ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามคนทำงานในบริษัทรถยนต์ หากผมจบไม่ตรงสายแต่อยากทำควรเริ่มจากที่ไหนครับ  (อ่าน 6176 ครั้ง)

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
สวัสดีครับ

ิก่อนอื่นต้องขอท้าวความก่อนว่าผมจบกฎหมายจากมหาลัยหนึ่งก็ดังพอสมควรด้านกฎหมาย ทำงานมาสองปีกว่าแล้วครับแต่คิดว่ามันคงไม่ใช่ที่อยากทำไปตลอดชีวิต (ปัญหาเด็กเจนใหม่) โดยปกติเป็นคนสนใจหลายเรื่องมากทั้งการตลาด เครื่องยนต์เบื้องต้น เศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ ชอบรถมาตั้งแต่เด็กเนื่องจากติดตามภาพยนตร์อเมริกาชอบ Mustang มากเป็นรถในฝัน ตอนเด็กก็สะสมหนังสือรถต่าง ๆ ได้ฟังสัมภาษณ์ Alan Mulalay อดีต CEO Ford ที่สามารถทำให้ Ford รอดจากล้มละลายได้ บอกกับตัวเองว่านี้แหละสิ่งที่อยากทำหากใครสนใจลองเข้าฟังได้


ผมเคยยื่นสมัครไปบริษัทนึงเค้าขอประสบการณ์ ๕ ปี และจบการตลาด บริหารธุรกิจ หรือเศรษฐศาสตร์ คือประสบการณ์ไม่ถึงเลยแสดงความอยากทำ เขียนแผนการตลาดแต่ละรุ่นให้เค้าดูแลละแนบบทความเกี่ยวกับอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยที่ผมเขียนด้วย ปรากฏเงียบคาดว่าประสบการณ์คงไม่เข้าตาเลยอยากถามท่านที่ทำงานในบริษัทรถยนต์หรือว่าเคยทำงานก็ได้ครับว่าปกติแล้วผมควรจะเริ่มที่ตรงไหนหรือไปเรียนต่อบริหารธุรกิจก่อน  ตอนนี้คิดไว้ว่าหากจะเอาประสบการณ์คงไปทำงาน Sale สัก ๑-๒ ปีแล้วยื่นเข้าไปใหม่อีกรอบดูคิดว่าคงเป็นตำแหน่งที่น่าจะเข้าง่ายที่สุดถึงแม้ว่าจะทำงานกับ Dealer แต่น่าจะได้ประชุมกับคนจากบริษัทใหญ่

พอได้อ่านความเห็นแล้วก็เข้าใจว่าผมอยากทำงานบริหารในบริษัทรถยนต์คิดว่าสักพักคงต้องไปต่อ MBA

ขอบคุณครับ

ปล. หากเห็นว่ากระทู้ไม่เกี่ยวลบได้เลยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2017, 16:36:35 โดย blitzpao »

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
เครือรถยนต์ต้องมีนิติกรหรืออะไรทำนองนั้นนะครับ

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
เครือรถยนต์ต้องมีนิติกรหรืออะไรทำนองนั้นนะครับ

ขอบคุณครับ ใช่ครับแต่ Career Path จะเป็นแนวแบบคนที่เคยทำ Law Firm มาก่อนแล้วก็อยากงานสบายขึ้นหน่อย บางที่ก็ OutSource ไปเลย

ที่อยากทำก็เป็นแนวการตลาดหรือแนวบริหารไปเลยน่ะครับ น่าจะต้องไปเริ่มที่งานเซลก่อนเพราะเห็น job recruitment หลายๆ ตำแหน่งก็ขอประสบการณ์ Sale  และงานกับ Dealer

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
เพื่อนรุ่นเดียวกันกับผมจบเศรษฐศาสตร์ ทำงานtoyota นะครับ

เขาก็ต้องมีการเงิน การวางแผนทีมงานพวกนี้อยู่

บริษัทรถญี่ปุ่นนิยมรับคนหัวอ่อน ไม่ไปไหน ทำงานอยู่และแก่ หรือ ตายไปกับบริษัท คนหัวก้าวหน้าออกนอกกรอบ เขาไม่ค่อยรับ

สมัครงานอย่าเสนอตัวออกนอกหน้าว่าเก่ง อ่อนน้อมถ่อมตน ลดcreativity ใน resume ใช้แบบฟอร์มง่ายๆครับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,633
ผมว่าคุณไปอ่านพันทิปดีกว่าหาแนวทางการทำงานสายกฎหมาย     คือสายคุณไปเรียนทางกฎหมายแ้ล้วไปหางานแถวสีลมอัพเงินเดือนเยอะ ๆ  หาเงินได้เยอะหน่อยหรือไปสอบตั๋วทนาย  หรือเปิดสำนักงานกฎหมายเอง     เอาเงินไปซื้อ Mustang ที่ชอบดีกว่าครับ           อย่าเสียเวลาไปเป็นเซลที่ดีลเลอร์ 2 ปีอาจได้แค่ปสก แต่ไม่ไ่ด้อย่างอื่นเลย

