ถ้ารถไฟฟ้าขึ้นอีก 2-3 สาย กรุงเทพจะยังรถติด จนติดอันดับโลกอยู่มั้ย?

YenChar

ทุกวันนี้เมืองหลวงบ้านเรารถติดสาหัสมากๆ โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วน

บังเอิญได้ยินได้ฟังเพื่อนที่ทำงานอยู่เพลินจิต แต่บ้านอยู่สำโรง
มันบอกว่าคุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะ หลังจากรถไฟฟ้ามาถึง
วันทำงานนั่งรถไฟฟ้า วันไหนมีนัดค่อยเอารถไป

หรืออย่างโซนบางซื่อ เข้าใจว่าคนทำงานโซนปูนใหญ่ก็สบายขึ้น
เกาะรถใต้ดิน นั่งไปเรื่อยๆไม่ต้องฝ่ารถติดก็ถึงที่หมายแบบชิวๆ

หรืออีกหน่อย ถ้ารถสายสีเหลืองเสร็จ
คนอยู่อ่อนนุช ศรีนครินทร์จะไปลาดพร้าวก็ไม่ต้องขับรถอีก
หรือสายสีส้ม คนแถวรามฯจะเข้าเมืองก็ไม่ต้องพึ่งพารถอีกต่อไป

ลามไปถึงพวกรถสองแถวที่ชอบจอดแช่ ขับช้าๆอยู่เลนกลาง ก็จะมีจำนวนลดลงตาม demand
และปริมาณแท็กซี่ก็น่าจะลดลง กระจายตัวออกไปเขตจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น

ทุกท่านคิดว่ายังไงครับ??
อีกหน่อย 3-4 ปีข้างหน้า บ้านเราจะยังเจอปัญหารถติดแบบเดิมๆอีกมั้ย
เข้าใจว่ามันทำให้พฤติกรรมการใช้รถลดลง

หรือถ้าว่ากันยาวๆ 5-6 ปีข้างหน้า สภาพการจราจรบ้านเราจะดีขึ้นมั้ย
ขอความเห็นครับ



Elestra2

ก่อนผมเกิดก็ ติดมาตลอด รวมสี่สิบปีได้

นักการเมืองรับเงินโรงงานรถยนต์ โรงงานคอนกรีต โรงงานน้ำมัน
รวมถึงพวกควบคุมบ้านเมือง อยากเก็บเงินค่าเสื้อกั๊กมอเตอร์ไซตัวละหลายหมื่น
มันถอดพวกรถราง รถไฟ ถมคลองต่างๆ ออกไป เป็นขบวนการที่เจตนาทำมาตั้งนานแล้ว
 เจตนาทำให้รถติดเพื่อให้คนไม่กี่คนได้เงินใต้โต๊ะปีละหลายร้อยหลายพันล้าน

อะไรก็ตามที่ทำให้คนไม่ซื้อรถ มันเอาออกหมด เช่นที่จอดรถเมล์ให้รอรับคนนานๆ ตามใต้ทางยกระดับ หรือ ในสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว มันก็ไม่ให้ (แต่ทุ่มทุนสร้างที่จอดรถหลายสิบชั้นเปนพันล้าน)

ความหวังคือ พวกแอปแชร์แท็กซี่ อย่าง Uber Share นิแหละ ที่อาจช่วยได้ ช่วยกันออกค่าแทกซี่ เดินทางไปเส้นเดียวกัน



citrinecw

ตราบใดที่ภาคการผลิตรถยนต์ยังเป็นเสาหลักค้ำอุตสาหกรรมไทยอยู่ก็อาจจะยากหน่อยครับ รถใหม่ขายปี 8 แสนคันก็ไหลเข้าถนนทุกๆปี บ้านเราก็ไม่มีนโยบายการจำหน่ายรถเก่าหมดอายุยังงัยรถก็ยังติดครับ แต่อาจจะกระจายไปติดรอบนอกมาขึ้น



