ผู้เขียน หัวข้อ: แอร์รถไม่เย็น มันเป็นเพราะอะไร มีวิธีแก้ไขเบื้องต้นอย่างไร  (อ่าน 8954 ครั้ง)

ออฟไลน์ thaiengine

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ขอนำเสนอ บทความเกี่ยวกับ แอร์รถไม่เย็น อีกหัวข้อ เพื่อคนรักทุกๆคน

แอร์รถไม่เย็น เป็นเพราะอะไร

อากาศบ้านเราที่ทั้งร้อน ทั้งอบอ้าว อีกทั้งมลภาวะบนท้องถนนที่เกิดจากรถติดนานๆ ทำให้รถในบ้านเราจำเป็นต้องติดแอร์กันทั้งนั้น สมัยนี้แล้ว รถไม่ติดแอร์หายากเต็มที เมื่อมีแอร์ก็หวังว่าจะได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถ ทุกขณะแห่งการเดินทางไม่ว่าใกล้ไกล แต่ บางครั้ง ก็ประสบกับปัญหาแอร์รถเย็นบ้าง แอร์รถไม่เย็น บ้าง มันเกิดจากอะไร แอร์เสีย ต้องซ่อม ต้องเสียเงินอีกแล้วหรือ?

การเสียเงินซื้อของใหม่ น่าจะเป็นเงื่อนไขสุดท้ายสำหรับคนที่รู้จริง เพราะฉะนั้น ใช้รถ ใช้อุปกรณ์ในรถอย่างคนมีความรู้ ไม่เสียทีให้ใครหลอกให้เสียเงินโดยไม่สมควร

สาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น ?

แอร์รถไม่เย็น

ทันทีที่ขึ้นไปบนรถ ติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ เรามักจะหวังว่า อีกสักพัก ในรถคงจะเย็นสบาย แต่เมื่อไหร่ที่เปิดแอร์ได้พักหนึ่งแล้ว แต่ไม่เย็นดั่งที่หวัง ก็ต้องเช็คแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งน่าจะไม่พ้นเรื่องต่อไปนี้

1. น้ำยาแอร์หมด เกิดจากสองกรณีคือ อย่างแรกเพราะใช้มานานมากแล้ว กับอีกสาเหตุก็คือ มีการรั่วซึม จนเป็นเหตุให้น้ำยาแอร์หมด  เมื่อขาดน้ำยาแอร์ ก็จะทำให้มีแต่ลมออกจากช่องแอร์ แม้เปิดแอร์เต็มที่ ภายในรถก็ไม่ค่อยเย็นเหมือนที่ควรจะเป็น

2. ตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่างๆ มีรอยรั่วซึม เมื่อเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นจะมีผลสืบเนื่องตามมาก็คือ ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก แอร์รถเลยไม่เย็นสักที จะว่าไปแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องมีการตรวจเช็คอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากแอร์ที่ใช้อยู่คู่กับรถที่ใช้มานานแล้ว
การตรวจเช็คนั้น ไม่ยาก เพียงแค่ใช้น้ำสบู่ หรือแชมพู ตีให้เป็นฟอง  ลูบไปตามท่อ ข้อต่อต่างๆ ของระบบแอร์ ถ้ามีการรั่วซึม จะเห็นฟองอากาศ เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการตรวจเช็คการรั่วซึม ท่อ ล้อที่มีลมทั่วๆ ไป ซึ่งถ้าพบว่าการรั่วซึม เกิดในช่วงรอยต่อ แสดงว่าขันไม่แน่น ก็ให้ขันให้แน่น แค่นี้ก็เรียบร้อย แต่ถ้าเป็นกรณีตู้คอยล์เย็น,แผงคอยล์หรือท่อแอร์รั่วซึม อันนี้เรื่องใหญ่ ต้องให้ถึงมือช่างช่วยซ่อมให้แล้ว ( หรือหากต้องการเช็คเองเเต่ไม่รู้วิธีการเเละข้อมูลในการเช็คนั้น ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เช็คแอร์รถยนต์ )

3. ระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ร้อนหย่อนคุณภาพ กรณีเช่นนี้ทำให้ขณะที่รถวิ่งไปหรือช่วงกลางคืน จะเกิดกรณีพัดลมระบายความร้อนหน้าแผงคอยล์ร้อนไม่ทำงาน มีกำลังน้อย หรืออีกเหตุก็คือแผงคอยล์ร้อนสกปรก จนมีการอุดตัน จนระบายความร้อนไม่ดี  เนื่องจากน้ำยาแอร์ที่ส่งเข้าไปที่คอยล์เย็นมีอุณหภูมิสูง เลยทำให้แอร์ไม่เย็นได้
วิธีตรวจสอบว่า เป็นเพราะพัดลมหน้าแผงคอยล์หย่อนคุณภาพหรือไม่ ทำได้โดยเปิดฝากระโปรงรถแล้วติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ ดูว่าขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงานนั้น พัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนทำงานหรือไม่ หรือมีอาการหมุนช้า และมีเสียงดังหรือเปล่า

ถ้าเป็นเพราะพัดลมไม่ทำงาน อันนี้ต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่ แต่ถ้าเกิดจากแผงคอยล์ร้อนสกปรกก็เพียงแต่ทำความสะอาด ก็จะทำให้การระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ดีขึ้น

4. ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวมไม่มีกำลังอัด ถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้นละก็ ระดับแรงดันของน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์จะลดน้อยลง ส่งผลให้แรงดันของน้ำยาแอร์ ที่ถูกฉีดเข้าไปในคอยล์เย็นมีปริมาณน้อยไปด้วย ทำให้ไม่เพียงพอที่จะดูดซับความร้อนภายในห้องโดยสารได้ แอร์ในรถเลยไม่เย็น
เรื่องนี้สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อติดเครื่องรถแล้วเปิดแอร์ แอร์รถจะเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง แต่พอลองเร่งเครื่องยนต์แล้วแอร์เย็นขึ้นมา นั่นหมายความว่า ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม วิธีแก้ก็คือ ให้เปลี่ยนลูกสูบใหม่ และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ

5. ชุดวาล์ว และดรายเออร์อุดตัน หรือเสื่อมคุณภาพถ้าเกิดเหตุดังกล่าว ก็จะทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลผ่านเข้าคอยล์เย็นไม่สะดวก เมื่อน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอที่จะดูดซับความเย็นในรถได้ จึงทำให้เย็นบ้าง ร้อนบ้าง
สาเหตุเหล่านี้ ตรวจเช็คได้โดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ ถ้าพบว่าแอร์มีความเย็นน้อย หรือไม่เย็น อีกทั้งมีเสียงดังอยู่ใกล้ตู้แอร์ แต่พอลองเร่งเครื่องยนต์ แอร์ก็เย็นขึ้นมา ก็ชัดเจนเลยว่า ชุดวาล์วและดรายเออร์เกิดการอุดตันแน่ๆ

วิธีแก้ไข ให้ถอดเปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่ ต้องเปลี่ยนพร้อมกัน เพราะว่า เมื่อวาล์วแอร์อุดตัน แปลว่าดรายเออร์ชำรุด

6. ปัญหาคลัตช์ลื่น (คลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท) สาเหตุเกิดจากกระแสไฟที่ส่งไปที่คลัตช์แม่เหล็กมีปริมาณน้อยเกินไป จึงไม่เพียงพอที่จะทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูลเลย์ได้ หรือถ้าติดเข้าได้ก็ไม่แน่น ทำให้มีฟรีในบางจังหวะ และเป็นเหตุให้คอมเพรสเซอร์ทำงานไม่สม่ำเสมอ แอร์รถเลยเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง หากพบว่ามีปัญหาดังกล่าว ให้แก้ไขตามสภาพ เช่น ทำการปรับแต่งหน้าคลัตช์ให้เรียบเสมอ และตั้งระยะคลัตช์ใหม่ ซึ่งการแก้ไขเหล่านี้ ค่อนข้างที่จะมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่สักหน่อย

7. สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อนมากเกินไป นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงาน สายพานที่รับกำลังจากเครื่องยนต์ เพื่อฉุดให้คอมเพรสเซอร์หมุนนั้นมีอาการฟรี เลยไม่สามารถทำให้คอมเพรสเซอร์หมุนได้ ซึ่งสังเกตอาการเหล่านี้ได้จาก เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานจะเกิดเสียงดัง รวมถึงแอร์ในรถไม่ค่อยเย็น วิธีแก้ไข ทำได้โดย ปรับระดับสายพานให้ตึงขึ้น และถ้าพบว่า สายพานมีรอยแตกหรือฉีกขาด ก็ต้องเปลี่ยนใหม่

8. การใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท เรื่องนี้ทำเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะมี แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ อาจเป็นเพราะเปลี่ยนน้ำยาแอร์กับช่างที่ได้ทำการปลอมปนน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ดังกล่าวจะไปทำให้ระบบแอร์รถยนต์บ่งพร่อง ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ จนทำให้แอร์ในรถไม่เย็น  เนื่องจากไปทำให้ความดันในระบบแอร์รถยนต์เพิ่มมากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ เลยไม่สามารถทนแรงดันที่สูงกว่าที่บริษัทผู้ผลิตออกแบบไว้ อาจทำให้ เกิดความเสียหายหรือร้ายแรงที่สุดก็คือ ระเบิดขึ้น เพราะความดันที่เพิ่มสูงนั้นส่งผลให้คลัตช์ของคอมเพรสเซอร์มีความร้อนสูงเกินไป จึงทำให้เสียหาย
หรือน้ำยาแอร์ที่มีการปลอมปน ไปทำให้การทำงานของคอยล์เย็น และเอ็กซ์แพนชั่นวาล์วผิดปกติ ถ้าเป็นเรื่องนี้ อาจไม่ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่ก็ส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ ค่อยๆเสียหายและหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

เรื่องแอร์รถไม่เย็นนี่ นอกจากทำให้เดือดร้อนในขณะนั่งแล้ว ยังเพิ่มค่าใช้จ่ายอย่างไม่ควรเป็น ดังนั้น ควรหมั่นเช็คระบบแอร์อย่างสม่ำเสมอด้วย

*หมายเหตุ : หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยชี้แนะทีครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 20, 2017, 16:39:25 โดย thaiengine »

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
มาช่วยผมแก้ปัญหาแอร์เย็นนรกในแอร์ ออโต้ dmax  altisทั้งแอร์ธรรมดาและออโต้
 หรือจะในรีโว่แอร์ธรรมดาที่หรี่สุดก็โคตรหนาวนรกแตกขั่วโลกตอนกลางคืนแม้ว่าข้างนอกอากาสแสนจะธรรมดาด้วยเถอะ

ออฟไลน์ boykung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
  • ตอนเด็กๆ โคตรอยากเป็นจีบันเลย
ไม่ควรเนียนโฆษณาเวปตัวเองแฝงนะครับ

อยากแนะนำจริงๆโพสข้อมูลลงมาเลยครับ
Hyundai Grand Starex 2012
Kia Rio 2013
Volvo XC60 D4 Hybrid with Engine Oil 2013
Mercedes Benz S300Hybrid AMG 2014
BMW 420D Coupe M Sport 2016

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
ฟิล์มกรองแสง มีส่วนเยอะ

ออฟไลน์ vantipz

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 467
หาคนเข้าเวบระวังโดนด่าเช็ดนะครัช  ;D

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
ฟิล์มกรองแสง มีส่วนเยอะ

จริงว อีกเสียงครับ

ออฟไลน์ joe560-4

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 584
ไม่ควรเนียนโฆษณาเวปตัวเองแฝงนะครับ

อยากแนะนำจริงๆโพสข้อมูลลงมาเลยครับ
เห็นตามครับ มาเนียนๆ

ออฟไลน์ Buffy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,503
    • อีเมล์
ถามไรหน่อยครับพอดีเลย