ผมทำงานสายยานยนต์     คนจบกฎหมายมีน้อย   โดยมากที่เห็นคนทำงานนะในกลุ่มนี้ก็จะจบ ช่างเทคนิค ม.6 สายปฏิบัติการ  สิ่งแวดล้อม จป   วิศวกรรม ถ้ากลุ่มสายบริหารก็มักจบ บริหาร บัญชี ล่ามญี่ปุ่น   บุคคลก็พวกรัฐศาตร์ นิติศาสตร์
และโดยมาก  โดนคัดเลือกจากสถาบันที่จบด้วย ส่วนมากรับเฉพาะมหาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐ     ตอนนี้หลายที่คัดเกรดเฉลี่ยและคัดจาก โทอิคอย่างน้อย 450-600 up              ที่ดีหน่อยในการทำงานสายนี้คือโบนัส โอที ได้เยอะครับ
ส่วนเรื่องรถนั้น แรก ๆ ก็รู้สึกอาจตื่นเต้นอยากรู้ สอดรู้สอดเห็น แต่พอทำงานไปความกดดัน การงานที่บีบคั้นอย่างหนักหน่วง จากชอบก็อาจจะรู้สึกเฉย ๆ  กันไป            ผมเก็บเงินจากการซื้อรถคันแรก Fortuner ก็มาจากการทำงานสายนี้ 

แต่ปัจจุบัน  ผมสามารถฝันมีรถสปอร์ตโรดเสตอร์ MX5  ได้ ก็มาจากการทำงานธุรกิจส่วนตัว ของผมและภรรยา      คือผมก็เป็นคนชอบรถนะถึงได้เรียนมาทางสายช่างและ + ความหลงใหลรถอย่างมาก     แต่พอมาทำงานจริงเงินเดือนเป็นพนักงานมันซื้อรถในฝันยากครับ    เพราะว่าถ้าคุณไม่ไ่ด้ขึ้นตำแหน่งสูง  ๆ  ในองค์กรเหล่านี้จนมีเงินเดือน 1-2 แสนขึ้นไป โบนัสปีล่ะ 5-6 เดือนขึ้นไปยากจะซื้อรถแพง ๆ ที่ชอบได้ครับ             เอาเวลาไปทำธุรกิจหาเงินหาสิ่งที่คุณฝันดีกว่าเมื่อมีเงินเยอะ ๆ  ตอนนั้นก็อาจจะซื้อรถในฝันตามที่คุณต้องการได้  อาจสะสมรถได้ด้วย  ไม่จำเป็นต้องมาทำงานในโรงงานประกอบรถยนต์เสมอไป     
ลองดูอย่างคุณ Jimmy   และคุณแพน  ไมไ่ด้จบสายช่าง ไมไ่ด้จบ สายวิศวะ  แต่มีโอกาสขับรถยนต์หรือรู้เรื่องราวโมเดลรถมากกว่าคนทำงานบริษัทรถยนต์อีก   รถแพง ๆ ทั้ง 2 ท่านก็จับมาทดลองขับกันหมดแล้วทั้งนั้น ลัมโบกินี่ ปอร์เช่         คนทำงานสายสื่อมวลชนมีโอกาสดีมากกว่าอีก             
    ภรรยาลูกน้องผมทำงานใกล้ชิดกับคนนึงที่เป็นเจ้าของรถแบรนด์นำำเข้า ซุปเปอร์คาร์  ที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าของ      เขาก็ไม่ไ่ด้จำเป็นต้องจบวิศวะหรือมาทำงานสายยานยนต์นะครับ  ขอเพียงมีเงิน        ชอบหลงใหลรถตระกูลเขาก็ขอเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ซุเปอร์คาร์เลย      พวกเขาชอบรถชอบความเร็วก็สร้างทีมแข่งของตัวเองเลย เอารถไปเทสต์ในแก่งกระจานเซอร์กิต     ความชอบความหลงใหลผมว่ามีกันทุกคนง่ายที่สุดคือการเป็นเจ้าของมันหาเงินมาซื้อนี่ละครับ มีความสุขกว่าไปทำงานสายยานยนต์อีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2017, 16:10:27 โดย Auto »

