ผู้เขียน หัวข้อ: รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จะมาเร็วกว่าที่คาดการณ์กันไว้  (อ่าน 7361 ครั้ง)

ออฟไลน์ moo36

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 194
บทวิเคราะห์น่าสนใจจาก Automotive news ครับ

http://www.autonews.com/article/20170730/OEM05/170739947/which-suppliers-will-survive-electric-era

2017 Honda Civic Turbo RS
2016 Volvo XC90 T8
2015 Volvo XC60 D4
2009 Toyota Estima Hybrid
1993 Bmw E36

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
เป็นการคาดเดาที่ไม่มีข้อมูลพื้นฐานใดๆ
แต่ว่าในความเป็นจริงก็คือ
ถ้าชัวร์ว่า EV, Hybrid คือ Next Era หรือยุคถัดไปชัวร์ๆ
ใครกระโดดลงมาช้าเกินไปก็จะเป็นผู้พ่ายแพ้ตกขบวนรถไฟได้ง่ายๆ
ในขณะที่ผู้ที่กระโดดลงมาเร็วเกินไปก็อาจจะต้องจ่ายก่อนหรือเสียเงินเปล่าๆ ไปก่อน
นี่เป็นหลักโดยธรรมาชาติ ซึ่งไม่ต้องรอ demand จากคนซื้อ
ผู้ผลิตก็ต้องเริ่มแข่งขันกันเอามันเข้ามา ใครเข้ามาก่อน แล้วขายได้ก็คือบูมได้เป็นเจ้าตลาดเต็มๆ
ยกตัวอย่างบ้านเรา
Toyota พยายามมาก่อนด้วย Prius แต่ก็ไปไม่รอด
นั่นก็ไม่ใช่ก้าวที่ผิดแต่อย่างใด เพียงแค่มันยังจุดไม่ติดเท่านั้น
ตามธรรมชาติทางธุรกิจ เดี๋ยวก็จะมีอะไรแหย่เข้ามาอีกเรื่อยๆ หวังฟลุคดังระเบิด
ต้องดู CHR, Note e-power จะกู้สถานการณ์ได้หรือไม่ 
ผมว่าหลังจากที่ Hybrid ไปรอดก่อน รถ EV ถึงจะค่อยๆ ตามมา
สำหรับตลาดไทยครับ คล้ายหลายๆ ประเทศครับ
แต่ประเทศที่จู่ๆ EV ก็มาบูมเลย อันนั้นรัฐบาลต้องดันและช่วยสุดๆ ครับ
ถึงจะมาได้เลย


ออฟไลน์ kenny523

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 801
บ้านเราดัดแปลงไปพลางๆก่อน

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,043
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,328
ก่อนมีรถไฟฟ้า ควรมองหาแหล่งพลังงานไฟฟ้าให้เพียงพอก่อนเถอะครับ

ไม่ใช่แห่ตามประเทศอื่นเค้าที่ เค้ามีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานพร้อมกว่าเรา

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,992
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
วันนี้ไปที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมาครับ รถผู้บริหารเป็น MB Class จอดเสียบปลั๊กชาร์ตเรียงกันเป็นตับเลยครับ
มีการทำปลั๊กไฟปกติไว้ด้านหลังใกล้ท้ายรถตอนจอดรถ เสียบชาร์ตแล้วดูสวยงามเป็นระเบียบมากครับ

ถัดไปก็มีสถานีชาร์ต เข้าใจว่าเป็นแบบชาร์ตเร็ว

ส่วนตัวผมก็เชื่อว่ามาแน่ครับ  แต่เมื่อไหร่นี่สิ น่าคิด  :-\ :-\ :-\
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ a601970

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 802
  • ประชาธิปไตย หัวใจคือประชาชน
ภาษาอังกฤษ อ่านไม่ออกครับ
 :P :P :P :P :P :P :P :P :P

ออฟไลน์ HappyCar

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 342
รอลุ้นให้รถ Hybrid และ EV บูมในตลาดบ้านเราเช่นกันครับ เช่นถ้า Nissan เอา Note e-power เข้ามาขายจริง ผมว่ายังไงก็มีคนซื้อแน่นอน เพราะเทคโนโลยีนี้ผมว่าเหมาะกับเมืองไทยมาก เพราะเป็นการเติมน้ำมันเพื่อใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน รวมถึงรถ Hybrid รุ่นอื่นๆถ้าศูนย์มีประกันแบตเตอรี่ให้ถึง10ปี ผมว่ายังไงก็ขายออกครับ

