ผู้เขียน หัวข้อ: @ทุกวันนี้รถ D-segment ญี่ปุ่น ยังเป็นรถที่ดูดี เหมือนเป็นรถที่สะท้อนถึงความประสพความสำเร็จ?  (อ่าน 14798 ครั้ง)

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก

อะไรกันครับ รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินเหรอครับ ผมไม่รู้นะว่าทำไมคุณถึงเข้าใจแบบนี้ ความรู้พื้นฐานเลยครับ

asset (สินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สิน) = debt (หนี้สิน) + equity (ทุน)

รถเป็น asset แน่นอนครับ จะเสื่อมค่าหรือไม่เสื่อมค่า จะบ้าน อสังหา ที่ดิน ก็เป็น asset หมดแหละครับ เพียงแต่มันจะเป็นส่วน debt หรือ equity เท่าไรแค่นั้นเอง ถ้าคุณกู้มาซื้อ ส่วน debt ก็เยอะแค่นั้น ส่วนจะเสื่อมราคามันไม่เกี่ยวเลยทางการเงินเค้าถึงมีค่าเสื่อมราคาเป็น คชจ และค่าเสื่อมราคาสะสมคอยปรับมูลค่า asset อยู่แล้วนี่ครับ

คนจะรวยไม่รวย ดูที่ net asset ครับ หรือ equity นั่นแหละ มันแสดงฐานะไม่ใช่กู้มามีแต่หนี้สิน ส่วนแค่ไหนถึงรวย 50 ล้าน 100 ล้าน ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาตั้งเกณฑ์แบบนี้นะครับ ผมว่ามันมันขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคนมากกว่า

จะพูดเรื่องการเงินศึกษาให้ลึกครับบอกเลย

รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 05, 2018, 18:35:48 โดย bodin »

ออฟไลน์ Tien.W

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,232
    • อีเมล์
ถ้าส่วนตัวผมนะ ..

สะท้อนไหม ?

มันก็ระดับหนึ่งแหละ เห็นคนขับ D-Segment มา ก็คือ ต้องผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนมีแตะๆ 6 หลักขึ้นไปแหละ (ยกเว้น วัยรุ่น แต่งซิ่ง พ่อแม่ซื้อให้ หรือ ยืมรถพ่อแม่มาใช้ ก็อีกเรื่อง)

ที่บริษัทผม ระดับ ceo นี่ ขับกันเพียบ Camry / Accord / Teana นะ

แต่ผมเอง มองว่า มันรถคนแก่ มีแต่พวกอายุ 40 - 50 up ขับทั้งนั้น

ตอนที่ซื้อรถ เลยไม่เคยคิดจะมองมันเลย เพราะ ใหญ่ไป ยาว เกะกะ / รถเซ็ทมาเน้นนุ่ม ขับไม่มันส์ / รถเตี้ย ลุยนั่น ปีนนี่ ไม่ได้ ต้องระวัง ... พูดง่ายคือ ประโยชน์ใช้สอยมันน้อยไปหน่อย ไม่อเนกประสงค์

สู้ไป PPV / SUV ผมว่า มันอเนกประสงค์กว่า ขับแล้วดูไม่แก่เท่า D-Segment ด้วย

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
ถ้าส่วนตัวผมนะ ..

สะท้อนไหม ?

มันก็ระดับหนึ่งแหละ เห็นคนขับ D-Segment มา ก็คือ ต้องผู้บริหารระดับกลาง เงินเดือนมีแตะๆ 6 หลักขึ้นไปแหละ (ยกเว้น วัยรุ่น แต่งซิ่ง พ่อแม่ซื้อให้ หรือ ยืมรถพ่อแม่มาใช้ ก็อีกเรื่อง)

ที่บริษัทผม ระดับ ceo นี่ ขับกันเพียบ Camry / Accord / Teana นะ

แต่ผมเอง มองว่า มันรถคนแก่ มีแต่พวกอายุ 40 - 50 up ขับทั้งนั้น

ตอนที่ซื้อรถ เลยไม่เคยคิดจะมองมันเลย เพราะ ใหญ่ไป ยาว เกะกะ / รถเซ็ทมาเน้นนุ่ม ขับไม่มันส์ / รถเตี้ย ลุยนั่น ปีนนี่ ไม่ได้ ต้องระวัง ... พูดง่ายคือ ประโยชน์ใช้สอยมันน้อยไปหน่อย ไม่อเนกประสงค์