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
ปัญหาคือมันไม่ตรงสายที่เขาต้องการนี่แหละครับทีมันยาก หรือไม่ก็ลองสมัครบริษัทที่เขาทำนิตยสารรถยนต์ประมาณนั้น เผื่อได้ทำคอลัมภ์ ได้ทดสอบรถรุ่นใหม่ๆ
...แต่ถ้าเป็นผมนะผมจะเรียน เนติ สอบตั๋วทนาย แล้วไปสอบเป็นท่าน หรืออัยการ..(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ความชอบคนไม่เหมือนกัน

ออฟไลน์ Devil13

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,001
จบกฏหมาย อยากทำงานด้านรถยนต์
ถ้าอยากทำจริงๆต้องยอมเบนเข็มครับ เริ่มต้นใหม่เรียนรู้ใหม่
เท่าที่ผมทำมาเค้าไม่รับสาขานี้เอามาต่อยอด ที่ผ่านๆมาจะเป็นแผนกQA,QC ที่รับแทบจะทุกสาขาครับ

ผมเคยทำบริษัท Supplier ที่ทำส่งให้พวกบริษัทรถยนต์ไปกระกอบอีกที
แต่ไม่รู้ว่าHonda Toyota เองเค้าเปิดรับหรือเปล่านะครับ? 

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
ผมว่าคุณไปอ่านพันทิปดีกว่าหาแนวทางการทำงานสายกฎหมาย     คือสายคุณไปเรียนทางกฎหมายแ้ล้วไปหางานแถวสีลมอัพเงินเดือนเยอะ ๆ  หาเงินได้เยอะหน่อยหรือไปสอบตั๋วทนาย  หรือเปิดสำนักงานกฎหมายเอง     เอาเงินไปซื้อ Mustang ที่ชอบดีกว่าครับ           อย่าเสียเวลาไปเป็นเซลที่ดีลเลอร์ 2 ปีอาจได้แค่ปสก แต่ไม่ไ่ด้อย่างอื่นเลย

ผมทำงานสายยานยนต์     คนจบกฎหมายมีน้อย   โดยมากที่เห็นคนทำงานนะในกลุ่มนี้ก็จะจบ ช่างเทคนิค ม.6 สายปฏิบัติการ  สิ่งแวดล้อม จป   วิศวกรรม ถ้ากลุ่มสายบริหารก็มักจบ บริหาร บัญชี ล่ามญี่ปุ่น   บุคคลก็พวกรัฐศาตร์ นิติศาสตร์
และโดยมาก  โดนคัดเลือกจากสถาบันที่จบด้วย ส่วนมากรับเฉพาะมหาลัยที่มีชื่อเสียงของรัฐ     ตอนนี้หลายที่คัดเกรดเฉลี่ยและคัดจาก โทอิคอย่างน้อย 450-600 up

ขอบคุณครับ เส้นทางสายกฎหมายผมรู้พอสมควรละครับคือทำงานมา ๒ ปีแล้วก็เห็นจากรุ่นพี่ค่อนข้างเฉยๆ  ส่วนคุณสมบัติผมจบมหาลัยรัฐที่ดังเกรดก็โอเคแต่ไม่ได้เกียรตินิยม โทอิค ก็ 895 สื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องครับ ถ้าตามที่บอกผมคงอยู่ฝ่ายบริหารหรือฝ่ายบุคคลละครับ

จริงๆ ธุรกิจส่วนตัวก็คิดไว้ครับแต่ยังไม่ถึงเวลา  ขอบคุณนะครับเป็นแนวทางได้ดีเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 02, 2017, 16:44:40 โดย blitzpao »

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
ปัญหาคือมันไม่ตรงสายที่เขาต้องการนี่แหละครับทีมันยาก หรือไม่ก็ลองสมัครบริษัทที่เขาทำนิตยสารรถยนต์ประมาณนั้น เผื่อได้ทำคอลัมภ์ ได้ทดสอบรถรุ่นใหม่ๆ
...แต่ถ้าเป็นผมนะผมจะเรียน เนติ สอบตั๋วทนาย แล้วไปสอบเป็นท่าน หรืออัยการ..(อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะครับ ความชอบคนไม่เหมือนกัน

ขอบคุณครับเมื่อก่อนตอนเรียนกฎหมายใหม่ๆ ชอบครับแต่เวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยนพอได้มาทำงานจริงไม่ได้ชอบยิ่งไปอ่านแล้วสอบไปเรื่อยๆ ผมนึกภาพไม่ออกเลยถ้าไม่ได้ทำงาน  :-X

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
เพื่อนรุ่นเดียวกันกับผมจบเศรษฐศาสตร์ ทำงานtoyota นะครับ

เขาก็ต้องมีการเงิน การวางแผนทีมงานพวกนี้อยู่

บริษัทรถญี่ปุ่นนิยมรับคนหัวอ่อน ไม่ไปไหน ทำงานอยู่และแก่ หรือ ตายไปกับบริษัท คนหัวก้าวหน้าออกนอกกรอบ เขาไม่ค่อยรับ