รถผมแอร์ไม่แรงเหมือนแต่ก่อน
เปิดที่ 25 องศา หากเปิดแอร์แรงเบอร์ 1 แอร์เย็น แต่พอเปิดแอร์เบอร์แรงสุดกลับไม่เย็นเท่าไร

เช่นกันครับ
เปิดที่ 20 องศา เปิดแอร์เบอร์ 1 เย็นดี แต่พอเปิดแอร์เบอร์แรงสุดกลับไม่เย็นเท่าไร

เกิดจากอะไรครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ขอบคุณครับ
 8) 8) 8)

ออฟไลน์ thaiengine

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ขอนำเสนอ บทความเกี่ยวกับ แอร์รถไม่เย็น อีกหัวข้อ เพื่อคนรักทุกๆคน

แอร์รถไม่เย็น เป็นเพราะอะไร

อากาศบ้านเราที่ทั้งร้อน ทั้งอบอ้าว อีกทั้งมลภาวะบนท้องถนนที่เกิดจากรถติดนานๆ ทำให้รถในบ้านเราจำเป็นต้องติดแอร์กันทั้งนั้น สมัยนี้แล้ว รถไม่ติดแอร์หายากเต็มที เมื่อมีแอร์ก็หวังว่าจะได้รับอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในรถ ทุกขณะแห่งการเดินทางไม่ว่าใกล้ไกล แต่ บางครั้ง ก็ประสบกับปัญหาแอร์รถเย็นบ้าง แอร์รถไม่เย็น บ้าง มันเกิดจากอะไร แอร์เสีย ต้องซ่อม ต้องเสียเงินอีกแล้วหรือ?

การเสียเงินซื้อของใหม่ น่าจะเป็นเงื่อนไขสุดท้ายสำหรับคนที่รู้จริง เพราะฉะนั้น ใช้รถ ใช้อุปกรณ์ในรถอย่างคนมีความรู้ ไม่เสียทีให้ใครหลอกให้เสียเงินโดยไม่สมควร

สาเหตุที่ทำให้แอร์รถไม่เย็น ?

แอร์รถไม่เย็น

ทันทีที่ขึ้นไปบนรถ ติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ เรามักจะหวังว่า อีกสักพัก ในรถคงจะเย็นสบาย แต่เมื่อไหร่ที่เปิดแอร์ได้พักหนึ่งแล้ว แต่ไม่เย็นดั่งที่หวัง ก็ต้องเช็คแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งน่าจะไม่พ้นเรื่องต่อไปนี้

1. น้ำยาแอร์หมด เกิดจากสองกรณีคือ อย่างแรกเพราะใช้มานานมากแล้ว กับอีกสาเหตุก็คือ มีการรั่วซึม จนเป็นเหตุให้น้ำยาแอร์หมด  เมื่อขาดน้ำยาแอร์ ก็จะทำให้มีแต่ลมออกจากช่องแอร์ แม้เปิดแอร์เต็มที่ ภายในรถก็ไม่ค่อยเย็นเหมือนที่ควรจะเป็น

2. ตู้แอร์ สายท่อแอร์ หรือข้อต่อต่างๆ มีรอยรั่วซึม เมื่อเกิดเหตุเหล่านี้ขึ้นจะมีผลสืบเนื่องตามมาก็คือ ค่าแรงดันของน้ำยาแอร์ตก แอร์รถเลยไม่เย็นสักที จะว่าไปแล้ว เรื่องพวกนี้ต้องมีการตรวจเช็คอยู่อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากแอร์ที่ใช้อยู่คู่กับรถที่ใช้มานานแล้ว
การตรวจเช็คนั้น ไม่ยาก เพียงแค่ใช้น้ำสบู่ หรือแชมพู ตีให้เป็นฟอง  ลูบไปตามท่อ ข้อต่อต่างๆ ของระบบแอร์ ถ้ามีการรั่วซึม จะเห็นฟองอากาศ เป็นไปในแนวทางเดียวกันกับการตรวจเช็คการรั่วซึม ท่อ ล้อที่มีลมทั่วๆ ไป ซึ่งถ้าพบว่าการรั่วซึม เกิดในช่วงรอยต่อ แสดงว่าขันไม่แน่น ก็ให้ขันให้แน่น แค่นี้ก็เรียบร้อย แต่ถ้าเป็นกรณีตู้คอยล์เย็น,แผงคอยล์หรือท่อแอร์รั่วซึม อันนี้เรื่องใหญ่ ต้องให้ถึงมือช่างช่วยซ่อมให้แล้ว ( หรือหากต้องการเช็คเองเเต่ไม่รู้วิธีการเเละข้อมูลในการเช็คนั้น ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เช็คแอร์รถยนต์ )

