สวัสดีครับ โพสนี้เป็นโพสแรกของผมครับ ที่อยากแชร์ประสบการณ์ จากศูนย์ที่คิดว่ามีชื่อเสียงในระดับนึง แต่ก็ยังมีส่วนติดขัดบ้าง
รถที่ร่วมประสบการณ์ครั้งนี้กับผมก็คือ เจ้า Mini Cooper s สีส้ม
ปี 2011 ครับต่อประกันชั้น 1 จากมิลเลนเนี่ยมเจ้าเดิมมาปีนี้
เป็นปีที่ 6 ครับ จนเมื่อต้นปีเกิดดวงไม่ดีรับ ปีชง ทั้งผมทั้งแฟน เพราะเกิดปีเดียวกัน แฟนผมขับไปโดนชนเข้าด้านข้างล้อหลังฝั่งขวาครับ
โดนรถที่กำลังกลับรถมาชนในขณะที่รถผมอยู่ในเส้นทางตรงครับ ดูในกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ก็ถือว่ารถโดนพอสมควร
คือจังหวะชนรถขยับจากจุดชนไปทางด้านข้างประมาณ 1 เมตร ตอนที่โดนชนหน้าจอก็ขึ้นฟ้องทุกอย่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัย
ในการทรงตัวรถ เตือนลมยาง แต่พอดับเครื่องแล้วสตาร์ทใหม่ไปประมาณ 2 ครั้ง ไฟเตือนก็ดับไปครับแต่มีเสียงดังตอนขับ
มาจากทางล้อที่โดนชนความเสียหายที่เห็นด้วยสายตา ก็แค่บังโคลน กับล้อ แม็ก เท่านั้นครับ
ต่อมาก็ตาผมครับ ขับต่างจังหวัด 4 เลนเห็นคนเดินข้ามถนน บริเวณที่กลับรถ 3-4 คน ผมก็วิ่งประมาณ 110 กม/ชม คนที่ข้าม
ก็อยู่ตรงกลางที่กลับรถแล้วครับ เพราะไม่มีเกาะกลางแต่เป็นคูน้ำกลั้นเลนไว้แทน ผมก็เห็นเจ้าหมาอยู่ฝั่งข้างทาง ผมก็บีบแตร
เท่านั้นแหละครับมันก็สตาร์ทวิ่งมาหาเจ้าของมัน ผมก็เบรคครับ โครม!!! กันชนหน้าฝั่งขวาปะทะกับเจ้าหมาตัวนั้นครับ คุยกับเจ้า
ของที่เป็นชาวบ้านธรรมดาน้ำตานองหน้าครับ
เค้าก็เข้าใจครับ บอกว่าผมไม่ผิด ผมก็ได้แค่ช่วยเค้าไปตามที่เห็นสมควรครับ
ก็โทรเรียกเคลมประกันภายหลังถ่ายรูปเสร็จ ก็รอหาจังหวะว่างเข้าศูนย์ครั้งแรกกับการซ่อมสีกับตัวถังกับเจ้ามินิส้มของผม
เลยลองสอบถามศูนย์ที่เข้าประจำครับ ที่เอกมัย ก็ได้คุยกันประมาณว่า มินิ นี่ของมิลเลนเนี่ยมจะส่งที่ ลาดพร้าว อย่างเดียวครับ
ถ้า BMW ก็จะมีส่งที่ พระราม 3 อีกที่นึงเพิ่มมา บวกกับการส่งรถที่เอกมัยต้องดำเนินเรื่องเคลมและต้องรอรถสไลด์มายกรถไปอีก
รวมต้องยืดระยะเวลาเพิ่มจากการไปดำเนินงานที่ลาดพร้าวเองอีก 3 วันจึงเป็นการตัดสินใจออกมาไกลเมืองสักนิด กับศูนย์บางนา
เริ่มนำรถเข้าไปดำเนินเรื่องประเมินราคาส่งประกัน วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 (22/2/60) รถเยอะครับก็กดบัตรคิวรอตรวจรถ
ปกติก็แจ้งไปว่า ล้อหลังขวา ผมย้ำว่าเสียงดังขณะวิ่งช่วยตรวจแล้วทำเรื่องเคลมให้ผมด้วย ตอนนั้นผมก็ว่าลูกปืนต้องมีปัญหาแน่นอน
แล้วก็ได้รับการแจ้งว่า คิวเข้าซ่อมเป็น วันที่ 20 มีนาคม 2560 (20/3/60) ก็โอเคครับไม่มีปัญหา พอถึงวันนัดตอนนั้นรถผมก็มี
อะไหล่ที่ต้องทำการเปลี่ยนคือตัวม่านบังแดดซันรูฟด้านหลังผมก็สอบถามสั่งซื้ออะไหล่จากทางศูนย์ไว้เลยครับ ประเด็นคือผมต้อง
