ผมขออนุญาตตอบทีละข้อเลยนะครับ
1. เกียร์ของคันนี้เท่าที่ทราบ เป็นคนละตัวกับใน T6 มันยังเปราะเหมือนกันมั้ยครับ D5 เป็น 6 speed ส่วน T6 เป็น 5 speedเกียร์ที่มีปัญหามากของรุ่น XC90 จะมีในรุ่น T6 ครับ ซึ่งตอนนั้นในรุ่น T6 นี้ทาง Volvo ได้ให้บริษัท GM ทำเกียร์ให้ ปัญหาก็คือ เครื่อง T6 นี้ เป็นเครื่อง 6 สูบแถวเรียงจับมาวางขวางเครื่องแรกของโลกครับ(ปกติ 6 สูบวางขวางจะเป็น V Twin) ดังนั้นเมื่อ Volvo ส่งให้ GM ออกแบบเกียร์ ด้วยเครื่อง 6 สูบแถวเรียงวางขวาง ทำให้เหลือเนื้อที่เป็นห้องเกียร์ค่อนข้างจำกัด เป็นการบ้านหนักที่ทาง GM ต้องออกแบบเกียร์ลูกเล็กมาใส่ในเนื้อที่จำกัด ที่สำคัญต้องรับแรงม้าของเครื่อง T6 ซึ่งเป็นเครื่อง Twin Turbo แรงม้าสูงถึง 272 แรงม้า แรงบิดถึง 380 นิวตัน GM ทำให้มาในชื่อรุ่น GM4T65 เลยส่งผลให้เกียร์ของ GM ในรุ่นนี้(GM4T65) ก่อปัญหาอย่างมากมาย จนเป็นที่เข็ดขยาดมากสำหรับ XC90 T6 ในช่วงนั้นผมก็ไม่ทราบว่าทำไม Volvo ถึงให้ GM ออกแบบเกียร์ ทั้งๆที่ปกติก็ใช้เกียร์ของ Aisin มาตลอดจนปัจจุบัน ซึ่งไม่เคยก่อปัญหาใดๆเลย....มาเข้าเรื่องเจ้า XC90 D5 ปี 09 10 นะครับ เจ้าตัวนี้กลับมาใช้เกียร์ของ Aisin ปกติแล้ว เป็นรุ่น AW TF-80SC ซึ่งเป็นเกียร์ตัวเดียวกับ XC60 และอีกหลายๆรุ่น ช่วงก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น 8 สปีด ( ยกเว้นรุ่นที่ใช้เครื่องที่ออกแบบร่วมกับฟอร์ด นะครับ) ดังนั้นเกียร์ของ Aisin ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรนะครับ ใช้กันมายาวนานก็ยังปกติกันดี ไม่เป็นเด็กเจ้าปัญหาเหมือนเกียร์ GM4T65 ใน T6 ครับ
2. ชุดขับเคลื่อน 4 ล้อของตัวนี้ที่ใช้ hydraulic ในการบังคับการส่งกำลังไปที่ล้อ มันทนทานแค่ไหนครับ แล้วถ้าเสีย ซ่อมกันได้มั้ยครับระบบขับ 4 ของ XC90 D5 เท่าที่ผ่านมายังไม่เห็นได้ยินใครบ่นอะไรที่หนักๆนะครับ ค่อนข้างทนทีเดียวครับ อย่างมากก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มุม ตัวที่ส่งกำลังไปเพลาหลังตามระยะ เท่าที่เพื่อนๆผมใช้มาก็ไม่มีอะไรให้ปวดหัวนะครับ ในกลุ่มเพื่อนๆที่ใช้ XC70 ขับ 4 เหมือนกันระบบคล้ายกันมาก ก็ยังไม่มีปัญหาหนักใดๆ มีแต่เรื่องซ่อมบำรุงธรรมดา ถ้าหนักจริงๆบางคนเปลี่ยนเพลาส่งกำลังไปหลังทั้งเส้นก็ยกมือ 2 ใส่ เดี๋ยวนี้ของมือ 2 Volvo มีเยอะมากครับ จะไปเดินหาเองตามเชียงกงก็เยอะ หรือ ในกลุ่มคนใช้ Volvo ก็มีน้องๆที่เอาของ Volvo เข้ามาเองโดยเฉพาะหลายท่านครับ มีให้เลือกแบบรถญี่ปุ่นครับ อย่างเกียร์บางคันถึงอายุที่ต้องโอเวอร์ฮอลตามระยะ ไม่อยากทำ ยกมือ 2 ใส่ทั้งลูกก็มีให้เลือกเยอะแยะครับ เดี๋ยวนี้อะไหล่มือ 2 Volvo เยอะทีเดียวครับ ส่วนรายละเอียดเรื่องอะไหล่ เดี๋ยวผมไปตอบข้อที่ถามอีกทีครับ