3. ระบบระบายความร้อนบนแผงคอยล์ร้อนหย่อนคุณภาพ กรณีเช่นนี้ทำให้ขณะที่รถวิ่งไปหรือช่วงกลางคืน จะเกิดกรณีพัดลมระบายความร้อนหน้าแผงคอยล์ร้อนไม่ทำงาน มีกำลังน้อย หรืออีกเหตุก็คือแผงคอยล์ร้อนสกปรก จนมีการอุดตัน จนระบายความร้อนไม่ดี  เนื่องจากน้ำยาแอร์ที่ส่งเข้าไปที่คอยล์เย็นมีอุณหภูมิสูง เลยทำให้แอร์ไม่เย็นได้
วิธีตรวจสอบว่า เป็นเพราะพัดลมหน้าแผงคอยล์หย่อนคุณภาพหรือไม่ ทำได้โดยเปิดฝากระโปรงรถแล้วติดเครื่องยนต์ เปิดแอร์ ดูว่าขณะที่คอมเพรสเซอร์ทำงานนั้น พัดลมหน้าแผงคอยล์ร้อนทำงานหรือไม่ หรือมีอาการหมุนช้า และมีเสียงดังหรือเปล่า

ถ้าเป็นเพราะพัดลมไม่ทำงาน อันนี้ต้องเปลี่ยนพัดลมใหม่ แต่ถ้าเกิดจากแผงคอยล์ร้อนสกปรกก็เพียงแต่ทำความสะอาด ก็จะทำให้การระบายความร้อนของน้ำยาแอร์ดีขึ้น

4. ลูกสูบภายในคอมเพรสเซอร์หลวมไม่มีกำลังอัด ถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้นละก็ ระดับแรงดันของน้ำยาแอร์ที่ออกมาจากคอมเพรสเซอร์จะลดน้อยลง ส่งผลให้แรงดันของน้ำยาแอร์ ที่ถูกฉีดเข้าไปในคอยล์เย็นมีปริมาณน้อยไปด้วย ทำให้ไม่เพียงพอที่จะดูดซับความร้อนภายในห้องโดยสารได้ แอร์ในรถเลยไม่เย็น
เรื่องนี้สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อติดเครื่องรถแล้วเปิดแอร์ แอร์รถจะเย็นบ้างไม่เย็นบ้าง แต่พอลองเร่งเครื่องยนต์แล้วแอร์เย็นขึ้นมา นั่นหมายความว่า ลูกสูบคอมเพรสเซอร์หลวม วิธีแก้ก็คือ ให้เปลี่ยนลูกสูบใหม่ และต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ

5. ชุดวาล์ว และดรายเออร์อุดตัน หรือเสื่อมคุณภาพถ้าเกิดเหตุดังกล่าว ก็จะทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ที่ออกจากคอมเพรสเซอร์ไหลผ่านเข้าคอยล์เย็นไม่สะดวก เมื่อน้ำยาแอร์ไม่เพียงพอที่จะดูดซับความเย็นในรถได้ จึงทำให้เย็นบ้าง ร้อนบ้าง
สาเหตุเหล่านี้ ตรวจเช็คได้โดยการติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ ถ้าพบว่าแอร์มีความเย็นน้อย หรือไม่เย็น อีกทั้งมีเสียงดังอยู่ใกล้ตู้แอร์ แต่พอลองเร่งเครื่องยนต์ แอร์ก็เย็นขึ้นมา ก็ชัดเจนเลยว่า ชุดวาล์วและดรายเออร์เกิดการอุดตันแน่ๆ