Gαz

ผมมองว่าก็คงช่วยได้ แต่ตราบใดที่ขนส่งมวลชนอื่นๆยังไม่พัฒนา รถก็จะยังคงติด เพราะบ้านทุกคนไม่ได้ติดรถไฟ ต้องอาศัยอย่างอื้นไปขึ้นรถไฟ แต่ถ้ายังคงลำบากที่จะเดินทางไปรถไฟ ก็ขับรถเหมือนเดิม



Devil13

ช่วยได้ครับ แต่แก้ไม่ได้ทั้งหมด
มองตามจริงคือ เราไม่ได้วางแผนผังเมือง อะไรๆเลยไม่ลงตัวหลายๆอย่าง คอขวดเยอะ และการทำอะไรหลายๆอย่างก็มีผลประโยชน์มาเป็นปัจจัยหลัก ดูอย่างเสาแองกี้เบริ์ดตรงดอนเมืองสิครับ สร้างมากี่ปี แล้วตอนนี้มีวี่แววจะเสร็จไหม? ได้ข่าวว่าจะรื้อมาพักใหญ่แล้ว และค่ารื้อแพงกว่าค่าทำเสาอีก...  8)

เอาจริงๆผมว่ารถขนส่งสาธารณะมีผลเยอะครับ
ทำดีๆคนใช้เยอะแบบประเทศเจริญแล้ว ใครจะอยากเอารถตัวเองมาใช้ละครับ ผมคนหนึ่งแหละไม่อยากขับรถในกรุงเทพเลย ชอบนั่งรถสบายดี



liveshow

ไม่ครับ เพราะรถไฟฟ้า ไม่ได้มีทั่วทุกจุดในกทม. จริงๆ
ยกตัวอย่างผมเอง ถ้าไปทำงาน พระราม 3 มาจากบางใหญ่ ถ้าขึ้นรถไฟฟ้าบางใหญ่ ต้องอ้อมเข้าเมืองไปลงเตาปูนแล้วขึ้น mrt ไปลง 0 ประชุม ต่อ 205 มาลงพระราม 3 ค่ารถ ประมาณ 60-80/เที่ยว ไม่รวมค่ารถที่ออกมาจากซอยอีก 30 บาท 3 กิโล แพงกว่านั่ง mrt + bus 40 กิโลอีก
ปัญหามันไม่ใช่ค่าเดินทางครับ มันอยู่ที่เวลา ที่ว่ามาทั้งหมดเนี่ย 2-2.30 ชม. ในการเดินทาง / เที่ยวนะครับ ไปกลับ 4-5 ชม. จบละครับ ทำงาน 8-9 ชม.

ขับรถ แบบติด นรก ไปกลับยังไม่เกิน 3 ชม. ครับ ไปกลับ 84 โล ค่าแก๊ส ค่าที่จอด ไม่ถึง 130 สุดท้ายมี รถไฟฟ้า แต่ไม่ตอบโจทย์ไปกลับที่ทำงานอยู่ดีครับ

กรุงเทพยังคงติดเป็น อันดับ 1 ต่อไปครับ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้



sith(สิทธิ์)

รถไฟฟ้า( บีทีเอสและรถไฟใต้ดิน) + รถราง + รถร่วมประจำเส้นทาง ที่มันใหม่ๆ ไม่ตายคาถนน ผมว่าน่าจะลดการจราจรที่ติดขัดได้นะ



SETTHASART

คงติดเหมือนเดิมครับ ส่วนพวกที่ได้รับผลกระทบคงเป็นพวกรถประจำทาง แท็กซี่ ที่ผู้โดยสารจะมีน้อยลงแน่ๆ



