ผู้เขียน หัวข้อ: ผ่านมาปีกว่า City ยังเป็น Sub-Compact ที่ดีที่สุดในตลาดสำหรับคุณจิมมี่อยู่รึป่าว  (อ่าน 13078 ครั้ง)

ออฟไลน์ Visual

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
เคยอ่านเจอคำให้การของคุณจิมมี่ว่ามันคือ Sub-Compact Sedan ที่ดีที่สุดในขณะนั้น

หลังการคลุกวงในกับมันมาปีเศษ ไม่เห็นมี review เลย
อยากรู้ว่า ตอนนี้คำให้การนั้นยังเป็นจริงอยู่รึเปล่าครับ  ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ที่ยังไม่มีรีวิว ตามที่เคยตั้งใจนั้น
ผมกะว่า รอรวดเดียวหนะครับ
และช่วงนี้ ยังมีคิว ของรีวิว ที่ต้องทำอีกหลายตัว เลยยังไม่ได้ทำ

ตอนนี้ จะครบ 3 หมื่นกิโลเมตรแล้ว มีเรื่องให้ทั้งชม และทั้งด่า ฮอนด้า ไปพร้อมๆกัน

ของดีๆ ใจเย็นๆครับ

อ้อ สำหรับกลุ่ม Sub-Compact Sedan แล้ว ผมยังคิดเห็นเหมือนเดิมครับ ยังไม่เปลี่ยนไป

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
ฮอนด้า ซิตี้ มีจุดเด่น ที่ ซับคอมแพ็ก ยี่ห้ออื่นต้อง เลี่ยง ที่จะเทียบ คือ
เครื่องยนต์ 1.5 ที่ แรงและประหยัด มาก
120 แรงม้า
ประหยัดระดับ 18 กม/ลิตร กว่าๆ ใน การทดสอบแบบ นักทดสอบแถวหน้าเมืองไทย คือ ยานยนต์

ยังไม่นับ ตัวบนๆ ที่ ซิตี้ มี ดิสเบรค ล้อหลัง
ที่ คนไทย ควรจำข้อดี ของมันให้ แม่นๆ คือ ลุยน้ำ แล้ว เบรค ดีกว่า แบบ ดรัมเบรค
คือ เบรคดรัม จะ อมน้ำ แล้ว มีข้อเสีย คือ เบรคจะลื่น
คนใช้รถ ดรัมเบรค ล้อหลัง ต้อง เลียเบรค ไล่น้ำ หลัง ลุยน้ำ ครับ ไม่งั้น เบรคจะลื่น ยาว อันตรายมากครับ

การทดสอบ เบรค ที่ นักทดสอบ เบรคเมืองไทย ทำกัน คือ เบรค บนถนนแห้ง
ดังนั้น รถ ซับคอมแพ็ก ที่ มี ดรัมเบรคหลัง จึง ยัง สู้กับ รถที่ใช้ ดิสเบรค สี่ล้อได้

แต่ ถ้า ทดสอบเบรค หลัง ลุย น้ำท่วม
แบบที่ คนไทย เจอกัน อยู่ ทุกปี
รถ ซับคอมแพ็กซ์ ที่ใช้ ดิสเบรค 4 ล้อ จะ เหนือกว่า พวกใช้ ดรัมเบรคหลัง แน่นอน ครับ
ฟันธง เรื่องนี้ 1000 %

เพราะ ดรัมเบรค มันมีจุดด้อย คือ เป็น ชามตะแคง ฝาปิด เกือบสนิท
ชามชนิดนี้ ระบายน้ำออกได้ไม่ดี
ผ้าเบรคที่มีหน้าที่ สร้างความฝืด เจอกับ น้ำ ที่เป็นตัวหล่อลื่น
ผล ก็คือ เบรค ลื่น หลัง ลุยน้ำ นั่นเอง

ยังไม่นับ เรื่อง ขับแบบ ซิ่ง อัดเบรคหนักๆ
ถ้าใช้ ผ้าเบรค ระดับ เดียวกัน
รับรองว่า รถที่ใช้ ดิส 4 ล้อ เบรค  จะยังดีกว่า รถใช้ ดรัมเบรค หลัง แน่นอน
เพราะ ดรัมเบรค มัน ระบายความร้อน ไม่ดี ครับ

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่ใช้ ดิสเบรค 4 ล้อ มี คู่แข่ง เพียง วีออส รุ่นท็อป
แต่ เครื่อง วีออส ก็ สู้ ซิตี้ไม่ได้
วีออส เครื่องแรงน้อยกว่า นิด
วีออส เครื่องกินน้ำมัน มากกว่า นิด จาก ผล ทดสอบของ ยานยนต์

ส่วน รถซับคอมแพ็ก ยี่ห้อ อื่น
ประหยัด ต้นทุน ที่ ไม่ยอม ให้ ดิสเบรค หลัง
นี่ คือ ความปลอดภัย หลัง ลุย น้ำท่วม ที่สำคัญ ที่สุด นะครับ

ถ้า ยี่ห้ออื่น ยังประหยัดต้นทุน ไม่ยอม ให้ ดิสเบรค หลัง
แล้ว เลือก ให้ เซลล์ และ พนักงานที่มีหน้าที่ ทำงานตามสื่อ ดิจิตอล ทำงานแทน ดิสเบรคหลัง
คือ ย้อมความคิด คนเสพสื่อ
ให้เชื่อว่า ดรัมเบรคหลัง เพียงพอแล้ว สำหรับ รถซับคอมแพ็กซ์
ทั้งๆที่ มัน ไม่จริง

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นใช้ ดิส 4 ล้อ
ก็ ยังจะเป็น รถ ซับคอมแพ็ก ที่ดีที่สุด ใน ความคิดของผม ครับ

รถเล็ก ตัวเบา เกรดสูง
มาสด้า MX5
ฟอร์ด เฟียสต้า ตัวแข่ง
เบนซ์ ตัวเล็ก
บีเอ็ม ตัวเล็ก
ก็ใช้ ดิส 4 ล้อ กัน ทั้งนั้น

พยาน และ เหตุผล
ดิส 4 ล้อ ดีกว่า ดิสหน้า ดรัมหลังแน่นอน
และ ยุคนี้ คนซื้อรถ รักตัว กลัวตาย กันมาก