สมัครงานอย่าเสนอตัวออกนอกหน้าว่าเก่ง อ่อนน้อมถ่อมตน ลดcreativity ใน resume ใช้แบบฟอร์มง่ายๆครับ


ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับจริงผมลงเรียนเศรษฐศาสตร์มหาลัยเปิดทิ้งไว้ด้วยอาจจะกลับไปเรียนให้จบ

เรื่องส่งสมัครงานนั้นผมสมัครบริษัทญี่ปุ่นที่ชูถึงความแตกต่างซะด้วยสิครับเลยจัดเต็มเลยฮ่าๆ แต่เค้าคงตัดที่ประสบการณ์ไม่ได้น่ะ

ออฟไลน์ mandize

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
ส่วนตัวผมเหมือน จขกท ครับ
ชอบรถมาตั้งแต่เด็ก

แต่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน เลยสอบได้คณะที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม ม.รัฐ มีชื่อเสียงแห่งนึง ตอนเรียนจบ รู้เลยว่าไม่อยากเป็นครู
สมัครงานสัมภาษณ์มาก็หลายที่ มุ่งมั่นสมัครงานบริษัทรถ(ไม่สมัครดีลเลอร์)
จนมาได้งานแรกเป็นบริษัทรถญี่ปุ่นแห่งนึง ให้โอกาศและสะสมประสบการณ์ ปัจจุบันทำงานครบ 10 ปี ขึ้นเป็นผู้จัดการเมื่อทำงานครบ7ปี ย้ายมาหลายค่าย และตอนนี้ เป็นผู้บริหารฝ่ายนึงของรถค่ายนึง

สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ในสายงาน สิ่งนึงที่สำคัญคือการแนะนำตัวในเรซูเม่ สิ่งที่สนใจ และคิดว่าเราจะนำสิ่งที่เราชอบมาใช้ในการทำยังไง
และอีกอย่างคือ การสมัครงานในตำแหน่งที่ไม่ซีเนียร์จนเกินไป นั่นหมายถึงบริษัทต้องการคนที่มีประสบการณ์ตรงที่สามารถสานต่องานได้เลย
อ่อ มีอีกอย่างที่ผมคิดว่าสำคัญคือการแสวงหาโอกาสครับ ยิ่งไวยิ่งได้เปรียบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 29, 2017, 23:41:42 โดย mandize »

ออฟไลน์ TrentXWB

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 831
  • เมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ
เข้ามาเก็บข้อมูลครับ

ผมเองก็ไม่ได้จบสายตรงเกี่ยวกับรถ แต่อยากทำงานในบริษัทรถมาก
จบสายภาษา (ไม่ใช่ญี่ปุ่น) เกียรติ 2 มหาลัยชานเมืองที่มีทั้งคลอง ถนน และรางรถไฟตัดผ่าน ทั้งยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิแค่อึดใจ พร้อมคะแนนโทอิค 930 ที่เพิ่งสอบแบบไม่เตรียมอะไรเลย คืนก่อนสอบยังนั่งเล่นเกมถึงตีสอง เพราะอยากวัดตัวเองตอนนั้นว่าความรู้คืนอาจารย์ไปหมดแล้วหรือยัง  ;D
ช่วงเปลี่ยนงานครั้งที่ 2 เลยพยายามลองย้ายสายดู ไปสมัครงานกับบริษัทรถเจ้านึง (ทั้งๆ ที่ตอนนั้ได้งานกับอีกที่นึงแล้วแต่เป็นสายเดิม) ตำแหน่งใช้ภาษา เขาก็ดูสนใจเรา คุยกันซะดิบดี เทสผ่านแบบไม่ยากเย็น สัมภาษณ์อังกฤษล้วนก็สบายๆ สุดท้ายเขาไม่เอา เพราะเขาว่าเราเรียกแพงไป + คุณไม่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง (อ้าว แต่ในรายละเอียดงาน บอกไม่มีประสบการณ์ก็ได้ ขอภาษาดีไว้เป็นหลัก  ;D และงานเดิมผมก็ดูเรื่องคู่มือผู้ใช้รถ+คู่มือซ่อมเป็นหลักอยู่ก่อนแล้ว)

สุดท้าย บ.รถ เจ้านี้ก็หาคนในตำแหน่งนี้อยู่เป็นปีกว่า ไม่รู้ว่าได้คนมั้ย
บางทีก็อยากจะบอก บ.รถ บางที่ว่า ท่านไม่สามารถหาคนเก่ง ด้วยงบแค่ 15000 ได้หรอกนะจ้ะ หรือถึงจะหาได้ เขาก็จะอยู่กับคุณไม่นานแหงๆ  ;D