5thAvenue

ติดเหมือนเดิมครับ แต่เราจะมีทางเลือกที่เร็วกว่า ในการเดินทาง มากขึ้น



sk-non

ผมวิ่งสุขุมวิท สยาม ทุกวัน
ปัญหาที่เจอบ่อยคือ แท๊กซี่จอดรับส่ง ผู้โดยสาร

แต่ที่เซ็งกว่าคือ ไม่รับขึ้นรถ เพราะคุยราคากันไม่ได้
แล้วเราไปจอดรอมันคุยกัน ไม่อยากไปบีบแตรไล่
กลัวจะมีเรื่องอีก





Lammerison

รถไฟฟ้าทำให้คนจำนวนนึงไม่ลงมาอยู่บนถนนเพื่อขึ้นรถยนต์ แต่ ก็ยังมีหน้าใหม่ๆ เอารถเข้ามาวิ่งบนถนนอยู่ดีครับ

มันจะยังติดครับ แต่ไม่รุนแรง แล้วหละครับ



mickey47

มีรถไฟฟ้าผ่านที่ไหน คอนโดขึ้นที่นั้น รถก็ตามกันมาอยู่นั้นและผมว่านะ

 ถ้าเรามีระบบขนส่งสาธารณะดีๆ คุณภาพดี ราคาต่ำ (ผมก็อยากให้รถไฟฟ้าราคาลดลงมาอีกนะ) ครอบคลุมทั่วถึง อย่างรถเมล์ดีๆ ปลอดภัย มันก็ทำให้เราอยากใช้ขนส่งสาธารณะกันมากขึ้น จะไปเที่ยวห้างหรือไปทำงานก็ลดการใช้รถส่วนตัว

แล้วก็ผมว่าสิ่งนึงที่น่าคิดคือ ซื้อของออนไลน์ เดียวนี้อย่าง Tesco. lazada ก็มีบริการซื้อของออนไลน์กัน ผมก็สั่งครับ สะดวก ไม่ต้องขับรถไปซื้อเอง ก็เป็นส่วนนึงที่ช่วยได้นะ แต่ก็อย่างว่า เราชอบที่จะเห็นของก่อนที่จะซื้อ ส่วนนึงที่จำเป็นมากๆเลยคือ. ข้อมูลของสินค้า ความน่าเชื่อถือของร้านค้า ขนส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ สินค้าไม่เสียหาย

ผมเป็นคนนึงที่ไม่ได้ปฏิเสธว่า ชอบความสะดวกสบาย มีรถก็อยากขับออกไปเทียว ไปห้าง ไปทำงานนะ



nl2br

ยังติดเหมือนเดิมครับ แค่มันช่วยเพิ่มตัวเลือกการเดินทาง
บล็อกข่าวไอทีกากๆ >> https://thaimobiletricks.blogspot.com/ << ข่าวมือถือ มือถือรุ่นใหม่



e:smart Hybrid

น่าจะเบาลงครับ เพราะอย่างบ้านผมอยู่ตรง เสนานิคม 1 สถานีรถ BTS จะมาหน้าปากซอย ถ้าผมนั่งไป central ก็คุ้มอยู่ครับ ไม่ต้องเสียค่าจอดรถค่าน้ำมัน

แต่ค่าตั๋วควรถูกลงกว่านี้จริงๆ ครับ



Best86

รถไฟฟ้าอย่างเดียวคงไม่พอจะแก้ปัญหารถติดได้ เพราะระบบไฟฟ้ายังไม่ครอบคลุม รถไฟฟ้าเป็นระบบหลัก ยังต้องมีระบบรอง เช่น รถเมล์ เพื่อป้อนคนเข้าสู่ระบบหลักด้วย