โทรนัดเข้าไปเซอร์วิททำการเปลี่ยนม่านอีกทีนึงเอง
โดยรถที่นำเข้าเคลมศูนย์จะส่งไปทำสีที่ศูนย์สุวรรณภูมิ ผมก็เข้าใจได้ว่า
อ้าว!!! มันก็ไม่ต่างจากมิลเลนเนี่ยมเลยนี่หว่า เซอร์วิทก็เซอร์วิท เคลมทำสีซ่อมตัวถังก็แยกแผนกกัน ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยลองสอบถาม
คิวเข้าเซอร์วิท แม่เจ้า?!?! มีนาคมบอกรอเคลียร์รถช่วงสงกรานต์ คิวไปเดือน มิถุนายน ครับ กำงั้นไม่เป็นไรครับ สั่งอะไหล่อย่างเดียว
เดียวหาช่างทำ หรือว่าจะลองทำเองดูก็ได้ กับการไข สกรู 6 ตัวแต่ต้องใช้ทักษะอยู่พอสมควรมั้่งครับ นัดรับรถ 10 เมษายน 2560
(10/4/60) ก่อนหน้าวันรับรถโทรเข้ามาครับ แจ้งความคืบหน้าว่ารถจะได้แล้วแต่มีปัญหารถไฟเอนจิ้นขึ้นโชว์ครับ เลยไม่กล้านำรถ
ออกมาทดลองวิ่งปัญหาเสียงดังที่ล้อหลัง เวรกำ ใจผมก็คิดว่า ทำไมไม่นำรถไปแก้ไขให้เลยแล้วแจ้งบิลมาเก็บ ก็เลยถามไปครับ
ได้คำตอบว่า "ต้องโทรนัดเข้าเซอร์วิทครับ แล้วช่วงนี้จะสงกรานต์แล้วด้วย แนะนำรับรถกลับไปก่อนแก้ไขไฟเอนจิ้นแล้วค่อยมาเคลม
เรื่องเสียงดังจากล้อหลัง" คิดในใจเลือกเข้าศูนย์นี้เพราะเข้าใจว่า จะดำเนินการทุกอย่างได้สะดวกสบายเพราะเป็นศูนย์ที่มีทั้งเซอร์วิท
และซ่อมสีและตัวถัง แต่ก็แค่นั้นครับ
วันที่ 10 เมษายน 2560 (10/4/60) รับรถครับนำใบสั่งของมารับผ้าม่านหลังแล้วก็รอรับรถรถมาถึงก็มาตามครับผมก็เดินไปดูที่
กันชนหน้าเลย เนื่องจากความเสียหายที่มองเห็นเยอะกว่าด้านหลัง โอเคครับ เปลี่ยนอะไหล่บางส่วนดูเรียบร้อยดี จนเดินมาดูด้านหลัง
เวรกำ!?!?!?!?!? ล้อแม็กก็เป็นรอยเหมือนเดิม บังโคลนก็ยังเป็นรอยเหมือนเดิม ชี้ให้พนักงานส่งรถดู
อ้าว น้องเค้าก็ งง ครับ บอกให้ผมรบกวนไปรอด้านในสักครู่ครับ ขอตรวจสอบเอกสารก่อน โอเค รอก็รอ สักครู่นำเอกสาร อนุมัติซ่อม
มาให้ผมดูแล้วแจ้งว่า อะไหล่บางส่วน ประกันยังไม่ไ่ด้อนุมัติมาครับ แล้วเกิดความเข้าใจผิด น้องเค้าก็เลยบอกว่ารบกวนพี่รับรถไปก่อน
เพราะจะติดช่วงสงกรานต์พอดี แล้วหลังสงกรานต์ค่อยนำรถเข้ามาใหม่ จะแจ้งนัดเข้าไปอีกทีนะครับ ยกมือไหว้ขอโทษในความผิดพลาด
โอเคครับ ทำอะไรไม่ได้ รับรถกลับมา วิ่งแบบกระตุกๆ เลยกลับมาจอดอย่างเดียวครับเพราะไฟเอนจิ้นยังค้างอยู่ นัดเข้าซ่อมกับทาง
มินิ เอกมัยครับ โดนไป หมื่นปลายๆ ครับ หัวเทียน กับ คอล์ยจุดระเบิด แล้วก็ล้างหัวฉีดบางตัวครับ (เข้าใจว่าจอดซ่อมสีนาน สิ่งสกปรก
ในน้ำมัน มันเลยจับตัวกันเป็นก้อน ไปตันแถวหัวฉีด)รวมถึงค่าแรงเปลี่ยนม่านซันรูฟหลัง ซ่อมเสร็จรอครับ รอทางศูนย์บางนาโทรมานัด
จนปลายเดือน เมษายน ก็ยังเงียบครับ เลยต้องโทรไปเอง