สู้ไป PPV / SUV ผมว่า มันอเนกประสงค์กว่า ขับแล้วดูไม่แก่เท่า D-Segment ด้วย

เห็นด้วยครับ เรื่องดูไม่แก่ เสริมคือลุยน้ำได้ดีกว่า
ผมต้องขับติดต่องานที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะบ่อยๆ เวลาฝนตกหนักน้ำท่วมขับcamryลุยลุ้นหัวระเบิดว่าจะรอดไหมจะถอยก็เสียงานเสียการ :'(

ออฟไลน์ siwakorn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 395
    • อีเมล์
ถามแบบนี้มันอยู่มี่สังคมแหละครับ ถามในบอร์ดนี้ก็มีแต่คนเล่นรถ และส่วนมากก็มีเงินกันพอสมควรก็เลยบอกว่ามันเฉยๆ แต่ถ้าถามผมผมว่ามันยังเป็นรถที่ดูดี ภูมิฐานอยู่ครับ อันนี้นับรวมไปถึง C-suv PPV ด้วยเลยนะครับ เพราะรถพวกนี้ราคาต่างกับ C-segment B-suv กระบะ อย่างต่ำๆก็ 3-4แสน คนเงินเดือนไม่ถึงหลักหมื่นปลายๆนี่ผมว่ามันเป็นจะนวนเงินที่ไม่น้อยเลยนะครับ บ้านผมนี่กว่าจะได้ D-seg มาขับพ่อผมก็ปาไป 50กว่าแแล้วครับ แต่ก่อนก็ได้แค่ C-seg

ปล.ไม่นับพวกมีเงินแต่อยากได้รถเล็กขับคล่องๆนะครับ

ออฟไลน์ pim_cute

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 308
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่


ออฟไลน์ BigCat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,178
    • อีเมล์
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)
Audi TT MK 3FL
BMW z4 e85
GLA 250 FL 2017
Nissan Teana L33 2014
Slk 200 R172 2014
Camry 2.4 2009
Civic dimension MT 1.7
Civic 3 doors รถคันแรก

ออฟไลน์ IS2000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,188
    • อีเมล์
D-Segment ญี่ปุ่นนี่ถ้าเจ้าของซื้อมานั่งหลังมีคนขับรถส่วนมากจะเป็นคนที่มีฐานะทั้งนั้นครับ แต่จะไม่สนใจเรื่องรถยนต์มาก
1 3 5
├┼┼╕
2 4 6 R

ออฟไลน์ whoami

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,174
    • อีเมล์
วัดยังไงดีละ ถ้าคุณเข้าไปถามคนขับรถหรู mb bm ว่าพี่รวยไหมครับ ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครกล้าพูดว่าตัวเองรวย สังคมไทยเรานี่ก็แปลก อยากทำให้ตัวเองดูรวย แต่ไม่เคยกล้ายอมรับว่าตัวเองรวย

แล้ววัดยังไงว่ารวย ต้องมีเงินกี่ล้าน มีทรัพย์สมบัติเท่าไหร่

สำหรับรถ d segment ถ้าไปถามมนุษย์เงินเดือน เด็กจบใหม่เริ่มทำงานไม่นาน เค้าก็มองว่าหรูว่ารวยแล้วครับ

ถ้าถามตาสีตาสาที่ไม่เคยรู้เรื่องรถก็มองเป็นรถเก๋งเหมือนๆกันหมด

ถ้าถามคนขับรถพรีเมียมไปจนถึงซูเปอร์คาร์ก็คงมองว่า งั้นๆ

แต่ถ้าตาม ตจว ภาพลักษณ์คนขับ ppv โดยเฉพาะ ftn นี่ช่างดูรวย ดูมีอำนาจ ดูเป็นเจ้าพ่อ มากเลยครับ 555

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)

รัฐบาลครับ ถ้ากองมรดกมากเกิน 50 ล้าน ต้องเสียภาษี

ออฟไลน์ bodin

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 997
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
คนอื่นไม่รู้ ผมไม่เคยคิดว่ามีสิ่งของบางอย่างแล้วจะสะท้อนถึงการประสบความสำเร็จในชีวิตเลยครับ คิดอย่างเดียว มีแล้วชีวิตดีขึ้นจนคุ้มต่อการจ่ายเงินเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้มั้ย