CarameLon

ไม่ต้องศิวิลัยซ์ ขนาดรถไฟใต้ดินรถรางรถลอยฟ้า อย่างญี่ปุ่น อังกฤษ เยอรมัน ฯลฯ
ขอให้มันวิ่งครอบคลุมเส้นทางสายหลักๆก่อนก็ได้ครับ
รถส่วนตัวที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เพราะ รถไฟฟ้าหรือใต้ดินมันไม่ครอบคลุม พอจะนั่งรถเมล แท๊กซี่ รถตู้ รถแดง
ก็ไม่มีความปลอดภัยอะไรเลย ประมาณว่าวัดดวงว่ามันจะรับเราไหมแถมขับรถอันตรายสุดๆ
TOYOTA WISH SPORT 2.0>>>CRV-2.4L 4WD GEN3>>>TOYOTA Camry 2.4 2010>>>BMW 520 ตาเหยี่ยว>>>BMW X3 2011 >>>BMW 520D 2010 >>>BMW 525D ก่อน LCI >>>BMW 116i M-sport >>>BMW X1 2.0 S-drive 2016 >>>Mercedes GLA200 >>>Mercedes C Class C350e >>> BMW330e+BMWS1000R



Auto

ผมก็ยังใช้รถเหมือนเดิม



Turin

คงดีขึ้น แต่คงไม่ถึงกับหน้ามือเป็นหลังมือ

จะให้เห็นผลมากๆต้องจัดการกับการเดินทางต่อด้วย ที่ฝรั่งเค้าเรียก last mile ตรงระยะสุดท้ายหลังลงรถไฟฟ้าก่อนถึงบ้านนี่สำคัญมาก ถ้า 2-3 กิโลสุดท้ายมันเดินทางยาก คนก็เลือกขับรถอยู่ดี

ดังนั้นสำคัญมากที่ต้องนึกถึง การวางเส้นทางเดินรถเมล์ (ให้รถเมล์ส่งคนเข้า-ออกจากสถานี ไม่ใช่วิ่งไปทางเดียวกับราง) ที่จอดรถ ที่จอดจักรยาน



sixaxis

ส่วนตัวไม่คิดว่าเป็นการแก้ปัญหารถติดอย่างมีนัยยะ และไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ที่มากไปกว่านั้น ถ้า bts mrt เอาแต่ขยายระยะ ไม่พัฒนารอบเดินรถให้เร็วขึ้น มีจำนวนรถไฟรองรับได้มากพอ จนทำให้ต้องรอรถไฟนานเพราะคนเยอะ ผมเกรงว่าคนในกรุงเทพเองก็จะกลับไปใช้รถส่วนตัวซะเอง เพราะเร็วกว่า จนสุดท้าย ปริมาณรถบนถนนก็ไม่ได้ลดอย่างที่คาดเอาไว้ ถึงแม้คนเดินทางจากกรุงเทพขั้นนอกจะยังคงสะดวกก็ตาม

ผมคิดว่า ถ้าจะพัฒนาระบบขนส่งต้องดูโดยรอบ อะไรบ้างที่อยู่บนถนนต้องเอามาคิดให้หมดว่าใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดรึยัง เพราะรถติดไม่ได้เกิดจากแค่ รถยนต์ส่วนตัว แต่ต้องดูเรื่อง คุณภาพการบริการของรถเมล์ แท๊กซี่วิ่งเปล่าที่ไม่รับผู้โดยสาร เลนซ้ายที่มักเสียไปกับรถจอดและหาบเร่แผงลอย ฯลฯ

ถ้าทำสิ่งเหล่านี้ได้ รถก็น่าจะติดน้อยรถได้ประมาณนึง แถมใช้ต้นทุนน้อยกว่า โดยที่ยังไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องผังเมืองเพราะในตอนนี้แก้ได้ยากมากๆแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2018, 13:17:37 โดย sixaxis »



zenten

ติดเหมือนเดิมครับ ถ้า
1. ไม่มีที่จอดรถตามรถไฟฟ้า
2. ค่าใช้จ่ายรถไฟฟ้า + ส่วนต่อขยาย + ค่าจอดรถ แพงกว่า ขับไปถึงที่บริษัท ยังงัยก็ไม่มีคนใช้
3. ส่วนต่อขยาย ไม่ได้ทำให้ไปทำงานให้เร็วขึ้น

