ผู้เขียน หัวข้อ: ผ้าเช็ดรถแบบไหน ยี่ห้อไหนดีครับ ที่ดีสำหรับผิวสีรถที่สุด ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ  (อ่าน 13403 ครั้ง)

ออฟไลน์ TheStig

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 14
ผ้าเช็ดรถแบบไหน ยี่ห้อไหนดีครับ ที่ดีสำหรับผิวสีรถที่สุด ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ

ผ้าแบบไหน จะชามัว ไมโครหรือแบบอื่น  ยี่ห้ออะไร ราคาเท่าไหร่ และหาซื้อได้ที่ไหน

และหลังล้างแล้วจำเป็นต้องลง wax ไหมครับ น้ำยาล้างรถ และ wax ใช้ของอะไรดีครับ

ขอคำแนะนำครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2017, 10:31:40 โดย TheStig »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,478
......ผมไม่ใช้มานานแล้ว   ผมล้าง  - ซับด้วยชาร์มัว - ลงแวค - เช็ดออกด้วยไมโคร จบแค่นั้น  ฝุ่นเกาะอีก  ล้าง  (ตกสัปดาห์ ละครั้ง)

ชาร์มัวผม 4 ปีแล้ว คุ้มมาก ล้าง 3 คัน  ของ mg  เริ่มเป็นขุยแล้ว.....

ออฟไลน์ tommaris

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 561
    • อีเมล์
ซับน้ำหลังล้างแชมพู ใช้ชาร์มัวครับ
ยี่ห้อที่ใช้ประจำ คือ polifac

หลังซับน้ำ เก็บรอยน้ำนิดหน่อยด้วยผ้าไมโครฯ หนาๆ แห้งๆ อีกผืน 2 ผืน
(ฉีดเก็บงานด้วย detailer ก็ดีครับ)

ปล. กระจกรถ ใช้ไมโครแห้งๆ หรือ เสื้อตราห่านคู่เก่าๆ (เป็น cotton 100%) ใสๆ เลยครับ

ออฟไลน์ CarameLon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,387
Polifac +1 ดูดน้ำเยี่ยม บิดผ้าง่าย แต่ดำเร็วไปหน่อย
งานตัวถังเสร็จ ล้างแม็กและยาง+บังโคลนใน
กระจกจะให้ใสจริงๆ ให้ทำเป็นขั้นตอนสุดท้าย ใช้ดีเทลเลอร์สูตรน้ำ
ฉีดพรมนิด แล้วเช็คทันทีด้วยผ้าไมโครขนสั้น
นวดๆซักพัก กระจกใสมาก ออกแดดไม่เห็นคราบน้ำแน่นอน
จากนั้นก็งานเบาะภายในรถ ดูดฝุ่น ซักพรม ไล่ความชื้นแอร์ ลงน้ำยาเคลือบหนัง ตากแดด
มีให้ทำได้ทั้งวันหยุดเลย  8)
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R

ออฟไลน์ YAmodels

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,025
ลองเซิร์จ "Cobra Microfiber Towel" ดูครับ

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ผมใช้แต่ของถูกครับ   ชามัว 99 บาทครับ มันดีกว่า ยี่ห้อที่ขายในห้าง ใหญ่ที่ขายกัน 3-500 ครับ
ยี่ห้อจำไม่ได้แล้วครับ แต่ว่า ราคาไม่เกินร้อยดีกว่า ตัวแพงครับ แต่ไม่เคยซื้อแบบแพงๆ เป็นพันๆ นะครับ

ออฟไลน์ mrcna

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
    • อีเมล์
1. ผ้าเช็ดรถแบบไหน -> MicroFiber
2. ยี่ห้อไหน -> ไม่เน้นยี่ห้อ แต่เน้นคุณสมบัติ (ขนาด, 70/30, 70/20, ความหนาแน่น, ขนสั้น, ขนยาว, Waffle Weave)
3. ที่ดีสำหรับผิวสีรถที่สุด -> ผมเข้าใจว่า คือ ไม่ทำให้ผิวรถเป็นรอย -> MicroFiber
4. ราคาคุ้มค่ากับคุณภาพ -> สำหรับผม ปัจจุบันใช้ ผืนละ 20 บาท 5 ผืนร้อย , ผ้าขนยาวแน่น ผืนละ 60 บาท (Daiso) และ Waffle Weave ผืนละ 100 บาท

ปล. 1 ขนาดมาตรฐานของผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ขายๆกัน อยู่ที่ 16" x 16" แต่ผมชอบใช้ที่ 16" x 8" มากกว่า เพราะมือเล็ก control ง่าย ครับ
ปล. 2 ผ้าถูกๆที่ผมใช้ ต้องซักก่อนใช้งานหลายน้ำเลยครับ กว่าขี้ผ้า จะออกไปหมด ไม่แน่ว่า ยี่ห้อดีดี จำเป็นด้วยหรือไม่

ออฟไลน์ Amaranthe

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 708
ผมใช้ ผ้าแบบ waffle wave ยี่ห้อนึง (ยี่ห้อไม่ดัง) ซักไป 10 กว่าครั้งละ สีของผ้ายังตกอยู่เลย

ผ้าชามัวร์ polifac คุณภาพการเช็ดน้ำดีจริงๆ ครับ แต่ไม่มีกล่องพลาสติกให้ใส่ และซักคราบดำไม่ค่อยออก (หรือผมขยี้ไม่แรงก็ไม่รู้) ราคาจะสูงกว่าซื้อยี่ห้อตามโลตัส บิ๊กซี

ผ้าเช็ดแวก เช็ดเก็บงาน ลงสเปร์ยแวก ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แบบ ขนยาว 70/30 ขนาด 16 * 16

     ผ้าไมโคร ซื้อขนาด 16 * 16 กำลังดี เวลาพับทบ 4 ส่วน มือจับกำลังดี (ถ้าผืนเดียวเช็ดไม่หมดก็ซื้อเพิ่มได้)
     ผ้าใหญ่ไปก็ซักตากลำบาก แถมแห้งช้ากว่าผืนเล็ก เมื่อผ้าไม่แห้งซะที ก็จะมีขี้ฝุ่นมาจับเยอะ

ล้างรถแล้ว ควรลงแวกครับ ช่วยปกป้องสีรถจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ เช่น แดด มลพิษ น้ำฝน

แวก มีหลายยี่ห้อมาก ราคาก็มีตั้งแต่หลักร้อย ยันหลักหมื่น

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,818
เช็ดเปียกผมใช้Waffle Weaveครับ บีบน้ำง่ายดี หรือชามัวร์ก็ได้ครับ เช็ดแห้งลงWaxต้องMicrofiberครับ Waxเลือกตามใจชอบเลย ส่วนตัวชอบ Synthetic Sealant 21 ของ Meguiars ครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Northbridge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 751
ถ้าจะเอาไว้เช็ดน้ำหลังล้าง เลือกที่มันหนาๆ (กรัมเยอะๆ) จะแบบขนฟูๆ หรือแบบสไตล์ water magnet นี่แล้วแต่ถนัดเลยครับ ขึ้นว่าเป็นไมโครไฟเบอร์นี่ ปลอดภัยต่อสีรถอยู่แล้ว

ลองไปเปิดดูในกระทู้พวกพ่อค้ากระทู้ปักหมุดใน thaiwashercarclub ก็ได้ครับ มีให้เลือกเยอะแยะ สั่งมาลองทีละผืนสองผืน เจ้าสองเจ้า เดียวก็จะรู้ครับว่าใช้เจ้าไหนดี เพราะผ้าพวกนี้ใช้ๆ ไป ซักๆไป มันจะแข็งครับ ยังไงก็ต้องซื้อเรื่อยๆ อย่างน้อยปีนึงก็จะสัก 1-2 ครั้งครับ