อยากขอคำปรึกษาจากทุกท่าน ตามนี้ครับ
- ปกติแล้ว ช่อง OBD2 มันจ่ายกระแสไฟตลอดแม้ดับเครื่องรึป่าวครับ? และรถแต่ละรุ่นจ่ายไฟมากน้อยไม่เท่ากันใช่หรือไม่?
- ใครเคยมีปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่เสียบ OBD2 กินไฟจนแบ็ตฯรถหมดบ้าง? เช่น พวกเกจ์วัดต่างๆที่เสียบ OBD2 เพื่อแสดงค่าออกมา หรือ อุปกรณ์เสริมต่างๆ
- หากเสียบสาย Y-Cable เพื่อแยกช่อง OBD2 ออกมาเป็น 2 ช่อง โดยเสียบอุปกรณ์แค่ช่องเดียว อีกช่องปล่อยว่างไว้ จะทำให้ไฟในรถถูกจ่ายออกมามากเกินไปจนทำให้แบ็ตฯหมดในระยะเวลาสั้นๆมั้ย?
- จากเรื่องสาย Y-Cable ของข้อก่อนหน้า หากผมใช้อุปกรณ์ 2 ตัวพร้อมกัน จะมีการดึงไฟซึ่งกันและกันของอุปกรณ์มั้ยครับ? มีใครเคยลองบ้าง?
- ปัญหาอื่นๆจากการพ่วงอุปกรณ์จากช่อง OBD2 มีใครเคยเจออะไรมาบ้างมั้ยครับ?
เรื่องของเรื่องคือ รถเป็น Benz W204 เครื่อง M271 CGI ไปใส่เกจ์วัดที่แสดงค่าผ่าน OBD2 มา โดยใช้สาย Y-Cable แยกออกมาเป็น 2 ช่อง ช่องนึงเสียบเกจ์ อีกช่องนึงปล่อยว่างไว้ แล้วรถมีอาการแบ็ตฯหมดภายในระยะเวลาสั้นๆ ลองเปลี่ยนแบ็ตฯใหม่แล้วก็ไม่หาย (ดีขึ้นแต่ไม่หายสนิท รถยังมีอาการที่แสดงให้เห็นว่ามีการกินไฟตลอดแม้จะดับเครื่องและดึงกุญแจออก หรือแม้แต่ล็อครถอยู่ เช่น เปิดประตูรถครั้งแรกไฟในเก๋งไม่ติด ต้องเปิดครั้งที่สอง หรือ จอ Command ไม่ติดหลังจากสตาร์ทรถ ต้องมากด On เอง เป็นต้น)
ผมพอจะทราบว่าเกจ์เป็นตัวการของปัญหานี้ แต่เท่าที่สอบถามทั้งคนขายและคนอื่นๆที่ใช้ (ในรถรุ่นอื่น ส่วนใหญ่เป็นรถญี่ปุ่น) เค้ากลับไม่มีปัญหานี้กัน ผมเลยสงสัยว่ามันเป็นเพราะรถรุ่นนี้จะจ่ายไฟอย่างเต็มที่ให้กับอุปกรณ์ OBD2 ที่มาพ่วงตลอดเวลารึป่าว? หรือ เพราะสาย Y-Cable ที่ทำให้มีปัญหานี้? เพราะถ้าจะบอกว่าเกจ์มันกินไฟมากเกินไปมันก็ควรจะเกิดขึ้นกับรถคันอื่นๆด้วย และเกจ์นี้ไม่ได้เพิ่งมาขายในไทย แต่ขายมาเป็นปีๆแล้ว เชื่อว่าต้องมีหลักเป็นร้อยคันที่ติดตั้งเกจ์นี้
เลยอยากมาขอคำปรึกษาเผื่อมีท่านใดเคยเจอเหมือนกัน หรือ มีข้อแนะนำอื่นๆในการแก้ปัญหานี้
ขอบคุณครับ