ผู้เขียน หัวข้อ: คุยเรื่องเคลือบแก้ว  (อ่าน 5507 ครั้ง)

ออฟไลน์ city552

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 552
คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 15:49:00 »
กำลังจะรับรถคันที่ 4 ในชีวิตแต่เป็นสีดำคันแรกในชีวิต
เลยตัดสินใจว่าจะลงทุนเคลือบแก้วครับ ทีนี้ก็จะมีคำถามเกิดขึ้นหลายๆข้อ

1) ราคาที่เหมาะสมสำหรับการทำเคลือบแก้วสำหรับราคาประมาณ 1 ล้าน คิดว่าคือเท่าไหร่
2) ใครมีร้านที่น่าเชื่อถือและบริการดี ราคาไม่เวอร์ไป แนะนำบ้างครับ หลังไมค์ได้นะครับ จะได้ไม่เป็นการโฆษณา
3) ออกจากโชว์รูมปุ๊บ ควรขับไปเคลือบเลยใช่มั้ย เพราะเหมือนหลายๆที่ต้องจองคิวด้วย ซึ่งตอนนี้ผมยังรอกำหนดรถลงศูนย์อยู่
4) เมื่อต้องเปรียบเทียบราคานั้น อะไรที่ต้องพิจารณาบ้างว่าที่ไหนดีไม่ดี คุ้มไม่คุ้ม เช่น Service ทุกกี่เดือน ใช้น้ำยายี่ห้อ สถานที่ในการเคลือบ ฯลฯ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำครับ ผมวางแผนว่าจะทำรีวิวเคลือบแก้วกับรถคันนี้ไว้ด้วย
2015   Mazda BT50 Pro 2.2 Hi-racer
2019   Toyota Altis Hybrid Hybrid Mid
2020   Mercedes-Benz C220d W205
2020   Toyota Fortuner 2.4V 2WD
2021   Honda Civic gen11(FE) 1.5 EL+

ออฟไลน์ mark2015

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 16:58:34 »
1 มีหลายราคา แล้วแต่ว่าจะเซอร์วิสยังไง ถ้าประเภททำครั้งเดียวจบกันเคยเห็นมีตั้งแต่ 4-5 พัน จนถึงหมื่น แล้วแต่สถานที่ทำ ถ้าหมื่นอัพจะเซอรซิสกันหลายหนหน่อย มีรีโค๊ด ( คือการขัดเก็บรอยแล้วเคลือบน้ำยาใหม่ให้ )
2 ถ้าร้านใน กทม ไม่ทราบครับ
3 ได้ก็ดี แต่ไม่ถึงกับจำเป็นมาก เพราะยังไงก็ต้องขัดรอยก่อนเคลือบอยู่ดี มีรอยมามากน้อยก็ราคาเดียวกัน
4 แพงถูก นั้นไม่ต่าง เพราะน้ำยาที่ใช้ๆกัน คือแลคเกอร์แข็งแห้งเร็ว ส่วนจะเรียกว่า เซรามิค แก้ว หรืออะไร มันคือการตลาดให้ดูแพง จะวัดได้ก็แต่ถ้าแบบพ่น จะแพงกว่า เพราะใช้น้ำยามากกว่าแบบทา ส่วนใหญ่การเซอร์วิส ไม่มีไรมาก ทุกๆสามเดือนหรือครึ่งปี แล้วแต่นัด ร้านส่วนใหญ่จะเอารถไปล้างๆ ลูบดินน้ำมัน ถ้ามีคราบน้ำ หรือรอยก็จะขัดๆให้นิดหน่อยแต่อาจจะลงน้ำยาให้ชั้นนึงเป็นอันจบ

ปล บอกว่าทำนู๋น นี่ นั้นให้ ให้จ่ายแพงๆ พอถึงเวลา เหมือนไม่ค่อยสนใจ เห็นมาหลายที่ละ เอาจริงๆ พี่หาถูกๆทำครั้งเดียวจบแต่ให้น้ำวิ่งแบบนใบบอนจริงๆเป็นเม็ดๆ เลยดีกว่า แล้วทุกครึ่งปีพี่เอาล้างขัดเคลือบสีนิดๆหน่อยๆก็พอ พอปีหน่อยๆรู้สึกว่าน้ำไม่ค่อยวิ่ง ผิวไม่ลื่น ก็เอาไปเคลือบใหม่ จะถูกกว่า

ที่แนะนำเพราะกันว่าจ่ายแพงๆ หวังเซอร์วิสเผื่อไปปีสองปี พอถึงเวลาก็ไม่ทำดังที่ว่าจะเสียอารมณ์ สู้เอาแบบถูกๆดีกว่าครับ
" เงินทองของนอกกาย ไม่ตายก็หาจนตาย "

ออฟไลน์ nett

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 243
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 17:49:57 »
เพิ่งเอารถที่บ้านไปทำครับ ของ Ceramic Pro มี Service ให้ 3 ปีครับ ดูแลทุกๆ 3 เดือน

รับรถวันเสาร์ เอาเข้าไปเคลือบวันจันทร์


ออฟไลน์ ToRToNGPaT

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,943
    • Wongnai : ติดตามต้อง
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 18:54:56 »
ผมเอา Jazz ไปทำของ Seeker ตัว X7 มาครับ รับประกัน 3 ปี เข้า Service ฟรี 6 เดือนครั้ง โดยรวมถือว่าโอเค แต่บางคนบอกว่ามันเงาน้อยไปหน่อย
My Car = My Friend

