ผู้เขียน หัวข้อ: วัดค่า AF Ratio ได้ค่าสูงกว่าปกติ--หัวฉีดน้ำมันเสียหรือเปล่าครับ  (อ่าน 15680 ครั้ง)

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
สอบถามผู้รู้ทุกท่านครับ
เป็นรถ City ZX อายุ 10 ปี วิ่งมาประมาณ 95,000 กม. ไม่ได้ติดแก๊ส

วันก่อนลองนำรถไปอู่แห่งนึง เพื่อจะลองตั้งวาล์ว+ล้างปีกผีเสื้อใหม่อีกครั้ง

1. ทางอู่ลองวัดกำลังอัดของทุกสูบได้ 220 ทุกสูบ เลยไม่ได้ตั้งวาล์วให้

1.1 ทางอู่ลองวัดค่าเหนี่ยวนำของการจุดระเบิด ผลคือ ปกติ

2. สภาพหัวเทียนมีคราบเขม่าดำ--คล้ายกับจะไหม้



3. ทางอู่ลองวัดค่า AF Ratio ทางท่อไอเสียให้ ได้ค่าประมาณ 22.6 ตอนรอบเดินเบา
ทางอู่บอกว่า รถผมจ่ายน้ำมัน "บางมาก" ในรอบเดินเบา

และสันนิษฐานว่า หัวฉีดน้ำมันรถผมเสีย และแนะนำให้เปลี่ยนหัวฉีดใหม่ (น่าจะของเทียบ)
ราคาประมาณ 4,500 บาท



4. จากข้อ 3 ผมยังไม่พร้อมเรื่องเงิน จึงจ่ายค่าตรวจเช็คและกลับมาก่อน

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
5. ลองนำรถไปที่อู่ ที่เคยตรวจสอบการรั่วของหัวฉีด+ล้างทำความสะอาดหัวฉีด+เปลี่ยน Filter
และ O-Ring+ทดสอบการจ่ายน้ำมัน และขอให้ทางอู่ลองถอดหัวฉีดมาตรวจสอบอีกครั้ง
ทางอู่ไม่ได้ทำให้ โดยให้เหตุผลว่า พึ่งตรวจสอบ เมื่อ ต.ค. 2560 ที่ผ่านมา
หัวฉีดไม่น่าจะใช่ปัญหา

5.1 หัวฉีดที่เคยถอดมาตรวจสอบ


5.2 เครื่องทดสอบการจ่ายน้ำมันของหัวฉีด


5.3 เครื่องล้างหัวฉีด


5.4 ภาพโอริง--ส่วน Filter ในหัวฉีด ผมไม่ได้ถ่ายรูปไว้

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
6. ทางอู่ช่วยวัดค่ากำลังอัดให้อีกครั้ง ได้ค่า 200 ทุกสูบ (ค่าคลาดเคลื่อนกับอู่แรกที่ไปนิดหน่อย
อู่แรกได้ค่ากำลังอัด 220 ทุกสูบ)

7. ทางอู่ช่วยวัดค่า Co2 ที่ท่อไอเสียให้ -- อันนี้ผมไม่ทราบว่า การวัดนี้ คือค่าเดียวกับค่า AF ที่ทางอู่แรก
วัดให้ไหมครับ หรือเป็นคนละค่ากัน



7. เลยทดลองเปลี่ยนหัวเทียน เป็นเกรดธรรมดา NGK BKR6E-11 จำนวน 4 หัว


8. ลองขับรถกลับบ้าน "รู้สึกว่า" รถเร่งได้ดีขึ้น อาการรอบเครื่องตกมาที่ประมาณ 400 - 500 รอบ
ลดลง (ไม่เป็นทุกครั้งที่เหยียบเบรค)

9. สอบถามผู้รู้ทุกท่านครับว่า ตกลงหัวฉีดน้ำมันผมทั้ง 4 หัว "น่าจะ" ยังไม่เสียใช่ไหมครับ

