คิดอย่างไรกับดีเซล B20 ที่จะนำออกมาขายช่วงเดือน ก.ค. 61 และช่วงนี้ลำบากไหมคับ

e:smart Hybrid

จาก https://www.posttoday.com/economy/552004

ทุกท่านคิดอย่างไรกับน้ำมันดีเซล B20 ครับ

ที่จะออกมาใช้ช่วงเดือน ก.ค. นี้

ซึ่งจะเหมาะกับรถใหญ่แต่ต้องเอาไปจูนก่อนครับ

คือ ผมค่อนข้างงงครับ ไหนตอนแรกจะให้คนใช้ CNG ตอนนี้เปลี่ยนอีกแล้ว

ส่วนตัวราคาน้ำมันสูงขึ้นจริงแต่ไม่เท่าสมัยก่อนที่ผมทำราชการ ตอนนั้นจำได้ว่า 37 บาท (E20) ช่วง 5-7 ปีที่แล้ว

จำได้ว่าตอนนั้นลำบากมากๆ เพราะต้องเดินทางทุกวัน เรียนโทอีก รถก็เพิ่งซื้อครับ (ไม่น่าซื้อเลยทุกข์ลาภมากพ่วงเรียนอีก)
ทำโอทีงานเสริมแหลกครับ

ตอนนี้ผมว่าน้ำมันยังพอไหวครับ ไม่สูงเท่ารอบที่แล้ว และผมประหยัดมากจนชินแล้วครับ งานก็เงินมากกว่าเดิมครับ
ไม่มีเรียนนี่คือ ประหยัดมากจริงๆ ครับ คงเน้นทำงานดีกว่า เพราะงานผมตอนนี้ไม่ต้องใช้วุฒิครับดูที่ประสบการณ์ล้วนๆ

แล้วทุกท่านช่วงนี้ลำบากกันไหมครับในการใช้ชีวิตช่วงน้ำมันแพง มีการประหยัดอย่างไรบ้าง



Nonlamer

ใช้ชีวิตปกติครับ น้ำมันแพงขึ้นไม่ลำบากแต่อย่างใด เรื่องการใช้รถยนต์เดินทางก็วิ่งสั้นๆต่อวันครับ รวมๆปีนึงถือว่าวิ่งน้อยมาก กระทบน้อยครับ



Barracuda

ส่วนตัวไม่ลำบาก แต่เจ็บใจตรงที่ บ.น้ำมันกำไรเท่าเดิม ผู้บริโภคแบกรับภาระไปครับ



Tien.W

รถใหญ่ ยุค 10 ปีก่อน คงไม่มีอะไรนัก

แต่รถใหญ่ ยุคปัจจุบัน เติมไป มีงานเข้าแน่ เรื่องความสะอาดของน้ำมัน น่ะครับ ทุกวันนี้ บางค่าย เจอน้ำมันบางปั๊ม ยังมีประเด็นพังกันอยู่เลยครับ



Slipknot`

แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีการจำหน่ายน้ำมัน B20 กระทรวงพลังงานจะใช้กลไกของกองทุนน้ำมันเป็นเครื่องมือในการรักษาระดับราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกินกว่า 30 บาท/ลิตร
เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนมีการจำหน่ายน้ำมัน B20

แบบนี้ ดีเซลจะตรึงไว้ไม่ให้เกิน30 จนกว่าb20จะออก แล้วก็ปล่อยใช่ไหม



DioVeloce

ถ้าพูดถึงราคาน้ำมัน
ปี 2556 ยังแพงกว่านี้เยอะ

ส่วนเรื่อง B20 สำหรับรถทั่วไป ต้องเช็คก่อนครับว่า ชิ้นส่วนในรถ รองรับหรือเปล่า ต้องเปลี่ยนชิ้นไหนบ้าง



SLuang

เขาทำมาให้กับรถทางการเกษตรรุ่นเก่าๆ หรือเปล่า?
สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆ  คงไม่กล้าเติม



mongolias

เอาออกมาแล้ว คงต้องเช็คแหละ ว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์อะไรไหม ให้สามารถใช้ B20 ได้ครับ
และอัตรากินน้ำมันต่างจากดีเซลปกติเยอะหรือเปล่า