3. แรคพวงมาลัย น่าจะเป็นแบบมีตัวช่วยผ่อนแรง ตัวนี้เป็นแรคไฟฟ้าแล้วหรือยังครับ ถ้าใช่ พอจะซ่อมได้หรือยังครับ หรือว่าต้องเปลี่ยนใหม่อย่างเดียวสำหรับ XC90 D5 ตัวนี้ผมว่าน่าจะใช้พวงมาลัยระบบเดิม ยังไม่ใช่ไฟฟ้านะครับ เป็นแร็คฯชุดเดิมที่ใช้ใน XC90 ทุกรุ่นครับ ซ่อมกันได้ปกติครับสำหรับแร็คฯรุ่นนี้ มีชุดซ่อมขาย อู่ซ่อม Volvo รับซ่อมแร็คฯอยู่แล้วครับ คันเก่าๆผมอย่าง S70 T5 ปี 97 ผมก็ซ่อมแร็คฯมา ใช้อีก 2 ปี จนขายรถในปี 2012 พวงมาลัยก็ปกติยังดีไม่มีปัญหาครับ ระบบพวงมาลัย Volvo ซ่อมได้เหมือนรถญี่ปุ่นครับผม
4. เรื่อง Turbo ระบบ Common rail และส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ สำหรับรุ่น D5 มีใช้มาหลายรุ่นแล้ว มีปัญหาอะไรบ้างมั้ยครับ หลังจากผ่านหลักแสนกิโลขึ้นไปครับ หรือมีอะไรจุกจิกมั้ยครับเรื่องระบบ Turbo ไม่มีปัญหาใดๆนะครับ เพราะมีชุดซ่อม พวกแหวนต่างๆ รื้ออกมาล้าง เปลี่ยนแหวน โอริงทองแดง ครบทุกตัวราคาไม่แพงครับ ทำกันง่ายๆไม่มีปัญหาใดๆครับ สำหรับเครื่องดีเซล Common Rail เท่าที่ผมเคยคลุกคลีที่อู่ที่ผมเคยซ่อมประจำตอนที่ใช้คันเก่าๆ ก็ไม่เคยเห็น XC90 D5 หรือ XC60 D5 หรือ S80 D5 ที่เครื่องเดียวกัน มาซ่อมแบบหนักใดๆนะครับ มีมาซ่อมบำรุงปกติ กับ มาซ่อมระบบช่วงล่างตามอายุมากกว่าครับ
5. พวกระบบเกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งหลาย ทั้งเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนและระบบอื่นๆ เช่น กล่องควบคุม ABS EBD ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ เป็นต้น มีจุกจิกๆมั้ยครับระบบไฟฟ้าไม่มีปัญหานะครับ สำหรับ Volvo เท่าที่ประสบการณ์ที่คนใช้ Volvo มาจะรู้ และได้ยินเสมอว่า กล่อง ABS ที่มักจะมีปัญหา และซ่อมไม่ได้ ซ่อมได้ก็ไม่จบ ของ Volvo มีรุ่นเดียวคือ S40 ปี 97 99 ครับ(รุ่นที่ใช้ Platform เดียวกับ มิตซูบิชิ คาริสม่า ครับ ช่วงปีนั้นในยุโรปบริษัทผลิตรถจะร่วมกันในระบบสหกรณ์ แลกเปลี่ยนกัน) ที่ค่อนข้างมีปัญหามากๆ แต่รุ่นอื่นๆของ Volvo ไม่เคยมีปัญหาหนักเลยนะครับ บางคันในบางรุ่นมี ก็ซ่อมได้ครับ ผมยังเคยรื้อกล่อง ABS ของ S60 2.3T ปี 01 มาซ่อมกับน้องเจ้าของรถเลยครับ พอดีน้องเขาเก่งอิเลคทรอนิคส์ ก็เลยรื้อลองกันเองสนุกๆ ก็ซ่อมหายนะครับ น้องเขายังใช้คันนั้นอยู่เลยครับ....ส่วนระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติยังไม่ได้ยินเรื่องปัญหานะครับ