ปัจจุบัน ทำงานที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับรถ แต่รับผิดชอบงานด้านรถของบ.เต็มๆ ทั้งคู่มือผู้ใช้ คู่มือซ่อม หลักสูตรบทเรียนสำหรับช่าง งานทุกอย่างของบ. ถ้ามาเกี่ยวกับรถวิ่งหาผมก่อนเลย ตอนนี้ทำงานไม่ทันแล้ว งานเยอะมาก จมอยู่กับรถมาปีนึงแล้ว อยากทำอย่างอื่นบ้าง  ;D

ออฟไลน์ vachirapoly

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 114
    • อีเมล์
คนไทยHRส่วนใหญ่ไม่สนใจครับ สายงานต้องตรงแค่นั้นก่อน แต่ญี่ปุ่นดูที่ความจริงครับ ผมไปสอบมาของรถค่ายหนึ่ง วิศวกรไฟฟ้า10คนเครื่องกล600คน เลขกลมๆนะครับ ผมยื่นDESIGNERนะ ผลสอบที่ออกมาคือได้ที่1 คำถามมันเกี่ยวกับรถ คนที่ชอบรถอย่างผมมักจะตอบได้ เพราะคำถามมาจากชีวิตจริงมากกว่าหนังสือ ตอนสัมภาษณ์..แนวคิดสร้างสรรค์ที่ทำอะไรใหม่ๆย่อมมีมากกว่า ผลสอบคือได้ที่1ตามคาด แต่โดน HR ไทยเล่นเส้นสายเพราะ DESIGN ENGINEER รับคนเดียว ผมก็เลยอดไป สู้ๆครับ อยู่ที่มุ่งมั้น ส่วนผมก็ยังอยู่สายออกแบบ แต่เปลี่ยนจากรถ เป็นตึกสูงแทน 555 แต่ส่วนหนึ่งคือด้านวิศวกรรมต้องมีความรู้พื้นฐานมาบ้าง แต่ถ้าคณะมันไม่สอดคล้องกันเลยนี่ก็ยากหน่อยครับ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็ออกมาทำอย่างอื่นที่เกี่ยวกับรถได้ครับ ยังเคยคิดออกมาเปิดคาร์แคร์เลย ร้านที่เปิดโดยคนรักรถ เจ๋งดีนะครับ เคยขายของออนไลน์ด้วยพวกอะไหล่สิ้นเปลือง ก็มีความสุขไปอีกแบบนะครับ สู้ๆ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
ที่จบมา กับที่อยากทำงาน มันต่างกันมากเลยนะครับ


ออฟไลน์ BenzParagon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 671
  • . . .
บางประเทศ บางที่ ดูที่ ความคิด ความอ่าน การวิเคราะห์ ความสร้างสรรค์ , ฝีมือ , ผลงาน

บางประเทศ บางที่ ดูที่ เส้น(เล็ก ใหญ่ ก๋วยจั๊บ หรือ มากกว่านี้) , พรรคพวก พวกพ้อง , ความอ่อนน้อมถ่อมตน , ไม่แข็งข้อ หัวอ่อน กล่อมง่าย

Hybrid Battery Of Mercedes-Benz Thailand https://goo.gl/3nn9sk

มาตรา 157 https://goo.gl/lIGkMt

lim n = 0 , n -> ...

0 = 1

?

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
ผมมองว่าทุกบริษัท เหมือนกันครับ. ไม่ว่าจะบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจอะไร
ก้อจะขายสินค้าหรือบริการ.  ประเด็นสำคัญอยุ่ที่ functionงานมากกว่านะครับ

การอยากทำการตลาด. ทุกบริษัทขนาดใหญ่ก้อจะมีตำแหน่งนี้
ไม่ว่าจะขายอะไรแต่guiding principle ก้อหลักการณเดียวัน

แนะนำให้เรียนต่อโทอย่างที่คิดไว้ดีแล้วครับ
เพราะสมัยนี้ขั้นพื้นฐานก้อต้อง ปโทครับ
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,954
    • อีเมล์
ผมเอาประสบการมาเล่านะ ....

ผมไม่ได้จบอะไรด้านรถยนต์ เลย ... แต่ได้ทำงานกับบริษัทรถยนต์มาหลายยี่ห้อและ .....

ผมจบวิศวกรรม เริ่มแรก ทำงานด้าน IT 2-3 ปี และมาทำโรงงานฯที่เค้าผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ...

ต่อมาน้ำท่วมใหญ่ โรงงานที่ผมทำน้ำท่วม ปิดกิจการไป ผมเลยลองมาสมัครบริษัทรถยนต์ ยี่ห้อนึง แต่สมัครกับดีลเลอร์นะ บอกเลยละกันว่า ยี่ห้อเชฟโลเลต ...
งานที่ทำตอนนั้นคือ เชฟกำลังบูม เปิดตัว Sonic เปิดตัว เทรลเบลเซอร์ สนุกมากกับงาน .... แต่ผมดันไปอยู่สายงานด้านการตลาดนะ ก็ทำอยู่ 2 ปี.....