ฮอนด้า ซิตี้ ให้ ดิสเบรค 4 ล้อ ใน รุ่นบน
จึง เป็น ซับคอมแพ็ก ที่ ดี ที่สุด ในวันนี้
เพราะ
เครื่องยนต์ แรงกว่า
เครืองยนต์ ประหยัดกว่า
เบรค ดีที่สุด โดยเฉพาะ หลัง ลุยน้ำ
ช่วงล่าง ก็ ดี ในระดับ ซับคอมแพ็ก คือ พอตัว แต่ ไม่ดีนัก เพราะไม่ใช่ อิสระ ล้อหลัง

ผม ขอ ปาดหน้า ให้ ข้อมูล ก่อน
ทั้งๆที่ ผมชอบ แลนเซอร์ อี20 มากกว่า ซับคอมแพ็กสมัยใหม่ ทุกยี่ห้อ
เนื่องจาก แลนเซอร์ อี20 ให้ ดิสเบรค 4 ล้อ และ ช่วงล่าง อิสสระแท้ ทั้ง 4 ล้อ
แต่ มีข้อเสีย คือ เครื่องยนต์โบราณ ตัวรถตกยุค
แต่ ราคา ไม่ถึง 6 แสน ในรุ่น เกียร์ธรรมดา
คนที่ชอบ ขับรถที่ เบรคดี สัมผัส ความรู้สึก ที่ ล้อทั้ง 4 แนบ ไปกับ โค้ง ได้ดีกว่า ซับคอมแพ็ก ทุกยี่ห้อ
ควรมอง แลนเซอร์ อี 20 ให้ ละเอียด นะครับ

ความรู้สึก ที่ ล้อทั้ง 4 แนบ ไปกับ ถนน แบบ ช่วงล่างอิสระ ของ แลนเซอร์ อี20 นี่
ไม่เหมือน กับ
ความรู้สึก ที่ล้อหลัง ไม่เกาะโค้ง แบบ ซับคอมแพ็ก ทั้งหลาย

คือ วิศวกร เขา ทำให้ รถซับคอมแพ็ก ขับง่าย มุดง่าย แบบ ประหยัด
คือ ไม่ใช้ ช่วงล่างหลังที่เกาะ แต่ แพง
แต่ เลือกใช้ ช่วงล่างหลังคานแข็งบิดตัวได้ ที่ไม่เกาะ แต่ ราคาถูก หลอกความรู้สึก คนขับ นะครับ
ผลคือ คนขับ จะมุดได้มัน แต่ รถมัน ไม่เกาะถนนในโค้ง เท่า ช่วงล่างอิสระ
ใช้ ต้นทุน ถูก
เช่น เหล็กกันโคลง สปริง โชคอัพ ทำหน้าที่ สร้างความรู้สึกที่ดี ให้คนขับ
รถเกาะถนนน้อยลง แต่ คนขับ รู้สึกว่า ควบคุมรถได้ดี ครับ

ถ้า แลนเซอร์ อี20 ปรับ ช่วงล่าง ให้ หนี ความนุ่ม อีกนิด
ใช้ยางแก้มเตี้ย ระดับ เดียว กับ ซับคอมแพ็ก ตัวท็อป
นี่ จะเป็น รถ คอมแพ็ก โบราณ ที่ เหนือกว่า ซับคอมแพ็กสมัยใหม่ ทุกยี่ห้อ ในระดับ ราคาเดียวกัน
ในเรื่อง เกาะถนน และ เบรค ครับ

แต่ เรื่อง ความแรง และ ประหยัด
ก็ ยกให้ 120 แรงม้า ใน ฮอนด้า ซิตี้ อยู่เช่นเดิม ละครับ



ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
อันที่จริง คุณ traveller ไม่ต้องอ้างอิง ผลทดสอบจาก ยานยนต์ ให้เสียเวลาหรอกครับ
ผมเอง ก็เคยทำรีวิวเอาไว้แล้ววเหมือนกัน ครบถ้วนทุกคันที่เอ่ยมานั่นละครับ
และทุกสิ่งที่คุณเอ่ยมา ผมก็ยืนยันให้ได้ว่า มันเป็นเช่นนั้นจริง
ยกเว้นที่บอกว่า City ประหยัด 18 กิโลเมตร/ลิตร

ซึ่งไม่จริง และ รถที่ผมซื้อมาขับใช้งานอยู่นี้ "ไม่เคยทำได้ดีเกินกว่า 16.9 กิโลเมตร/ลิตร เลย"

เพียงแต่ว่า ยังไม่อาจจะเอามาโพสต์ตูม ในเว็บเราได้ ในตอนนี้ ต้องถ่ายทำใหม่นิดหน่อยหนะครับ

อีกอย่างนึง

อย่าตัดสินรถกั เพียงแค่เรื่องระบบเบรกครับ
เพราะว่า City มีหลายประเด็น ที่ชนะ Vios รุ่นปัจจุบันไปได้เยอะ

แต่ถ้าลองเทียบกับ Vios รุ่นก่อน ดู จะพบว่า มีบางระเด็น ที่ City ก็อาจยังสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ...
นั่นคือ เรื่องของพวงมาลัย การเซ็ตช่วงล่างมาในแบบกำลังดี เหมาะสมกับราคา และสมรรถนะที่สุด
เท่าที่เคยมีมาในรถกลุ่มพิกัดนี้ แบบไม่มีอะไรขาดเกินเลยแม้แต่น้อย


อ้อ ที่คุณบอกว่า นักทดสอบรถ แถวหน้า ในเมืองไทย คือ นิตยสาร ยานยนต์ นั้น
ผมอยากจะบอกว่า ณ วันนี้ "ไม่ใช่นิตยสาร ยานยนต์" ครับ

(และไม่ใช่ผมด้วย)