ทุกวันนี้ผมขับรถออกไปข้างนอกผมเจอรถ Hybrid บ่อยขึ้นทุกวันๆ ส่วนใหญ่ที่เจอจะเป็น Jazz Hybrid, Camry Hybrid กับ Prius อนาคตสัดส่วน%ของรถ Hybrid จะค่อยๆเพิ่มมากขึ้นเองแหล่ะครับ เพียงแต่ต้องใช้เวลาซักหน่อยในการปรับตัว

ออฟไลน์ lay

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,265
อันที่จริงรถปลั๊กอิน มันก็เหมาะสำหรับคนเมืองส่วนใหญ่นะครับ  ใช้วันละ50กม+-  มากกว่านั้นหรือเดินทางไกลก็เติมน้ำมัน  ก็เหลือเพียงแค่ราคาว่าจะมีผู้ผลิต  รายใดกล้าทุ่มทุนทุ่มตลาดให้มันขายได้เยอะๆ  ส่วนตัวผมเดาว่าน่าจะเป็นGM

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 24, 2017, 09:41:38 โดย Ivy Modernist »

ออฟไลน์ beercs

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 313
รถไฟฟ้าเพียว ๆ กับ hybrid มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันมาก
ผมไม่เคยมีความรู้สึกอยากซื้อรถ hybrid เลย  แต่ถ้าเป็นรถไฟฟ้าเพียว ๆ แบบเสียบปลั๊กชาร์ตไฟ  ถ้านำมาขายแล้วไม่แพงเกินไป  ผมว่ามันจะขายดีมาก ๆ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,043
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ
เห้อ ดังๆครับ

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
มาแบบ mass จริงๆ คงอีกนานครับ บ้านเราต้องตีกันก่อน เพื่อผลประโยชน์ของใครหลายๆคน

ออฟไลน์ flybigbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,564
รถไฮบริดบ้านเรายังไม่บูมเลย

ออฟไลน์ legion

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 252
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

ออฟไลน์ Wanz.st

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 45
    • อีเมล์
อันที่จริงรถปลั๊กอิน มันก็เหมาะสำหรับคนเมืองส่วนใหญ่นะครับ  ใช้วันละ50กม+-  มากกว่านั้นหรือเดินทางไกลก็เติมน้ำมัน  ก็เหลือเพียงแค่ราคาว่าจะมีผู้ผลิต  รายใดกล้าทุ่มทุนทุ่มตลาดให้มันขายได้เยอะๆ  ส่วนตัวผมเดาว่าน่าจะเป็นGM

ถ้าในอนาคตเพิ่มแบตได้ ก็น่าสนใจครับ
พอยุครถไฟฟ้ามาเต็ม ก็อัพเกรดแบต ไม่ต้องเปลี่ยนรถ

ออฟไลน์ Nouiii1

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 359
ราคาหละ จะแพงขนาดไหน ถ้าไม่จริงไจก็แพง

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

หมายถึงขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภคโดยตรงเลยครับ ตัวอย่างก็คือเหมือนวงการ energy  ในอังกฤษที่ privatisation ไปตั้งแต่ยุค Maggie T

ตอนนี้มีบ. พลังงานหลากหลายมากแข่งกันขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภค มี promo มาสู้กัน เช่น EDF Energy, British Gas, npower etc...

ไม่ใช่เหมือนเราที่ต้องมีแค่พวก Egat, นครหลวง ถึงขายไฟให้ประชาชนได้

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
มันก็มานะล่ะ ในไม่กี่ปีนี้ก็ได้เห็นเต็ม ๆ    ตอนนี้ก็เริ่มมีวิ่งกันแล้วล่ะรถที่หน่วยงานบางหน่วยงานเขาซื้อไป  ไหนจะรถบริจาคที่บริษัทรถเอาไปให้ทดลองใช้อีก  Nissan Leaf ก็มีเอามาวิ่งแล้ว         อีกไม่กี่ปีก็น่าจะมีขึ้นไลน์ผลิตบางรุ่นกันแต่จำนวนไม่เยอะปีนึงคงไม่กี่คัน   คงจะไปหวังจำนวนเป็นพันคันนะยยังไม่ใช่แน่นอน      ปัจจัยพื้นฐานมันยังไม่พร้อมเลยเรียกร้องจะเอาโน่นเอานี่มันถึงเวลาหรือยัง