**ตัวอย่างก็เห็นมาแล้ว สายสีม่วง ช่วงต่อ เตาปูน ณ เวลานี้ถึงจะดีขึ้นแต่คนไม่ใช้ เพราะ ค่าใช้จ่ายไม่ต่างจากเดิมเท่าไร**



mellifluous

รถไฟฟ้าก็ช่วยได้แค่ส่วนหนึ่งครับ สถานีไม่ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่เล็กๆ

ถ้าจะแก้ปัญหารถติดจริงๆ ต้องทำรถเมล์ให้ดีครับ (ประเทศไทยควรเอาอย่างสิงคโปร์)
ทำใหม่หมดตั้งแต่ระบบตั๋ว คนขับ การจอดป้าย สายรถ ป้ายรถเมล์ คุณภาพของรถ ทุกคนได้ประโยชน์ มากกว่าทำทางด่วนใหม่ๆ เสียอีก

จริงๆ ควรเป็นรถปรับอากาศหมดแล้ว จะให้คนขึ้น รถก็ต้องสะอาด สะดวกครับ ไม่มีใครอยากขับรถออกไปเจอรถติดหรอก ถ้าขนส่งสาธารณะมันดี



swenson

เอาเข้าจริงๆค่าตั๋วไม่ได้ถูกนะครับ

ถ้าพ่อแม่ลูก นั่ง 3 คน ไปกลับ ในเส้นทางยาวๆ วันนึงหลายร้อย

(ถ้าบ้านกับปลายทางไม่ติดถนนใหญ่ต้องเสียค่าอื่นอีก วิน/สองแถว)
https://SecreLocal.com - Best Local Dating Sites - No Verify - Anonymous Casual Dating -   Local Live Chat Dating



SEAHAWK

 แค่ทุเลาไม่ให้หนักขึ้น  นอกจากปริมาณรถแล้ว อุปนิสัยผู้ใช้รถก็มีส่วนที่ทำให้รถติดเยอะขึ้น ลองดูตามโรงเรียนดังๆหลายโรงเรียนจอดรอรับลูก กินมาสองสามเลนเหลือให้วิ่งเลนเดียวมีให้เห็นเยอะ  อีกกรณีคนอื่นจอดรอสัญญานไฟที่จะเลี้ยว ตรงทางแยก ขาเกรียน วิ่งรูดขวาแซงไปกะว่าพ้น แต่ดันติดแดงก็ไปเสียบแถวด้านหน้า ท้ายโผล่ไปขวางเลนรถสวน พวกจอดแช่ป้าย  ไม่รับส่งตรงจุด มีตลาดตรงไหนกรูก็จอดกระพริบไฟซื้อของ มันตรงนั้น  ล้วนแล้วแต่มีผลเรื่องรถติดทั้งสิ้น



bravo

ปัญหารถติด มาจากปริมาณรถส่วนนึงครับ

แต่อีกส่วนนึงที่แก้ไขยาก ก็คือพฤติกรรมการขับรถแบบไม่นึกถึงคนอื่น

สังเกตุเวลาได้สัญญาณไฟเขียว บางคันจะออกตัวช้ามาก(ไม่ใช่เฉพาะคันหัวแถว) ทิ้งระยะห่างจากคันหน้ามากจนเกินไป เพราะคิดว่าเร่งไป ก็ต้องไปติดไฟแดงแยกหน้าอยู่ดี
ไม่ต้องเร่งรีบ เราก็ผ่านไฟเขียวแยกนี้ไปได้แน่ๆ

เวลาโดนใครแซง แล้วไปติดไฟแดงก่อนตัวเอง ก็มักจะพูดว่า " จะรีบไปไหน รีบไปก็ไปติดไฟแดงอยู่ดี " (โอกาสติดไฟแดง มันมีมากกว่าไฟเขียวประมาณถึง 3 ต่อ 1 )

ไม่ได้คิดถึงคันข้างหลัง เขาก็อยากผ่านแยกนี้ไปพร้อมกับคุณ แต่ถ้าคุณขับช้า เขาก็ไม่ทันไฟเขียว ต้องติดไฟแดง รอไฟเขียวรอบหน้า