ทีมที่เขาเจ๋งๆ กันจริงๆ ของยานยนต์ ในยุคนั้น หลังจากลาออกมา ไปร่วมหัวจมท้าย
ทำนิตยสาร Driven กัน ทุกวันนี้ต่างคนต่างไปทำในสิ่งอื่นๆไปแล้วอย่างน่าเสียดายครับ
และตัวเจ้าของ ผู้ก่อตั้ง นิตยสาร Driven เอง ก็เพิ่งจะเสียชีวิตไปเมื่อ ประมาณ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นี้เองครับ
ตอนนี้ เท่าที่ทราบมา มีญาติของ เจ้าของเดิม รับช่วงทำแทนอยู่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 26, 2010, 06:59:07 โดย J!MMY »

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
เอ้.....ผมก็ขับรถดรัมเบรกมาทั้งชีวิตนะครับ
ไม่คิดว่าปัญหามันจะน่ากลัวมากมายอย่างที่ท่าน traveller กล่าวไว้
หรือว่าผมจะโชคดี  :-\

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
ผมก็ใช้รถเบรคหลังเป็นดรัม แล้วต่อมาเปลี่ยนเป็นดิสก์ตรงรุ่นใส่..ไม่เห็นมันจะดีขึ้นขนาดนั้นเลยครับ ยกเว้นว่าอัดหนักๆแล้วกดหลายครั้งต่อเนื่องนี่ล่ะรู้สึก แต่มาทีเดียวต้าบทีเดียวเหมือนคนทั่วไปผมว่ามันก็เวิร์คพอๆกัน ลุยน้ำผมก็เคยลุยมาแล้วต้าบทีเดียวอยู่ทั้งนั้น
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
หรือเราจะโชคดีครับ ท่านผู้การ

ออฟไลน์ Northbridge

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 751
แค่เรื่องดิสเบรค เป็นตุเป็นตะเลย - -"

แต่ซิตี้น่าขับจริงๆนะครับ ว่าแต่ผมชอบสวิฟ เอ๊ะ - -"

ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
จริงๆ แล้ว ดิสเบรก สำหรับล้อหลังนี่ ผมว่าก็เป็นเรื่องสำคัญนะครับ
แต่สำหรับรถระดับ City Vios นี่ เกรดของดิสเบรก ผมคิดว่าคงไม่ต่างกับดรัมมากมายนักหรอกครับ
เหมือน ABS ของ BT-50 ของผม แถ กว่าดรัมเบรก 4 ล้อของ Isuzu เห็นๆ
ผมจึงประจัก แบบเดาๆ เอาเองว่า ถึงจะมีชื่อว่า ดิสเหมือนกัน ABS เหมือนกัน
ก็คงจะมีเกรด มีระดับ มีมาตรฐาน ที่ต่างกันไปอีกกระมังครับ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
สำหรับผม ถ้าเน้น สมรรถนะ(ราคาไม่เกี่ยงเกิน 6 แสนได้)

CITY ดีสุด เครื่องเสียงเยี่ยมสุด เครื่องยนต์ดีสุด

แต่ถ้าเน้นราคาที่คุ้มค่า(ถูก)

ผมว่า March คุ้มค่าในราคาไม่เกิน 5 แสน

แค่ Yaris คุ้มค่าในราคาไม่เกิน 6 แสน+ของแถมเยอะที่สุดในทั้งหมด

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
รถผมก็ใช้ดรัมเบรคทั้งหน้าและหลัง มา 32 ปี ที่เคยชนก็ความประมาททั้งนั้นครับ ไม่เคยเจอว่าเบรคมีปัญหาแม้ฝนตก หรือลุยน้ำซักครั้งเดียวเช่นกันนะ ต๊าบเดียวอยู่เหมือนผู้การ อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 26, 2010, 08:39:56 โดย gdhsatanic »

ออฟไลน์ firstzeng

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
    • อีเมล์
เอ๋ ดิสเบรก มันดีกว่าขนาดนั้นเชียว ? ใครมีระบบการทำงานของเบรกทั้งสองให้ชมมั้ง

ผมรู้แต่ว่าดิสเบรกมันสวยกว่าดรัมเบกแน่นอนเวลาใส่mag

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,020
  • FF1.5SMG
ผมใช้ Jazz GD ดรัมเบรคมาก่อน เพิ่งมาใช้ CITY ดิส 4 ล้อ ได้เดือนกว่า..

ผมว่าต่างกันไม่มากอะครับ..

ส่วนเรื่องประหยัดน้ำมันผมก็เคยทำได้ 18 กม./ล. อ่ะครับ สำหรับซิตี้ตัวนี้..
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ joufo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,252
ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ชอบดรัมเบรค เพราะมันดูไม่สวยมากกว่าหละมั้งครับ

ออฟไลน์ wut get real

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 209
    • อีเมล์
ถ้าความเร็วเฉลี่ยไม่เกิน 110 และไม่ต่ำกว่า 95 ผมว่า city กับ jazz ประหยัดเกินหน้าเกินตาพิกัดเดียวกันค่อนข้างแน่นอนนะครับ
Accord  G9
Prius
Hilux Revo

ออฟไลน์ POPROCK

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
โอ้
อ.Traveller
หายหน้าไปนานตั้ง 2 เดือน

กลับมาวิจารณ์เรื่อง ระบบเบรค รถยนต์
ก็ยังแน่นอนเหมือน
บรรยายซะเห็นภาพเลยแฮะ

ข้าน้อยขอคารวะ 1 จอก

ปล.ผมสังเกตดูว่า รถคลาสสูงๆ
เช่น Ferrari,Lambo,Porche,Benz,BMW ฯลฯ
ล้วนแต่มี Disc Bake 4 ล้อ
ทั้งหมดเลย

ไม่เคยเห็นรถคลาสสูงๆคันไหน
ใส่ดรัมเบรคหลัง เลยสักรุ่นเดียว

แสดงว่า ดิสก์เบรค
ประสิทธิภาพการหยุดม้าฝูงใหญ่
น่าจะดีกว่า ดรัมเบรค เป็นแน่แท้

แต่ ราคา ก็ตามคุณภาพครับ
ของคุณภาพดีกว่า ย่อมแพงกว่า
จะเอาอะไรกับ รถจ่ายตลาดเมืองไทย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 26, 2010, 13:26:33 โดย POPROCK »
สังคมดีๆ...ไม่มีขาย
อยากได้...ต้องช่วยกันสร้าง
โดยเริ่มจาก...ตัวเราเอง