6. ภายในของตัวนี้ มันยังลอกเหมือนกับตัว T6 มั้ยครับ โดยเฉพาะเบาะ พวกปุ่มกด ปุ่มบิดภายในตัวรถ เป็นต้นครับเรื่องปุ่มลอกนี่รู้สึกจะเป็นประเด็นที่ทำให้คนรู้จัก Volvo เลยนะครับ.....555....รุ่นใหม่ๆนี่ผมว่าเขาน่าจะแก้ปัญหามาแล้วนะครับ ถ้าผมจำไม่ผิดมันมีกฎในประเทศเขาที่ต้องให้ใช้วัสดุรีไซเคิลกี่เปอร์เซ็นต์ผมจำไม่ได้ Volvo เลยเอามาใช้กับพวกปุ่ม เลยเจอปัญหาลอกที่เมืองร้อนมากๆอย่างบ้านเรา แต่จริงๆมันลอกๆที่สารเคลือบนะครับ เอาน้ำมันก๊าด หรือ น้ำมันสนลูบๆพวกสารเคลือบเหนียวๆมันก็ออกหมด เพียงแค่อาจจะไม่มันเหมือนเดิมเท่านั้น ที่ผมพูดถึงนี่คือรุ่นเก่าๆ ช่วงก่อนปี 07 นะครับ หลังๆมานี่ไม่ค่อยพบปัญหาแล้วครับ นอกจากรถมือ 2 ที่ผมเห็นคือ รอยที่เกิดจากแหวนบ้าง หรือ มีอะไรไปขูดมากกว่าครับ ถ้าใช้มาตั้งแต่ต้นรักษาดีๆ ไม่พบปัญหาแล้วนะครับ
7. ผมเข้าใจว่า ในส่วนของอู่นอกของ Volvo มีอยู่หลายที่ ที่ไว้ใจได้ แต่ในส่วนของเรื่องราคาอะไหล่ ยังต้องเบิกกับทางศูนย์หรือเปล่าครับ เลยทำให้ราคาอะไหล่ยังแพงอยู่ พี่ๆมีวิธีหลบหลีกตรงนี้กันมั้ยครับ อู่นอก Volvo ที่ไว้ใจได้ ปัจจุบันมีเยอะครับ เดี๋ยวนี้มีให้เลือกแทบจะทุกมุมเมืองเลยครับ อู่แต่งก็เยอะขึ้น ตัวแทนโมดิฟายในไทยก็มีหลายสำนักที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ เรียกว่าทั้งซ่อม ทั้งแรง ได้เลยครับ ส่วนเรื่องอะไหล่ผมจะพูดให้ฟังครับ อะไหล่ Volvo มีให้เลือกหลายแบบ อยากจะไปซื้อศูนย์ก็ได้แต่แพง แล้วถามว่า ซ่อมรถอยากได้อะไหล่ศูนย์ เอาที่ไหน ก็ของ Volvo แท้แหละครับ สำหรับชาว Volvo จะคุ้นเคยกับร้านอะไหล่ใหญ่ที่ขายเฉพาะของ Volvo เอาใหญ่ๆจริงๆมี 2 ร้าน คือ ธเนศยนต์ กับ ต.เหรียญชัย ร้านพวกนี้ก็มีทั้งอะไหล่แท้ศูนย์ อะไหล่แท้เทียบ(พวกบริษัทที่ทำส่ง Volvo แหละครับ แต่หลังจากรถขายเกิน 6 ปี เขาจะได้รับอนุญาตให้ผลิตขาย After Market ได้ อย่าง บ้อช(ระบบไฟ) รันฟอเดอร์(ช่วงล่าง) ครับ) ราคาจะเบากว่าที่ประทับยี่ห้อ Volvo พอสมควร สำหรับอะไหล่แท้ศูนย์ ถามว่า ทำไมซื้อตามร้านอย่างธเนศยนต์ ถึงได้ลดเยอะ ไม่ใช่ของแท้หรือ มันคือของแท้มาจากศูนย์แหละครับ แต่ร้านใหญ่ๆอย่างนี้ ยอดเดือนๆนึงเขาสั่งทาง Volvo หลายล้านบาท เขาได้ % ลดเยอะมาก จากศูนย์ ดังนั้นเขาจึงนำมาเป็นส่วนลดให้เราได้เยอะ บางอย่างลดถึง 20% ทีเดียวครับ (กลยุทธ์ทางการตลาดธรรมดา) ถ้าเราเดินไปศูนย์สั่งอะไหล่เอง ชิ้นสองชิ้น ศูนย์เขาไม่ลดให้เราหรอกครับ อย่างเก่งช่วงโปรอาจจะได้สัก 