ผู้เขียน หัวข้อ: ไหนที่คาดการณ์กันว่าต่อไป น้ำมันจะลดความสำคัญลงรถไฟฟ้ากำลังมา มันไม่จริงใช่ไหม  (อ่าน 7846 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jacob

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
ผมเห็นโครงการหมู่บ้านประหยัดพลังงานในไทยที่แต่ละบ้านติดโซล่าเซลล์
หรือถ้ามันจะไม่สำเร็จจริงๆ ต่อไปประเทศอื่นเค้าคงมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วเราค่อยซื้อก็ยังได้
ยังไงซะรถติดๆแล้วติดเครื่องยนต์มันก็เปลืองกว่าเอาน้ำมันไปสร้างไฟฟ้ามาใช้นะ (ถ้าขนาดถ่านหินเรายังกลัวแต่จำกัดพื้นที่ได้ ส่วนรถยนต์เราไม่สามารถจำกัดพื้นที่ได้ อันไหนน่ากลัวกว่า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2018, 22:40:51 โดย Jacob »

ออฟไลน์ lexus

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,075
โห..มองการณ์ไกลมากครับ กว่าปิโตรเลียมจะหมดความสำคัญผมว่าต่ำๆอีก100ปีอะ
น้ำมันไม่ใช่ผลผลิตเดียวของปิโตรเลียม ยังมีแก้ส มีผลผลิตทางเคมี โพลิเมอร์พลาสติก อื่นๆอีกมากกกกกกที่อยู่รอบๆตัวคุณ

และโลกนี้ก็ไม่ได้มีแค่ยานพาหนะที่ใช้น้ำมัน ยังมีกลุ่มอุตสาหกรรมอีกมากมายที่ยังพึ่งพาพลังงานพวกนี้อยู่ แม้แต่โรงไฟฟ้าเองก็ตาม
รถไฟฟ้าก็เป็นเทรนส่วนนึง แต่ไม่ใช่ว่ามีรถไฟฟ้าแล้วน้ำมันจะหมดความสำคัญต่อโลกใบนี้

ที่น้ำมันขึ้นหรือลง นอกจากอุปสงค์อุปทานของตลาดแล้ว ผมว่าพวกเก็งกำไรนี่แหละตัวดี(คหสต.นะ)

ออฟไลน์ coolcarrera

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 488
ตอนนี้อะไรๆยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม เราก็คิดว่ามันเป็นเรื่องไกลตัว เป็นความเพ้อฝันเป็นแค่ของเล่นของคนมีตัง เพราะผมเองก็คิดแบบนั้นจนกระทั่ง

ลองไปสำรวจประเทศเจริญแล้วที่เขาเร่ิมนำร่องใช้อย่างจริงจังแล้ว ความจริงอยู่อีกไม่ไกลหรอกครับ ยังไงก็ต้องไปตามทางนั้น

ค่ายรถไหนไม่ปรับตัวล่ะเตรียมตัวได้ แต่ไม่ต้องไปคิดแทนค่ายรถหรอกครับ ทุกค่ายแหละมีเทคโนโลยีอยู่ในกระเป๋าแล้ว จะหยิบขายประเทศไหนแค่นั้น

คนไทยไม่ได้ดักดาน ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองหรอกครับ แต่สภาพสังคม สภาพโครงสร้างภาษีและ จุด จุด จุด .. ต่างหากที่บีบทุกอย่างไว้ไม่ให้มันเกิด เราเลยยังรู้สึกว่ามันไกลตัว จับต้องไม่ได้อยู่

อย่าไปนับนำเข้าอิสระ คันนึงเจอภาษีบานเบอะนะครับคนละเรื่องกัน
การที่จะทำให้มันเกิดต้องทำให้มหาชนเข้าถึงได้นราคาที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่กลุ่มคนแค่หยิบมือเดียว
E3, D15 Carb, 2E
F22B VTEC, J30A VTEC
1TR, 1NZ
D4CB
1GD, R18