วิธีแก้ไข ให้ถอดเปลี่ยนชุดวาล์วและดรายเออร์ใหม่ ต้องเปลี่ยนพร้อมกัน เพราะว่า เมื่อวาล์วแอร์อุดตัน แปลว่าดรายเออร์ชำรุด

6. ปัญหาคลัตช์ลื่น (คลัตช์คอมเพรสเซอร์จับไม่สนิท) สาเหตุเกิดจากกระแสไฟที่ส่งไปที่คลัตช์แม่เหล็กมีปริมาณน้อยเกินไป จึงไม่เพียงพอที่จะทำให้คลัตช์คอมเพรสเซอร์ติดเข้ากับมูลเลย์ได้ หรือถ้าติดเข้าได้ก็ไม่แน่น ทำให้มีฟรีในบางจังหวะ และเป็นเหตุให้คอมเพรสเซอร์ทำงานไม่สม่ำเสมอ แอร์รถเลยเย็นบ้าง ไม่เย็นบ้าง หากพบว่ามีปัญหาดังกล่าว ให้แก้ไขตามสภาพ เช่น ทำการปรับแต่งหน้าคลัตช์ให้เรียบเสมอ และตั้งระยะคลัตช์ใหม่ ซึ่งการแก้ไขเหล่านี้ ค่อนข้างที่จะมีค่าใช้จ่ายสูงอยู่สักหน่อย

7. สายพานคอมเพรสเซอร์หย่อนมากเกินไป นี่ก็เป็นอีกเหตุหนึ่ง ที่ทำให้ เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงาน สายพานที่รับกำลังจากเครื่องยนต์ เพื่อฉุดให้คอมเพรสเซอร์หมุนนั้นมีอาการฟรี เลยไม่สามารถทำให้คอมเพรสเซอร์หมุนได้ ซึ่งสังเกตอาการเหล่านี้ได้จาก เมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานจะเกิดเสียงดัง รวมถึงแอร์ในรถไม่ค่อยเย็น วิธีแก้ไข ทำได้โดย ปรับระดับสายพานให้ตึงขึ้น และถ้าพบว่า สายพานมีรอยแตกหรือฉีกขาด ก็ต้องเปลี่ยนใหม่

8. การใช้น้ำยาแอร์ผิดประเภท เรื่องนี้ทำเป็นสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะมี แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ อาจเป็นเพราะเปลี่ยนน้ำยาแอร์กับช่างที่ได้ทำการปลอมปนน้ำยาแอร์ น้ำยาแอร์ดังกล่าวจะไปทำให้ระบบแอร์รถยนต์บ่งพร่อง ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ จนทำให้แอร์ในรถไม่เย็น  เนื่องจากไปทำให้ความดันในระบบแอร์รถยนต์เพิ่มมากขึ้น อุปกรณ์ต่างๆ เลยไม่สามารถทนแรงดันที่สูงกว่าที่บริษัทผู้ผลิตออกแบบไว้ อาจทำให้ เกิดความเสียหายหรือร้ายแรงที่สุดก็คือ ระเบิดขึ้น เพราะความดันที่เพิ่มสูงนั้นส่งผลให้คลัตช์ของคอมเพรสเซอร์มีความร้อนสูงเกินไป จึงทำให้เสียหาย
หรือน้ำยาแอร์ที่มีการปลอมปน ไปทำให้การทำงานของคอยล์เย็น และเอ็กซ์แพนชั่นวาล์วผิดปกติ ถ้าเป็นเรื่องนี้ อาจไม่ทำให้ความเสียหายเกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่ก็ส่งผลให้อุปกรณ์ต่างๆ ค่อยๆเสียหายและหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

เรื่องแอร์รถไม่เย็นนี่ นอกจากทำให้เดือดร้อนในขณะนั่งแล้ว ยังเพิ่มค่าใช้จ่ายอย่างไม่ควรเป็น ดังนั้น ควรหมั่นเช็คระบบแอร์อย่างสม่ำเสมอด้วย

*หมายเหตุ : หากใครมีข้อมูลเพิ่มเติม ช่วยชี้แนะทีครับ