5% ก็หรูแล้ว แต่ร้านใหญ่ๆลดให้ 20% ทีเดียวครับ เพราะยอดสั่งเดือนๆนึงเขามหาศาลครับ ดังนั้นเราเลือกได้เลยจะเอาแบบไหนร้านเขามีหมด ร้านเขามีโปรแกรมแบบศูนย์ใช้ด้วย บอกว่าตรงไหนเดี๋ยวเขาเปิดเช็ค Part Number ได้เลยสบายๆครับ ถ้าของไม่มี เขาสั่งศูนย์ให้วันรุ่งขึ้นก็ได้แล้วครับ ยกเว้นของที่ไม่มีในรุ่นที่ขายบ้านเรา แบบที่ผมสั่งของแต่งน่ะครับ อันนี้ต้องสังสวีเดนใช้เวลาประมาณ 7 10 วันครับ ไม่เกินนี้ ผมสั่งหลาบรอบส่วนใหญ่ 7 วันก็ได้ของครับ
ส่วนเรื่องการซ่อม ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง ผมยกตัวอย่างตัวผม ตอนใช้คันเก่า ผมซ่อมอู่ประจำผมใช้อะไหล่อู่เขา อะไหล่แท้ที่เขาสั่งศูนย์มาเหมือนกัน ราคาจะแพงกว่าเราไปซื้อธเนศยนต์เองนิดหน่อยเพราะอู่เขาก็ได้ส่วนลดมาแต่ไม่มากเหมือนธเนศยนต์ แต่ถามว่า ทำไมผมไม่ไปซื้อธเนศยนต์เอง ได้ถูกกว่า ตรงนี้แหละครับที่ผมจะบอก ผมมองถึงการรับประกันอะไหล่ของอู่ครับ เพราะอะไหล่บางอย่างอาจจะมี Error ได้ ทีนี้ถ้าอะไหล่อู่เขารับผิดชอบให้ ถ้าเราซื้อมาเอง ต้องเสียค่าถอดเอง เดินทางไปเปลี่ยนเอง เคยมีเคสเรื่องหม้อน้ำของเทียบ ไม่ใช่แท้ เป็นยี่ห้อนึงของเดนมาร์ค ค่อนข้างนิยมเพราะราคาเบากว่าของแท้พอสมควร มีลูกค้าคนนึงซื้อมาจากธเนศยนต์หม้อน้ำใหม่ของเทียบรุ่นนี้มาให้อู่เปลี่ยน หลังทำเสร็จปรากฏว่าวิ่งได้ 2 วันรั่วอีก ธเนศยนต์ยอมรับว่าของล้อตนี้มีปัญหาทางผู้ผลิตบอกมา เอามาเปลี่ยนได้ แต่ลูกค้าเจ้าของรถก็ต้องเสียค่าแรงเปลี่ยนเองเพราะไม่ใช่อะไหล่อู่ อู่ไม่รับผิดชอบ แถมลูกค้าต้องเดินทางไปเปลี่ยนของใหม่เองอีก กลับมาใส่ เสียทั้งค่าแรงค่าเดินทางเผลอๆแพงกว่าเอาอะไหล่อู่อีก เพราะถ้าเกิดกรณีแบบนี้ ถ้าเป็นอะไหล่อู่เขาจะรับผิดชอบทั้งหมดจนรถเราใช้งานได้ปกติครับ ... อันนี้เล่าสู่กันฟัง ... แต่ยังไงราคาอะไหล่แท้ของอู่ต่างๆก็ไม่โหด ค่าแรงไม่โหด แบบทำที่ศูนย์แน่นอนครับ สบายใจได้ ขนาดผมใช้พร้อมๆกัน 3 คัน ผมยังไม่มีอะไรที่หนักหนาเลยครับ ใช้สบายๆเหมือนรถทั่วไป ถ้ามันแพงมหาโหดอย่างที่เขาพูดกัน ผมใช้ทีเดียว 3 คัน ผมคงตาเหลือกไปแล้วล่ะครับ ผมก็คนธรรมดาไม่ได้ร่ำรวยอะไร แค่พอมีพอกินครับ ยังใช้ Volvo ทีเดียว 3 คันพร้อมๆกันได้เลย มันไม่แพงอย่างที่คิดหรอกครับ แต่ที่ขายหมดเหลือ XC60 คันเดียว รถไม่ได้มีปัญหา แต่ไม่มีเวลาดูแล งานเยอะขึ้น กลัวน้องน้ำมาหนักๆอีกผมจะพารถหนีไม่ไหว เลยเหลือคันเดียวดีกว่าครับ งานเยอะขึ้นจนไม่มีเวลาเล่นสนุกๆเหมือนเดิมแล้ว