10. รายการซ่อมรถที่ทำไปแล้วตั้งแต่ปี 2557 - ปัจจุบัน (ไม่นับเปลี่ยนถ่ายของเหลวตามระยะ)

ม.ค. 2557   เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเบนซิน, สายพานแอร์--Honda Rama 7
ส.ค. 2558   เปลี่ยนหัวเทียนแท้ 4 หัว+ปีกนกล่าง L+R,-- Honda Rama 7
เม.ย. 2559   เปลี่ยน Fly Wheel เกียร์ของแท้+ซีลเพลาขับ L,R – อู่แถวบ้าน
ต.ค. 2559   ปั๊มน้ำ Honda แท้, สายพานหน้าเครื่องของแท้, ลูกปืนของลูกรอกสายพาน
เม.ย. 2560   เปลี่ยนปะเก็นอ่างน้ำมันเครื่องของแท้+ลูกหมากกันโคลงของแท้ L+R
ต.ค. 2560   ตั้งวาล์ว+ถอดลิ้นปีกผีเสื้อมาล้าง
      ตรวจสอบหัวฉีดรั่ว+ทดสอบการจ่ายน้ำมันของหัวฉีด+เปลี่ยน Filter, O-Ring ในหัวฉีด
พ.ย. 2560   เปลี่ยนคอยล์จุดระเบิดของแท้ 4 ตัว—ของเดิมมีไฟรั่ว 3 ตัว
      เปลี่ยน O2 Sensor ตัวที่ 2 – ของเทียบ Walker
      ล้าง EGR+ล้างท่อร่วมไอดี
ก.พ. 2561   เปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาของแท้เบิกศูนย์
มี.ค. 2561   เปลี่ยน PCV Valve ของแท้เบิกศูนย์+ท่อยางปิดวาล์ว PVC
      เปลี่ยนปะเก็นฝาครอบวาล์วของแท้เบิกศูนย์
เม.ย. 2561   เปลี่ยน O2 Sensor ตัวที่ 1 – ของเทียบ Walker
พ.ค. 2561  เปลี่ยนหัวเทียนเกรดธรรมดา NGK BKR6E-11 จำนวน 4 หัว

11. เขียนมาค่อนข้างยาว หากสร้างความรำคาญให้สมาชิกท่านใดๆ ขออภัยล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ




My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
ผมตอบตามที่เห็น

อู่แรกห่วย  บอกได้ไงว่าบาง  ส่วนผสมคุณค่อนข้างหนาด้วยซ้ำไป  (ส่วนผสมดูง่าย ๆที่ค่า โอ2)  ปลายท่อวัดได้เฉพาะค่าไอเสีย

รถคุณปกติดีทุกอย่าง  ทำความสะอาดกรองอากาศ (หรือเปลี่ยนกรอง)  หัวเทียนก็สวยแล้วครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
AFR เกจ สามารถ ใช้อ้างอิงได้ครับ
แต่ๆๆๆ ..
ความแม่นยำ หลังจากผ่าน แคทตาไลท์ติก มาที่ปลายท่อ มันจะเพี้ยนไปจากค่า O2 ของ เครื่องยนต์ที่ติดอยู่หลังเครื่องก่อเข้า แคทตาไลท์ติกโดยตรง
โดยปกติรถจะคุม ค่า AFR ในช่วง Close Loop ไม่ใช่ ช่วงเดินเบาครับ

จริงๆ ECU รถคุมด้วย O2 ครับ ถ้าส่วนผสมบาง หรือ มีปัญหา จริงๆ ECU รถจะฟ้องเองครับ
ส่วน กรณี รอบ เดินเบา อ่านค่าได้

แนะ นำใช้ เครื่องมือพิเศษของศูนย์ Honda อ่านค่า O2 ครับ ว่าปกติไหม
เป็นไปได้ ว่า กรณีเดินเบา รถอาจตั้งใจ ปรับน้ำมันให้อยู่ใน สภาวะ บางครับ เพื่อการประหยัดน้ำมัน