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
ฮอนด้า ซิตี้ มีจุดเด่น ที่ ซับคอมแพ็ก ยี่ห้ออื่นต้อง เลี่ยง ที่จะเทียบ คือ
เครื่องยนต์ 1.5 ที่ แรงและประหยัด มาก
120 แรงม้า
ประหยัดระดับ 18 กม/ลิตร กว่าๆ ใน การทดสอบแบบ นักทดสอบแถวหน้าเมืองไทย คือ ยานยนต์

ยังไม่นับ ตัวบนๆ ที่ ซิตี้ มี ดิสเบรค ล้อหลัง
ที่ คนไทย ควรจำข้อดี ของมันให้ แม่นๆ คือ ลุยน้ำ แล้ว เบรค ดีกว่า แบบ ดรัมเบรค
คือ เบรคดรัม จะ อมน้ำ แล้ว มีข้อเสีย คือ เบรคจะลื่น
คนใช้รถ ดรัมเบรค ล้อหลัง ต้อง เลียเบรค ไล่น้ำ หลัง ลุยน้ำ ครับ ไม่งั้น เบรคจะลื่น ยาว อันตรายมากครับ

การทดสอบ เบรค ที่ นักทดสอบ เบรคเมืองไทย ทำกัน คือ เบรค บนถนนแห้ง
ดังนั้น รถ ซับคอมแพ็ก ที่ มี ดรัมเบรคหลัง จึง ยัง สู้กับ รถที่ใช้ ดิสเบรค สี่ล้อได้

แต่ ถ้า ทดสอบเบรค หลัง ลุย น้ำท่วม
แบบที่ คนไทย เจอกัน อยู่ ทุกปี
รถ ซับคอมแพ็กซ์ ที่ใช้ ดิสเบรค 4 ล้อ จะ เหนือกว่า พวกใช้ ดรัมเบรคหลัง แน่นอน ครับ
ฟันธง เรื่องนี้ 1000 %

เพราะ ดรัมเบรค มันมีจุดด้อย คือ เป็น ชามตะแคง ฝาปิด เกือบสนิท
ชามชนิดนี้ ระบายน้ำออกได้ไม่ดี
ผ้าเบรคที่มีหน้าที่ สร้างความฝืด เจอกับ น้ำ ที่เป็นตัวหล่อลื่น
ผล ก็คือ เบรค ลื่น หลัง ลุยน้ำ นั่นเอง

ยังไม่นับ เรื่อง ขับแบบ ซิ่ง อัดเบรคหนักๆ
ถ้าใช้ ผ้าเบรค ระดับ เดียวกัน
รับรองว่า รถที่ใช้ ดิส 4 ล้อ เบรค  จะยังดีกว่า รถใช้ ดรัมเบรค หลัง แน่นอน
เพราะ ดรัมเบรค มัน ระบายความร้อน ไม่ดี ครับ

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นที่ใช้ ดิสเบรค 4 ล้อ มี คู่แข่ง เพียง วีออส รุ่นท็อป
แต่ เครื่อง วีออส ก็ สู้ ซิตี้ไม่ได้
วีออส เครื่องแรงน้อยกว่า นิด
วีออส เครื่องกินน้ำมัน มากกว่า นิด จาก ผล ทดสอบของ ยานยนต์

ส่วน รถซับคอมแพ็ก ยี่ห้อ อื่น
ประหยัด ต้นทุน ที่ ไม่ยอม ให้ ดิสเบรค หลัง
นี่ คือ ความปลอดภัย หลัง ลุย น้ำท่วม ที่สำคัญ ที่สุด นะครับ

ถ้า ยี่ห้ออื่น ยังประหยัดต้นทุน ไม่ยอม ให้ ดิสเบรค หลัง
แล้ว เลือก ให้ เซลล์ และ พนักงานที่มีหน้าที่ ทำงานตามสื่อ ดิจิตอล ทำงานแทน ดิสเบรคหลัง
คือ ย้อมความคิด คนเสพสื่อ
ให้เชื่อว่า ดรัมเบรคหลัง เพียงพอแล้ว สำหรับ รถซับคอมแพ็กซ์
ทั้งๆที่ มัน ไม่จริง

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นใช้ ดิส 4 ล้อ
ก็ ยังจะเป็น รถ ซับคอมแพ็ก ที่ดีที่สุด ใน ความคิดของผม ครับ

รถเล็ก ตัวเบา เกรดสูง
มาสด้า MX5
ฟอร์ด เฟียสต้า ตัวแข่ง
เบนซ์ ตัวเล็ก
บีเอ็ม ตัวเล็ก
ก็ใช้ ดิส 4 ล้อ กัน ทั้งนั้น

พยาน และ เหตุผล
ดิส 4 ล้อ ดีกว่า ดิสหน้า ดรัมหลังแน่นอน
และ ยุคนี้ คนซื้อรถ รักตัว กลัวตาย กันมาก

ฮอนด้า ซิตี้ ให้ ดิสเบรค 4 ล้อ ใน รุ่นบน
จึง เป็น ซับคอมแพ็ก ที่ ดี ที่สุด ในวันนี้
เพราะ
เครื่องยนต์ แรงกว่า
เครืองยนต์ ประหยัดกว่า
เบรค ดีที่สุด โดยเฉพาะ หลัง ลุยน้ำ
ช่วงล่าง ก็ ดี ในระดับ ซับคอมแพ็ก คือ พอตัว แต่ ไม่ดีนัก เพราะไม่ใช่ อิสระ ล้อหลัง

ผม ขอ ปาดหน้า ให้ ข้อมูล ก่อน
ทั้งๆที่ ผมชอบ แลนเซอร์ อี20 มากกว่า ซับคอมแพ็กสมัยใหม่ ทุกยี่ห้อ
เนื่องจาก แลนเซอร์ อี20 ให้ ดิสเบรค 4 ล้อ และ ช่วงล่าง อิสสระแท้ ทั้ง 4 ล้อ
แต่ มีข้อเสีย คือ เครื่องยนต์โบราณ ตัวรถตกยุค
แต่ ราคา ไม่ถึง 6 แสน ในรุ่น เกียร์ธรรมดา
คนที่ชอบ ขับรถที่ เบรคดี สัมผัส ความรู้สึก ที่ ล้อทั้ง 4 แนบ ไปกับ โค้ง ได้ดีกว่า ซับคอมแพ็ก ทุกยี่ห้อ
ควรมอง แลนเซอร์ อี 20 ให้ ละเอียด นะครับ