ราคาน้ำมันแพง ผมก็ปรับการขับขี่เอาครับ พยายามคุมรอบนิ่งๆ มันก็พอช่วยได้ระดับหนึ่งครับ



bravo

นี่คือสาเหตุที่รัฐอยากขาย E20 ครับ

"ราคาปาล์มน้ำมันในประเทศร่วงหนัก หลังสต๊อกทะลัก 380,000 ตัน ส่งออกไม่ได้ จับตาช่วงพีกเดือนพฤษภาคมมีสิทธิ์ดิ่งเหว กรมการค้าภายในขึงขังบังคับให้รับซื้อน้ำมันดิบ กก.ละ 19 บาท ด้านโรงงาน B100 ชี้สต๊อกใกล้เต็ม"
ที่มาhttps://www.prachachat.net/economy/news-135099



kiyokuka

น่าสนใจ แต่น่าจะมีผลการทดสอบเพื่อความั่นใจของผู้บริโภคหน่อย

ในต่างประเทศมีงานวิจัย เรื่อง Biodiesel ค่อนข้างเยอะ
ปัญหาส่วนใหญ่จะอยู่ที่อุณหภูมิต่ำ จะทำให้ความหนืดสูง จึงมีการเติม Additives เข้าไป
หลายๆงานวิจัย มีการบอกทดสอบใช้กับ เครื่อง Direct Injection ด้วย

รอรายละเอียดจากทางภาครัฐ แต่แค่ 20% ไม่น่ามีปัญหา อะไร
รถ Vios คันเก่าเอาไว้จ่ายตลาด ก็ไม่ลองรับ E20 แต่ผมก็เติมมาหลายปีและไม่มีปัญหาอะไร
และเคยลองเติม E85 ด้วยครับ 3 ถังติด แต่คำนวนแล้ว E20 ค่าใช้จ่าย/km ถูกกว่าเลยใช้ E20

ส่วนตัวถ้าทำออกมาจะลองใช้ และ คำนวนความคุ้มค่า/km ถ้าโอเคก็คงใช้ยาวครับ



jaesz

ผมใช้B100 แบบที่ใสแทบเหมือนน้ำ
มันก็ใช้ดีนะครับ เขม่าน้อยด้วย

แต่ไม่รู้ว่าไอ้B20จะเอา B100แบบไหนมาผสม




SM.

บริษัทรถ ทำรถออกมารองรับแล้วหรือยัง???



ลิลลี่

วันก่อนได้เห็นข่าว เจาะลึกทั่วไทย  กรรมการบริหารประกาศว่ารถบรรทุกฮีโน่ไม่รองรับดีเซล B20 ค่ะ
แต่ทำไมรมต.กล้าออกมาให้ใช้ได้

ฮีโน่ฉีกหน้าพลังงาน แฉ B20 ใช้ไม่ได้! 


 :o :o



jaesz

B20

ถ้าเอากระบวนการกลั่นไบโอดีเซลแบบสะอาดมาใช้
มันจะน่าใช้มาก

กังวลก็ไอ้คนกลั่นนั่นแหละ

พี่คนนึงใช้BMW 520D F10 N47 เติม B100 อยู่สองครั้ง ติดใจ บอกว่าท่อสะอาดขึ้น

ผมใช้กับVIGO ส่งของสบาย

เทน้ำมันออกมาดูใสเหมือนน้ำไสปรท์ ไม่น่าห่วง ถ้าเทออกมาตะกอนเพียบ แบบนี้ SCV ตัน ไปก่อนครับ



PeterC

B20 นี่ความจริงน่าจะใช้มาตั้งนานแล้ว ที่ไม่ใช้เมื่อหลายปีก่อนก็เพราะไม่มี B100 ที่จะเอามาผสมเพียงพอ เนื่องจากน้ำมันปาล์มที่ผลิตได้ไม่เพียงพอ ก็เลยเป็นเพียง B10 และ B5 ในปัจจุบัน ที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้เอาจริงเอาจังกับการส่งเสริมไบโอดีเซลครบวงจรเท่าไรนัก ต้องไปดูบราซิลส่งเสริม E85 ใช้กันทั้งประเทศ ผลประโยชน์เกิดขึ้นทั้งเกษตรผุ้ผลิตอ้อย อุตสาหกรรมเอทานอล อุตสาหกรรมรถยนต์ แถมมลพิษทางอากาศต่ำอีกด้วย ถ้ารัฐส่งเสริมจริง ๆ ก็ต้องกำหนดพื้นที่ส่งเสริมปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่มเติม ส่งเสริมโรงงานBiodiesel อย่างเป็นรูปธรรม ต้องนำรถดีเซลที่จำหน่ายในประเทศไทยมาทดสอบวิ่งสัก 100,000 กิโล เพื่อทำให้ผู้บริโภคมั่นใจ และสุดท้ายก็ต้องทำราคาขาย B20 ให้น่าเติม เหมือนกับที่ส่งเสริม E20/E85