ส่วนตัวผม ว่าเราควรมองภาพรวม อย่างคุณ G.K มากกว่าจะคิดแค่เรื่องตัวเองนะครับ
เพราะ อุตสาหกรรมรถยนต์ ค่อนข้างมีความสำคัญกับไทยพอควร จากปี 2559 ขนาดอุตสาหกรรมยานยนต์มีมูลค่าประมาณ 920,000 ล้านบาท เป็นประมาณการ 12% ของมูลค่าการส่งออก และคิดเป็นประมาณ การ 6.5% ของ GDP
ในขณะที่ปี 2559 GDP เมืองไทยเท่ากับ 407 Billions $ หรือประมาณ 14 ล้านล้านบาท
ประมาณการปี 2560 GDP ไทยคาดการณ์ประมาณ 450 Billions$ หรือประมาณ 15 ล้านล้านบาท
โดยในปี 2558 มีสถิติมีแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั้งหมดประมาณ 519,000 คน
แต่แนวโน้มจากการใช้หุ่นยนต์ และการปรับปรุงขบวนการผลิต ก็ทำให้การขยายตัวอาจมีไม่มากนัก และอาจลดลงด้วยในอนาคต
และ อุตสาหกรรมรถยนต์ในตลาดโลกดูเหมือน การผลิตรถยนต์สันดาปภายใน ในอีก 10 ปีข้างหน้าจะลดลงและและจะกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ซึ่งมีการใช้ชิ้นส่วนที่ลดลงจากเดิมอาจถึง 10 เท่าด้วยซ้ำซึ่ง
ข้อมูลอันนี้ผมคาดการณ์เองนครับ
ซึ่งถ้าเราสามารถจะมีสร้างอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าได้ ซึ่งอาจจะรองรับแรงงานได้ในระดับ 100,000-150,000 คน
ในขณะที่ระหว่างในอีก 10 ปีข้างหน้า ผมก็คาดการณ์ว่า คนในอุตสาหกรรมรยนต์สันดาปภายใน ถ้าประเทศเรามีอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าอยู่ด้วย เหลืออยู่ราวๆ 250,000-300,000 คนได้ รวมกับคนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า จะช่วยให้มีแรงงานในอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่ในระดับ 400,000 คนได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า
แต่ในทางกลับกันถ้าเราไม่มีอุตสาหกรรมรถยนต์ บริษัทรถยนต์คงไม่เพิ่มการลงทุนในไทยเพิ่มแถมอาจจะทยอยย้ายออกไป จนในอีก 10 ปีข้างหน้าคนในอุคสาหกรรมรถยนต์อาจเหลือแค่ 150,000-200,000 คนเท่านั้น
จะเห็นว่า จำนวนงานลดลงไปจากอุตสาหกรรม นี้หายไป 200,000 คนขึ้นซึ่งไม่น้อยเลย
ยิ่งแนวโน้มจะพบว่า การว่าจ้างแรงงานจะลดลง จากการที่มี Technology IT, จะถูกนำมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยลดจำนวนแรงงานไปได้อีกจำนวนมาก หมายถึง งานแบบเดิมๆจะน้อยลง เพราะถูกแทนที่ด้วย ระบบการจัดการ ขบวนการ,หุ่นยนต์, AI หรืออื่นๆอีกมาในอนาคตที่จะมาถึงนี้
ดังนั้นถ้าอุตสาหกรรมรถยนต์ผมมองว่าสำคัญ และจะส่งกระทบกับสังคมไทยนะ งั้นเราๆและภาครัฐ จะต้องลงทุนขนาดไหน เพื่อจะหาอุตสาหกรรม เพื่อจะชดเชย อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ช่วยจ้างงานจำนวนมากในสังคมไทย ที่มีอยู่ในเมืองไทยณวันนี้ (จริงๆทำได้และควรรีบทำที่จะส่งเสริม นวตกรรม, SME, การค้าขาย ขนส่ง และอื่นๆเช่น สมุนไพร) แต่มันจะทันไหมนะครับ
แต่ถ้ารัฐแก้ปัญหาให้อุตสากรรมรถไฟฟ้าเกิดในไทยจริง มันก็จะดีกว่า ไหม ผมก็ไม่รู่จริงๆ จะแก้ไงกับปัญหานี้
เพราะอย่างแนวคิดส่งเสริมง่าย เช่นอาจจะมีนโยบายกระตุ้น รถยนต์ไฟฟ้าทีผลิตในประเทศ เช่น 10 ปี แรก อาจจะเอา เงินที่จ่ายซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศไปลดหย่อนภาษีได้ แต่แบบนี้รัฐก็จะสุญเสียรายได้อีกมากนะครับ ซึ่งผมก็คิดว่าแนวคิดง่ายแบบนี้เป็นการสร้างปัญหามากกว่า
แต่ยังคิดจะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ FTA กับจีน ที่ไปทำไว้ตั้งแต่ปี 2547 ด้วยความไม่รู้ หรือ ความด้อยวิสัยทัศน์ โดยไม่มองว่ารถไฟฟ้าคืออะไร
จริงถ้าจะอนุญาต รถไฟฟ้าจะให้เป็น 0% ผมไม่ว่านะแต่ควรมีกำหนดหลักเกณฑ์เพิมเติมเช่นมีขนาดแบตเตอรี่ ไม่เกิน 20kWh หรือ มีกำลังเครื่องยนต์ไม่เกิน 3 kW แบบทำนองนี้เป็นต้นก็จะไม่ทำให้เกิดปัญหาแบบ ที่น่าจะมาทำให้แม้กระทั้งผมชาวบ้านๆธรรมดา ยังรู้สึกเป็นห่วงอนาคตของแรงงานนับแสนในไทยเลยนะครับ