จาก ค่า O2 ของ อู่สอง ผมไม่แน่ใจ ว่า 1.15 คือ แรงดันไฟฟ้า หรือ Lamda 1=14.7 กันแน่
โดย ปกติ แรงดัน O2 จะ วิ่ง ที่ 0.1 - 1 V ครับ ดังนั้น ไม่น่าใช่ค่าแรงดันครับ
แต่ถ้าเป็น แรงดัน 1.15 ก็คือหนา นะ แต่รถปกติไม่น่าจะใช่ค่านี้ รถผมเต็มที่ก็ 0.9 V ครับ
ตัวผมคิดว่า ต่าแสดง คือ % ควรจะเป็น Lamda 14.7=1
1.15 คือ ค่อนไปทางบางครับ มีความเป็นไปได้ ว่า AFR อาจเกือบ 22 จริงๆ
O2 ติดรถจะไม่รู้นะครับ ว่า AFR เท่าไหร่ แค่คุมไม่ให้ หนา หรือ บาง เท่านั้นครับ โดยอ้างอิงที่ 14.7

อาจเป็นได้ที่หัวฉีดเริ่ม ตัน คือ จ่ายน้ำมันในรบเดินเบาไม่ดี แต่ รอบปกติ ไม่มีปัญหาครับ
ให้ลองเช็ค ระบบ กรองน้ำมันเชื่อเพลิง ปั้มติ้กดู ด้วยครับ

ผมถามต่หน่อยครับ
ว่ารถ วิ่งปกติ ความร้อนไม่ขึ้น หรือไม่กระตุก หรือ กำลังตกไหม
ถ้าไม่ก็ยังไม่ต้อง ซ่อมครับ
Lamda 1.15 = บาง ครับ ปกติแค่ 1 เอง
หรือ O2 เสียหว่า รถเลย จ่ายเพี้ยนไป แล้ว ขึ้นไป ดู รายการซ่อม เห็นรายการ O2 Sensor ของเทียบ
เอิ่ม ตัวนี้ สำคัญครับ แนะนำ หา อะไหล่เชียงกง ขอแท้มาเปลี่ยนดูครับ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 05, 2018, 14:05:55 โดย mamaman »

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
อย่างคุณมาม่าบอก  ปลายท่อ นั่นแคทจัดการไอเสียแล้ว  ค่าไม่ถูกต้องหรอก  ต้องดูที่ o2  ก่อนเข้าแคท  ถ้ารถคันไหน แคท 2 ตัว  o2  2 ตัว  ให้ใช้ค่าตัวแรกเป็นหลัก..ไม่งั้นปวดหัวตาย....

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ โดยเฉพาะคุณ mamaman เขียนยาวมากครับ ละเอียดดี

ให้ข้อมูลเพิ่มดังนี้ครับ

1. คุณ sukhontha ครับ ที่ว่าอู่แรกห่วยนั้น
คือ ผมเข้าใจว่า ค่า AF Ratio ที่ดี = 14.7/1 แต่อู่แรกวัดได้ที่ 22.6/1
ทางอู่ที่ 1 ก็เลยบอกผมว่า เครื่องยนต์รถผม จ่ายน้ำมันบาง (ถ้าอิงจากค่า AF Ratio)

แต่ผมติดใจเรื่อง หัวฉีดเสีย มากกว่าครับ คือ ทางอู่ที่ 1 ฟันธงว่าหัวฉีดเสีย

2. ให้ข้อมูลคุณ mamaman เพิ่ม อู่ที่ 2 ผมไปทำหลายครั้งแล้วครับ
เปลี่ยน O2 Sensor ของเทียบทั้ง 2 ตัว ที่อู่นี้ครับ

ทางอู่ที่ 2 จะมีเครื่อง G Scan ไว้ต่อเข้าพอร์ท OBD ของรถ เพื่อดูค่าต่างๆ ของรถครับ
ค่า Volt ของ O2 ตัวที่ 1 หลังจากเปลี่ยนของเทียบ ก็กลับมาเป็นปกติแล้ว
คือ อยู่ในช่วง 0. 1 - 0.9 V. ดังภาพ (ภาพนี้ ผมใช้ App Torque Pro บันทึกไว้)



