ตัวอย่าง
ยี่ห้อ A
ปี 59 ขาย 10,000 คัน -> ปี 60 ขาย 11,000 คน = +10% (เพิ่มมา 1,100 คัน)
ยี่ห้อ B
ปี 59 ขาย 500 คัน -> ปี 60 ขาย 550 คน = 10% (เพิ่มมา 50 คัน)
อัตราการเติบโต ใน chart เขาคิดแบบนี้ป่าว??
ความเหมือนที่แตกต่าง
ปล.อันดับไม่ต่างกับที่คาด
ใช่ครับเขาคิดแบบนี้แหละครับ
บริษัทรถ ส่วนใหญ่เขาไม่สนยอดการเติบโตหรอกครับ
ที่เขาสนใจจริงๆคือ ส่วนแบ่งตลาด เขาต้องการยอดตรงนี้โตขึ้น ต่อให้ยอดขายติดลบก็ไม่แคร์ครับ
สลับกันแล้วครับ ธุรกิจเกือบทั้งหมดในโลก เขาต้องการยอดเติบโตครับ (ปกติ เขามีเป้ามาตรฐาน 10-15% ต่อปีด้วยซ้ำ)
Market Share ไว้เป็นอีก view นึง และเป็น Benchmark เท่านั้น ว่าเราโตน้อย หรือ มากกว่าตลาด
ยิ่งถ้าบริษัทนั้น อยู่ในตลาดหุ้น ไม่มีใครสน Market Share หรอกครับ เขามีแต่พยายามทำให้กำไรโตต่อเนื่องเท่านั้น จะลดคน ลด Cost จนเสีย Market Share ก็ได้ ถ้ากำไรเพิ่มขึ้น
ในเวลาที่เศรษฐกิจมันเติบโต ผลของมันก็จะทำให้คุณเห็นแบบนั้นนั่นแหละครับ
ในทางกลับกันเช่นตอนนี้ ที่โตโยต้าสนใจ คือส่วนแบ่งตลาด ถ้าเขาเป็นเจ้าตลาดอยู่มันก็โอเค ยอดขายติดลบไปบ้างก็ธรรมดา
ถ้าคุณไม่มี Market Share สนใจแต่ GP สักพักสินค้าของคุณจะหายไปจากตลาดในที่สุด พอเข้าใจไหมครับ
ธุรกิจมันดูกำไรขาดทุนเป็นหลัก ส่วนที่จะทำให้มันมีกำไรอยู่ได้ยาวนานคือการครองตลาด
ไปดู Blackberry สิครับ เขาทำกำไรต่อเครื่องได้สวยขนาดไหน สุดท้ายตายเพราะครองตลาดไม่ได้ เหมือนกับ Nokia
ทำไม Windows ต้องแจกฟรีในสถานศึกษาในประเทศที่พัฒนาแล้ว เขากำไรเหรอครับ
เขาสร้างความคุ้นชิน เพื่อที่จะครองและคุมกำเนิด Market Share ของรายอื่นๆไม่ให้ได้เกิดกันเลย
Windows มีอะไรดีกว่า Mc OS ผมบอกได้เลย ข้อเดียวและล้มยากมาก คือมันมี Market Share สูงที่สุดไงครับ
ความคิดคับแคบไปครับ. Intention ของการแจกฟรีในสถานศึกษา ไม่ใช่สิ่งที่คุณอธิบายมาแน่นอนครับ
มันคือความเห็นของคุณที่"เดา" จากพื้นฐานของคุณ
อีกทั้งwindows มีดีกว่าOS X ข้อเดียวยิ่งbias มาเต็ม
ส่วนที่บอกว่าARPU ของ Bb ยิ่งmislead ไปไกลมากมาย
แล้วจุดประสงค์หลักของการแจกฟรีของ Microsoft คืออะไรครับ
จริงๆจำขี้ปาก VP PepsiCo เขามาพูด เขาเป็นรุ่นพี่มาให้ความรู้รุ่นน้องในมหาลัย
เขาเป็นคนสอนให้พวกผมเข้าใจว่า ยอดขายไม่ได้สำคัญเท่ากับ Market Share ซึ่งผมเห็นว่ามันจริง
ข้อดีข้อเดียว คุณอ่านแต่คุณคงไม่เข้าใจ
ข้อดีข้อเดียวของ Windows คืออะไร ลองเดินไปถามคนหลายๆคนดูสิครับ ว่าแตกต่างจากที่ผมว่าไหม?
มันก็เหมือนข้อดีข้อเดียวของ Toyota ที่เขาแซวกันนั่นแหละครับ
ARPU ของ BB?? ผมว่าคุณหลงประเด็นไปนะครับ
BB เขาทำกำไร 2 ด้าน 1. กำไรจากการขาย Handset 2. กำไรจากการให้บริการ
ที่ผมพิมพ์ไปคือดูที่ กำไรจากการขาย เพราะในหัวข้อนี้เราพูดถึง ยอดขาย VS market Share
ไม่งั้นต้องเปลี่ยนชื่อกระทู้เป็น "ตะลึงยอดบริการหลังการขาย xxx ตกวูบ ส่วน sss มาแรง แทบอุ้มเข้าไป service"
ถ้าว่างก็ช่วยอธิบายเพิ่มให้ด้วยนะครับ ว่า "อินเท็นชั่ล" ที่แท้จริงของ Microsoft คืออะไร ผมอยากทราบเหมือนกันครับ