ผู้เขียน หัวข้อ: สงสัยเกี่ยวกับรถรุ่นเดียวกันระหว่างเกียร์ธรรมดากับออโต้  (อ่าน 5603 ครั้ง)

ออฟไลน์ Peter Wen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 384
รบกวนสอบถามท่านผู้รู้หน่อยครับ ในรถรุ่นเดียวกันระหว่างเกียร์ธรรมดากับออโต้ เวลาวิ่งที่ความเร็วเท่ากัน เครื่องยนต์ของคันไหนจะสึกหรอมากกว่ากัน, น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วกว่ากัน และจะมีผลในระยะยาวอย่างไรต่อเครื่องยนต์
ยกตัวอย่างเช่นAltis1.6 ที่ความเร็ว 120 km/h
- รุ่นเกียร์ CVT ที่เกียร์สูงสุดใช้รอบเครื่องยนต์ประมาณ 2,200 rpm
- รุ่นเกียร์ 6MT ที่เกียร์สูงสุดใช้รอบเครื่องยนต์ประมาณ 3,200 rpm

ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันถึง 1000 rpm ในระยะยาวเครื่องยนต์คันไหนจะอยู่ยงคงกระพันกว่ากัน อะไหล่สิ้นเปลืองตัวไหนของเครื่องยนต์จะต้องเปลี่ยนบ่อยกว่ากัน (ยกตัวอย่างเช่น หัวเทียน)

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบที่ให้ความรู้ครับ
長樂.文

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
ถ้าเครื่องยนตร์ไม่มีการปรับแต่งอะไร ไม่มีผลอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นครับ เครื่องยนตร์ถ้าไม่ได้ปรับแต่งอะไรและไม่ได้ขับโดยเกินเรดไลน์เครื่องยนตร์ทนเรื่องแค่นี้ได้สบายๆ ยิ่งเป็นโตโยต้า

ออนไลน์ Peet Sayumpoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,002
ใช้รอบมากกว่าย่อมสึกหรอมากกว่าเป็นธรรมดาครับ อย่างกรณีที่ จขกท ถามมา ผมก็ต้องบอกว่ารุ่นเกียร์ธรรมดาสึกหรอเร็วกว่าในการวิ่งเดินทางไกลครับ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น กว่าจะถึงจุดที่วัดได้ขนาดนั้นจริงๆ ท่านอาจใช้รถคันนั้นจนเบื่อไปแล้วเสียก่อนครับ ฮร่าๆ

แต่ถ้าประเด็นมันเกี่ยวกับแค่ระบบเกียร์ออโต้ VS ธรรมดา ถ้าจะให้แฟร์จริงๆ ต้องเทียบกับอัตราทดที่เท่ากันครับ
ซึ่งมันมีรถน้อยรุ่นมากๆที่ทดรุ่นเกียร์ MT กับ AT มาเท่ากัน แต่ผมจะพูดถึงให้ฟังเฉยๆแล้วกันครับ
ถ้าเกียร์ทั้ง 2 ระบบทดเท่ากันเลย ต้องบอกว่ารุ่นเกียร์ออโต้ เครื่องจะทำงานหนักกว่าหน่อยครับ เพราะกลไกข้างในของออโต้
มันมีกลไกเยอะกว่า ซับซ้อนกว่า ก็=แรงเสียดทานในระบบมากกว่า=>>แรงม้าตกถึงล้อน้อยกว่า=>>กดคันเร่งมากกว่าเพื่อให้ได้ความเร็วเท่ากัน
ข้อนี้สามารถสังเกตุได้จากรถรุ่นเดียวกันที่เกียร์ออโต้กับธรรมดาทดพอๆกันหรือไล่เลี่ยกัน เราจะเห็นตลอดว่า
รุ่นเกียร์ธรรมดานั้นจะสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่าเสมอ รวมถึงความเร็วสูงสุดที่เกียร์ธรรมดาจะทำได้ดีกว่าด้วย (ถ้ารถรุ่นนั้นไม่ล็อคความเร็วไปเสียก่อน)
ขนาดว่ารถบางรุ่นรุ่นเกียร์ออโต้ทดต่ำกว่าเกียร์ธรรมดาหน่อยๆแต่ก็ยังกินกว่าเกียร์ธรรมดาก็มีครับ
รถเกียร์ออโต้ ถ้าจะให้วิ่งยาวๆประหยัดกว่าเกียร์ธรรมดาก็ต้องทดต่ำกว่าเยอะๆเลยอะครับ
เช่นรอบต้องต่ำกว่าเกียร์ธรรมดา 400 rpm ที่ความเร็ว 100 kph เป็นต้นอะครับ
อันนี้ผมประมาณการจากที่เคยสังเกตุน่ะครับ อาจไม่ถูกต้องเสมอไปครับ. 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2017, 14:20:29 โดย Peet Sayumpoo »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เกียรธรรมดารอบสูงกว่า แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เครื่องมันไม่ได้พังง่ายๆแค่เพราะแช่รอบสูงๆ
เวลาเค้าทดสอบรถ เครื่องเบนซินเค้าลากกัน 6 พันรอบ ค้างไว้เป็นวัน
ลองดูในบทความของคุณแพน เรื่องซีวิค 1.5 โบ ได้ครับ ว่ามันทดสอบโหดขนาดไหน