3. เป็นค่า Short Term จาก 2 แอพ ซึ่งค่าไปทาง -5 ถึง -10
แปลว่า ในรอบเดินเบา รถผมจ่ายน้ำมันหนาไปซักหน่อยใช่ไหมครับ

(ก่อนเปลี่ยน O2 ตัวที่ 1 ค่า Short Term จะประมาณ -15)





3. หลังจากติด OBD2 BlueTooth กับรถ
ทำให้ทราบค่าอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น รถวิ่ง+เปิดแอร์ จะอยู่ที่ประมาณ 82 - 86 องศาครับ
ถือว่า เครื่องยนต์ "เย็น" ไปหน่อยไหมครับ??


เพราะรถ Honda City 2015 ของคนรู้จัก
ตอนจอดเดินเบา หลังจากวิ่งมาประมาณ 5 กม.
อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นประมาณ 93 องศาครับ

4. เวลารถวิ่งอยู่ และ "ถอนคันเร่ง" เพื่อชลอความเร็ว
รถมีอาการสะดุดบ้าง (รอบตกเร็วเกินไป-ไม่เป็นทุกครั้ง)

และรถวิ่งมา เหยียบเบรคเพื่อหยุดรถ รอบก็ยังมีตกไปที่ 400 - 500 รอบ+เครื่องสั่นบ้างนิดหน่อยครับ

5. O2 Sensor ตัวที่ 1 ของแท้จากเชียงกง อู่แถวบ้านผม เคยเอามาลองใส่แล้วครับ
(แต่สายยาวกว่าของรถผมนิดหน่อย) อาการรอบตก เครื่องสั่น ไม่ดีขึ้นเลยครับ
ไม่รู้ว่า O2 Sensor จากเชียงกงตัวนั้น มันสมบูรณ์ไหม หรือเสื่อมสภาพ

6. การวัดค่าที่ท่อไอเสียนั้น ที่อู่ที่ 1 กับอู่ที่ 2 ทำนั้น มันคือการวัดค่า AF Ratio หรือวัดค่า Co2 ครับ

7. เขียนถามหลายข้อ หากเป็นการรบกวนคุณ mamaman ประการใด ขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ

ขอบคุณล่วงหน้าที่ช่วยตอบครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ tom46

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,726
การวัด a/f ratio ส่วนมากเขาจะเจาะท่อวัดที่หน้าแคท หรือ ให้ใกล้เครื่องที่สุดกันนะครับ ส่วนวัดแบบคีบปลายท่อ จะใช้กับรถที่ไม่มีแคทกัน

ส่วนในรูปของรถผมเอง ผมจะเจาะวัดก่อนหน้าแคทครับ

M52TUB30 NA TUNING
STROKER M54B30
SCHRICK CAM 248/248
aa tuning software custom
K&N performance air intake kit
Exhaust systems thailand hand made
Rear exhaust EISENMANN

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  คุณพะวงตัวเลขเกินไป  สิ่งที่บอกค่าดีที่สุด คือหัวเทียน  ถ้าหัวเทียนสวย แทบไม่มองค่าอื่นเลย

   ที่ผมบอกว่าอู่แรกห่วย เพราะวัดปลายท่อกับรถมีแคท  มันวัดไม่ได้อยู่แล้ว  ไอเสียถูกแคทจัดการแปรค่าไปแล้ว  อย่างที่่คุณทอมบอก  ยิ่งใกล้ลูกสูบเท่าไร  ค่ายิ่งแม่นยำเท่านั้น

   ส่วนค่าที่วัดได้มา  นั่นเห็นอยู่แล้วว่าเดินเบาหนาเล็กน้อย (ตามสภาพหัวเทียนที่บอก) ตราบใดมันวิ่งที่ระดับ ที่เห็น  ปกติดีนี่ครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ข้อแนะนำเพิ่มเติม

