๆมันสุดแสนจะน้อยเป็นปกติ ดูอย่าง Revo, Civic หรือแม้แต่ Camry ตอนเปิดตัวเมื่อปี 2012 นี่ เห็นแล้วผมก็ไม่อยากลุ้นครับ กลัวว่าออฟชั่นจะไปกองที่ไฮบริดแบบอีหรอบเดิมอีก (ในการใช้งานของผมยังไม่เห็นประโยชน์ที่จะใช้ไฮบริดครับ แรงดึงเร่งแซงเท่านี้ก็พอ เรื่องประหยัดน้ำมันผมก็ไม่ได้วิ่งเยอะขนาดนั้น ก็เลยไม่อยากจะจ่ายแพงกว่าในสิ่งที่มันไม่ใช่)
ก็ประมาณนี้ครับที่ผมตัดสินใจออกรถในมอเตอร์เอ็กโปที่ผ่านมา