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

หมายถึงขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภคโดยตรงเลยครับ ตัวอย่างก็คือเหมือนวงการ energy  ในอังกฤษที่ privatisation ไปตั้งแต่ยุค Maggie T

ตอนนี้มีบ. พลังงานหลากหลายมากแข่งกันขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภค มี promo มาสู้กัน เช่น EDF Energy, British Gas, npower etc...

ไม่ใช่เหมือนเราที่ต้องมีแค่พวก Egat, นครหลวง ถึงขายไฟให้ประชาชนได้

เข้าใจอะไรผิดป่าวครับ ...  Egat ผูกขาด ... การที่เค้าผูกขาดโดยมีรัฐฯควบคุม โดยรวมมันเป็นผลดีกับประชาชนมากกว่านะครับ เพราะอย่างน้อย มันก็ไม่แพงเกินควร หรือถ้ามันจะขึ้นราคา ก็ต้องขึ่นกับการพิจารณาของภาครัฐฯด้วย ..

อยากให้มีการแข่งขันเสรีหรอ ... ลองมอง ปตท ดูสิครับ .... หน่วยงานรัฐฯ ที่ถูกกระจายไปสู่ระบบเอกชน และมี กลุ่มพลังงานยี่ห้ออื่นมาแข่งขัน ... แล้วน้ำมันเรามันถูกลงไหมล่ะ ???? โดนฟันกำไรกันปีละเป็นหมื่นล้าน ... ถูกใจพี่หรอครับแบบนี้ ...

โรงไฟฟ้าที่มันไม่พอทุกวันนี้ ไม่ทราบว่า เคยอ่านข่าวอื่นบ้างไหม ว่าการสร้างโรงไฟฟ้า ถูกต่อต้านมาตลอด ไม่ว่าจะไปสร้างที่ไหน รูปแบบใด จนสุดท้ายเราก็ต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านแทนจนถึงทุกวันนี้ .....

---------------------

ส่วนเรื่องรถ EV ทุกวันนี้มันก็มาแล้วนะ ไม่ใช่ไม่มา แต่คนไทยไม่เหมาะหรอก ...ถามจริงเถอะ ถ้าเค้ามีขายจริงๆ จะซื้อกันจริงๆหรือเปล่า หรือแค่ตามกระแส ....
รถไฮบริจ ยังแหยงกันเลย ... แจ๊สไฮบริจ ทำออกมาขายราคา 7 แสนหน่อยๆ แถมมาในแบรนท์ของ Honda ด้วย ยังแป็ก ทั้งผ่อนดอก 0% แถมส่วนลดอีกเป็นแสน ยังไม่มีคนเอาเลย สุดท้ายก็ต้องยกเลิกไป

หลายๆคนบอกรัฐฯไม่สนับสนุน ...ผมว่าเค้าสนับสนุนแล้วนะ .. แต่เจ้าพ่อรถ EV อย่างเทสล่า เคยเอ่ยบอกบอกจะมาลงทุนในไทยไหมครับ ... เค้าไม่เคยพูดเลยนะ ...
ดังนั้น รัฐฯไม่ได้กีดกันไม่ให้มันเกิด แต่ ผู้ประกอบการรถ EV เองต่างหากที่ยังไม่พร้อม ...

MacH1

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

หมายถึงขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภคโดยตรงเลยครับ ตัวอย่างก็คือเหมือนวงการ energy  ในอังกฤษที่ privatisation ไปตั้งแต่ยุค Maggie T

ตอนนี้มีบ. พลังงานหลากหลายมากแข่งกันขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภค มี promo มาสู้กัน เช่น EDF Energy, British Gas, npower etc...

ไม่ใช่เหมือนเราที่ต้องมีแค่พวก Egat, นครหลวง ถึงขายไฟให้ประชาชนได้

เข้าใจอะไรผิดป่าวครับ ...  Egat ผูกขาด ... การที่เค้าผูกขาดโดยมีรัฐฯควบคุม โดยรวมมันเป็นผลดีกับประชาชนมากกว่านะครับ เพราะอย่างน้อย มันก็ไม่แพงเกินควร หรือถ้ามันจะขึ้นราคา ก็ต้องขึ่นกับการพิจารณาของภาครัฐฯด้วย ..