  คุณพะวงตัวเลขเกินไป  สิ่งที่บอกค่าดีที่สุด คือหัวเทียน  ถ้าหัวเทียนสวย แทบไม่มองค่าอื่นเลย

   ที่ผมบอกว่าอู่แรกห่วย เพราะวัดปลายท่อกับรถมีแคท  มันวัดไม่ได้อยู่แล้ว  ไอเสียถูกแคทจัดการแปรค่าไปแล้ว  อย่างที่่คุณทอมบอก  ยิ่งใกล้ลูกสูบเท่าไร  ค่ายิ่งแม่นยำเท่านั้น

   ส่วนค่าที่วัดได้มา  นั่นเห็นอยู่แล้วว่าเดินเบาหนาเล็กน้อย (ตามสภาพหัวเทียนที่บอก) ตราบใดมันวิ่งที่ระดับ ที่เห็น  ปกติดีนี่ครับ
ผมก็ว่าหัวเทียนดำนี่มัน "หนา" ไม่ใช่หรือครับ

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ

--คุณ Turin และคุณ Sukhontha ครับ

  น่าจะเรียกว่า ผมพะวงกับความผิดปกติของรถมากกว่าครับ พยายามแก้ไขมาเกือบครึ่งปีแล้ว
อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ ทยอยซ่อมตามกำลังทรัพย์ที่มีครับ

มีคำถามอยากจะสอบถามเพิ่มดังนี้ครับ

1. อู่ที่ 1 ก็เห็นสภาพหัวเทียนรถผม แต่อู่ที่ 1 อิงค่า AF อย่างเดียว
จึงบอกว่า รถผมจ่ายน้ำมัน "บาง" ใช่ไหมครับ

และหัวฉีดน้ำมันรถผม ยังไม่น่าเสียใช่ไหมครับ??

2. สภาพหัวเทียนของเดิม ที่มีคราบดำนั้น แปลว่าไหม้ หรือเปล่าครับ หรือเกิดจากเครื่องยนต์
จ่ายน้ำมันหนาไปครับ

3. ถ้าเครื่องยนต์จ่ายน้ำมันหนาไป หัวเทียนชุดใหม่ที่พึ่งเปลี่ยน จะดำอีกไหมครับ

4. แล้วปัญหารอบเครื่องตกมาประมาณ 400 - 500 RPM ตอนเหยียบเบรค
ควรตรวจสอบหรือแก้ไขอย่างไรดีครับ

5. ผมคิดว่าอยากจะลองเปลี่ยนอะไรอีก 4 อย่างนี้
ถ้าหายก็จบปัญหา ถ้าไม่หาย ผมก็คงพอแค่นี้ครับ

เก็บเงินไว้ตรวจสอบ+ซ่อมเกียร์แทน
ตอนนี้เปลี่ยนเกียรืจาก N -- > D มีเสียงดังแคร๊กๆ ในห้องเครื่องครับ


5.1 วาล์วน้ำ

5.2 กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

5.3 Crankshaft Sensor--เซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง??

5.4 Camshaft Sensor--เซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยว??


หากมีท่านใด มีคำแนะนำใดๆ เพิ่ม ก็ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ

My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
อืม ... อาการผิดปกติที่ว่า คือ รอบเบาหล่นไป 4-500 รอบ ช่วงเหยียบเบรคใช่ไหมครับ ... ไม่ทราบว่าเป็นทุกครั้งไหม หรือเป็นแค่บางครั้งครับ

Accord G7 ที่เคยใช้ผมก็เป็นครับ แต่รอบตกลงมาไม่หนักมาก แค่ราวๆ 5-600 รอบ .. ก็หาไม่เจอเช่นกันครับ ทนๆใช้ไปจนขาย ... แต่ของผมนั้นเป็นตอนใช้ไฟเยอะๆ (เปิดไฟหน้า+คอมแอร์ทำงาน) เลยคิดเอาว่าน่าจะเกิดจากไดชาร์จฉุดกำลังเครื่องครับ

ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าเกี่ยวกับเซ็นเซอร์ เพราะของพวกนั้นถ้าผิดปกติ น่าจะมี error code ให้เห็น ... เดาว่าน่าจะเป็นปัญหาเชิงกลไกมากกว่า ไม่ทราบเลยลองตรวจสอบสูญญากาศในระบบไหมครับ ว่ามีรั่วตรงไหนหรือเปล่า หรือ ระบบชดเชยรอบเบาปกติไหม

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ตอบคุณ Turin

จากที่เคยสอบถามมาหลายกระทู้ เรื่องปัญหารอบตก+เครื่องสั่นตอนเครื่องเย็น
ตอนนี้ปัญหารอบตก+เครื่องสั่นตอนเครื่องเย็น น่าจะเรียกว่าใกล้เคียงปกติแล้ว


1. จากที่สังเกต รอบเดินเบาหล่นไป 4-500 รอบ ช่วงเหยียบเบรคนั้น เป็นบางครั้งครับ
และเป็นอีกทีตอนปล่อยเท้าจากเบรค เพื่อไปเหยียบคันเร่งครับ รอบเดินเบาจะตกไปที่
ประมาณ 400 - 500 RPM แต่มักจะเป็นตอนเครื่องร้อนครับ


2. เคยเลยลองตรวจสอบสูญญากาศในระบบไหมครับ ว่ามีรั่วตรงไหนหรือเปล่า

2.1 อยากตรวจสอบครับ แต่บอกให้อู่ไหนช่วยตรวจ ก็ไม่มีช่างอู่ไหนยอมทำให้
เนื่องจากพอช่างสังเกตว่า
รอบเดินเบานิ่งดี ก็มักจะบอกว่า "ปกติ" ครับ

คุณ Turin มีอู่ไหนแนะนำบ้างไหมครับ ถ้าจะตรวจสอบเฉพาะเรื่อง สุญญากาศในระบบ

2.2 ระบบชดเชยรอบเดินเบา ผมเปลี่ยนมอเตอร์ IACV ของแท้เบิกศูนย์ ไปเมื่อ ก.พ. 2561 ที่ผ่านมาครับ
อาการรอบตกเครื่องสั่นตอนเครื่องเย็น น่าจะเรียกว่าใกล้เคียงปกติแล้วครับ
แต่ปัญหาตอนนี้ เป็นตอนเครื่องร้อนครับ


ถ้ามีคำแนะนำเพิ่ม ขอขอบคุณ คุณ Turin ล่วงหน้าครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,057
ลองตั้ง baseline idle ดูก่อนไหมครับ .. ทำไม่ยาก ลองทำเองได้ บางทีอาจเกิดจากตอนติดตั้ง ICV ใหม่แล้วช่างตั้งไว้ต่ำไป

ปล. บางอู่ จะบอกว่า ECU มันชดเชยให้ตั้งไม่ได้ .. แต่จริงๆมันตั้งได้ครับ ลองหาวิธีดูครับ บางรุ่นทำให้ถูกต้องขั้นตอนมันซับซ้อนนิดนึง (แต่ทำเองได้) เช่น MX5 ที่ถูกต้อง จะต้องคร่อมฟิวส์ตัวนึงก่อนเพื่อ bypass ICV

ออฟไลน์ jbrc

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 319
ทดสอบวัดค่า AF ที่ปลายท่อไอเสียรถยนต์ Honda new city 2017

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
ตั้งไอเดิลช่วยนิดหนึ่งแบบคุณ turinบอกได้ แต่ต้องใช้ฝีมือบ้าง  บางอู่ตั้งไม่เป็น...