ออฟไลน์ Tpol

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 93
    • อีเมล์
ส่วนตัวผมว่ามันเป็นรถตามวัยนะครับ35-40+. หน้าที่การงานก็จะเริ่มดีขึ้นเงินเดือนก็จะมาเป็น100Kบวกลบ รถมันก็ตามมาเอง แต่วัยนี้เริ่มต้องเลือกระหว่าง D กับ SUV เพราะราคาพอๆกัน และเพราะเริ่มมีครอบครับ พ่อแม่เริ่มแก่ต้องดูแล ครอบครัวเล็กไม่ลุยคงเลือกD นะครับ. ดังนั้นผมว่ามันแสดงออกระดับหนึ่งนะ ว่าพอมีตังบ้าง ล้านบวก  ค่าผ่อนรถแบบคนปกติก็น่าจะเท่ากับเงินเดือนคนจบใหม่ๆเลยนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 06, 2018, 07:41:44 โดย Tpol »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ถือว่าสำเร็จในระดับหนึ่งครับ

อยู่ที่สำเร็จแล้วพอใจมั้ย ถ้าพอ ก็จบ ชีวิตก็มีความสุข
ถ้าไม่พอ หาต่อ หาอีก หาใหม่

ออฟไลน์ tew

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 547
ก็มองว่าธรรมดานะ มองว่าคนขับรถกลุ่มนี้คือคนที่มีอายุ อยากนั่งสบายๆ ส่วนมากตามต่างจังหวัดก็กลุ่มข้าราชการกู้เงินสหกรณ์(รวมถึงรถPPVด้วย)

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

คุณอาจจะไม่ชัวเรื่องการเงิน เพราะฉะนั้นก็ไม่ควรด่วนสรุปว่ามันไม่ใช่ทรัพย์สิน เกิดวันนึงที่คนไม่รู้ด้านนี้เข้ามาอ่านจะสรุปตามแบบคุณไป

และบ้าน ตึกแถว ที่ขายได้กำไรตลอดเพราะเงินมันเฟ้อด้วยรึเปล่า ที่ในเมืองเข้าใจได้ครับราคาขึ้นเพราะเศรษฐกิจขยายตัว มีความต้องการสูง แต่ตามต่างจังหวัดที่ขึ้นไม่กี่%มันอาจจะมาจากปัจจัยอื่นๆ อย่าลืมคำนวณตรงจุดนี้

แล้วรถที่คุณจัดไปอยู่ในหมวดเสื้อผ้านี่ ถ้าคุณมองรถตลาดอาจจะมองว่าราคามันมีแต่ตกลงเรื่อยๆ แต่ถ้ารถพวกคลาสสิค หรือ supercar รถพวกนี้ราคามันหล่นและก็ขึ้นเป็นกราฟพาราโบล่าเลยนะ ยกตัวอย่าง พวกรถคลาสสิคอเมริกัน หรือ ถ้ารถญี่ปุ่นพวก skyline ดูครับ พวกนี้พอราคาหล่นมาถึงจุดๆนึง มันขึ้นเอาๆ คุณอาจจะแย้งได้ว่ารถพวกนี้มันเอามาใช้ในขีวิตประจำวันไม่ได้ ถ้างั้นก็ลองไปหาซื้อพวก Vios turbo, Accord Coupe มือสองมาขับดู ราคาอาจจะลงซักพักหลังจากนั้นราคามันจะขึ้นเพราะเป็นของrareที่นักสะสมต้องการ แบบนี้ยังมองว่าเป็นเสื้อผ้าได้อยู่รึเปล่าครับ

ออฟไลน์ citrinecw

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 251
    • อีเมล์
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

ด้วยความเคารพนะครับ มาใช้ตัวแดงใหญ่ตั้งใจให้เด่น เรียกให้คนมาอ่านมาสนใจ แล้วพอมีคนมาท้วงก็มาแก้ตัวว่าไม่ได้มีความรู้ดี รู้แบบผิดๆถูกๆ แต่ยังพยายามแถต่อ เห็นแล้วก็ตลกดีครับ

ตอบเจ้าของกระทู้ ส่วนตัวคิดว่า D-seg มันเน้นจับตลาดผู้บริหาร ข้าราชการ ที่ใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่พอช่วงหลังมี 2 ปัจจัยที่ทำให้ตลาด d-seg หดตัวลงเพราะ ราคารถยุโรปตัว basic ขยับลงมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ กับ สภาพถนนและน้ำท่วมทำให้กลุ่มเป้าหมายเดิมหันไปมอง ppv มากขึ้น แต่รวมๆแล้ว D-seg ก็ยังให้ภาพลักษณ์ที่ดีอยู่ แต่ว่าผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น

ออฟไลน์ yumenowinds

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 226
    • อีเมล์
ผมมองว่า PPV(ฝรั่งเรียก SUV) มันขยับขึ้นไปชน D-seg ด้วยแหละครับ