อยากให้มีการแข่งขันเสรีหรอ ... ลองมอง ปตท ดูสิครับ .... หน่วยงานรัฐฯ ที่ถูกกระจายไปสู่ระบบเอกชน และมี กลุ่มพลังงานยี่ห้ออื่นมาแข่งขัน ... แล้วน้ำมันเรามันถูกลงไหมล่ะ ???? โดนฟันกำไรกันปีละเป็นหมื่นล้าน ... ถูกใจพี่หรอครับแบบนี้ ...

โรงไฟฟ้าที่มันไม่พอทุกวันนี้ ไม่ทราบว่า เคยอ่านข่าวอื่นบ้างไหม ว่าการสร้างโรงไฟฟ้า ถูกต่อต้านมาตลอด ไม่ว่าจะไปสร้างที่ไหน รูปแบบใด จนสุดท้ายเราก็ต้องซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านแทนจนถึงทุกวันนี้ .....

---------------------

ส่วนเรื่องรถ EV ทุกวันนี้มันก็มาแล้วนะ ไม่ใช่ไม่มา แต่คนไทยไม่เหมาะหรอก ...ถามจริงเถอะ ถ้าเค้ามีขายจริงๆ จะซื้อกันจริงๆหรือเปล่า หรือแค่ตามกระแส ....
รถไฮบริจ ยังแหยงกันเลย ... แจ๊สไฮบริจ ทำออกมาขายราคา 7 แสนหน่อยๆ แถมมาในแบรนท์ของ Honda ด้วย ยังแป็ก ทั้งผ่อนดอก 0% แถมส่วนลดอีกเป็นแสน ยังไม่มีคนเอาเลย สุดท้ายก็ต้องยกเลิกไป

หลายๆคนบอกรัฐฯไม่สนับสนุน ...ผมว่าเค้าสนับสนุนแล้วนะ .. แต่เจ้าพ่อรถ EV อย่างเทสล่า เคยเอ่ยบอกบอกจะมาลงทุนในไทยไหมครับ ... เค้าไม่เคยพูดเลยนะ ...
ดังนั้น รัฐฯไม่ได้กีดกันไม่ให้มันเกิด แต่ ผู้ประกอบการรถ EV เองต่างหากที่ยังไม่พร้อม ...

"การที่เค้าผูกขาดโดยมีรัฐฯควบคุม โดยรวมมันเป็นผลดีกับประชาชนมากกว่านะครับ เพราะอย่างน้อย มันก็ไม่แพงเกินควร หรือถ้ามันจะขึ้นราคา ก็ต้องขึ่นกับการพิจารณาของภาครัฐฯ"
แล้วคุณแน่ใจได้ไงว่า Nationalisation แบบนี้มันดีกว่า ให้คนเดียวตั้งราคาเอง นโยบายออกมาเองทุกอย่าง ไม่ต้องมีการแข่งขัน เค้าประกาศโครมๆจะขึ้นค่าไฟฟ้าต่อเนื่องยาวไปถึงปีหน้า  ประชาชนมีอะไรแย้งได้ไหมครับ หรือต้องก้มหน้าก้มตาซื้อไฟกับเจ้าเดียวต่อไป? เพราะไม่มีตัวเลือกอื่นๆที่อาจทำราคาทำ promo ดีกว่า?

Privatisation v. Nationalisation

ในฐานะ liberal ที่เชื่อใน free market economy ผมเลือกอย่างแรกแบบไม่ต้องลังเลครับ

พวกไดโนเสาร์มีอยู่แค่ตรรกะเดียว...สมบัติของชาติ

ออฟไลน์ wanartit

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 29
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

หมายถึงขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภคโดยตรงเลยครับ ตัวอย่างก็คือเหมือนวงการ energy  ในอังกฤษที่ privatisation ไปตั้งแต่ยุค Maggie T

ตอนนี้มีบ. พลังงานหลากหลายมากแข่งกันขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภค มี promo มาสู้กัน เช่น EDF Energy, British Gas, npower etc...