สักพัก ยังไงไม่รู้ มีพี่คนนึง รู้จักกัน ชวนไป HONDA ก็ไปทำงานด้านโปรดักส์ และงานด้านการตลาด การขาย วิจัยตลาด และอบรมฝ่ายขาย ช่วงนั้น เปิดตัว Accord G9 งานต่อมา ก็ HR-V , Mobilio City , Jazz ที่ทำอยู่นะ แต่ ออกมาก่อนที่ FC จะเปิดตัว เพราะมีพี่ อีกยี่ห้อนึง ชวนหมุนไปอีก ..... ส่วนตอนนี้ที่ทำอยูู่ไม่บอกละกันว่า ยี่ห้อไร แต่ทำแบบเดียวกับที่ทำที่ HONDA   ....

จะบอกว่า อย่างแรกที่คุณจะเข้าสายนี้คือ คอนเน็กชั่นครับ .... มีคนพาคุณเข้าไป ชักชวนไป เพราะจากที่สัมผัสมา เค้าก็ดึงๆคนในวงการ เข้ามา และหมุนเวียนกันไปแบบนี้ล่ะครับ

ส่วนเจ้าของกระทู้ ที่บอกอยากทำ ... ผมแนะนำว่า ไปสมัครกับดีลเลอร์ก่อนครับ แล้วคุณจะรู้จักกับคนจากสำนักงานใหญ่เอง ไม่ว่าจะจากการฝึกอบรม การพูดคุยกัน ผ่านการดิวงานต่างๆ เพื่อนผมหลายคนที่ได้เข้าไปทำกับบริษัทแม่ ...ส่วนใหญ่เป็นเซลขายรถกันมาก่อนทั้งนั้นครับ แอเรียของ Honda Mazda  ก็เคยเป็นเซลยุคแรกๆกับดีลเลอร์ กันมาก่อนทั้งนั้น  ยี่ห้ออื่นก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่ มาจากดีลเลอร์ แล้วถึงได้ขยับเข้าไปกัน .....

งานมอเตอร์โชว์เดินมาเจอกัน ต่างยี่ห้อก็รู้จักกันหมดล่ะครับ ....
 

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
ผมเอาประสบการมาเล่านะ ....

ผมไม่ได้จบอะไรด้านรถยนต์ เลย ... แต่ได้ทำงานกับบริษัทรถยนต์มาหลายยี่ห้อและ .....

ผมจบวิศวกรรม เริ่มแรก ทำงานด้าน IT 2-3 ปี และมาทำโรงงานฯที่เค้าผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ...

ต่อมาน้ำท่วมใหญ่ โรงงานที่ผมทำน้ำท่วม ปิดกิจการไป ผมเลยลองมาสมัครบริษัทรถยนต์ ยี่ห้อนึง แต่สมัครกับดีลเลอร์นะ บอกเลยละกันว่า ยี่ห้อเชฟโลเลต ...
งานที่ทำตอนนั้นคือ เชฟกำลังบูม เปิดตัว Sonic เปิดตัว เทรลเบลเซอร์ สนุกมากกับงาน .... แต่ผมดันไปอยู่สายงานด้านการตลาดนะ ก็ทำอยู่ 2 ปี.....

สักพัก ยังไงไม่รู้ มีพี่คนนึง รู้จักกัน ชวนไป HONDA ก็ไปทำงานด้านโปรดักส์ และงานด้านการตลาด การขาย วิจัยตลาด และอบรมฝ่ายขาย ช่วงนั้น เปิดตัว Accord G9 งานต่อมา ก็ HR-V , Mobilio City , Jazz ที่ทำอยู่นะ แต่ ออกมาก่อนที่ FC จะเปิดตัว เพราะมีพี่ อีกยี่ห้อนึง ชวนหมุนไปอีก ..... ส่วนตอนนี้ที่ทำอยูู่ไม่บอกละกันว่า ยี่ห้อไร แต่ทำแบบเดียวกับที่ทำที่ HONDA   ....