"รถมินิสีส้ม อ่อครับ พี่สะดวกวันไหนนำรถเข้ามาได้เลยครับ" ผมก็เลยได้นัดไปวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 (2/5/60) ประกอบกับรถที่บ้าน
BMW X3 ไฟเซอร์วิทเปลี่ยนน้ำมันเบรก ขึ้นมาพอดีเลยโทรไปนัดที่บางนา เผื่อจะได้ทิ้งรถไว้ทำทั้งคู่เลยแล้วนำรถกลับคันเดียว
แห้วครับ ต้องรอคิวไปประมาณกลางเดือน ผมจำวันที่ไม่ได้แล้ว (นี่เป็นอีกปัญหานึงของทาง BMW ปริมาณรถขายดีเกินความสามารถเซอร์วิท)
ได้ไปเข้าเซอร์วิทที่ เจ้าอื่นแทนที่เปิดได้ประมาณปีเศษๆ (ผมไม่บอกที่ กลัวว่าคราวหน้าโทรไปนัดคิว จะต้องรอข้ามเดือนอีก!!!)
ก็มาส่งรถ และเน้นย้ำไปว่าล้อหลังต้องทำการแก้ไปเรื่องลูกปืนให้ผมนะ
วันที่ 18 พฤษภาคม 2560(18/5/60) ไปรับรถ (ตอนแรกนัดรับ 17 พฤษภาคม 2560 แต่บอกว่าจะต้องนำรถไปแก้ศูนย์รถที่พวงมาลัยเอียง
ไปทางซ้ายที่เกิดจากอุบัติเหตุ โดยต้องไปทำข้างนอก) ก็โอเคครับ บังโคลนเปลี่ยนให้ ล้อแม็กเติมเนื้อและทำสีเรียบร้อย ก็ถามถึงลูกปืนล้อ
กับพนักงานรับรถ ซึ่งตอนแรกเห็นผมและจำผมได้(สงสัยที่ยกมือไหว้ขอโทษเป็นเคสเดียวของที่ บางนา หรือเปล่าผมก็ไม่รู้) ก็มาส่งงานผม
แจ้งว่า
ลูกปืนได้เคลมให้เรียบร้อยแล้ว โอเค เอกสารไม่ต้องเซ็นต์ เพราะเซ็นต์ไปตั้งแต่รับรถ ครั้งก่อนแล้ว รับรถกลับมา
วิ่ง อ้าวววว เสียงมันยังดังอยู่เลยนี่หว่า แต่ว่าแจ้งผมว่าเคลมเปลี่ยนให้แล้ว เอาไงดีหว่า เข้า B-quik ครับ เช็ครถฟรี 30 รายการ แล้วก็ถึงระยะ
สลับยางถ่วงล้อพอดี ผมก็แจ้งว่าอยากให้ทดลองตรวจสอบ ลูกปืนหลังขวาให้ด้วยครับ แจ๊คพ๊อตครับ
หมุนล้อแล้วลองจับไปที่สปริงโช้คครับ
สั่นสะท้านมือเป็นยิ่งนัก เท่านั้นผมก็แจ้งไปทั้งที่ประกัน ทั้งที่ศูนย์บางนา 25 พฤษภาคม 2560(25/5/60)เล่าให้ฟังทุกอย่างผ่านมาวันนี้ครับ
1 มิถุนายน 2560 (1/6/60) เงียบครับ ผมเลยโทรไปอีกทีที่ประกันว่าจะนำรถเข้าซ่อมที่อื่นได้หรือไม่ เล่าให้ฟังอีกรอบ บอกรอคนที่อนุมัติ
งานซ่อมนี้ติดต่อกลับไปนะครับ จนถึงได้ติดต่อมาครับ ว่าเพิ่งจะอนุมัติให้ซ่อมลูกปืนพร้อมปีกนก ไปเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2560(25/5/60)
ถ้าเปลี่ยนที่ซ่อมต้องดำเนินขั้นตอนเริ่มต้นใหม่ สุดๆๆๆครับ เลยต้องโทรเข้าหาศูนย์บางนา ต้องนัดกลับเข้าไป อีกครั้ง งง มั้ยครับ ประกันอนุมัติ
ให้ซ่อมได้ แต่ผมยังไม่ได้รับการติดต่อว่าต้องเอารถเข้าไปเคลมอะไหล่อีกครั้ง ทางศูนย์ก็ยัง งง เลยครับ ระบบทำงาน มันเป็นยังไงครับ ลูกค้า
ต้องดำเนินการเองหมดเลยครับ ตามเรื่องเอง หาเอกสารว่าต้องให้ประกันอนุมัติให้อีก อนุมัติหรือยัง อะไหล่มาหรือยัง ต้องโทรไปนัดกับศูนย์อีก
ว่าจะเอารถเข้าไปแล้วนะครับศูนย์พร้อมหรือยัง แล้วต้องมาเช็คอีกว่า อะไหล่เปลี่ยนให้จริงหรือเปล่า?