ไม่ใช่เหมือนเราที่ต้องมีแค่พวก Egat, นครหลวง ถึงขายไฟให้ประชาชนได้

ผมอยู่ กฟภ นี่แอบสดุ้งไปด้วยเลยนะครับเนี่ย คืออยากให้มองรอบๆด้านด้วยครับไม่ใช่ตั้งแง่ว่าอะไรก็ไดโนเสาร์นอกจากเหตุผลเรื่องการควบคุมค่าไฟไม่ให้แพงเกินไปแล้วตามที่ คห.อื่บอกไปแล้ว
ยังมีเรื่องการขยายระบบจำหน่ายด้วยนะครับ ในที่ห่างไกลอย่างต่างอำเภอหรือตำบลไกลๆเนี่ยบางที่ กฟภ ก็ขยายเขตเข้าไปให้นะครับหลายๆที่ขาดทุนด้วย แต่ก็ต้องยอมถ้าจะให้แปรรูปผมในฐานะ
พนักงานรุ่นใหม่ก็ยอมนะครับเหมือน ปตท ไปเลยภารกิจองค์กรคือแสวงหากำไรเต็มรูปแบบ รายได้มากขึ้นสวัสดิการกับเงินเดือนก็ดีขึ้น สบายเลยทีนี้

ออฟไลน์ Dark Overlord

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,804
  • Hail to the darkside
สำหรับบ้านเรา ถ้ายังแก้เรื่องโรงไฟฟ้าไม่ตก รถไฟฟ้าในสเกลตลาดหลักไม่ต้องคิดเลย (และไม่คิดว่าบ้านเราจะแก้เรื่องโรงไฟฟ้าได้ใน 10-15 ปีแน่ๆ)  :'(

ปัญหามันมาจาก ความ ineffiency แะลความต้องการผูกขาดของพวก รัฐวิสาหกิจครับ วิธีแก้คือ privatization ถึงเวลาที่เอกชนน่าจะได้มีส่วนรวมในอุตสาหกรรมนี้ได้แล้ว มันจะเกิดการแข่งขัน productivity สูงกว่าเดิม ผู้บริโภคมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น

แบบ พวกไดโนเสาร์ 4.0 ผูกขาดกันนี้ ไม่มีทางเจริญครับ

ผูกขาดยังไงครับ โรงไฟฟ้าเอกชนเยอะแยะ เปิดให้คนทั่วไปซื้อหุ้นก็ยังได้

หมายถึงขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภคโดยตรงเลยครับ ตัวอย่างก็คือเหมือนวงการ energy  ในอังกฤษที่ privatisation ไปตั้งแต่ยุค Maggie T

ตอนนี้มีบ. พลังงานหลากหลายมากแข่งกันขายไฟฟ้าให้ผู้บริโภค มี promo มาสู้กัน เช่น EDF Energy, British Gas, npower etc...

ไม่ใช่เหมือนเราที่ต้องมีแค่พวก Egat, นครหลวง ถึงขายไฟให้ประชาชนได้

ผมอยู่ กฟภ นี่แอบสดุ้งไปด้วยเลยนะครับเนี่ย คืออยากให้มองรอบๆด้านด้วยครับไม่ใช่ตั้งแง่ว่าอะไรก็ไดโนเสาร์นอกจากเหตุผลเรื่องการควบคุมค่าไฟไม่ให้แพงเกินไปแล้วตามที่ คห.อื่บอกไปแล้ว
ยังมีเรื่องการขยายระบบจำหน่ายด้วยนะครับ ในที่ห่างไกลอย่างต่างอำเภอหรือตำบลไกลๆเนี่ยบางที่ กฟภ ก็ขยายเขตเข้าไปให้นะครับหลายๆที่ขาดทุนด้วย แต่ก็ต้องยอมถ้าจะให้แปรรูปผมในฐานะ
พนักงานรุ่นใหม่ก็ยอมนะครับเหมือน ปตท ไปเลยภารกิจองค์กรคือแสวงหากำไรเต็มรูปแบบ รายได้มากขึ้นสวัสดิการกับเงินเดือนก็ดีขึ้น สบายเลยทีนี้

ทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย มีเหรียญสองด้านเสมอครับ
องค์กรที่ถูกให้แปรรูปก็มีข้อดีเยอะ ข้อเสียก็มี
องค์กรที่ไม่ให้แปรรูปก็เหมือนกัน มีทั้งข้อดี แต่ข้อเสียก็มี
อยู่ที่เราจะเลือกแบบไหนครับ