ความรู้สึก ที่ ล้อทั้ง 4 แนบ ไปกับ ถนน แบบ ช่วงล่างอิสระ ของ แลนเซอร์ อี20 นี่
ไม่เหมือน กับ
ความรู้สึก ที่ล้อหลัง ไม่เกาะโค้ง แบบ ซับคอมแพ็ก ทั้งหลาย

คือ วิศวกร เขา ทำให้ รถซับคอมแพ็ก ขับง่าย มุดง่าย แบบ ประหยัด
คือ ไม่ใช้ ช่วงล่างหลังที่เกาะ แต่ แพง
แต่ เลือกใช้ ช่วงล่างหลังคานแข็งบิดตัวได้ ที่ไม่เกาะ แต่ ราคาถูก หลอกความรู้สึก คนขับ นะครับ
ผลคือ คนขับ จะมุดได้มัน แต่ รถมัน ไม่เกาะถนนในโค้ง เท่า ช่วงล่างอิสระ
ใช้ ต้นทุน ถูก
เช่น เหล็กกันโคลง สปริง โชคอัพ ทำหน้าที่ สร้างความรู้สึกที่ดี ให้คนขับ
รถเกาะถนนน้อยลง แต่ คนขับ รู้สึกว่า ควบคุมรถได้ดี ครับ

ถ้า แลนเซอร์ อี20 ปรับ ช่วงล่าง ให้ หนี ความนุ่ม อีกนิด
ใช้ยางแก้มเตี้ย ระดับ เดียว กับ ซับคอมแพ็ก ตัวท็อป
นี่ จะเป็น รถ คอมแพ็ก โบราณ ที่ เหนือกว่า ซับคอมแพ็กสมัยใหม่ ทุกยี่ห้อ ในระดับ ราคาเดียวกัน
ในเรื่อง เกาะถนน และ เบรค ครับ

แต่ เรื่อง ความแรง และ ประหยัด
ก็ ยกให้ 120 แรงม้า ใน ฮอนด้า ซิตี้ อยู่เช่นเดิม ละครับ




ด้วยความเคารพ

ถ้าลองสังเกตรถมอเตอร์ไซค์ดูนะครับ คันที่ใช้ดรัมเบรค จะเบรคด้วยสายสลิง แต่คันที่ใช้ดิสก์เบรค จะใช้ไฮโดรลิคช่วย

สังเกตไหมครับ ???

ข้อดีของดรัมเบรคคือ แรงในการเบรคสูงกว่าครับ ดรัมเบรคมอเตอร์ไซค์เบรคด้วยสายเบรคก็เพียงพอ แต่ดิสก์ต้องใช้ไฮโดรลิคช่วย เบรคมือรถยนต์ ก็เป็นดรัมครับ ถึงจะเป็นล้อหลังก็เป็น ดรัมที่อยู่ในดิสก์เบรค รถเมล์รถบรรทุก ก็ใช้ดรัมเบรคกันทุกล้อ

สิ่งที่ดิสก์เบรคมีเหนือกว่าดรัมเบรคมีเพียงแค่
-สวยกว่า
-เบรคได้ฉับไวกว่า
-ระบายความร้อนและน้ำดีกว่า

อนึ่ง สมัยก่อนรถเก๋งก็เคยใช้เบรคแบบสายครับ แต่กว่าจะตั้งเบรคได้ก็เล่นเอาลากเลือด เพราะถ้าแรงเบรคไม่เท่ากันรับรองว่ามีแฉลบแน่ แต่ก็เปลี่ยนมาใช้ระบบไฮโดรลิคอย่างที่ใช้ในรถปัจจุบันในที่สุด

ออฟไลน์ Satanic za'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,073
เอ๊ะ ไหงกลายเป้นกระทู้เรื่องเบรคไปซะแล้ว 555

แต่ก็ดีครับได้ความรู้ดี

ผมว่าดรัมก็เพียงพอนะ สำหรับรถเล็กๆ แต่ถ้าให้เลือก ใครๆก็คงอยากได้ดิส เพราะมันหล่อกว่ากันเย๊อะ อิอิ

เอาข้อมูลมาให้อ่านเล่นๆนะครับ

ข้อดีของดิสก์เบรก
1.ใช่ชิ้นส่วนน้อยกว่าดรัมเบรก
2.ตอบสนองได้เร็วกว่าดรัมเบรก
3.การระบายความร้อนดีกว่าดรัมคับ
4.รีดนำจากผ้าเบรกได้เร็วกว่าคับ(เวลาฝนตก)
5.บริการง่ายกว่าดรัมเบรกคับ
6.ไม่ต้องตั้งระยะห่างของผ้าเบรกเพนาะลุฏยางเบรกจะตั้งระยะห่างให้อัโตโนมัตคับ
ข้อเสียของดิสก์เบรก
1.อะไหลแพงก่า
2.ผ้าเบรกหมดเร็วกว่า
3.ประสิทธ์ภาพดิสก์เบรกน้อยกว่าดรัมเล็กน้อยคับ(ไม่แน่ใจนะคับ)
ข้อดีของดรัมเบรก
1.ประสิทธ์ภาพในการเบรกดีกว่าดิสก์คับ
2.อะไหล่ราคาถูกกว่า
3.เปลืองผ้าเบรกน้อยกว่า
4.อายุใช้งานยาวนานกว่า
ข้อเสียขอดรัมเบรก
1.บริการยากกว่าดิสก์เบรก
2.ต้องตั้งระยะหางผ้าเบรก
3.ระบายความร้อนได้ยากกว่า
4.รีดนำได้ยากกว่า
5.การตอบสนองช้ากว่า


เครดิต http://www.modernbug.com/forum/index.php?topic=6216.0 << ข้างในยังมีข้อมูลอีกพอควร ลองเข้าไปอ่านดูแล้วกันครับ ไม่อยากกอปมาหมด มันเยอะ เดี๋ยวมันจะรกกระทู้เกินไปอ่า