ทั้งราคา ออปชั่น ภาพลักษณ์ คันเดียวจบนั่งได้หลายคนด้วย ขนของก็ไม่ขี้เหร่ ทนทาน ไม่จุกจิก เรียกว่า All Around เลยดีกว่า

อยากดูหรูขึ้นอีกหน่อย หาป้ายประมูลซักแผ่นมาติดก็จบล่ะครับ สำหรับผมนะ

ออฟไลน์ TONYP

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 87
รถผมไม่นับครับ เป็นการส่วนตัว ทรัพย์สินอะไรมีแต่ลดค่าได้ทางเดียว แถมมีค่าใช้จ่ายตามมาอีก
ใครจะนับก็ตามใจ 8) บ้าน ทอง ที่ดิน ซื้อไว้มีแต่ราตาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว เงินฝากไว้ยังได้ดอก มีรถนี่ถอยมาวันแรกเงินหายไป20%

50ล้าน เขาคิดคำนวนมาดีแล้วครับ ตาทเกณฑ์ของ ภาษีมรดก

ใครที่ไม่ถือบัตรคนจน และทรัพย์สินไม่ถึง 50ล้าน ถือเป็นคนชั้นกลางครับ 8)

ของพวกนี้มันเป็นความรู้อะครับ คนทั้งโลกเข้าใจ ส่วนถ้าคุณจะขวางโลกบอกมันไม่ใช่ ก็ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก เพียงแต่ถ้าคุณจะใช้กฎว่า เพราะข้าคิดแบบนี้ มันจึงต้องเป็นแบบนี้ ผมก็บอกได้แต่เพียงว่าศึกษาหาความรู้บ้าง ลักษณะของคุณมันเป็นเรื่องความเชื่อ มากกว่าข้อเท็จจริง ถามว่ามันเป็นข้อคิดเห็นได้ไหม ความรู้มันไม่ใช่ข้อคิดเห็นน่ะสิ (บ้านก็มีค่าเสื่อมนะ ที่ราคาขึ้นน่ะที่ดินอย่างเดียวไม่ใช่ตัวบ้าน) ความคิดคุณมันดูสะเปะสะปะ ของที่คุณพูดมาที่บอก ซื้อไว้มีแต่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆในระยะยาว มันไม่จริงเสมอไปนะครับ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าระบบ ศก ของเรามันมี เงินเฟ้อ ของพวกนี้มันแค่พยายามรักษาค่าของตัวมันเองและมันทำได้ดีก็แค่นั้นเอง ราคามันก็ขึ้นอยู่แล้วเพียงแต่ถ้ามันแพ้เงินเฟ้อคุณก็จนลงอยู่ดี ไม่ได้หมายความว่ามันจะชนะไปตลอด


ส่วนเรื่องภาษีมรดก ผมไม่เข้าใจคุณจะถือมั่นอะไรขนาดนั้น ผมเคยฟังคนที่เค้าดันภาษีมรดกพูดนะ การที่ใช้เกณฑ์ 50 ล้าน เพราะเค้าคิดว่า คนที่มีเงินเกิน 50 ล้านถือว่าเป็นคนมีฐานะ และตัวกฎหมายเองก็ไม่ได้กระทบคนหมู่มาก นักการเมืองไม่คิดอะไรซับซ้อนหรอกครับ นี่คือความหมายของคำว่า เขาคิดคำนวนมาดีแล้ว เหรอครับ ...ผมคิดว่าไม่ใช่

ผมไม่ได้เรียนมาทางการเงินครับ อาจมีผิดๆถูกๆบ้าง บ้านเดี๋ยวตึกแถวซื้อแล้วขายหรือย้ายกำไรตลอด ทองเก็บมาตั้งแต่ยังไม่ถึงหมื่นเก็บไปเรื่อยๆได้ไม่ขาดทุน(ทุนเฉลื่ยต่ำ) ที่ดินซื้อไว้ขึ้นเป็นเท่าตัว ห่วยสุดเงินฝากยังได้ดอก ;D

รถ ขนาดซื้อเจ้าตลาดสิบปีแสนกว่าโล ขายราคาแทบเป็นซาก ผมเลยจัดมันไปอยู่หมวดเดียวกับ ของใช้ รองเท้า เสื้อผ้า

50 ล้าน คือตอนนี้ประเทศนี้มันไม่มีเกณฑ์ใดๆที่ดีกว่านี้แล้วไงครับ รัฐเขาบอกว่า คุณรวยแล้วนะ ถ้าจะตายจ่ายภาษีมรดกด้วย  ::)