จะบอกว่า อย่างแรกที่คุณจะเข้าสายนี้คือ คอนเน็กชั่นครับ .... มีคนพาคุณเข้าไป ชักชวนไป เพราะจากที่สัมผัสมา เค้าก็ดึงๆคนในวงการ เข้ามา และหมุนเวียนกันไปแบบนี้ล่ะครับ

ส่วนเจ้าของกระทู้ ที่บอกอยากทำ ... ผมแนะนำว่า ไปสมัครกับดีลเลอร์ก่อนครับ แล้วคุณจะรู้จักกับคนจากสำนักงานใหญ่เอง ไม่ว่าจะจากการฝึกอบรม การพูดคุยกัน ผ่านการดิวงานต่างๆ เพื่อนผมหลายคนที่ได้เข้าไปทำกับบริษัทแม่ ...ส่วนใหญ่เป็นเซลขายรถกันมาก่อนทั้งนั้นครับ แอเรียของ Honda Mazda  ก็เคยเป็นเซลยุคแรกๆกับดีลเลอร์ กันมาก่อนทั้งนั้น  ยี่ห้ออื่นก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่ มาจากดีลเลอร์ แล้วถึงได้ขยับเข้าไปกัน .....

งานมอเตอร์โชว์เดินมาเจอกัน ต่างยี่ห้อก็รู้จักกันหมดล่ะครับ ....

ขอบคุณมากครับเป็นประโยชน์มากๆเลยครับ คิดว่าคงไปสมัครดีลเลอร์ก่อนจะได้รู้งานในหลายๆ ระดับแล้วค่อยสมัครบริษัทใหญ่ในอนาคตจะได้ร่วมงานกันครับ

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
ผมมองว่าทุกบริษัท เหมือนกันครับ. ไม่ว่าจะบริษัทเกี่ยวกับธุรกิจอะไร
ก้อจะขายสินค้าหรือบริการ.  ประเด็นสำคัญอยุ่ที่ functionงานมากกว่านะครับ

การอยากทำการตลาด. ทุกบริษัทขนาดใหญ่ก้อจะมีตำแหน่งนี้
ไม่ว่าจะขายอะไรแต่guiding principle ก้อหลักการณเดียวัน

แนะนำให้เรียนต่อโทอย่างที่คิดไว้ดีแล้วครับ
เพราะสมัยนี้ขั้นพื้นฐานก้อต้อง ปโทครับ

ขอบคุณครับคิดว่าคงต่อแน่ในอนาคตแต่คงลองงานเซลก่อนถ้าไปเรียน MBA แล้วไม่มีประสบการณ์ธุรกิจเลยคิดว่าผมคงลำบาก

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
คนไทยHRส่วนใหญ่ไม่สนใจครับ สายงานต้องตรงแค่นั้นก่อน แต่ญี่ปุ่นดูที่ความจริงครับ ผมไปสอบมาของรถค่ายหนึ่ง วิศวกรไฟฟ้า10คนเครื่องกล600คน เลขกลมๆนะครับ ผมยื่นDESIGNERนะ ผลสอบที่ออกมาคือได้ที่1 คำถามมันเกี่ยวกับรถ คนที่ชอบรถอย่างผมมักจะตอบได้ เพราะคำถามมาจากชีวิตจริงมากกว่าหนังสือ ตอนสัมภาษณ์..แนวคิดสร้างสรรค์ที่ทำอะไรใหม่ๆย่อมมีมากกว่า ผลสอบคือได้ที่1ตามคาด แต่โดน HR ไทยเล่นเส้นสายเพราะ DESIGN ENGINEER รับคนเดียว ผมก็เลยอดไป สู้ๆครับ อยู่ที่มุ่งมั้น ส่วนผมก็ยังอยู่สายออกแบบ แต่เปลี่ยนจากรถ เป็นตึกสูงแทน 555 แต่ส่วนหนึ่งคือด้านวิศวกรรมต้องมีความรู้พื้นฐานมาบ้าง แต่ถ้าคณะมันไม่สอดคล้องกันเลยนี่ก็ยากหน่อยครับ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆก็ออกมาทำอย่างอื่นที่เกี่ยวกับรถได้ครับ ยังเคยคิดออกมาเปิดคาร์แคร์เลย ร้านที่เปิดโดยคนรักรถ เจ๋งดีนะครับ เคยขายของออนไลน์ด้วยพวกอะไหล่สิ้นเปลือง ก็มีความสุขไปอีกแบบนะครับ สู้ๆ

ขอบคุณครับคงไม่ได้ทำถึงด้านวิศวกรรมแน่นอนครับต้องเรียนใหม่เลยอย่างงั้นฮ่าๆ คงทำการตลาดน่ะครับเลยคิดว่าเซลน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ตรงที่สุดเห็นตลาด