ออฟไลน์ Cube

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 250
ฮอนด้าประหยัดจัง :'(

ออฟไลน์ akkavit

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 274
ก็แบ่งๆกันกินไปนะครับ ครั้งที่แล้วโตโยชนะเลิศ คราวนี้ ฮอนด้าก็อยากเอาคืนบ่าง

ออฟไลน์ Visual

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
กลายเป็นกระทู้เบรคจริงๆ  ;D

ใครเลือกได้ก็คงเลือกดิสไว้ก่อนแหละครับ
ไม่ใช่ว่าดรัมไม่ดี แต่ดิสมันสวยกว่า  :D


ออฟไลน์ IncarRus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,519
    • อีเมล์
กลายเป็นกระทู้เบรคจริงๆ  ;D

ใครเลือกได้ก็คงเลือกดิสไว้ก่อนแหละครับ
ไม่ใช่ว่าดรัมไม่ดี แต่ดิสมันสวยกว่า  :D

พูดถูกครับ  ;D

ออฟไลน์ FyGI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,306
มันน่าจะมีเรื่องอื่นที่นอกเหนือจากเบรค นะครับ

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
อ่าน ทุกความเห็น ครับ
ดีครับ
คิดกันได้ รอบด้าน เพราะ คิดหลายหัว ย่อมดีกว่า คิดหัวเดียว

ผม เงียบไป 2 เดือน เพราะ เกิดอาการ ท้อ กับ สภาพบ้านเมืองไทย
แต่ ก็ กลับมา มี กำลังใจ หลังจาก ดู บอล ญี่ปุ่น ชนะ เดนมาร์ก 3-1
ชนะ อย่าง ใส สะสาด

นี่ก็ เพิ่ง ดู เกาหลี แพ้ อุรุกวัย แบบ เกาหลี เล่นได้ สะใจ คนเอเชีย ครับ

กระทู้ เรื่อง ซิตี้ ก็ ไม่ได้ กลายพันธุ์ เป็น กระทู้ เบรค อย่าง ไร้ประโยชน์ เสียที่เดียว
เพราะ เบรค คือ สิ่ง ที่ สำคัญ ที่สุด สำหรับ รถยนต์ ที่ วิ่งได้ เร็ว กว่า คนใช้เท้าเดิน หลายเท่านัก

ผม ถือว่า เบรค คือ สิ่ง สำคัญ ที่สุด ใน การตัดสินว่า รถคันไหน ยี่ห้อไหน ดี กว่า กัน ครับ

ส่วน ท่านอื่น จะ คิดต่างกัน อย่างไร ก็ เป็น สิทธิ ของท่าน
ทุกคน เคารพ ความเห็น กันและกัน
เวป แห่งนี้ จึง ดีที่สุด ในประเทศไทย
ในความเห็น ของผม ตลอดเวลา ครับ

เพื่อน ผม บางคน เลือกรถ เพราะ สีสวย
บางคน เลือกเพราะ เมียชอบ
บางคน เลือก เพราะ นั่งสบาย
บางคน เลือก ที่ ยี่ห้อ

ผม และ เพื่อน ก็ คิดเห็น ต่างกัน ได้ ใน เรื่อง รถ
และ ก็ คบกันได้ อย่าง สนิทใจ มา กว่า ยี่สิบ ปี

เพราะ มี จุดสำคัญ ที่ เพื่อนที่เรียนวิศว ด้วย กัน ยอมรับ กัน คือ
เหตุผล ครับ

คนที่ เลือก่รถ ที่ สีสวย เขาก็ มี เหตุผล ตัวอย่างยกให้ดู ซึ่ง ผม ก็ ยอมรับ ว่า สีสวย เนื้อสี ดีจริง
คนที่ เลือกรถ ที่ นั่งสบาย เขาก็ มี เหตุผล ตัวอย่างให้ผมนั่ง ซึ่ง ผม ก็ ยอมรับ ว่า นั่งสบาย จริง
 
และ ผม ก็ เลือก ที่ เบรค และ ช่วงล่างอิสระ 4 ล้อ
ผม ก็ มีเหตุผล ถก กับ เพื่อนวิศวกร ด้วยกัน
ซึ่ง เขาก็ยอมรับ แม้ว่า รถที่เขาเลือก จะเป็น รถดรัมเบรคล้อหลัง และ ช่วงล่างหลัง กึ่งคานแข็ง ก็ตาม

ไม่มี ใคร ปกป้อง รถที่ตัวเองใช้ แบบ ไร้เหตุผล ครับ
ความรู้ที่แท้จริง แบ่งปัน กันได้
และ ความรู้ที่ไม่จริง เป็น เท็จ ก็ ควร จะถูก แย้ง ให้ หายไป

ดิสเบรค 4 ล้อ ดีที่สุด แม้จะมีจุดด้อย ใน บางจุด
แต่ สำหรับเรื่อง การระบายความร้อน และ เรื่อง ไม่อมน้ำ หลังลุยน้ำท่วมหนัก นั้น
ดิสเบรค เหนือกว่า ดรัม เบรค แน่นอน

ช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ แท้
ย่อม เกาะถนน ดีกว่า ช่วงล่าง คานแข็งหลัง หรือ กึ่ง คานแข็งหลัง

ทั้งหมด คิดใน เงื่อนไข ผ้าเบรค ยาง คุณภาพใกล้ เคียงกัน ครับ

หนังสือ ยานยนต์ เขา ทดสอบ เรื่องประหยัดน้ำมัน ที่ความเร็ว 100 กม/ชม
ต่างจาก คุณจิมมี่ ที่ ทดสอบ ที่ 110 กม/ชม
ดังนั้น จึงได้ ตัวเลข ต่างกัน
ผม ลืม เขียน กำกับไว้ครับ