ดังนั้น รอบสูงเพราะเกียรธรรมดา ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ชิวๆ

ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
ก็แปลว่ารถบ้านๆขับกดบ้างช้าบ้างไม่ได้เอาไปโมเพิ่ม  ดูแลตามระยะคงไม่พังง่ายๆแน่นอนใช่ไหมครับ
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ก็แปลว่ารถบ้านๆขับกดบ้างช้าบ้างไม่ได้เอาไปโมเพิ่ม  ดูแลตามระยะคงไม่พังง่ายๆแน่นอนใช่ไหมครับ

สำคัญคือต้องได้อุณหภูมิใช้งานที่เหมาะสมและน้ำมันเครื่องเกรดดีพอประมาณครับ

ใช้งาน 3-4 แสนโล เป็นเรื่องชิวๆครับ
รถยาริสที่บ้านผม 9 ปี กับ 2 แสนกว่าโล ใช้นมค กึ่งสังเคราะห์ของศูนย์มาตลอด
บอกเลยว่า เติมน้ำมันแล้วขับอย่างเดียวครับ ถึงระยะก็เอาเข้าศูนย์ ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย

ส่วนไอ้พวกคอย์จุดระเบิด หัวเทียน สายพาน ผมถือเป็นอะไหล่สิ้นเปลือง มันพังตามอายุอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
รอบ แรงบิด และอุณหภูมิครับ

รถเกียร์ออโต้ มันต้องออกแรงเหวี่ยงมากกว่าที่รอบเท่ากับเกียร์ธรรมดาเพราะพ่วงTorque Converter เป็นโหลดไว้ เป็นตุ้มน้ำหนัดที่มีแรงเหวี่ยงมากกว่า

บวกกับEffieciency ที่จะถ่ายลงFlywheel ไปถึงล้อ เกียร์ออโต้มันด้อยกว่า อย่างน้อยๆ 20% โดยเฉลี่ยของการใช้งาน

อุณหภูมิสะสมของเกียร์ออโต้ก็มากกว่า พาเอาให้เกิดภาระในระบบหล่อเย็นมากกว่า พัดลมทำงานหนักก็กินไฟจากไดชาร์จมาก เครื่องก็ต้องออกแรงหมุนไดชาร์จมากไปอีก

ทำให้รวมๆ เกียร์ออโต้มันจะทำให้เครื่องสึกหรอกว่า เพราะแรงกดบนผนังสูบ ข้อเหวี่ยง piston bearing, crankshaft bearing ออกแรงมากกว่าครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2017, 19:47:01 โดย 3eL JaE »

ออฟไลน์ nuntapon.s

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,910
    • อีเมล์
ถ้าดูที่เครื่อง(อย่างเดียว)ก็ต้องวัดกันที่รอบแหละครับ 

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,338
อย่าดูที่รอบอย่างเดียวครับ รอบต่ำไม่ใช่ว่าจะสึกหรอน้อยนะครับ

ยกตัวอย่างนะครับ รีโว่6 เกียร์ วิ่งที่ความเร็ว 90 เกียร์5 เทียบกับเกียร์ 6 พบว่าอุณหภูมิตอนขับที่เกียร์6สูงกวว่า เพราะรอบน่าจะต่ำเกินไป เทียบกับแรงบิดครับ
และเกียร์6ใช้ load เครื่องมากกว่า

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
รอบสูงไม่ได้แปลว่าจะพังเร็ว
กลับกันรอบต่ำกว่า ก็ไม่ได้แปลว่าจะพังช้ากว่าเหมือนกัน

ถึงเกียร์กระปุกจะรอบสูงกว่า แต่กดคันเร่งน้อยกว่า โหลดเครื่องน้อยกว่า
แต่เกียร์ออโต้จะรักษาความเร็วต้องกดลึกกว่า โหลดเครื่องจึงมีมากกว่า
 
รถยุคก่อนวิ่งแช่ 3 - 4000 รอบ หรือราวๆ 100 - 120 กม/ชม เป็นประจำแต่ก็ยังไม่เห็นพังครับ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
 8) 8) 8)....รถเกียร์ A/T แบบใดก็ตามที่ใช้ Torque Converter ช่วยรับภาระในการถ่ายกำลังจากข้อเหวี่ยงเครื่องผ่านไปขับเกียร์ การสึกหรอทั้งเครื่องยนต์และเกียร์ออโตฯ จะสึกหรอต่ำกว่าเครื่อง dragging ตรงกับเกียร์ M/T  :-X