บ้านขายได้กำไรจริงหรือไม่ ไม่ใช่ดูแค่ซื้อมา 1 ล้าน 30 ปีขายได้ 3 ล้าน
มันต้องดูด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อระยะเวลา 30 ปี มันขึ้นมาเท่าไหร่
ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าราคาขาย คุณขาดทุนนะ หมายถึงคุณเอาชนะอัตราเงินเฟ้อไม่ได้ ทรัพย์สินของคุณด้อยค่าลงด้วยอัตราเงินเฟ้อเสมอ

จะเชื่อแบบไหนก็ได้ แต่อย่าพยายามสอน หรือเอาความเชื่อไปทำให้คนอื่นเชื่อครับ

ขออภัยที่นอกเรื่องรถครับ

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,264
    • อีเมล์
ถ้ามองด้านความสำเร็จก็ระดับนึง. เพราะคนขับแนวนี้ส่วนใหญ่ก็ระดับหัวหน้าแล้ว. มีอายุพอประมาณ

แต่ทุกวันนี้มันเฉลี่ยไปรถประเภทอื่นด้วย เช่น ppv suv.






ออฟไลน์ NNIICCKK

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
ผมว่าคำว่ารวยมันอยู่ที่มองจากฝั่งไหนนะ ถ้าผมมองตัวเอง เมื่อผมมีเงินเพียงพอกับความต้องการจับจ่ายใช้สอยได้แบบสบายๆและยังมีเหลือ นั่นคือรวย(และตอนนี้ผมจนมาก)

ถ้าผมมองคนอื่น ใครมีมากกว่าผมคือรวยหมดครับ ถ้ามีมากกว่ามาก คือรวยโครตๆ ใครมีพอๆกันคือธรรมดา ส่วนคนมีน้อยกว่านิดนึงคือยังธรรมดาอยู่(แอบเข้าข้างตัวเอง) ใครมีน้อยกว่ามากๆๆๆจึงจะนับว่าจนนิดๆ ;D

ออฟไลน์ TRcdi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 670
 
เป็นของใช้งานไปนานแล้ว 8)
รถไม่ใช่ทรัพย์สินครับ
เป็นของเสื่อมราคา ของใช้งาน 8)

ความสำเร็จด้านการเงินวัดที่ทรัพย์สินครับ ปัจจุบันคำว่า รวย เรื่มต้นที่ 50ล้าน
รถล้านกว่าบาทวัดอะไรไม่ได้ ยอดมันจะตกก็ไม่แปลกขับออกไปวันไหนเจอน้ำรอระบายก็จบ ซื้อsuv ppvดีกว่า

เคยตั้งเป้าชีวิตไว้ที่100ล้าน ตอนเรียนจบใหม่ๆ ตอนนี้ไม่เอาละใช้เงินเทื่ยวดีกว่า กลัวภาษีมรดก
เดี๋ยวๆ อันนี้ผมตกใจ ต้องมี50ล้านนี่ใครกำหนดครับ 555 8)

รัฐบาลครับ ถ้ากองมรดกมากเกิน 50 ล้าน ต้องเสียภาษี

จริงๆ ก็ไม่อยากพาดพิงคุณ bodin
เพราะเห็นว่าออกตัวว่า "ความเห็นส่วนตัว"

แต่เรื่องบางเรื่อง มันเป็นวิชาการ
มันเป็นหลักสากล  สมาชิกท่านนึงก็พยายาม
อธิบายให้ทราบ 

ผมขอเทียบง่ายๆ  ถ้าคุณ bodin นำหลักการ
รวย 50 ล้านมาจากรัฐบาลมาอ้างอิง

เรื่องยานพาหนะนั้น  เวลาต้องแจกแจง
"ทรัพย์สิน" ของคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล
เค้าต้องนำมาคิดเป็นทรัพย์สินด้วยนะครับ

ดังนั้นถ้าสมมติคุณ bodin ได้เป็นรัฐมนตรี
คุณจะไปบอกนักข่าวว่า  อ๋อ ผมไม่นับรถยนต์
ที่ผมมี เป็นทรัพย์สิน   เพราะผมเชื่อว่ามัน
ก็เหมือนเสื้อผ้า ...  แบบนี้เกรงว่าจะไม่ได้นะครับ
เผลอๆ มีความผิดเลยนะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 07, 2018, 07:46:35 โดย TRcdi »

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
ผมว่ามันก็ยังเป็นอยู่นะ จะมากจะน้อย ขึ้นกับว่าใครยึดติดมากแค่ไหน