Thai Driver ก็ เป็น หนังสือ ประจำบ้าน ที่ผมซื้อประจำทุกเดือน ครับ
ชอบอ่าน บทความ สัมภาษณ์ อาจารย์ ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข
ล่าสุด ก็ อ่านเรื่อง เหล็กกันโคลง
และ ท่าน ก็ พูดถึง กระบะ ยี่ห้อหนึ่ง ที่ ใส่เหล็กกันโคลงหลัง
และ ท่านก็บอกว่า ใส่ เพราะ รถมีนิสัย หน้าแหก โค้ง
และ ไม่ได้แก้ ที่ ปัญหา หลัก
แต่ เลือก แก้แบบ ราคาถูก คือ ไปทำให้ ล้อหลัง เกาะโค้ง น้อยลง
คือ ใส่เหล็ก กันโคลงหลัง เพื่อให้ ล้อหลังไม่เกาะ
ผลคือ ท้ายปัด หน้ามุด โค้ง แก้ เรื่อง หน้าแหกโค้ง ไปได้
แต่ เป็น การแก้แบบ ไม่ถูกต้อง
คือ ทำให้ รถเกาะถนน น้อยลง
แต่ คนขับ ไม่รู้สึก เพราะ คุณภาพ คนขับ นั่นแหละครับ
คนที่ ชอบ กระบะยี่ห้อ ที่ใส่เหล็ก กันโคลงหลัง อ่านถึง ตอนนี้ คงควัน ออกหู
แต่ เหตุผล ที่ อาจารย์ ศิริบูรณ์ อธิบาย ก็ แจ่มแจ้ง ใส กระจ่าง

ถ้า คนอ่าน ละ อคติ
ตัวเอง ก็ จะได้ ความรู้ ที่แท้จริง ติดตัวไปครับ

อาจารย์ ศิริบูรณ์ ชม โปรตอน นีโอ ไว้มาก
ชม ใน ฐานะ คน มองรถ ที่ เนื้อจริง
ไม่ใด้ ดูที่ ส่วนประกอบ ที่ไม่ใช่ หลัก ของรถ
ต่างจาก คนส่วนมาก ที่เลือก รถ ที่ ส่วนประกอบย่อย
และ ละเลย ส่วนประกอบ หลัก

ผม ก็ เพิ่งรู้ จาก คุณจิมมี่ ว่า คนเก่ง จาก ยานยนต์ ย้ายออกไปมาก
มิน่า พักหลัก คุณภาพ ยานยนต์ ตกไปเยอะ

นอกจาก อาจารย์ ศิริบูรณ์ แล้ว
ผม ก็ ยังมี ขวัญใจ ยามเด็ก คือ คุณ ยอด
ที่เคยเขียนใน ยานยนต์ เมื่อ หลายสิบปีก่อน
คุณ จิมมี่ พอจะทราบไหมครับว่า
คุณ ยอด ไป อยู่ ไหน แล้ว

เขียน ยาว อีกเช่นเคย ครับ
หวังว่า ญี่ปุ่น จะชนะ ปารากวัย ได้นะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 27, 2010, 14:51:07 โดย traveller »

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
เรื่อง"เบรค" ผมมั่นใจว่าดรัมเบรค ไม่ได้เบรคแย่กว่าดิสเบรคเสมอไป
เพราะน้ำหนักที่กระจายตอนเบรค บวกกับน้ำหนักรถที่ข้างหน้าจะมากกว่าข้างหลัง(70:30)
เบรคล้อหลังมีความสำคัญน้อยกว่าเบรคล้อหน้าแน่นอน

แต่ยกเว้นเรื่องความร้อนและการลุยน้ำ อันนี้ยอมรับว่าดิสเบรคดีกว่าดรัมเบรค(มาก)


ตัวผมขับวีออสE ซึ่งมีดรัมเบรคหลัง
ในขณะที่เพื่อนขับตัวG เป็นดิสหลัง

ประสิทธิภาพในการเบรคไม่ต่างกันเลย
 
ดิสหรือดรัม
ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่จะตำหนิว่ารถคันนั้นมันจะแย่เสมอไปครับ
อย่างมาสด้า2ตอนออกใหม่ๆ ดรัมเบรคก็เป็นประเด็นนึงที่คู่แข่งหรือคนใช้รถเอามาตำหนิกันบ่อยๆ
(ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองขับเลย ของแบบนี้ต้องลองครับ จะรู้ว่าดรัมเบรค ไม่ได้แย่เสมอไป)

ออฟไลน์ POPROCK

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 387
เห็นด้วยกับ อ.Traveller ครับ

ทุกคนในเวบ ล้วนมีเหตุผลเป็นของตนเอง
นักปราชญ์เถียงกันด้วยความคิด

ข้าน้อยฯ ขอนับถือ
สังคมดีๆ...ไม่มีขาย
อยากได้...ต้องช่วยกันสร้าง
โดยเริ่มจาก...ตัวเราเอง

ออฟไลน์ wpookpho

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 40
ผมใช้ City รุ่น S M/T (รุ่นที่ไม่มีไฟในที่เก็บของท้ายรถ) มาตั้งแต่เดือนก.พ. 52 ครับ ตอนนี้ใกล้จะครบ 40,000 กิโลแล้ว

สิ่งที่ผมเจอกับตัวเองก็คือ

1. ตัวเลขอัตราการกินน้ำมันที่แสดงในหน้าจอของรถ จะ "มองโลกในแง่ดี" ไปประมาณ 2 กิโลเมตรต่อลิตร ผมเคยทำได้ดีที่สุดในหน้าจอรถประมาณ 20 กิโลนิดๆ ต่อลิตร แต่พอมาดูใน excel ที่ทำไว้จะได้แค่ประมาณ 18 กิโลเมตรต่อลิตร

2. เติมน้ำมันเต็มถัง วิ่งเกินได้ 500 กิโลเมตรแน่ๆ ไม่ต้องกังวลอะไร (เกิน 500 กิโล แล้วค่อยมองหาปั๊ม)

ส่วนเรื่องเบรคผมไม่มีความเห็นครับ เพราะไม่เคยเบรคแรงๆ เลยตั้งแต่ขับมา เลยไม่รู้ความแตกต่าง

ออฟไลน์ traveller

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 266
ตามอ่าน ทุกความเห็น ครับ