ถ้าทุกคนช่วยกัน ออกตัวให้ทันคันข้างหน้า(ไม่ใช่จี้ท้ายนะครับ) ไฟเขียวครั้งนึง รถผ่านไฟเขียวได้ปริมาณเพิ่มขึ้น รถมันก็จะติดน้อยลงในระดับนึง โดยไม่ต้องรอให้รัฐมาสร้างอะไรเพิ่มขึ้น ไม่ต้องใช้งบประมาณเลยครับ
(ยกเว้น ถนนบางเส้น ที่ปริมาณรถมากจริงๆ ครับ)



SUBzero

ติดเหมีอนเดิมแหละครับ คนที่ขึ้นรถไฟ้ฟ้า พอมีเงินซื้อรถส่วนตัว ก็เลิกใช้รถไฟฟ้า ไม่สะดวก ไม่เป็นส่วนตัว ไมปลอดภัย......วนเป็นวัฏจักรไป เว้นแต่ห้ามรถยนต์ แบ่งโซน แบ่งเวลา กำหนดจำนวนคนในรถ อะไรประมาณนี้  ใครจะเป็นคนทำ



jbrc

ยังติดเหมือนเดิมครับ  แต่คนไม่มีรถก็จะมีทางเลือกมากขึ้น  ประมาณว่า  อยู่ กทม ไม่มีรถก็ใช้ชีวิตไม่ลำบากอะไร   ดีกว่าขึ้นรถเมล์  ดีกว่ารอเรียกเท็กซี่  ที่ไม่รู้จะรับหรือเปล่า

ส่วนคนมีรถขับก็ขับรถต่อไป  เพราะใช้รถส่วนตัวสะดวกสบาย  รายจ่ายภาษี ค่าน้ำมัน ประกันต่างๆ ถูกมาก ที่จอดรถตามห้างก็ไม่เสีย  มีที่จอดเยอะแยะมากมาย  ห้างบ้านเราใหญ่โตมโหลาน  มีห้าง  มีลานจอดรถเป็นตึกใหญ่ๆ  แบบว่า ตอนน้ำท่วม กทม. เอารถไปจอดฝากตามห้าง  ยังสามารถจอดเก็บรถได้เกือบหมดเลย

ส่วนรถติดก็ติดกันต่อไป  วันทำงานติดมากหน่อย   เทศกาลโล่งหน่อย  จะให้ไม่ติดเลยคงไม่ได้  เพราะบ้านเราใช้ไฟแดงเยอะมาก   วิ่งมาเจอไฟแดงยังไงก็ต้องติด    ถ้าจะให้ไม่ติด  ต้องเอาไฟแดงออก แล้วทำวงเวียน  หรือบังคับวิ่งวนอะไร ก็ว่าไป   ถ้ายังใช้ไฟแดง  กทม. ยังติดอีกนานครับ



golf8023

ติดเหมือนเดิมครับ ระดับโลกเหมือนเดิม
บ้านเราพัฒนาระบบรางช้ามากกกกก
ถ้าเราพัฒนาระบบรางเร็วกว่านี้ ปัญหารถติดบ้านเราอาจไม่ติดอันดับโลกก็ได้



pim_cute

ยังไงก็ติด ตรงไหนมีรถไฟฟ้า รถมันก็จะไปออกันตรงนั้น โดยเฉพาะ taxi ถนนมี 3 เลน พี่ท่านเอาเลนในสุดไปจอดแช่อยู่ตามทางขึ้นรถไฟฟ้า พอรถเมล์มาก็จอดเลน 2 เอาคนลง เหลือ

วิ่งอยู่เลนเดียว ปริมาณรถโดยรวมมันลดลงก็จริงนะจากคนที่เปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า แต่ตรงจุดสถานีรถไฟฟ้าจำนวนรถไม่ได้ลดลงหรอกครับ มันยิ่งทำให้ติดจากเดิมที่ไม่เคยติดก่อนมีสถานี