เอาว่าถ้าแปรรูปการไฟฟ้าแบบ ปตท. การไฟฟ้าก็จะมีเงินเยอะขึ้น รวยขึ้น
ไม่ต๊อกต๋อยว่างั้น โอกาสขยับขยายก็เยอะ มีความเจริญรุ่งเรือง แต่อาจจะ
ดูเหมือนเรานั่งมองเขารวยเอาๆ เราไม่ได้อะไร ที่จริงเราก็ได้ เราได้การบริหารจัดการ
ที่มีประสิทธิภาพ อย่างที่ควรจะเป็น
ส่วนราคาค่าน้ำมัน ผมว่าเขาก็คุมอยู่นะ ไม่ได้แพงเว่อร์อะไรแบบนั้น
ค่าไฟผมก็เชื่อว่าจะแพงขึ้นแต่ก็ไม่แพงเว่อร์ เพราะมี ปตท. เป็นรูปแบบนำมาอยู่แล้ว
พักเรื่องแปรรูปไม่แปรรูปไว้ก่อน

เรื่องพลังงานไฟฟ้า ผมว่าประเทศอื่นก็ใช้กันไม่พอเหมือนกันนะ
แม้แต่จีนที่จะเป็นเจ้าแห่งรถไฟฟ้า เขาก็ยังหาไม่พอ คือเขาสัญญาว่าจะไม่ใช้
พลังไฟฟ้าจากถ่านหิน แต่ท้ายที่สุดเขาก็ทำไม่ได้ แล้วก็อาจจะต้องกลับมาพิจารณา
พลังงานนิวเคลียร์อีกด้วย ผมคิดว่าทุกประเทศมีปัญหาคล้ายๆ กัน ไม่ใช่ประเทศเรา
ที่เดียวที่มีปัญหาไฟฟ้าจะไม่พอจะให้รถไฟฟ้าวิ่ง
การใช้พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ก็ทำได้ แต่ต้องใช้เงินปริมาณมหาศาล
ดังนั้นผมว่ามันขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการล้วนๆ ในเรื่องเงินๆ ทองๆ แต่มันไม่ใช่
ทางตันที่ว่าเราจะไม่สามารถมีรถไฟฟ้าไว้ใช้ได้เลย เนื่องจากเรามีวิกฤตพลังงาน
เพราะใครๆ ก็เจอวิกฤตนี้ทั้งนั้น


ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,043
ถ้าเรายังไม่ปลดล็อค โรงไฟฟ้าถ่านหิน และ นิวเคลียร์ ... ปัญหาเราหนักกว่าหลายประเทศเยอะครับ

ทั้งลม และ แสงอาทิตย์ มีข้อจำกัดที่ไม่ชอบพูดกันคือ
1มันไม่สามารถติดตั้งได้ทุกที่ (คือ หลายพื้นที่ไม่เหมาะ ติดได้ แต่ผลไม่ดี) ยิ่งแผงโซล่านี่เจออากาศร้อนๆเข้า efficiency ก็ตกอีก
2 มันเปลืองพื้นที่ ในประเทศแบบอเมริกาหรือจีน ที่ มี wasteland และทะเลทราย เค้าสามารถใช้พื้นที่พวกนั้นได้ แต่เราไม่มีพื้นที่แบบนั้น

ไม่ได้บอกว่าเราไม่ควรใช้พลังงานพวกนั้นนะครับ แต่มันไม่เพียงพอ เราต้องใช้รูปแบบการผลิตไฟฟ้าที่เพียงพอต่อความต้องการของเราครับ

ปล. พูดแล้วนึกถึง ethanol .. ถ้าจะเปลี่ยนมาใช้ E85/E100 บ้านเราก็ไม่มีวัตถุดิบจะมาผลิต ethanol ได้มากพออีกนั่นแหละ ประเทศ ที่ เค้า ทำ ได้ เพราะเรามีปริมาณการใช้น้ำมันต่อพื้นที่เพาะปลูกเหมาะสม ... ซึ่ง จะ ว่า ไป โรงไฟฟ้าชีวะมวล ก็น่าจะติดข้อจำกัดคล้ายๆกัน