ผมอยู่ต่างจังหวัด
ชอบขับรถไปไกลๆ กับเพื่อน
มีโอกาส ทั้งขับ และ นั่ง รถ ซับคอมแพ็ก ทุกยี่ห้อ
ครั้งละ หลายวัน
ผลัดกันขับ ผลัดกันนั่ง
ขับไป วิจารณ์ไป
นั่งไป วิจาณ์ไป

ขอแนะนำ สำหรับ คนที่ ชอบรถที่ เบรค และ ช่วงล่าง
ควร ลอง ขับ โปรตอน นีโอ ทางไกล
โดย เฉพาะ ทางขึ้นเขา พันโค้ง
ขับ หลายวัน

แล้ว เมื่อ กลับมา ขับ รถ ซับคอมแพ็ก คันอื่น
จะ รู้สึกว่า รถพวกนี้ ช่วงล่าง ไม่ได้เรื่อง เลยจริงๆ

แต่ ถ้า คิด จะ ซื้อ โปรตอน นีโอ ใช้
ผม แนะนำว่า ควรทำใจ กับ ศูนย์บริการ และ คุณภาพอุปกรณ์ประกอบ ระดับ มาเลย์ ไว้มากมาก ก่อน นะครับ

แต่ ถ้า คิด จะ ซื้อ โปรตอน นีโอ ไปใช้แข่งในสนาม
รีบ ซื้อ เลยครับ
เพราะ ปีที่แล้ว นักแข่งวัยอ่อน หน้าใหม่ พี่น้องสองคน ได้ แชมป์ประเทศไทย ทางเรียบ
ก็ ขับ โปรตอน นีโอ นี่แหละ ครับ
เร็วกว่าทุกโค้ง เบรคดีเยี่ยม
กินหมด ชนะ รถซัพคอมแพ็ก ชื่อดัง ที่ขับ โดย นักขับมือเก่า ทั้งหลาย อย่างง่ายดาย

โปรตอน นีโอ คือ รถซับคอมแพ็ก ยี่ห้อเดียว ที่ให้ ดีสเบรค 4 ล้อ และ ช่วงล่างอิสระ แท้ รอบคัน
สปริงหลัง ยาวมาก ทำให้ ช่วงล่าง ปรับตัว ได้ ทุกสภาพแรง ที่ กระทำ ที่ ล้อหลัง
นี่แหละ รถ ซับคอมแพ็ก เกาะหนึบ ตัวจริง ครับ

คุย เรื่อง รถยนต์
ไม่เน้น คุย เรื่อง เบรค ช่วงล่าง และ เครื่องยนต์
เหมือน คุยเรื่อง เฟอร์นิเจอร์ ของ ตกแต่งบ้าน อย่างไร ไม่รู้นะ

เพื่อนสนิทของผม มัน ตอบผม ว่า
เลือก รถ เหมือน เลือก เฟอร์นิเจอร์ นั่นแหละ
สีดี งานดี สวย ออปชั่นให้เยอะ ก็ เลือก คันนี้แหละ
ไม่ขอ ใช้ ความรู้ วิศวกร ที่ตัวเอง มีอยู่ เลือกรถ

พอไปเที่ยว ไกลๆ กัน จริงๆ
งาน วิศวกรรมศาสตร์ จะ แสดง จุดเด่น เหนือ ความงาม ความคุ้มค่า ทางเฟอร์นิเจอร์ อย่างชัดเจน
รถยนต์ ที่ ช่วงล่างดี เบรคดี เครื่องดี จะ แสดง จุดเด่น ให้ เห็น ตาม ระยะทาง ที่ ใช้รถ ติดต่อกันยาวนาน

ซึ่ง จะไม่เห็น จุดนี้ เมื่อ ใช้รถในเมือง ครับ
เพราะ คลาน ตามกัน ไปมา
แอร์เย็น ประหยัดน้ำมัน คือ จุดหลัก ของรถเมือง ครับ

สมัยก่อน ที่ ฮิตเล่อร์ คิดจะสร้างรถยนต์เพื่อประชาชน ราคาถูก
โดย เน้นที่ สร้างง่าย ถูก ทนทาน เป็นหลัก
ช่วงล่าง ก็จะเป็น คานแข็ง ตามสมัยนิยม
คือ คิด สร้างรถ แบบ นักการเมือง หาเสียง นั่นแหละ ครับ
แต่ ถูก เบนซ์ ทักท้วง ว่า
รถยนต์ ต้อง มีคุณภาพ ที่ดีด้วย จึง จะเป็น รถที่ใช้งานได้ดีจริง
โดยต้องยอม แลกกับ ราคาที่สูงขึ้นอีกนิด
ฮิตเล่อร์ จอมเผด็จการ เชื่อ คำแนะนำ ของ เบนซ์

รถโฟล์ก เต่า ช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ จึง ถือกำเนิดขึ้นมาได้ โดย ทีมวิศวกรจากเบนซ์
แม้จะใช้ ดรัมเบรค 4 ล้อ
แต่ ก็ เป็นไป ตาม เทคโนโลยี่ในยุค 70 ปีก่อน

น่าแปลก ที่ ปัจจุบัน
ผู้คน สมัยใหม่ ยุคไอที สุดไฮเทค
จะ ยอมรับ ช่วงล่าง คานแข็ง ให้ตัวได้นิดหน่อย ว่า ดี เกาะถนนเยี่ยม สำหรับ รถซับคอมแพ็ก ล่าสุด
ละเลย ช่างล่างอิสระ 4 ล้อ
ที่ สร้างชื่อ ให้ โฟล์กเต่า ฐานล้อหน้าหลังสั้นเป็นจุดด้อย ว่า เป็น รถวิ่งดี ได้เช่นกัน
ยังไม่ นับ เรื่อง ยอมรับ ดรัมเบรค ในรถนั่ง ระดับ ราคาหกแสนกว่า เจ็ดแสนได้ด้วย

ทั้งๆ ที่ อยู่ใน ยุคไอที มี ข้อมูล ชัดเจน ว่า
รถนั่ง เกรดสูง ของ ทุกยี่ห้อ
ใช้ ช่วงล่าง อิสระ 4 ล้อ และ ใช้ ดิสเบรค 4 ล้อ กัน ทั้งนั้น

ไม่น่าเชื่อ เลย จริงๆ นะ ครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 28, 2010, 08:04:06 โดย traveller »