หัวเทียนลองไปดูการพิจารณารูปแบบหัวเทียนที่เกิดจากการเผาไหม้  อากู๋มีเยอะแยะครับ

ผมเชื่อว่า  ระบบเวคกั้มมีปัญหาเล็กน้อย  อาจจะมีบางเส้นหักเล็กน้อยตรงขั้วเสียบเท่านั้น

ลองดูค่าแรงดูดในท่อร่วม  ขณะเครื่องเย็น -ร้อน-เบรค  ดูความแตกต่าง  ตัวนี้บอกได้ว่าท่อรั่วหรือเปล่า

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
ถามคุณ sukhontha เพิ่มซักนิดครับ

1. ระบบเวคกั้มมีปัญหาเล็กน้อย  อาจจะมีบางเส้นหักเล็กน้อยตรงขั้วเสียบเท่านั้น

ลองดูค่าแรงดูดในท่อร่วม  ขณะเครื่องเย็น -ร้อน-เบรค  ดูความแตกต่าง  ตัวนี้บอกได้ว่าท่อรั่วหรือเปล่า

--การตรวจเช็คระบบแวคคั่มนั้น อู่ไหนตรวจให้ได้บ้างครับ หรือศูนย์ Honda จะทำได้ไหมครับ

2. จากคลิปที่คุณ JBRC นำมาแสดงนั้น

--ทำไม City 2017 วัดค่า AF ที่ปลายท่อไอเสีย ในรอบเดินเบา
จึงมีค่า AF Ratio ประมาณ 15/1 ครับ?? หรือเพราะว่าเป็นรถคนละรุ่น คนละปีกันครับ


3. การตั้งค่ามอเตอร์เดินเบา ผมเคยใช้ช่างอู่ที่ 2 ลองทำให้กับมอเตอร์เดินเบาตัวติดรถครับ
โดยใช้เครื่อง G Scan ต่อเข้ากับ OBD ของรถ ดูค่าที่แสดงออกมา และช่างหมุนปรับอะไรซักอย่าง
ตรงมอเตอร์เดินเบา โดยตั้งให้มอเตอร์เดินเบาชดเชยสูงสุดตอนแอร์ทำงานครับ
ผลคือ รอบเครื่องตกน้อยกว่าเดิมนิดนึงครับ

ในตอนนี้ หลังจากเปลี่ยนมอเตอร์เดินเบาของแท้เบิกศูนย์แล้ว

รอบเดินเบาถ้าไม่เปิดแอร์ อยู่ที่ประมาณ 750 RPM ครับ

ถ้าเปิดแอร์ อยู่ที่ประมาณ 850 RPM ครับ
(ไม่ว่าพัดลมหน้าเครื่องทั้ง 2 ตัว จะทำงานหรือไม่ก็ตาม)

กลัวว่าไปปรับตั้ง รอบเดินเบามันจะสูงเกินกว่าที่ควรหรือเปล่าครับ

4. หัวฉีดน้ำมันรถผม ยังไม่น่าเสียใช่ไหมครับ

5. ผมคิดว่าอยากจะลองเปลี่ยนอะไรอีกซัก 4 อย่างนี้
ถ้าหายก็จบปัญหา ถ้าไม่หาย ผมก็คงพอแค่นี้ครับ

เก็บเงินไว้ตรวจสอบ+ซ่อมเกียร์แทน
ตอนนี้เปลี่ยนเกียรืจาก N -- > D มีเสียงดังแคร๊กๆ ในห้องเครื่องครับ

5.1 วาล์วน้ำ

5.2 กรองน้ำมันเชื้อเพลิง

5.3 Crankshaft Sensor--เซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยง??

5.4 Camshaft Sensor--เซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยว??


หากคุณ sukhontha หรือสมาชิกท่านใด มีคำแนะนำใดๆ เพิ่ม ก็ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
สิ่งที่คุณคิดจะเปลี่ยน  ไม่เสียหรอกครับ

ไม่ต้องเปลี่ยน  ตั้งแต่หัวฉีด ฯลฯ  ปกติดี

ที่คุณควรเพ่งเล็งตัวแรก  เช็ควาล์วตัวที่มาจากหม้อลม  และสังเกตุว่า  กดเบรค  กับปล่อยเบรค  รอบมันตกตอนไหน

ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยว่า  วาล์วตัวกลางหม้อลมปิดไม่สนิท  หรือเช็ควาล์วเสีย  มากกว่า  ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลทำให้รอบเดินเบาจ่ายเพี้ยนไปได้ด้วย

...หม้อลม  วาล์วตัวหลังจะปิดตลอด  วาล์วกลางจะเปิดตลอด  เมื่อไรคุณแตะเบรค วาล์วตัวหลังจะเปิดให้ลมเข้า วาล์วตัวกลางจะปิด ไม่ให้ลมผ่านไปห้องหน้า (วาล์วสองตัวทำงานสัมพันธ์กัน)  แต่ให้อากาศดันไปทั้งแผ่นไดอะแฟรมแทน พอถอนเบรค มันก็จะไปเริ่มต้นใหม่  ท่อร่วมจะดูดอากาศภายในออกทั้งสองห้อง เป็นสูญากาศ  กดเบรคก็เริ่มต้นใหม่ ทำงานวนไปแบบนี้ตลอด...

ออฟไลน์ lonely

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,408
คุณ sukhontha ครับ

--ที่คุณควรเพ่งเล็งตัวแรก  เช็ควาล์วตัวที่มาจากหม้อลม
 
หมายถึงหม้อลมเบรคใช่ไหมครับ


--สังเกตุว่า  กดเบรค  กับปล่อยเบรค  รอบมันตกตอนไหน

รอบตกทั้งตอนเหยียบเบรคเพื่อหยุดรถ และปล่อยเบรคเพื่อเหยียบคันเร่งออกตัวครับ
แต่ไม่เป็นทุกครั้ง


--ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยว่า  วาล์วตัวกลางหม้อลมปิดไม่สนิท 
หรือเช็ควาล์วเสีย  มากกว่า  ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลทำให้รอบเดินเบาจ่ายเพี้ยนไปได้ด้วย

ผมต้องแจ้งช่างที่อู่ว่า ให้ช่วยตรวจสอบ "วาล์วในหม้อลมเบรค" ใช่ไหมครับ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
My car and Driving is My Life = เวอร์ไปไหม ??

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,481
ครับ  แตะนำให้ถอดเช็ควาล์วหม้อลมเบครเช็คก่อน  ถ้าปกติ  ไม่ต้องเปลี่ยน

หม้อลมเบรค  เช็คยาก  ลองก้มไปฟังใกล้ ๆเบรค(ด้านในรถ)ถ้าไฟส่องจะมองเห็นสากต่อจากเบรคไปยังหม้อลม

สากตัวนี้เวลาเหยียบ  มันจะเปิดวาล์วตัวนอก  พร้อมกับปิดวาล์วตัวกลาง(พร้อมกัน) ถ้าไม่ปกติเช่นวาล์วตัวหลังเปิด แต่ตัวกลางยังไม่ปิด  มันจะมีเสียงดังฟุ่ดเบา ๆ  ถ้าเป็นมาก  เสียงจะดังแรง  เบรคจะแข็งและหนักกว่าปกติ  (อาการนี้ไม่ใช่ไดอะแฟรมฉีก  แต่วาล์วไม่สัมพันธ์กัน)

ถ้าเป็นแบบนี้  แรงดูดในท่อร่วมจะตกลงด้วย  ทำให้การจ่ายเชื้อเพลิงเพี้ยนไป 

การทดสอบ  ให้ช่างหาหม้อลมที่อู่มี(มือสอง)  มาลองก่อนว่าอาการหายหรือไม่  ถ้าหาย  ซื้อของใหม่มาใส่ได้เลย

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
ยังไม่ได้ลองเปลี่ยนท่ออากาศเลยใช่ไหมครับ ท่อ vacuum มีโอกาสปริแตกได้ครับ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,423
    • อีเมล์
ยังไม่ได้ลองเปลี่ยนท่ออากาศเลยใช่ไหมครับ ท่อ vacuum มีโอกาสปริแตกได้ครับ

เส้นผมบังภูเขา รอบตก ในรอบเดินเบา เครื่องกระตุก
เจอบ่อย สายแวคคั่มแตก