รถไฟฟ้า แต่คนเดินทางสะดวกขึ้นนะ สำหรับผม bts มีประโยชน์มากๆ จากการกะเวลาไปทำงาน มันคาดคะเนได้ง่ายกว่าไม่เหมือนรถยนต์


ปล. อันนี้ไม่เกี่ยว เวลาฝนตกก็เหมือนกัน รถติดอันนี้พอเข้าใจได้ แต่ตามทางลงอุโมงค์ข้ามแยกติดบรรไลนี้คืออะไร big bike มาจอดหลบฝนกันในอุโมงค์ เพื่อ...อะไรครับ? มันจะมักง่ายกันเกินไปหน่อยไหม?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 17, 2018, 16:17:03 โดย pim_cute »



DiKiBoyZ

รถติด ปัญหาของการคมนาคม และ การใช้รถใช้ถนน ก็ส่วนหนึ่ง ครับ

แต่หลักๆ มาจาก "จิตสำนึก" มากกว่าครับ ถ้ามองตามความจริงวันนี้ ครับ

และผมไม่เข้าใจที่สุดคือ ทำไม "รถสาธารณะ" ของประเทศไทย ทำไมวินัยจราจร และ ความเห็นแก่ตัว มันถึงได้แย่...........ขนาดนี้

คนทั่วไป วินัยจราจร และ ความเห็นแก่ตัว มันแย่ เข้าใจได้ว่า 100 พ่อ 1000 แม่ มาเจอกันบนท้องถนน แต่ รถสาธารณะ มันมีหน่วยงานกำกับหรือสังกัด ที่ดูแลอยู่ น่าจะอบรมหรือมีกฏเกณฑ์เรื่องการขับรถที่ดี แต่ไม่เห็นจะอะไรกับพวกนี้เลย ตัวอย่างเช่น
- รถเมล์วิ่งถนนธรรมดา วิ่งขวา พอถึงป้ายปาดซ้ายเข้าป้าย ขวาง 2-3 เลน รถตามมาติดเป็นขบวน พอวิ่งบนทางด่วน ก็วิ่งขวาอีก ด่วน ดินแดง-บางนา เห็นทุกวัน
- แท็กซี่ จอดดะ จอดได้ทุกที่ จอดรถ จอดแช่ ยิ่งตาม BTS นี่จอดแช่ รถติดเป็นงูกินหา มองลงไปจาก BTS มองบนถนน เลยจากตรงรถพวกนี้จอด มันโล่งเลย ก็ไม่เข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้น
- รถตู้ วิ่งซ้าย ไหล่ทาง พอเจอทางคอขวด ก็บีบ ก็ปาด เข้าเลน รถทั่วไปก็ต้องชะลอให้ รถตามมาก็ติดยาวๆ
- รถแดง วิ่งในซอย จอดเรี่ยราด วิ่งเปิดทางพิเศษ กระพริบไฟใส่ บีบแตรเตือน กลับ โดนด่า
- รถมอเตอร์ไซต์วิน วิ่งสวนเลน กินเลน คนขับรถเลนปกติ ต้องหลบ ต้องเบรค จอดกินพิ้นที่ถนน ทำให้ถนนแคบ

บ่นๆๆๆๆ



Zlatan

อ่านๆมาเหมือนเพื่อนสมาชิกบอกยังไงก็ติดเหมือนเดิม
 
เพราะคนจำนวนมากก็ชอบขับรถไปเหมือนเดิม
 
แสดงว่าที่กทมรถติดนี่เพราะคนชอบขับรถส่วนตัว ก็คงแก้ยาก
 
เพราะคนขี้เกียจเดิน ไปญี่ปุ่นนี่ผมเห็นคนเขาชอบเดินมาก
 
เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าทีเป็นกิโล แต่ก็เข้าใจล่ะอากาศมันน่าเดินจริงๆ

เย็นสบาย เหงื่อไม่ออกเลย