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
เข้ามาเก็บข้อมูลครับ

ผมเองก็ไม่ได้จบสายตรงเกี่ยวกับรถ แต่อยากทำงานในบริษัทรถมาก
จบสายภาษา (ไม่ใช่ญี่ปุ่น) เกียรติ 2 มหาลัยชานเมืองที่มีทั้งคลอง ถนน และรางรถไฟตัดผ่าน ทั้งยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิแค่อึดใจ พร้อมคะแนนโทอิค 930 ที่เพิ่งสอบแบบไม่เตรียมอะไรเลย คืนก่อนสอบยังนั่งเล่นเกมถึงตีสอง เพราะอยากวัดตัวเองตอนนั้นว่าความรู้คืนอาจารย์ไปหมดแล้วหรือยัง  ;D
ช่วงเปลี่ยนงานครั้งที่ 2 เลยพยายามลองย้ายสายดู ไปสมัครงานกับบริษัทรถเจ้านึง (ทั้งๆ ที่ตอนนั้ได้งานกับอีกที่นึงแล้วแต่เป็นสายเดิม) ตำแหน่งใช้ภาษา เขาก็ดูสนใจเรา คุยกันซะดิบดี เทสผ่านแบบไม่ยากเย็น สัมภาษณ์อังกฤษล้วนก็สบายๆ สุดท้ายเขาไม่เอา เพราะเขาว่าเราเรียกแพงไป + คุณไม่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง (อ้าว แต่ในรายละเอียดงาน บอกไม่มีประสบการณ์ก็ได้ ขอภาษาดีไว้เป็นหลัก  ;D และงานเดิมผมก็ดูเรื่องคู่มือผู้ใช้รถ+คู่มือซ่อมเป็นหลักอยู่ก่อนแล้ว)

สุดท้าย บ.รถ เจ้านี้ก็หาคนในตำแหน่งนี้อยู่เป็นปีกว่า ไม่รู้ว่าได้คนมั้ย
บางทีก็อยากจะบอก บ.รถ บางที่ว่า ท่านไม่สามารถหาคนเก่ง ด้วยงบแค่ 15000 ได้หรอกนะจ้ะ หรือถึงจะหาได้ เขาก็จะอยู่กับคุณไม่นานแหงๆ  ;D

ปัจจุบัน ทำงานที่ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับรถ แต่รับผิดชอบงานด้านรถของบ.เต็มๆ ทั้งคู่มือผู้ใช้ คู่มือซ่อม หลักสูตรบทเรียนสำหรับช่าง งานทุกอย่างของบ. ถ้ามาเกี่ยวกับรถวิ่งหาผมก่อนเลย ตอนนี้ทำงานไม่ทันแล้ว งานเยอะมาก จมอยู่กับรถมาปีนึงแล้ว อยากทำอย่างอื่นบ้าง  ;D

ขอบคุณครับเดาว่าเป็น After Sale Trainer แน่เลย

ออฟไลน์ blitzpao

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 738
ส่วนตัวผมเหมือน จขกท ครับ
ชอบรถมาตั้งแต่เด็ก

แต่ไม่ค่อยตั้งใจเรียน เลยสอบได้คณะที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม(ครู) ม.รัฐ มีชื่อเสียงแห่งนึง ตอนเรียนจบ รู้เลยว่าไม่อยากเป็นครู
สมัครงานสัมภาษณ์มาก็หลายที่ มุ่งมั่นสมัครงานบริษัทรถ(ไม่สมัครดีลเลอร์)
จนมาได้งานแรกเป็นบริษัทรถญี่ปุ่นแห่งนึง ให้โอกาศและสะสมประสบการณ์ ปัจจุบันทำงานครบ 10 ปี ขึ้นเป็นผู้จัดการเมื่อทำงานครบ7ปี ย้ายมาหลายค่าย และตอนนี้ เป็นผู้บริหารฝ่ายนึงของรถค่ายนึง

สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ในสายงาน สิ่งนึงที่สำคัญคือการแนะนำตัวในเรซูเม่ สิ่งที่สนใจ และคิดว่าเราจะนำสิ่งที่เราชอบมาใช้ในการทำยังไง
และอีกอย่างคือ การสมัครงานในตำแหน่งที่ไม่ซีเนียร์จนเกินไป นั่นหมายถึงบริษัทต้องการคนที่มีประสบการณ์ตรงที่สามารถสานต่องานได้เลย
อ่อ มีอีกอย่างที่ผมคิดว่าสำคัญคือการแสวงหาโอกาสครับ ยิ่งไวยิ่งได้เปรียบ

ขอบคุณมากครับคิดว่าคงจะไปอัปเดทเรซูแม่ให้ดูมีส่งที่เกี่ยวกับรถ เช่นเป็นเซลดูไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าไหรเพราะมีเงินเก็บตั้งแต่เด็ก ในอนาคตหวังว่าจะได้เจอกันครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 03, 2017, 11:03:24 โดย blitzpao »

ออฟไลน์ Sit: )

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,470
    • อีเมล์
ถ้าชอบรถมากๆ อย่าไปทำรถครับ
อาจจะไม่สนุกอย่างที่คิด หาส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถดีกว่า
ผมว่าอุตสาหกรรมรถ มีอะไรๆมากกว่าตัวรถ