2023 Honda HR-V 1.5 e:HEV RS E-CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องหมูแดง)
2023 Honda WR-V 1.5 RS CVT Ignite Red Metallic / Black Roof (น้องถุงแดง)


Review ของกินอร่อยๆ เรียนเชิญที่ Wongnai : ติดตามต้อง

ออฟไลน์ Joii

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 939
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 19:14:00 »
เพิ่งเอารถที่บ้านไปทำครับ ของ Ceramic Pro มี Service ให้ 3 ปีครับ ดูแลทุกๆ 3 เดือน

รับรถวันเสาร์ เอาเข้าไปเคลือบวันจันทร์
เข้ามาเชียร์ ceramic pro ครับ

ออฟไลน์ art_s

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 20:39:44 »
สำหรับผมเลือกเคลือบแก้วที่ลงน้ำยาเป็นตัวเคลือบแก้ว 8-9H 1-2เที่ยวแล้วทับด้วย
Super Hydrophobic Coat ( น้ำยาใส ) 1-2เที่ยว ตัวเคลือบแก้ว8-9H จะไม่ค่อยมีคุณสมบัติไล่น้ำ
ต้องใช้ Super Hydrophobic Coat เพื่อไล่น้ำ( น้ำจะเป็นเม็ดกลม )
ต้นทุนน้ำยาเคลือบแก้วต่อคันประมาณ 1,200-3,000.-

ราคาแล้วแต่เลือกครับ เคยทำรถ1ล้าน เคลือบ20,000.- ประกัน 3 ปี เพิ่งครบ3ปี.....
ลากันขาดเลยครับ ...... ร้าน Autoxxx เอาเปรียบสุดๆ
ใครไม่เคยไปดูรถตัวเองตอนรับบริการจะไม่มีทางรู้เลยครับ
โดยเฉพราะตอนเคลมเคลือบแก้วชื้นที่ไปทำสีมาใหม่ ( มั่วน้ำยาเคลือบแก้วด้วยครับ)
กลับไม่ได้ทำตามขั้นตอนเดิมที่เคยทำ ลงน้ำยาทั้งหมดแล้วเปิดไฟอบให้ครั้งเดียว
( เจ้าของบอกว่าทำแบบครั้งอรกเคลือบแก้วจะเงากว่าชิ้นเดิมที่เคยทำ)
แถมใช้เศษผ้าไมโครที่เหลือใช้ ตอนสดๆแล้วเอามาลงน้ำยาเคลือบแก้ว
เจ้าของบอกเลยว่ารถเคลมเคลือบแก้ว ใช้ฟองน้ำและผ้าที่ใช้ลงแบบทำครั้งแรกไม่ได้

จากประสพการณ์นี้ หาร้านเล็กๆแต่เลือกน้ำยาเคลือบแก้ว ทำครั้งเดียว 3ปี7000.- / 5ปี10,500.-
และอยู่ดูเค้าทำทุกขั้นตอนครับไม่ต้องรับบริการราย3เดือน 6เดือน.....
บางแห่งเข้าทุก 3 เดือนแค่ล้างรถแล้วเช็คเคลือบแก้ว
สำหรับคิดว่าไม่จำเป็นเลย งบที่เหลือเอาไปเป็นค่าลูบดินน้ำมันกับลงน้ำยาเมนเทนเคลือบแก้ว
รวมลงwax ดีๆทุก6เดือนก็พอแล้วครับ


ออฟไลน์ ยิ้มละไม

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 989
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มีนาคม 12, 2017, 22:24:41 »
ตอนนี้เคลือบแก้ว เปิดกันเยอะมาก ๆ ส่วนคุณภาพ เท่าที่มีข้อมูลมานั้น ไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักจนเป็นคนละเรื่อง  แต่ที่แตกต่างกันมาก ๆ คือ ราคา การประกันและค่าหัวคิวให้เซลขายรถ

สำหรับผมเลือกเคลือบแก้วที่ลงน้ำยาเป็นตัวเคลือบแก้ว 8-9H 1-2เที่ยวแล้วทับด้วย
Super Hydrophobic Coat ( น้ำยาใส ) 1-2เที่ยว ตัวเคลือบแก้ว8-9H จะไม่ค่อยมีคุณสมบัติไล่น้ำ
ต้องใช้ Super Hydrophobic Coat เพื่อไล่น้ำ( น้ำจะเป็นเม็ดกลม )
ต้นทุนน้ำยาเคลือบแก้วต่อคันประมาณ 1,200-3,000.-

แต่มาโขกเรามี 15,000-55,000 หรือมากกว่า

ออฟไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,530
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มีนาคม 13, 2017, 18:42:08 »
ราคาที่ร้านคิดนั้นส่วนใหญ่ดูจากขนาดตัวรถ ไม่ได้ดูจากราคารถครับ

ส่วนที่คิดเพิ่มพวกล้างซ้ำทุก 6 เดือนนี่แล้วแต่ร้านจะชาร์จรวมในราคาที่ตั้ง
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,950
    • อีเมล์
Re: คุยเรื่องเคลือบแก้ว
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 14, 2017, 11:15:45 »
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 14, 2017, 17:31:55 โดย Smith686 »

ออฟไลน์ art_s

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92