8. โอกาสที่จะขับแล้วไปตายอยู่กลางทาง เป็นไปได้สูงสำหรับ Volvo เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่า คนไทยเวลาซ่อม เสียถึงจะซ่อม แต่ถ้าเราเปลี่ยนตามตารางที่ทาง Volvo แนะนำ โอกาสตายกลางทางคงน้อยลง อันนี้ผมเข้าใจถูกมั้ยครับ อันนี้เข้าใจถูกต้องเป๊ะเลยครับ ผมว่ามันใช้ได้กับรถทุกยี่ห้อแหละครับ ไม่เฉพาะ Volvo เหมือนผมใช้แหละครับ อะไรถึงอายุผมเปลี่ยนก่อนเลย ค่อยๆทยอยทำ มันจะไม่ลามไปอย่างอื่น ที่สำคัญจ่ายไม่หนัก ค่อยๆจ่ายทีละจุด บางคนปล่อยไว้เพราะเห็นว่ามันเพิ่งเริ่มดัง แต่บางอย่างมันลามไปหลายระบบ สุดท้ายพอเป็นหนักทำทีเดียว มันลามไปหลายจุดโดนค่าซ่อมไปเยอะๆก็หาว่ารถไม่ดี ทั้งๆที่ถ้าคุณซ่อมตั้งแต่มันเริ่มดังเริ่มออกอาการที่จุดแรก มันก็ไม่กี่พันบาท มันยังไม่ลามไปจุดอื่น ก็จะสบายกระเป๋า เล่นปล่อยไว้ใช้ไปเรื่อยๆพอมันลามไปหลายระบบ ซ่อมหนัก จ่ายเยอะ ก็โทษว่ารถไม่ดี...ผมว่าลักษณะนี้ผมได้ในรถทุกยี่ห้อ ถ้าคนใช้ไม่เอาใจใส่เท่าที่ควรครับ
ผมใช้คันเก่า 3 คัน อย่าง V70 2.3T ผมใช้เดินทางไกลไปดูงานที่ภูเก็ตประจำ ไม่เคยมีปัญหาใดๆ มีครั้งเดียวที่ไปภูเก็ตเที่ยวนึงขาไปจอดเติมน้ำมันที่สุราษฏร์ฯ ผมดับเครื่อง พอเติมเสร็จสตาร์ทติดแล้วดับ ติดแล้วดับ ผมก็ไล่ปัญหาเอง ต้องสงสัยที่ลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าสกปรก ผมเลยแก้ปัญหาวิธีพื้นๆคือ ล้าง Error ในกล่องควบคุมด้วยการรีเซ็ทล้างสมองด้วยวิธีถอดแบตเตอรี่ขั้วลบออก 10 นาที แล้วใส่ใหม่ มันเป็นการล้าง Error ชั่วคราว ถ้ามันแค่สกปรกมันจะใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าลิ้นปีกผีเสื้อไฟฟ้าเสียมันจะใช้ไม่ได้อีกเลย ผมก็วัดดวงลองรีเซ็ทดู พอใส่ขั้วแบตฯก็สตาร์ทติดปกติครับ ผมก็วิ่งจากสุราษฏร์ไปถึงภูเก็ต เพื่อความสบายใจก็เข้าศูนย์ภูเก็ต เขาเอาเครื่องอ่านโค้ทดู เขาบอกว่ามันไม่เสีย แค่สกปรก เขาเลยถอดล้าง เสียค่าล้าง ค่าน้ำยา ค่าประเก็น ค่าแรง ตรวจสอบระบบให้ หมดไป 1พัน บาทครับ นั่นเป็นครั้งเดียวที่ Volvo มีพยศกับผม นอกนั้นผมไม่เคยเจอเพราะผมซ่อมบำรุงตามระยะตลอด ทำอู่นอกนะครับ ไม่เคยเข้าศูนย์ ขนาดคันเล็ก S40 ผมยังพาไปแอ่วเชียงใหม่เลยครับ แต่ใช้งานหนักสุดก็เจ้า V70 2.3T ม้างานนี่ วิ่งขึ้น-ลง ภูเก็ตประจำ ไปถึงตรังก็หลายเที่ยว ไม่เคยมีปัญหาครับ ดังนั้น Volvo รุ่นใหม่กว่ายิ่งเครื่องดีเซล ผมบอกได้เลยว่า สบายๆครับ ปัญหาน้อยกว่าเบนซินเยอะ สบายใจได้ครับ
หวังว่าคำตอบคงมีปะโยชน์บ้างนะครับ จากประสบการณ์ที่ใช้ Volvo ยี่ห้อเดียวมาตลอดครับ ถ้าละเอียดกว่านี้จริงๆมีอีกเยอะมากๆ โทรฯมาคุยได้เลยนะครับ ยินดีเสมอครับผม