หวังว่าคราวนี้ ผมจะต้องเข้าไปส่งรถ
และรับรถจากที่นี่อีกเพียงรอบเดียวแล้วนะครับบบ
เรื่องนี้ผมไม่ทราบว่าเป็นดวงของผมกับปีชง หรือว่า ระบบการทำงานของบริษัทที่ครั้งหนึ่งผมได้ยินคำแนะนำผ่านทางรายการวิทยุของพี่จิมมี่ ว่า
ศูนย์นี้ใช้ได้แต่ต้องโทรนัดเข้าไปก่อนเองเพราะคิวเยอะ ทางเซอร์วิทอาจจะมีช่างที่เก่งแก้ปัญหายากๆ ของรถได้ แต่ระบบการจัดการ
ที่ไม่มีความเป็นเอกภาพ เหมือนงานตูเสร็จแล้วทำเท่าที่สั่งแล้ว แกก็เอาไปทำเองแก้ปัญหาอื่นที่ไม่ใช่ปัญหาของตูต่อไป พนักงานส่งรถกับฝั่ง
ที่ทำการซ่อม ไม่ได้ติดต่อตรวจสอบกันเลยทั้งไปและกลับ ทั้งเรื่องการส่งต่อเพื่อเซอร์วิทจากฝ่ายซ่อมสี ยังต้องให้ลูกค้าดำเนินการเอง
จองคิวเอง ทั้งที่รถก็อยู่กับทางบริษัทอยู่แล้ว สงสัยไม่กล้าซ่อมให้เพราะเบิก MSI ไม่ได้เต็มที่แล้วหรือเปล่า ศูนย์ต้องสูญเสียโอกาสที่จะได้เงิน
ได้ใจลูกค้า หรือทางศูนย์เข้าใจว่า คิว การเซอร์วิทก็เต็มเอี๊ยดแล้ว ปล่อยตกไปคันสองคัน คงไม่กระทบ กับรายได้ ของบริษัทอยู่แล้ว
รถใหม่ขายได้เยอะ เบิก BSI, MSI เอาได้สบายๆ ทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นผมคนเดียวที่บังเอิญไปในจังหวะไม่ดีเอง ผมคงได้เป็นลูกค้า
กับทางศูนย์นี้เพียงแค่รถผมซ่อมเสร็จจากการเคลมประกันครั้งนี้(ครั้งที่ 3 ที่ต้องนำรถเข้าไป)เท่านั้นแหละครับ
Timelines
22/2/60 ติดต่อส่งเคลม 2 จุดใหญ่
20/3/60 นำรถเข้าซ่อมครั้งที่ 1 เพื่อเคลมประกัน 2 จุดใหญ่
10/4/60 รับรถครั้งที่ 1 ได้รับการซ่อม 1 จุดใหญ่ค้างอีกจุดพร้อมไฟเอนจิ้นโชว์
2/5/60 นำรถเข้าซ่อมครั่งที่ 2 เพื่อเคลมประกันจุดที่เหลือ
18/5/60 รับรถครั้งที่ 2
23/5/60 ตรวจสอบเจอปัญหาที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอะไหล่ให้ แต่แจ้งว่าดำเนินการแล้ว แจ้งประกันกับศูนย์ทาง E-mail
25/5/60 โทรร้องเรียนปัญหาที่เกิดขึ้นกับทางประกัน และศูนย์บริการ
1/6/60 โทรติดต่อประกัน และทางศูนย์ อีกครั้ง นัดเข้าแก้ไขอีกครั้ง